เธอเปลี่ยนไปเป็นเจ้าพ่อ / เธอเปลี่ยนไปเป็นบอส - ตอนที่ 77: ปกป้องอีหลิง 2
“นายกำลังจะทำอะไร จะบ้าไปแล้วเหรอ”
หลัวซิ่วเอินคว้าคอเสื้อด้านหลังเฉิงอี้ด้วยมือข้างเดียวแล้วลากเฉิงอี้ที่สูงเกือบ 180 เซ็นติเมตรกลับไปทันที
หลัวซิ่วเอินสูง 176 เซ็นติเมตรสูงกว่าผู้ชายโดยเฉลี่ย
รูปร่างของเธอพอดีได้สัดส่วนแต่เสื้อกาวน์สีขาวปกปิดไว้จนมองไม่เห็น อย่างไรก็ตามเฉิงอี้เคยเห็นรูปร่างของเธอในโรงยิมและก็รู้สึกละอายใจเป็นอันมาก
“พี่สาวเอิน ปล่อยมือก่อน ผมมีเรื่องฉุกเฉิน” เฉิงอี้รีบพูดถึงสถานการณ์ในทันที
“มีเรื่องฉุกเฉินอะไรกัน” เมื่อเธอเห็นว่าเฉิงอี้กำลังกระวนกระวายและมีท่าทางจะโกรธ หลัวซิ่วเอินจึงเลิกล้อเล่นเขา
“เด็กหญิงที่เพิ่งทำสัญญากำลังประสบปัญหา ฉันกำลังจะไปช่วย”
“ฉันไปด้วย แล้วนายจะเฉยอยู่ทำไม นายเป็นผู้ชายอยู่หรือเปล่า”
หลัวซิ่วเอินลากเฉิงอี้ออกไปโดยไม่พูดอะไรอีกแม้แต่คำเดียว
อัจฉริยะตัวน้อยที่สุดท้ายก็ได้เข้าสู่สถาบันวิจัย ได้เผยแพร่บทความในชื่อของสถาบันวิจัยในวันที่เธอเซ็นสัญญา
ตอนนี้สมาชิกเดิมของสถาบันยังคงตื่นเต้นกับงานวิจัยที่ละเอียดอ่อน ที่ถูกส่งไปยังองค์กรที่รับผิดชอบเพื่อทำการตรวจสอบ พวกเขาถึงกับลืมสิ้นทุกสิ่งทุกอย่าง
สมบัติชั้นเยี่ยมแบบนี้ ยังมีคนอยากจะสร้างปัญหาให้กับเธออีกเหรอ
เธอ หลัวซิ่วเอิน เป็นคนแรกที่จะคัดค้าน
เฉิงอี้พูดไม่ออก เธอทำให้เขาล่าช้า แต่กลับถูกกล่าวหาว่าชักช้าน่ารำคาญ
“พี่สาวเอิน ผมต้องการเอารปภ.ไปอีกสองคน”
“ต้องการรปภ.อีกทำไมกัน พี่สาวคนไปกับนายยังไม่พออีกเหรอ”
“พอแล้ว พอ…”
หลัวซิ่วเอินคนเดียวก็เหมือนกับว่ามีรปภ.ชุดหนึ่ง เป็นความจริงที่เฉิงอี้ไม่กล้าที่จะสงสัย
“แต่จะดีกว่าไหมถ้าเราเอาคนมาสนับสนุนเราอีกสักสองสามคน”
“ก็ได้ แต่เอามาแค่สองคนไม่พอ ต้องเอามาหนึ่งคันรถ ถ้ายังไงก็ขับรถกันกระสุนในโรงรถออกมาด้วย เราต้องแสดงให้เด็กน้อยนั่นเห็นถึงความความแข็งแกร่งของหน่วยรปภ.ของสถาบันของเราด้วย”
สถาบันของพวกเขาอย่าเอาไปเทียบกับศูนย์วิจัยเล็กๆทั่วไป
พูดกันแบบไม่ต้องถ่อมตัว ในเมืองเหิงหยวนนี้ มีใครบ้างที่จะกล้าแหยมกับคนในสถาบันวิจัยของพวกเขา
เว้นแต่ว่าคนพวกนั้นมั่นใจว่าชีวิตของตนเองกับคนที่พวกเขาเป็นห่วงเป็นใยจะไม่มีวันป่วยไข้
###
หลังจากเจี่ยนอีหลิงส่งข้อความไปหาเฉิงอี้แล้ว เธอก็ได้รับข้อความจากคนอื่นทางโทรศัพท์ของเธออีก
[Dr.FS ดูเหมือนว่าคุณจะมีปัญหา เราสามารถช่วยคุณจัดการกับพวกเขาได้ รับรองได้ว่าคุณจะไม่ได้ยินเรื่องพวกนี้อีกต่อไป ถือว่าเป็นแค่บุญคุณเล็กน้อย แน่นอนว่าถ้าคุณต้องการ เราก็สามารถทำได้มากกว่านี้]
เมื่ออีกฝ่ายพบว่าเจี่ยนอีหลิงกำลังประสบปัญหา เขาก็ส่งข้อความไปหาเจี่ยนอีหลิงทันที เพื่อชักชวนเจี่ยนอีหลิงให้ตกลงกับสิ่งที่พวกเขาเคยพูดกับเธอก่อนหน้านี้
[ไม่จำเป็น ขอบคุณ]
เจี่ยนอีหลิงปฏิเสธอย่างตรงไปตรงมา ได้ใจความและปราศจากอารมณ์
[Dr.FS มันเป็นเรื่องยากเกินไปกับคุณเหรอในการที่จะตกลงในเรื่องนั้น] อีกฝ่ายดูเหมือนจะจนหนทาง แต่เขาก็ต้องการความช่วยเหลือจากเจี่ยนอีหลิงจริงๆ
[ยังไม่ได้ในตอนนี้]
[Dr.FS เราต้องการความช่วยเหลือจากคุณจริงๆ เรื่องนี้เกี่ยวพันกับชีวิตของนายท่านของเรา หากว่าคุณสามารถช่วยนายท่านได้ คุณสามารถเรียกร้องเงื่อนไขได้ตามต้องการ]
[ยังไม่ ขอบคุณ]
เธอยังคงตอบกลับอย่างกระชับ ปราศจากอารมณ์เหมือนเดิม
ในการจัดการกับปัญหาที่ประตูทางเข้าของโรงเรียน รปภ.สองคนจากเฉิงอี้ก็เพียงพอแล้ว และเจี่ยนอีหลิงก็ไม่ต้องการความช่วยเหลือใดๆเพิ่มเติม
เพราะว่าล้มเหลวในการเกลี้ยกล่อมเจี่ยนอีหลิง อีกฝ่ายจึงไม่ส่งข้อความให้กับเจี่ยนอีหลิงอีก
เห็นได้ชัดว่าอีกฝ่ายไม่ต้องการให้เจี่ยนอีหลิงโกรธ พวกเขากำลังขอร้องเธอ ไม่ใช่บีบบังคับเธอ
แต่ก็เห็นได้ชัดเจนว่า อีกฝ่ายจะไม่ยอมปล่อยโอกาสที่จะได้ใกล้ชิดกับเจี่ยนอีหลิงหลุดมือไปง่ายๆ