เธอเปลี่ยนไปเป็นเจ้าพ่อ / เธอเปลี่ยนไปเป็นบอส - ตอนที่ 361-362
大姐大 บทที่ 361 ขโมยไก่ขาดทุนข้าวเปลือก
ใช้เวลาสักครู่กว่าที่ข้อความจะถูกส่งออนไลน์อีกครั้ง
[โอ้ พระเจ้า พล็อตดูเหมือนจะแตกต่างไปจากที่คาดไว้อย่างสิ้นเชิง]
[เจี่ยนอีหลิงไม่เพียงแต่ล้างชื่อเธอสะอาดหมดจดเท่านั้น แต่ยังเปิดเผยโดยไม่ได้ตั้งใจอีกด้วยว่า เธอนั้นสุดยอดจริงๆอย่างน่าเหลือเชื่อ]
[ดังนั้นถ้าเจี่ยนอีหลิงมีส่วนร่วมในบทความ แม้ว่าเธอจะส่งมันไปอีกครั้ง ก็คงไม่ใช่การลอกเลียนงานแล้วใช่ไหม]
[โดยทั่วไปแล้วมีบางคนต้องการใส่ร้ายเจี่ยนอีหลิง แต่ว่า พวกเขาลงเอยด้วยการเข้าตัวเอง]
[ว้าว ใครจะไปจินตนาการถึงเรื่องนี้กัน นี่ช่างชวนช็อก ฉันต้องการเวลาสักเดี๋ยวเพื่อทำความเข้าใจข่าวนี้]
[แล้ว Dr.FS จะหาความยุติธรรมให้เจี่ยนอีหลิงหรือเปล่านะ]
[สุดท้าย เธอก็ไม่ได้ลอกเลียนงานแม้แต่น้อย แต่ความเป็นจริง กลายเป็นเธอต้องบังเอิญเปิดเผยความจริงที่ว่าเธอมีพรสวรรค์อย่างเหลือล้น]
[โอ้ พระเจ้า การพลิกกลับด้านอย่างกะทันหันนี้เป็นสิ่งที่ไม่คาดคิดจนเหลือเชื่อ]
[ฉันมาจากโรงเรียนมัธยมปลายเชิ่งหัว อย่างที่ฉันพูดก่อนหน้านี้ เจี่ยนอีหลิงไม่ได้ลอกเลียนงาน อะไรคือหลักฐานที่พวกคุณพูดถึง กรุณาออกมาขอโทษด้วย]
สิ่งที่เรียกว่าหลักฐานไม่สามารถยืนหยัดเพื่อการตรวจสอบเพิ่มเติมได้ เป็นองค์กรที่เผยแพร่ออกมาเพียงฝ่ายเดียว ระบุว่าเจี่ยนอีหลิงลอกเลียนงาน
ภาพที่โพสต์นั้นก็มาจากเว็บไซต์ขององค์กรนั้นด้วย
มีคนสองสามคนที่อ้างตัวว่าเป็นเจ้าหน้าที่รับเข้าเรียนของมหาวิทยาลัยบางแห่งได้แสดงความคิดเห็น
[มหาวิทยาลัยปักกิ่งยินดีต้อนรับเจี่ยนอีหลิงเข้าสู่กระบวนการสมัครเข้าเรียนอย่างอิสระของมหาวิทยาลัย]
[มหาวิทยาลัยเหิงหยวนยินดีต้อนรับเจี่ยนอีหลิงมาเป็นนักศึกษาใหม่ของเราในปีหน้า]
[ก้าวต่อไปข้างหน้า สำนักงานการรับเข้ามหาวิทยาลัยที่น่าสังเวชที่สุดอยู่ที่นี่ เจี่ยนอีหลิงช่วยดูพวกเราหน่อย โปรดทราบว่ามีหนุ่มหล่อมากมายของมหาวิทยาลัยของเรา]
[เฮ้ อย่าขโมยเธอไปจากฉันสิ สภาพแวดล้อมของมหาวิทยาลัยของเรานั้นยอดเยี่ยมมาก ทั้งมหาวิทยาลัยของเราก็ยังมีหนุ่มหล่ออีกเพียบ นอกจากนี้ อาหารจากโรงอาหารของเราก็อร่อยสุดๆ]
เมื่ออ่านข้อความเหล่านี้ หน้าของโม่ชืออวิ้นก็ซีดเผือดอย่างสมบูรณ์ เธอนั่งนิ่งขึงอยู่หน้าคอมพิวเตอร์
สิ่งต่างๆกลับไม่เป็นไปตามที่เธอคาดไว้
เจี่ยนอีหลิงไม่เพียงแต่ไม่เสียชื่อเสียงเท่านั้น แต่เธอยังได้รับการยกย่องจากสถาบันวิจัยทางการแพทย์ฮุ่ยหลิงต่อสาธารณชน
ด้วยคำชมดังกล่าว เจี่ยนอีหลิงสามารถเข้ามหาวิทยาลัยต่างๆทั่วประเทศได้อย่างง่ายดาย ด้วยเงื่อนไขที่ถูกต้อง ความสำเร็จของเจี่ยนอีหลิงจะตามมาโดยธรรมชาติ
อาาา โม่ชืออวิ้นอยากขโมยไก่ แต่กลับเสียข้าวเปลือกไปเปล่าๆ
เมื่อนักเรียนโรงเรียนมัธยมปลายเชิ่งหัวเห็นข่าวนี้ พวกเขาก็พากันดีใจอย่างมากมาย อันหยางเองก็ยังติดตามเรื่องนี้อยู่เช่นเดียวกัน
หลังจากสถานการณ์คลี่คลายแล้ว ลูกน้องของอันหยางก็พูดกับเขาว่า “พี่หยาง บอสของเราช่างยอดเยี่ยมจริงๆ ฉันได้ยินมาว่า Dr.FS เป็นศัลยแพทย์ที่ยอดเยี่ยมมาก เขาเป็นหัวของหัวกะทิ ผู้มีอำนาจหลายคนไม่มีโอกาสได้คุยกับเขาด้วยซ้ำ”
“เดี๋ยวก่อน นี่ไม่ได้หมายความว่าเราใกล้ชิดกับ Dr.FS มากหรอกเหรอ เขาเป็นเพื่อนของบอสของเรานี่นา”
ลูกน้องของอันหยางกำลังนับนิ้วตนเอง ความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขากับ Dr.FS ดูเหมือนไม่ไกลมาก
อันหยางลูบคาง “อืมม ตามที่พวกนายว่ามา ดูเหมือนว่าจะไม่เลวเลยสำหรับฉันที่จะเรียกหาเจี่ยนอีหลิงเป็นบอสจริงๆ”
“ใช่ อันที่จริง ดูเหมือนว่าจะได้กำไรนิดหน่อยด้วยซ้ำไป”
“โอ ไม่น่าแปลกใจเลยที่เธอเอาแต่พูดว่า ไม่มีปัญหา เธอมีความมั่นใจที่จะทำเช่นนั้น”
เมื่อได้ยินคำพูดของพวกเขา หัวใจของอันหยางก็มีความสุขมากขึ้น
เหอเยี่ยนก็ดูการถ่ายทอดสดด้วยเช่นเดียวกัน
อย่างไรก็ตาม เมื่อเธอเห็นว่าสถาบันไม่ได้วางแผนที่จะดำเนินคดีกับเจี่ยนอีหลิง หน้าอกของเหอเยี่ยนก็พองออกและแฟบลงอย่างรุนแรงด้วยความโกรธ ที่แย่ไปกว่านั้นก็คือสถาบันได้ล้างชื่อเจี่ยนอีหลิงอีกด้วยเช่นกัน โดยพื้นฐานแล้วพวกเขาทำให้อีกฝ่ายกลายเป็นสินค้ายอดนิยมที่มหาวิทยาลัยใหญ่ๆทุกแห่งต่างต้องแข่งขันกันเพื่อให้ได้มา
ยิ่งเธอดูการออกอากาศมากเท่าไหร่ เธอก็ยิ่งโกรธมากขึ้นเท่านั้น ในที่สุดเหอเยี่ยนก็หยิบถ้วยชาขึ้นมาจากโต๊ะแล้วขว้างมันลงบนพื้น ถ้วยชาแตกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย
ในตอนนี้ ชายในชุดสูทสีเข้มก็เดินผ่านประตูเข้ามา เขาไม่ได้พูดอะไรกับเหอเยี่ยน แต่เขาเริ่มหยิบชิ้นส่วนที่แตกกระจายบนพื้นอย่างเงียบๆ
เหอเยี่ยนมองชายตรงหน้าเธอด้วยความประหลาดใจ “หยู่โป๋ เธอกลับมาเมื่อไหร่”
บทที่ 362 ลูกพี่ลูกน้องเจี่ยนหยู่โป๋
ชายผู้นั้นไม่ตอบสนอง กลับกัน เขายังคงเก็บชิ้นส่วนที่แตกกระจายต่อไป กระทั่งเขาได้หยิบชิ้นสุดท้าย จากนั้นเขาจึงค่อยลุกขึ้นยืน
ชายคนนี้สูงมาก เขาสูงถึงหนึ่งเมตรแปดสิบเจ็ดเซนติเมตร
เขามีใบหน้าที่หล่อเหลาและมีผิวที่ขาวผ่อง สันจมูกเขาก็ค่อนข้างโด่งเช่นกัน เขามีดวงตาที่สดใสลึกล้ำ อย่างไรก็ตามเขามีการแสดงออกทางสีหน้าไม่มากนัก
เขาเป็นแบบนี้เสมอ ด้วยสีหน้าที่ไม่ค่อยแสดงออก ทำให้ดูเหมือนว่าเขาเป็นอัมพาตเส้นประสาทใบหน้า
ไม่เพียงเท่านั้น เขายังให้ความรู้สึกอึมครึมมืดหม่น
อย่างไรก็ตาม เมื่อก่อนเขาไม่เป็นแบบนี้
เขาเป็นเด็กที่ร่าเริงแจ่มใส
อย่างไรก็ตาม หลังจากที่เหอเยี่ยนล้มเหลวในการทำให้ลูกชายคนโตของเธอสนใจโลกธุรกิจ เธอก็ทุ่มเทพลังงานทั้งหมดให้กับเจี่ยนหยู่โป๋
เธอต้องการให้ลูกชายเธอเป็นคนที่เธอต้องการให้เขาเป็น ดังนั้นเธอจึงตีสั่งสอนเขา เธอยังจำกัดการเคลื่อนไหวของเขาและตีเขาหากเขาไม่สามารถตอบสนองความต้องการของเธอได้
ภายใต้เงื่อนไขดังกล่าว บุคลิกของเจี่ยนหยู่โป๋ก็ค่อยๆเปลี่ยนไป เขาเริ่มพูดน้อยลง ยิ้มน้อยลง และแสดงอารมณ์โดยรวมน้อยลง
ถึงแม้จะเป็นเช่นนั้น แต่ก็เช่นเดียวกับเจี่ยนหยู่หมิน เจี่ยนหยู่โป๋ไม่ได้เลือกเข้าสู่ในด้านการเงิน เขาปฏิเสธที่จะทำในสิ่งที่เหอเยี่ยนคาดหวังให้เขาทำ
กลับกัน เขาเลือกเล่นโกะแทน เขากลายเป็นผู้เล่นมืออาชีพและได้รับรางวัลมากมาย
“มีอะไรเกิดขึ้นกับแม่เหรอ” เจี่ยนหยู่โป๋ถาม น้ำเสียงเขาทุ้มและราบเรียบ
“ไม่เป็นไร” เหอเยี่ยนตอบกลับ สีหน้าเธอค่อนข้างไม่ค่อยพอใจ
อ่านตอนล่าสุดที่ mynovel.co หรือ www.thai-novel.com
“แม่ขายทรัพย์สินทั้งหมดที่อยู่ภายใต้ชื่อแม่” เจี่ยนหยู่โป๋ตอบกลับ เขาพูดราวกับว่า รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
“เธอ…เธอรู้ได้ยังไง” เหอเยี่ยนถามด้วยความประหลาดใจ ลูกชายเธอยุ่งอยู่กับการแข่งขันโกะไม่ใช่เหรอ
“วิธีที่แม่ทำเรื่องพวกนั้นโง่มาก”
“หยู่โป๋ ฉัน…” เหอเยี่ยนพูดตะกุกตะกัก เธอรู้สึกถูกหยามและอับอายเมื่อเผชิญกับข้อกล่าวหาของเจี่ยนหยู่โป๋
“ผมจะช่วยแม่เอง” เจี่ยนหยู่โป๋พูดกับเหอเยี่ยน
“หยู่โป๋… เมื่อกี้เธอพูดว่าอะไรนะ”
เหอเยี่ยนสงสัยว่าเธอได้ยินอะไรผิดไป
ตอนแรกเธอคิดว่าลูกชายเธอได้กลับมาเยาะเย้ยเธอ แต่ว่า ตอนนี้เขากำลังบอกว่าเขาจะช่วยเธอ
“ไม่ใช่ว่าแม่ต้องการทรัพย์สินของตระกูลเจี่ยนเหรอ ฉันจะช่วยแม่เอง”
น้ำเสียงเจี่ยนหยู่โป๋ไม่เปลี่ยนไปเลย เขาเยือกเย็นนิ่งราวกับพื้นผิวของทะเลสาบ ไม่มีระลอกคลื่นใดๆบนพื้นผิวของทะเลสาบนั้น
“หยู่โป๋เธอพูดจริงเหรอ”
เหอเยี่ยนแทบไม่เชื่อหูเธอเลย เธอได้ร้องขอลูกชายเธอมาหลายปีแล้ว แต่ไม่มีใครฟังเธอ ไม่มีใครเข้าใจเธอ
และตอนนี้ หยู่โป๋พลันบอกเธอว่าเขาเต็มใจจะช่วยเธอ
“แม่จัดฉากใส่ความเจี่ยนอีหลิงไม่เรียบร้อยเลย”
“เธอ…เธอรู้เรื่องนี้ด้วยรึ”
“ฉันได้จัดการเรื่องนี้ให้แม่แล้ว ฉันจัดการมันก่อนที่เจี่ยนหยุ่นเฉิงและคนอื่นๆจะมีโอกาสได้ดูมัน”
เหอเยี่ยนตกใจไปชั่วขณะ จากนั้นเธอก็เปลี่ยนเป็นดีใจมาก “หยู่โป๋ เธอเต็มใจช่วยฉันจริงๆเหรอ ฉันมีความสุขมาก”
เหอเยี่ยนมีความสุขมากมายในขณะนี้ ความทุกข์ทั้งหมดที่เธอเพิ่งรู้สึก ได้หายไปหมดแล้ว
เจี่ยนหยู่โป๋ไม่แสดงอารมณ์ตลอดเวลาที่เขาพูดกับเหอเยี่ยน เมื่อเขาออกจากห้องทำงานของเหอเยี่ยน มือของเขาก็ไปสัมผัสกับสายลูกปัดที่เขาสวมอยู่ที่ข้อมือซ้ายเป็นประจำ
ลูกปัดทำจากไม้โรสวูด อย่างไรก็ตาม ลูกปัดเม็ดหนึ่งแตกต่างจากเม็ดอื่น
ลูกปัดเม็ดนั้นดูเหมือนจะเป็นเครื่องประดับกระจุ๋มกระจิ๋มของเด็กหญิงตัวเล็กๆ
###
เจี่ยนหยู่หมินก็เข้าร่วมงานแถลงข่าวด้วย
ในเมื่อเขากังวลเกี่ยวกับอีหลิง เขาจึงสวมหมวก หน้ากาก และผ้าพันคอไปงานแถลงข่าวด้วย
หลังจากการแถลงข่าวจบ เจี่ยนหยู่หมินได้ถือโอกาสขอบคุณผู้คนจากสถาบันวิจัย เขาดีใจอย่างเหลือล้นที่พวกเขาได้ล้างชื่อของเจี่ยนอีหลิง
จากนั้นเขาก็ได้รับเชิญจากเฉิงอี้ให้ไปร่วมงานฉลองที่ชั้นบน
ขณะที่ทุกคนกำลังดื่มด้วยกันนั้น เจี่ยนหยู่หมินได้ดื่มมากเกินไปอยู่บ้าง
เมื่อเจี่ยนหยู่หมินฟื้นคืนสติ เขาก็พบว่าตัวเองอยู่ในห้องพักโรงแรม
เมื่อวานเขาอาจจะดื่มมากเกินไป ดังนั้นเขาจึงจำอะไรไม่ได้เลย
อย่างไรก็ตามเจี่ยนหยู่หมินไม่ได้ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มากนัก แต่เมื่อเขากำลังจะยกผ้าห่มขึ้น เขาก็หันศีรษะไปรอบๆ และทันใดนั้น เขาก็พบว่ามีหัวของคนอื่นอยู่ข้างๆตัวเขา