เธอเปลี่ยนไปเป็นเจ้าพ่อ / เธอเปลี่ยนไปเป็นบอส - ตอนที่ 170

ในที่สุดโทรศัพท์มือถือของเจี่ยนอีหลิงก็ได้เปิดขึ้น และก็เต็มไปด้วยไอคอนสีแดงในนั้น สายที่ไม่ได้รับ 99+ สาย ข้อความที่ไม่ได้อ่าน 99+ ข้อความ และ WeChat ที่ไม่ได้อ่านอีก 99+ ข้อความ

อีกทั้งก็ยังมีข้อความที่ไม่ได้อ่านจากแอปเฉพาะของสถาบันอีกนับโหล

เจี่ยนอีหลิงเลือกที่จะปิดเครื่องลงในตอนนั้นเพราะว่าเธอไม่รู้ว่าจะตอบพวกเขาอย่างไรถ้ารับสาย

โดยพื้นฐานแล้วเธอต้องการเพียงแค่เปิดเผยวิดีโอต่อสาธารณะ นำเสนอความจริงให้กับพวกเขา

เจี่ยนอีหลิงไม่รู้ว่าเธอจะสามารถเปลี่ยนแปลงชะตากรรมของเธอได้หรือไม่ในตอนนี้

ฉากที่เผชิญหน้ากับความตายเพียงลำพังในความฝันนั้นสมจริงมากเกินไป และเมื่อเจี่ยนอีหลิงระลึกถึงมัน ความรู้สึกในฝันนั้นก็จะติดตามมาด้วย

เจี่ยนอีหลิงกำจัดสิ่งรบกวนที่ไม่ควรจะมีอยู่ในใจ และตั้งใจทำสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

ถ้าเธอต้องการที่จะมีชีวิตอยู่อย่างสุขสบาย เธอจำเป็นต้องมีอาชีพและการงานก่อนเป็นอันดับแรก

แรกสุดเจี่ยนอีหลิงเปิดดูข่าวจากสถาบัน

ผู้ช่วยส่งข้อความให้เธอมาเป็นชุด

มันเป็นเรื่องของโครงงานสองงานที่เธอมี

ผู้ช่วยได้ระบุถึงการเตรียมการต่างๆให้กับเจี่ยนอีหลิง และใช้เวลาที่มีอย่างจำกัดของเจี่ยนอีหลิงอย่างสมเหตุสมผล

แต่ไม่ว่าเขาจะจัดเวลาอย่างไร เวลาเจี่ยนอีหลิงก็ยังมีไม่เพียงพอ

[กำหนดการผ่าตัดจะเป็นวันที่ 5 ของเดือนหน้า ให้ติดต่อกับผู้ป่วยเพื่อเข้ารับการตรวจ]

เจี่ยนอีหลิงส่งข้อความให้กับผู้ช่วยอย่างง่ายๆและชัดเจน

[วันที่ 5 เหรอ นั่นไม่รีบไปหน่อยเหรอ คุณมีเรื่องอื่นที่จะต้องจัดการอยู่ในตอนนี้]

เวลาที่จะใช้ในการผ่าตัดจะสั้นมากกว่าโครงงานวิจัยทางด้านเภสัชกรรมมาก

การผ่าตัดต้องการเพียงการเตรียมตัวก่อนการผ่าตัด และการผ่าตัดจริงนั้นใช้เวลาเพียงช่วงสั้นๆ

การศึกษาวิจัยยานั้นใช้เวลาอย่างน้อยหลายเดือน และเป็นเรื่องปกติหากจะใช้เวลามากกว่าสิบปี

[วันที่ 5]

เจี่ยนอีหลิงย้ำ

เจี่ยนอีหลิงต้องอยู่ในโรงพยาบาลอีกสองวัน ซึ่งก็จะให้เวลาทำงานแก่เธออย่างพอเพียง

แม่ของฉินชวนนั้นเป็นเคสที่ต้องใช้เวลานาน ซึ่งเธอกับเฉิงอี้ได้เริ่มวางแผนชุดแรกเพื่อที่จะรักษาเสถียรภาพของอาการไว้ก่อนแล้ว

ช่างดีเหลือเกินนะ เมื่อผู้ช่วยเห็นข้อความนี้เขาก็รู้ว่าคำโน้มน้าวของเขาไม่ได้ผล และบรรพบุรุษตัวน้อยนี้ก็จะย้ำแต่คำเดิมถ้าเธอตัดสินใจแล้ว

[ตกลง ผมจะแจ้งให้ผู้ป่วยดำเนินการในขั้นตอนการรับเข้าทันที]

ผู้ช่วยได้แต่เพียงติดต่อบุคคลากรที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินงาน

อย่างไรก็ตามถ้าการผ่าตัดนี้ประสบความสำเร็จ มันก็จะเป็นการช่วยเหลือเจี่ยนอีหลิงเป็นอย่างมาก

การผ่าตัดนี้เป็นการทดสอบถึงความสามารถในการผ่าตัด หากว่าประสบความสำเร็จ แน่นอนว่า Dr.FS ย่อมกลายเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงในวงการแพทย์

นี่เป็นประโยชน์อย่างมากต่อความก้าวหน้าในอาชีพของเธอในอนาคต

###

เมื่อเจี่ยนอีหลิงยืนยันการผ่าตัดเจี่ยนหยุ่นน่าวแล้ว ก็เกิดคำถามมากมายผุดขึ้นมาในวงการการแพทย์

บางคนก็ตั้งตารอคอย บางคนก็ตั้งข้อสงสัย

[Dr.FS คนนี้ต้องการทำการผ่าตัดนี้จริงๆเหรอ นี่เป็นความสามารถที่แท้จริงหรือว่าเป็นเพียงลูกวัวเกิดใหม่ไม่กลัวเสือ]

[ใครจะรู้ ผมก็ไม่เคยได้ยินว่าคนผู้นี้มีประวัติเคยมีประสบการด้านศัลยกรรมการผ่าตัดมาก่อน ไม่มีตัวอย่างที่ประสบความสำเร็จ ไม่มีใครที่จะทำนายโอกาสประสบความสำเร็จของการผ่าตัดนี้ได้]

[สถาบันวิจัยฮุ่ยหลิงมักจะชอบทำอะไรแปลกๆ ไม่ค่อยชอบทำอะไรตามกฏ นี่เป็นที่รู้กันดีในวงการอยู่แล้ว ดูเหมือนว่าครั้งนี้ก็ไม่มีข้อยกเว้น ตามความเป็นจริงแล้วเป็นเรื่องยากมากที่จะปล่อยให้คนใหม่ที่ไม่มีประสบการณ์การผ่าตัดทำสิ่งเหล่านี้]

[ไม่ต้องพูดแล้ว ดูมุมมองจากบทความที่เผยแพร่ก่อนหน้านั้นของ Dr.FS สิ ช่างยอดเยี่ยมมากจริงๆ]

[มีสำนวนกล่าวว่า “ถกกลยุทธบนกระดาษ” ไม่ว่าจะพูดได้ดียังไงก็ตาม ไม่ว่าจะมีความรู้ทางทฤษฎีมากมายแค่ไหน ก็ยังมีความแตกต่างจากการลงมือทำจริงๆ]

[อีกอย่าง การผ่าตัดก็ไม่ได้แตกต่างไปจากอย่างอื่น ความรู้ทางทฤษฎีไม่ได้สำคัญไปกว่าการสะสมประสบการณ์ อย่างไรก็ตามนี่เป็นการตัดสินใจของสถาบันวิจัยฮุ่ยหลิง ในเมื่อพวกเขาได้ตัดสินใจไปแล้ว พวกเขาก็ต้องรับผิดชอบผลที่จะตามมาหากว่ามีอะไมผิดพลาด พวกเรามาคอยดูผลลัพธ์กันเถอะ]