เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ - บทที่ 901 ดีซะงั้น
เฉินชางมองเฮ่อเจิ้งจื้อแล้วนิ่งคิดไปพักหนึ่ง ไม่รู้ว่าเพราะ
ละอายใจหรืออะไร เขาจึงอดไม่ได้เตือนว่า “เคยสัมผัสการเย็บเชื่อม
ลำไส้ส่วนต้นไหม”
พอได้ยินคำนี้จากเฉินชาง ร่างบอบบางของเฮ่อเจิ้งจื้อก็
สั่นสะท้านทันที เขาตกใจจนเหงื่อซึม!
หรือว่า…
หมอเฉินเขาจะ ‘ผ่าตัดเชื่อมลำไส้ส่วนต้น’ ไม่ค่อยเก่ง
พอคิดถึงตรงนี้ เฮ่อเจิ้งจื้อค่อนข้างสิ้นหวังแล้วจริงๆ เขารู้สึกว่า
ตอนนี้ตนกำลังจ้องกระเพาะเสียที่ไหน จ้องหุบเหวลึกอยู่ต่างหาก!
ความกลัวปกคลุมหัวใจจนแทบจะกลืนกินเขาไปแล้ว!
เฮ่อเจิ้งจื้อมองเฉินชางปราดหนึ่งแล้วผ่อนคลายลง “หมอเฉิน
อย่าบอกผมนะว่าคุณผ่าบิลรอธ-1 ไม่เป็น!”
การเย็บเชื่อมลำไส้ส่วนต้นก็คือการผ่าตัดแบบบิลรอธ-1เฉินชางส่ายหน้าแล้วยิ้มให้ “ผ่าเป็นครับ ผมหมายถึงถ้าคุณผ่า
ไม่เป็นจะตั้งใจดูหน่อยก็ได้ โอกาสหายากครับ”
พอเฮ่อเจิ้งจื้อได้ยินเข้าจึงถอนใจโล่งอกในที่สุด!
ตอนนี้เขาไม่หวังจะรอหัวหน้าหม่าอะไรนั่นแล้ว
ความปรารถนาของเขานั้นน้อยนิด ผ่าตัดให้สำ เร็จก็พอแล้ว
ส่วนจะได้เรียนอะไรเพิ่มจากเฉินชาง บอกตามตรงว่าเขา
ไม่หวังแล้ว
การผ่าตัดครั้งนี้เขาได้เรียนรู้สิ่งที่ล้ำค่ากว่าการผ่าตัดไป
หลายอย่างแล้ว!
“ขะ…ขอบคุณนะ หมอเฉิน!”
เฉินชางพยักหน้าให้ “ทำไมเหงื่อออกเยอะขนาดนี้ครับ ยังหนุ่ม
อยู่ต้องดูแลร่างกายดีๆ นะ!”
พอพยาบาลน้อยได้ยินว่าเฉินชางพูดมีเหตุผลจึงเข้าไปเช็ด
เหงื่อให้หมอเฮ่อเอง
นี่ทำให้เฮ่อเจิ้งจื้อตกใจที่ได้รับความใส่ใจ!
ขะ…เขาเคยได้รับการปฏิบัติแบบนี้ที่ไหนเฮ่อเจิ้งจื้อมองพยาบาลน้อยผู้นุ่มนวลแล้วรีบยิ้ม “จริงครับๆ
แดดแรงมาก ก็เลยร้อนนิดหน่อย!”
พวกพยาบาลชะงักไป หายใจเอาอากาศเย็นยี่สิบสององศา
เซลเซียสในห้องผ่าตัดนี่ร้อนหรือ
หลักๆ แล้วการผ่าตัดตัดกระเพาะมีวิธีการเย็บเชื่อมอยู่สองวิธี
วิธีแรกคือวิธีผ่าตัดแบบบิลรอธ-1 เรียกสั้นๆ ว่าผ่าบิลรอธ-1 อีกวิธี
คือการผ่าตัดแบบบิลรอธ-2 เรียกสั้นๆ ว่าผ่าบิลรอธ-2
ทั้ง
สองวิธีใช้มานับร้อยปีและมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
พูดง่ายๆ หน่อยก็คือ
การผ่าตัดเชื่อมกระเพาะกับลำไส้ส่วนต้นก็คือผ่าบิลรอธ-1
ส่วนผ่าตัดต่อกระเพาะอาหารกับลำไส้เล็กส่วนกลางก็คือผ่า
บิลรอธ-2
ผ่าบิลรอธ-1มีข้อจำ กัดค่อนข้างมาก แต่ข้อดีก็ชัดเจนมาก
เช่นกัน เพราะรักษาโครงสร้างและการทำงานของลำไส้ส่วนต้นไว้ได้
สร้างความปั่นป่วนให้การทำงานของกระเพาะลำไส้หลังการผ่าตัดได้ยาก ถ้าเงื่อนไขอำนวย ควรพยายามใช้วิธีผ่าบิลรอธ-1ให้มาก
ที่สุด
แต่ตอนที่ผ่าเชื่อมแบบบิลรอธ-1 จะต้องระวังไม่ให้รอยต่อ
มีแรงตึง ลำไส้ส่วนต้นต้องเคลื่อนไหวน้อย ถ้าตัดกระเพาะออก
มากเกินไปจะใช้วิธีนี้ไม่ได้
เพราะมีข้อจำ กัด จึงทำให้ความยากในการผ่าตัดเพิ่มสูงขึ้น
เรื่อยๆ
เฉินชางสูดหายใจลึกๆ เฮือกหนึ่ง เขาก้มหน้าเริ่มตั้งใจ
พิจารณา เตรียมผ่าตัดเชื่อมต่อ
ในเมื่อเรียกว่าผ่าตัดเชื่อมลำไส้ส่วนต้น นี่ก็แสดงให้เห็นว่า
ปัจจัยสำ คัญของการผ่าตัดอยู่ที่การเชื่อมต่อกระเพาะกับลำไส้ส่วน
ต้น
โจวเฮ่อมองเฉินชาง อดกำชับไม่ได้ว่า “หมอเฉิน ผู้ป่วยลำไส้
อัมพาต ตอนนี้ลำไส้หยุดบีบตัว รอหลังผ่าตัดลำไส้ไม่อุดตันหรือเป็น
อัมพาตแล้ว กระเพาะกับลำไส้จะกลับมาบีบตัว บวกกับผนัง
กระเพาะกลับมามีแรงตึง ผนังกระเพาะของรอยต่อทั้งสองด้านจะร่นตัว อาจจะมีผลกระทบกับการสมานแผลเชื่อมต่อ ถึงกับทำให้แผล
ตีบได้ คุณระวังหน่อยนะ”
โจวเฮ่อเจตนาดี
ความจริงแล้วอย่าประเมินวิสัญญีแพทย์ต่ำไป ตอนที่เฉิน
ชางฝึกงานเคยเห็นวิสัญญีแพทย์กู้สถานการณ์มาแล้วครั้งหนึ่ง
ตอนนั้นทำเอาเขาตกใจจนมึนไปเลย
ถึงอย่างไรในสายตาหลายๆ คน วิสัญญีแพทย์ก็เป็นผู้คุ้มกัน
การผ่าตัด ส่วนแพทย์ผู้ผ่าตัดหลักต่างหากถึงเป็นโชเฟอร์คนเก๋า แต่
พวกเขาละเลยไปว่าวันๆ ผู้คุ้มกันคนนี้เห็นการผ่าตัดมามากจริงๆ
พวกเขาอาจจะผ่าตัดไม่ได้ แต่สายตากับวิสัยทัศน์ดีมาก!
พอได้ยินคำของโจวเฮ่อ เฉินชางก็พยักหน้าอย่างซาบซึ้ง
“ขอบคุณครับอาจารย์โจว!”
การผ่าตัดแบบบิลรอธ-1ของเฉินชางมาจากหลี่เยว่ แต่ก็ต่าง
จากของหลี่เยว่โดยสิ้นเชิง ถึงอย่างไรเฉินชางก็มีจุดที่ใส่ใจของเขา
เองเพื่อไม่ให้รอยต่อใหญ่เกินไป จึงต้องเย็บปิดปลายส่วนโค้งเล็ก
ของกระเพาะอาหารก่อนเย็บเชื่อม
ไม่ว่าจะเป็นการผ่าบิลรอธ-1 หรือบิลรอธ-2 ก็ต้องใช้การเย็บ
ปิดแผลที่ส่วนโค้งเล็กครึ่งหนึ่งทั้งนั้น
ที่จริงขั้นตอนนี้เหมือนกับตอนที่เฉินชางสร้างลิ้นหัวใจไมทรัล
ดวงตาของเฉินชางเริ่มเปรียบเทียบอย่างต่อเนื่อง
เขาต้องคำนึงถึงแรงตึงที่ผนังกระเพาะ และต้องคิดถึง
การเคลื่อนไหวของลำไส้ส่วนต้นด้วย ดังนั้นการเทียบรอยเชื่อม
จึงยากขึ้นทันที
ผ่านไปสักพัก เฉินชางก็หันหลังไป
“ไหมธรรมชาติเบอร์ 1”
การเชื่อมส่วนโค้งเล็กของกระเพาะต้องแน่นหนามิดชิด
ถึงอย่างไรกระเพาะก็เป็นอวัยวะย่อยอาหาร ต้องทำหน้าที่รองรับ
อาหาร
เฉินชางเย็บปิดแผลอย่างประณีต คีมจับเข็มเย็บแผลนำไหม
ธรรมชาติเบอร์หนึ่งเย็บปิดต่อเนื่องจากปลายแผลด้านล่างอ้อมรอบคีมโค้งเป็นแถวยาวต่อเนื่อง!
ต่อมา เฉินชางก็พูดกับเฮ่อเจิ้งจื้อ “ดึงคีมโค้งออก แล้วดึง
ปลายไหมทั้งสองข้างให้ตึง!”
เฮ่อเจิ้งจื้อพยักหน้าไวๆ
คราวนี้เฉินชางเอาไหมท่อนบนกลับมาเย็บแผลจากกระเพาะ
ตอนบนลงมาด้านล่าง จัดช่องว่างของรอยเย็บแถวแรกให้ตรงกับ
แถวที่สองแล้วเย็บปิดต่อเนื่อง!
การผ่าตัดเหล่านี้ทำให้โจวเฮ่ออึ้งไป!
“นี่มัน…วิธีของหลี่เยว่หรือ”
เฉินชางยิ้มพยักหน้าให้ “ใช่แล้วครับ!”
ด้านเฮ่อเจิ้งจื่อมองเฉินชางด้วยสีหน้างุนงง “นี่ทำเพื่ออะไรน่ะ”
เฉินชางอธิบาย “เพื่อช่วยห้ามเลือดครับ!”
เฮ่อเจิ้งจื้อพยักหน้าไปโดยไม่รู้ตัว ที่จริง…เขาไม่เข้าใจ…แต่
อย่างไรก็รู้สึกว่าเฉินชางพูดมีหลักการ!
ขณะที่พูดอยู่ เฉินชางก็ผูกปมไหมธรรมชาติสองปมหลังจาก
เย็บเชื่อมรอยตัดด้านล่างเสร็จ จากนั้นจึงเย็บชั้นกล้ามเนื้อเป็นปล้องเพื่อให้แน่นขึ้น และกลบส่วนหยาบที่ยังเหลืออยู่ด้วย
โจวเฮ่ออดพูดไม่ได้ “ความรู้พื้นฐานคุณแน่นมากเลย!”
เฮ่อเจิ้งจื้อก็ตาเป็นประกาย “เก่งจัง!”
แน่นอนว่าการเย็บปิดของเฉินชางตั้งแต่เริ่มจนจบสร้างความ
เสียหายให้ผนังกระเพาะน้อยมาก ตอนที่เย็บเข้าออกยิ่งใช้ประโยชน์
จากระยะห่างปลายเข็มมาคุมแรงตึงผนังกระเพาะอย่างชาญฉลาด
ที่จริงแล้วนี่เป็นวิธีการเย็บปิดแผลที่มีแรงตึงมากได้อย่าง
มีประสิทธิภาพวิธีหนึ่ง
เฉินชางยิ้มให้ “ผ่าพื้นๆ ครับ”
ที่จริงแล้วนี่ก็เป็นวิธีการที่เฉินชางศึกษาอยู่ตลอดวิธีหนึ่ง!
แรงบันดาลใจนี้ก็มาจากการเย็บเชื่อมหลอดเลือดใหญ่ของเฉิน
ชางตอนที่เขาเย็บเชื่อมหลอดเลือดใหญ่ในช่องอก เพราะหลอดเลือด
มีการเต้น เขาจึงจำ เป็นต้องรู้สึกถึงการเต้นและแรงตึงของ
หลอดเลือด!
ตอนนี้เฉินชางสัมผัสได้ถึงความสำ คัญของการเย็บปิดแผลที่
มีแรงตึง เพราะการเย็บปิดแผลแบบนี้จะทำให้แผลสมานได้เร็วยิ่งขึ้นอย่างมีประสิทธิภาพ มิหนำซ้ำ ยังลดการบาดเจ็บเป็นครั้งที่สองได้
ด้วย
แต่ในตอนที่เฉินชางรักษาเมื่อกี้นั้น จู่ๆ เขาก็หัวแล่น พบว่า
ที่จริงแล้วการเย็บปิดแผลที่มีแรงตึงแบบนี้ได้ผลดีกับการเย็บปิดผนัง
กระเพาะมากกว่า ถึงกับที่การเย็บปิดแบบนี้ยิ่งมีประโยชน์มากใน
ตอนเย็บเชื่อมกระเพาะลำไส้!
คิดถึงตรงนี้ เฉินชางก็อดประหลาดใจไม่ได้
หลังจากเย็บปิดปลายส่วนโค้งแล้ว เฉินชางก็ใช้คีมรวบ
กระเพาะกับตอลำไส้ส่วนต้นไว้
ตอนนี้จำ เป็นต้องสัมผัสดูว่ามีแรงตึงไหม!
ถ้ามีก็ต้องแยกลำไส้ส่วนต้นออกเพื่อกันไม่ให้รอยต่อมีแรงตึง
มากเกินไปจนทำให้ผ่าตัดล้มเหลว!
โชคดีที่ไม่รู้สึกว่ามีแรงตึง
เย็บปิดได้เลย!
เฉินชางหันไปมองเฮ่อเจิ้งจื้อ “คุณมาสัมผัสสิ จำ ไว้ว่าถ้าตรงนี้
มีแรงตึงจะต้องแยกลำไส้ส่วนต้นออกมา ถ้าไม่มีก็เย็บปิดได้เลย”เฮ่อเจิ้งจื้อพยักหน้าอย่างซึ้งใจ รีบมาสัมผัสแผล
ที่จริงศัลยกรรมทั่วไปต้องมีคนตั้งใจสอนคุณผ่าตัด ไม่ใช่แค่ให้
คุณดู
ดูนานแค่ไหนก็ทำไม่เป็น
การสัมผัสเป็นเรื่องสำ คัญ ก็เหมือนกับการจับชีพจรในแพทย์
แผนจีน มีอาจารย์สอนตรวจชีพจรจมลอยช้าเร็วกับศึกษาเองต่างกัน
มาก
ดังนั้นสำ หรับศัลยแพทย์ทั่วไปคนหนึ่งแล้ว มีอาจารย์ดีทำให้
เดินอ้อมน้อยลงมาก
ขณะนี้เฮ่อเจิ้งจื้ออดเม้มปากไม่ได้!
แม่เจ้า…ดีซะงั้น!
ที่แท้หมอเฉินก็เก่งขนาดนี้