เธอเปลี่ยนไปเป็นเจ้าพ่อ / เธอเปลี่ยนไปเป็นบอส - ตอนที่ 7: ให้นักแสดงนำชายในนิยายต้นฉบับมาเป็นติวเตอร์
- Home
- เธอเปลี่ยนไปเป็นเจ้าพ่อ / เธอเปลี่ยนไปเป็นบอส
- ตอนที่ 7: ให้นักแสดงนำชายในนิยายต้นฉบับมาเป็นติวเตอร์
เจี่ยนหยุ่นเฉิงพูดกับเจี่ยนอีหลิงต่อว่า “ให้หยุดอาทิตย์หนึ่งใช้เวลาสำนึกผิดสิ่งที่ทำ ได้ยินไหม”
การจัดการกับสิ่งต่างๆของเขานั้นรวดเร็วและเด็ดขาดกว่าพ่อของเขา
เจี่ยนอีหลิงพยักหน้า เห็นด้วยอย่างแข็งขัน
การพักผ่อนอยู่กับบ้านสองสามวันนั้นดีสำหรับเธอเช่นกัน
ตามนวนิยายต้นฉบับ เมื่อเกิดเรื่องนี้ขึ้น เจี่ยนหยุ่นเฉิงปฏิบัติต่อเจี่ยนอีหลิงอย่างรุนแรง
ไม่ใช่เป็นเพราะว่าเจี่ยนหยุ่นเฉิงไม่ยอมรับน้องสาวคนนี้ ตรงกันข้ามเป็นเพราะว่านี่เป็นน้องสาวของเขาดังนั้นเขาจึงต้องยอมเจ็บปวดเข้มงวดกับเธอ หวังว่าน้องสาวคนนี้จะแก้ไขตนเองให้ดีขึ้น
ในฐานะพี่ชายคนโต เจี่ยนหยุ่นเฉิงจึงรักน้องสาวคนนี้มาก
เพราะว่าคาดหวังไว้มากกับน้องสาวคนเล็กดังนั้นเขาจึงเข้มงวดเป็นพิเศษ
แต่เจี่ยนอีหลิงไม่ได้เห็นถึงเจตนาที่ดีของพี่ชายคนโต และด้วยทัศนคติของเจี่ยนหยุ่นเฉิง ความสัมพันธ์ของพวกเขาจึงตึงเครียดมากยิ่งขึ้น
พวกเขาไม่มีใครที่แสดงความรู้สึกที่แท้จริงออกมาตรงๆ คนหนึ่งเก็บตัวและอีกคนหนึ่งนั้นดื้อรั้น
ไม่มีใครยอมรับผิด นำไปสู่ความเข้าใจผิดและกลายเป็นไม่ชอบกันในที่สุด
สุดท้ายเจี่ยนหยุ่นเฉิงสูญเสียน้องสาวไปอย่างสมบูรณ์ เขาได้ส่งผ่านความรู้สึกที่เขามีต่อน้องสาวไปยัง โม่ชืออวิ้น นางเอก ซึ่งค่อนข้างเป็นผู้ใหญ่และมีเหตุผล และในตอนหลังได้ช่วยเหลือโม่ชืออวิ้นมากมาย
หลังจากที่ไปถึงบ้าน เจี่ยนชูฉิงและเจี่ยนหยุ่นเฉิงต่างก็มีเรื่องที่จะต้องจัดการ ดังนั้นพวกเขาจึงกลับไปที่ห้องของตัวเอง
เจี่ยนอีหลิงไม่ได้กลับไปที่ห้องของตนเองในทันที แต่ไปยังที่ห้องทำงานของพี่ชายคนที่สองเพื่อหากล้องจุลทรรศน์
เด็กตระกูลเจี่ยนทุกคนจะมีห้องทำงานของตนเอง และพี่ชายคนที่สองของตระกูลเจี่ยนนั้นไปเรียนชีววิทยาที่ต่างประเทศ
เมื่อตอนที่พี่ชายคนที่สองของตระกูลเจี่ยนอยู่บ้านนั้น เพื่อความสะดวกในการศึกษาค้นคว้า เขาได้สร้างห้องทดลองขนาดเล็กไว้ที่บ้านที่มีกล้องจุลทรรศน์หลายตัว
หนึ่งในนั้นเป็นกล้องจุลทรรศน์แบบใช้แสงในทางการแพทย์ เป็นสิ่งที่มีค่ามาก และแน่นอนว่าคนธรรมดาทั่วไปย่อมไม่สามารถที่จะซื้อเครื่องมือแบบนั้นไปไว้ในบ้านได้
แน่นอนว่ามันยังคงมีช่องว่างระหว่างเครื่องมือชิ้นนี้กับกล้องจุลทรรศน์ที่ใช้สำหรับมาตรฐานการผ่าตัด แต่นี่ก็เพียงพอแล้วสำหรับเจี่ยนอีหลิงในการฝึกฝน
เพราะว่าเป็นเรื่องยากลำบากในการยกย้ายกล้องจุลทรรศน์ เจี่ยนอีหลิงจึงอยู่ในห้องแลปของพี่ชายคนที่สองเพื่อฝึกฝนการผ่าตัด
สิ่งที่ใช้ในการทดลองชิ้นแรกของเจี่ยนอีหลิงก็คือไข่ที่นำมาจากห้องครัวเพื่อฝึกเย็บผิวเซลล์ไข่เข้าด้วยกัน
หลังจากที่สูญเสียไข่ไปสองสามฟอง เจี่ยนอีหลิงก็กลับไปยังห้องครัวและขโมยขาหมูมาทำการทดลอง
นอกจากจะอยู่ในห้องทำงานของพี่ชายคนที่สองแล้ว เจี่ยนอีหลิงยังท่องอินเตอร์เน็ตบ่อยครั้ง เสียงแป้นพิมพ์ดังกระหน่ำดูเธอยุ่งมาก
เจี่ยนอีหลิงตัวจริงอยู่ที่ www.thai-novel.com หรือ mynovel.co ค่ะ
ในขณะที่เจี่ยนอีหลิงกำลังยุ่งมากอยู่นั้น ตระกูลเจี่ยนก็ได้นำคนพิเศษ ฉินชวน ซึ่งมีอายุสิบเจ็ดปีเข้ามา
นี่คือพระเอกจากนวนิยายต้นฉบับ
ตามหนังสือต้นฉบับนั้น แม่ของพระเอกเป็นคนรักแรกของสมาชิกของตระกูลร่ำรวยในเมื่องเป่ยจิง (ปักกิ่ง) แม่ของเขานั้นรู้ว่าตนเองท้องก็หลังจากที่เลิกรากับพ่อของเขา
ภายหลังเธอได้ให้กำเนิดและเลี้ยงดูพระเอกอยู่ตามลำพัง ชีวิตของแม่และลูกชายนั้นยากลำบากมาก แต่พระเอกนั้นก็ได้ทำงานอย่างหนักและมีความก้าวหน้าด้วยความสามารถของตนเอง
ในเวลานี้ ฉินชวนยังคงไม่รู้ว่าตนเองเป็นลูกนอกสมรสของตระกูลร่ำรวย และเขาก็ยังไม่รู้ว่าตนเองจะกลายเป็นผู้นำของตระกูลที่ทรงอำนาจมากที่สุดในเป่ยจิงในอนาคต
ตอนนี้เขามาปรากฏตัวที่บ้านตระกูลเจี่ยนเพราะว่าเขาได้รับงานรายได้ดีจากเจี่ยนหยุ่นเฉิง ซึ่งรายได้นี้ช่วยเขาแก้ปัญหาค่าเล่าเรียนได้
รายละเอียดของงานนี้ก็คือการให้เขาเป็นครูสอนพิเศษส่วนตัวให้กับเจี่ยนอีหลิง ในขณะที่สอนความรู้ให้กับเจี่ยนอีหลิงนั้น สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือสอนเจี่ยนอีหลิงให้รู้จัก “เปลี่ยนจากความเลวร้ายมาสู่แนวทางที่ถูกต้อง”
ในหนังสือต้นฉบับ ฉินชวนกลายเป็นครูสอนพิเศษให้กับเจี่ยนอีหลิง
ด้วยรูปลักษณ์ที่โดดเด่นและวิธีการสอนอย่างอดทนสำหรับเจี่ยนอีหลิงซึ่งถูกครอบครัวไม่ไว้วางใจและรู้สึกเหมือนถูกทรยศจากคนทั้งโลก ทำให้เขากลายเป็นแสงสว่างให้กับชีวิตของเธอในเวลานั้น