เปลวไฟในม่านหมอก - ตอนที่ 46 รักหมอกแรง ๆ
เขาเอื้อมมือไปเชยคางมนให้เงยหน้ามาสบตา พร้อมคำพูดที่ทำให้เธอวูบวาบหวิวไหวไปทั้งเรือนกาย
“ แล้ววันนี้ เราจะรักหมอกให้เร่าร้อนทั้งวันทั้งคืน หมอกจะต้องอยู่ใต้ร่างเราไม่ได้หยุด ไม่สิ บางทีหมอกก็ต้องอยู่ข้างบน ข้าง ๆ นั่ง ยืน หรือไม่เราก็จะอุ้มหมอกมาตรงเอวนี้ ” เธอยกมือขึ้นฟาดแผงอกแกร่งแล้วก้มลงมุดที่ตรงนั้นอีกครั้ง
“ คนบ้า ” เขาหัวเราะร่วนอย่างชอบอกชอบใจ ก่อนจะก้มลงไปกระซิบข้างหูเบา ๆ
“ เราจะรักหมอกให้หมดทุกท่า เราจะทำให้หมอกต้องละลายครั้งแล้วครั้งเล่า ”
แล้วเขาก็ไม่ปล่อยให้เธอได้หายใจหายคอด้วยริมฝีปากและลิ้นไร้กระดูกอันพิษสงร้ายกาจ ขยับไปดูดกลืนเธอทั้งที่สองเต้าอวบอิ่มและกลีบโหนกอวบอูม ปลุกเร้าให้น้ำหวานแห่งกุหลาบสาวเยิ้มฉ่ำเนืองนอง ช่องทางรักพรักพร้อมจึงค่อยขยับขึ้นมาประกบปากมอบจุมพิตร้อนเร่า สองมือใหญ่ดันขาเรียวทั้งสองให้แหวกอ้าแทบจะแนบชิดกับที่นอน สองกลีบที่ปิดสนิทเปิดเปลือยท้าทายให้เห็นเกสรสาวสีชมพูสด และรูร่องรักอันเป็นต้นตอแห่งตาน้ำฉ่ำเนืองนองช่างเชิญชวนให้โรมรันล่วงล้ำเหลือเกิน เขาขยับท่อนลำรักมาบี้เบียดเสียดสีติ่งกระสันกลางกลีบ หัวลำโลมลูบก่อนกดตอกเข้าไปทักทายร่องรักเพียงนิด นั่นยิ่งทำให้คนใต้ร่างร้อนเร่า
มือน้อยจิกลงบนต้นแขนแกร่ง ยกสะโพกขึ้นสู้ทุกครั้งที่ลิ่มลำกดตอกส่วนหัวเบ่งบานเข้าไปเล็กน้อย นัยว่าอยากให้ล้วงลึกมากขึ้น แต่ไฟใจเย็นพอที่จะหักห้ามไม่ให้หวดโหมอย่างที่ใจต้องการ เธอยังบอบช้ำจากวันนั้นที่ขึ้นขย่มเขารุนแรง
อยากให้ครั้งแรกของทั้งคู่ตราตรึงซาบซ่านไปตราบลมหายใจสุดท้าย…
ครั้งแรกที่เต็มอกเต็มใจ ไม่ใช่เพราะประชดประชันอย่างวันนั้น
สะโพกสอบแนบกดลำรักให้ลึกเข้าไปทีละน้อย และทุกครั้งที่ถอนถอนแล้วดันย้ำมันจะล้ำลึกเข้าไปเรื่อย ๆ
หล่อนนิ่วหน้าเพราะความคับตึง ทว่าเพลิงสวาทในกายสาวที่ถูกเขาปลุกปั่นจนกลั่นออกมาเป็นน้ำคาวรักเอ่อล้น คล้ายน้ำมันหล่อลื่นชั้นดีที่ช่วยให้กระบอกสูบอันยิ่งใหญ่ไถลลึกเข้าไปได้ง่ายมากขึ้น
…กระทั่งสุดลำโคน
“ อาาา สุดยอดเลยที่รัก ” เสียงทุ้มครางต่ำระบายความซ่านเสียวเพราะความคับแน่นบีบหนุบหนับจนขยับแทบไม่ได้
มือน้อยจิกลงบนแผ่นหลังแกร่ง ระบายความเจ็บและคับแน่นในช่องท้อง ทว่ามีความหวิวไหวซ่านซ่าไปจนถึงปลายเท้า
“ เจ็บเหรอหมอก ” เขาเอ่ยถามอย่างอ่อนโยนก่อนก้มลงจุมพิตที่หน้าผากงามเบา ๆ เธอพยักหน้าทั้งที่หลับตาพริ้ม
“ ให้เราหยุดก่อนไหม ” เขาแสร้งถาม ทั้งที่ยังโยกสะโพกสอบเข้าออกเบา ๆ เปลือกตาที่ปิดอยู่เปิดขึ้นทันที พร้อมสวนคำตอบทันควัน
“ ไม่หยุดนะ ”
“ ทำไม ก็หมอกเจ็บ ”
“ หมอกอยากให้มันสมบูรณ์แบบ หมอกรู้ว่าไฟไม่เคยทำให้หมอกเจ็บหรอก นั่นไม่ใช่ความตั้งใจอันแท้จริงของไฟ ”
ชายหนุ่มน้ำตาคลอเคล้าไปด้วยรอยยิ้ม
“ ใช่ แม้ว่าเราจะพยายามแค่ไหนที่จะเกลียด จะทำให้หมอกเจ็บ พยายามที่จะรักคนอื่น แต่เราก็ไม่เคยทำได้ ”
เขาว่าพลางกระทั้นเอวสอบให้เนิบช้าทว่าแต่ละจังหวะหนักแน่นมากขึ้น เธอลงเล็บไปที่แผ่นหลังเขารุนแรงขึ้นเช่นกัน หากแต่มันไม่ใช่เพราะความเจ็บ แต่มันคือระดับความซ่านเสียวที่พุ่งสูงต่างหาก
“ เพราะเราเกิดมาเพื่อรักหมอก เป็นของหมอก จากนี้มีเราจะมีแต่ความสุขนะที่รัก เรารักหมอกนะ ” เขาว่าพลางประสานสายตาไปยังดวงตากลมหวาน เธอตอบกลับด้วยเสียงกระเส่า
“ หมอกก็รักไฟ รักที่สุด ”
“ ความสุขของเราจะเริ่มตั้งแต่ตอนนี้ วินาทีนี้ เราจะทำให้หมอกสำลักความสุขจนแทบบ้า เราจะทำให้หมอกสุขครั้งแล้วครั้งเล่า แม้หมอกจะวอนขอให้เราหยุด แต่เราจะไม่หยุด ” เขาว่าพลางกระแทกเอวหนักขึ้น จังหวะเริ่มรุนแรงขึ้น เสียงจังหวะรักแห่งเนื้อกระทั้นเนื้อสลับกับเสียงครวญคร่ำพร่ำรักและลมหายใจหอบถี่ผสานสลับ
“ เรารักหมอก รัก รัก รัก ” ทุกคำรักเขากระทั้นเข้าใส่ตอกย้ำความหนักแน่น จนกระทั่งช่องแคบเริ่มบีบรัดถี่ยิบ เธอแอ่นโหนกเนื้อเข้ารับท่อนลำอวบอย่างไม่อาย
“ รักหมอกแรง ๆ ค่ะไฟ อีก อีก อื๊อ ” เสียงครวญสุดท้ายพร้อมกับการไปสู่จุดสุดยอดแห่งเพลงสวาท ชายหนุ่มเร่งจังหวะอีกไม่กี่ครั้ง กระบอกสูบแห่งกายชายก็พ่นเมล็ดพันธุ์แห่งรักลงในกายนางจนหมดสิ้น