เทพเซียนเจ้านครวิญญาณ - ตอนที่ 41 มังกร
GS บทที่ 41 มังกร
“ต้องพิสูจน์ความภักดีอย่างนั้นเหรอ” ลู่หยุนยิ้มมุมปาก
ฉิงฮั่นตัวเกร็ง นี่เจ้าเมืองสนธยาคิดจะฆ่าเขาจริงหรือ
แม้แต่ฉิงหงเชิงยังสะดุ้ง ด้วยไม่คิดว่าลู่หยุนจะยินยอมง่ายดายเช่นนี้
“ก่อนอื่น—“ ฉับพลันน้ำเสียงได้เปลี่ยนไป “เจ้าต้องตายก่อน!”
สมองของฉิงหงเชิงประมวลเหตุการณ์ได้ทันทีว่าไม่มีอะไรที่มันจะได้มาอย่างง่ายดายดอก เขารู้สึกถึงลางแห่งความตายพุ่งทะยานหมายปลิดชีวิตในเสี้ยววินาที
“เซียนแท้จริง!” ฉิงหงเชิงร้องเรียก เสียววูบที่ท้อง เขาไม่สนใจการหมายเอาชีวิตอีกต่อไป แต่หันหลังกลับวิ่งหนีออกจากบริเวณนั้นตรงไปยังหนองน้ำข้างหน้า
ฮึมมม
กำแพงใสปรากฏขึ้นขวางกั้นฉับพลัน ปะทะเข้ากับเซียนแท้ กำแพงระเบิดกระจายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย คลื่นสูงใหญ่มีขนาดมหึมาโผล่ขึ้นจากหนองน้ำ เส้นผมที่เหมือนซากสาหร่ายแห้ง ๆ เหยียดยาว คว้ากระชากร่างเซียนที่แท้จริง ก่อนที่จะหายลงน้ำไปอย่างรวดเร็ว เพียงอึดใจมันก็โผล่ขึ้นมาบนผิวน้ำ ว่ายวนเวียนสำรวจเหยื่อรายใหม่
ฉิงหงเชิงลงไปนั่งกองอยู่กับพื้น เหนื่อยหอบจนตัวโยน “ฮ่าฮ่า ฮ่ะฮ่ะฮ่ะ! เจ้าก็มีเซียนแท้จริงเหมือนกันซีนะ”
“อะไร–!” ลู่หยุนปากค้างอย่างตกตะลึง เขาเรียกอสูรกายในนรกขึ้นมา เวลานี้ไม่อาจใช้ทหารเพื่อกำจัดฉิงหงเชิงและพามันส่งเข้าสู่ประตูสู่ขุมนรกได้
โดยไม่คาดฝันมาก่อน ดันมีค่ายกลเข้ามาขัดจังหวะเสียได้ มันปรากฏตัวขึ้นเพียงอึดใจก่อนผลุงลงไปในหนองน้ำไป มันได้กระชากเอาวิญญาณของอสูรกายจากนรกของเขาไปด้วย
“พลังเซียนใช้ที่นี่ไม่ได้” ฉิงฮั่นพบอกขณะซบคว่ำหน้าลงกับหลงของลู่หยุน “เซียนแต่ละระดับจะมีเคล็ดวิชาแตกต่างกันไป การทำแบบนั้นจะทำให้ตัวที่นอนอยู่ก้นหนองน้ำฟื้นคืนชีพขึ้นมาอีกครั้งก็ได้”
คงใช่เช่นนั้นจริง
เพื่อให้สามารถควบคุมหลี่ยูวไฉได้โดยง่าย ยู่เฉิงจะต้องปรับพลังในการควบคุมเซียนชั้นฟ้า จึงเสมือนไปกระตุ้นให้ปลาซากศพตื่นขึ้นจากก้นหนองน้ำ เพราะแบบนั้นนางจำต้องผละทิ้งหลี่ยูวไฉในทันที
อสูรกายจากนรกชนิดอื่นตรงเข้ามา แค่ชำเลืองหางตาเขารู้ได้ทันทีว่าในนั้นมีแม่มดผีดิบ ตอนที่เจ้าเมืองเทียนเหอตาย หนองน้ำยังไม่ขยับเขยื้อนแม้แต่น้อย เซียนที่มีพลังกล้าแข็งเท่านั้นึงสามารถกำราบให้อยู่หมัด
ชั่วเวลาไม่นาน เขาต้องสูญเสียอสูรกายจากนรกถึงสองตน
“ไม่เลวนี่ลู่หยุน ดูเหมือนตอนนี้เจ้าคงอยากให้ข้าตายเสียมากกว่าซีนะ ก็ได้ มาดูสิว่าข้ากับเจ้าใครจะไปก่อนกัน”
“เจ้าต้องลองใหม่” บอกกับตัวเอง สีหน้าหมองคล้ำ ดาบพิฆาตโลกันต์เปล่งแสงเป็นประกายวาววับอยู่ในมือ “ข้าจะไม่ฆ่าเจ้าให้ตายโดยเร็วหรอก หากแต่จะฆ่าให้เจ้าค่อย ๆ ตายเพื่อให้เจ้าชดใช้ในสิ่งที่เจ้าทำเอาไว้!” เขากัดฟัน “การรอความตายอยู่ภายในหลุมฝังศพแห่งนี้ ก็เหมือนกับเจ้าได้ตายไปแล้ว”
ฉิงหงเชิงหยุดชะงักงันหรี่ตามอง “ไอ้คนชั่ว ทำไมคนพลังปราณอ่อนด้อยเยี่ยงเจ้าจึงสามารถควบคุมอาวุธเซียนระดับเก้าได้! ไอ้ไง่ฉิงฮั่นเอาดาบให้มันทำไม เจ้าไม่อยากเห็นมันตายหรือไงกัน!”
ลู่หยุนโยกหัวไหล่ เขาเองก็ตอบไม่ได้เช่นกันว่าเหตุใดจึงสามารถควบคุมดาบเล่มนี้ของฉิงฮั่น สายตาของหนุ่มน้อยผู้อ่อนปวกเปียกกลับเป็นประกายหันไปจ้องลู่หยุน ใบหน้าซับสีเลือด
“นี่ เจ้ามียาฟื้นพลังหรือไม่” จู่ ๆ ลู่หยุนก็พลันถามขึ้นมาอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย
“ข้ากินมันหมดแล้ว” ฉิงหงเชิงตอบเย้ยหยัน จ้องหน้าฉิงฮั่นไม่วางตา “ถึงมี ข้าก็ไม่ให้เจ้า”
ลู่หยุนมองอย่างสมเพช
“เจ้านี่มันช่างโง่อะไรเช่นนี้” เมียวโผล่เข้ามาจากทิศทางใดไม่ปรากฏ เขาชี้นิ้วต่อว่าลู่หยุนโดยไม่สนใจอากัปกิริยาของตัวเองอีกต่อไป “เจ้าไม่เห็นหรือ ค่ายกลแห่งนี้ร้ายกาจแค่ไหน เจ้ายังปล่อยให้ผีเซียนถูกทำลายลงเสียได้ อยากจะให้ข้าตายหรือไง!”
“รู้แล้ว รู้แล้ว” ลู่หยุนคำราม “บอกที ข้าจะข้ามหนองน้ำแห่งนี้ได้อย่างไร”
ยู่เฉิงหายไปในหนองน้ำเสียแล้วตอนนี้ นางจะเป็นตายร้ายดีเช่นไรเขาไม่อาจคาดเดา ส่วนเจ้าหมูตอนหลี่ยูวไฉก็เอาแต่หลับเพราะวิญญาณของมันออกจากร่าง การกลับมาของเมียวทำให้ลู่หยุนใจชื้นขึ้นมาบ้าง
“เจ้าพูดกับใคร!” เขามองลู่หยุนพูดโต้ตอบ ฉิงหงเชิงได้แต่มองทำหน้าเลิ่กลั่ก
แม้ว่าผีเซียนจะปลดปล่อยพลังหยินลอยละล่องอยู่ในอากาศ หากมิใช่ทุกคนจะสามารถรับรู้ได้ ทว่าคนระดับสติปัญญาฉลาดแกมโกงอย่างฉิงหงเชิงมีหรือจะไม่รู้ สิ่งที่ลู่หยุนพูดคุยด้วยย่อมเป็นมากกว่าแค่เพียงอากาศธาตุเป็นแน่
“ข้ารู้สึกไม่ถูกชะตากับคนผู้นี้เลย” เมียวยังมีความโกรธ “เจ้าน่าสะอิดสะเอียนฉิงฮั่นยังดีเสียกว่า”
ลู่หยุนจำต้องถ่ายทอดคำพูดนี้ให้สองพี่น้องตระกูลฉิง
“แต่ข้าไม่ชอบมัน” ฉิงฮั่นพูดพลางอ้าปากหาวหวอด
ลู่หยุนไม่กล้าปล่อยฉิงฮั่นให้ลงจากหลัง ฉิงหงเชิงต้องพยามทุกวิถีทางที่จะฆ่าน้องชายของมันทันทีที่มีโอกาสแน่
เมียวพ่นลมหายใจอย่างหงุดหงิด กลับจะยิ่งกลายเป็นยั่วยวนจนไปสะกิดความรู้สึกเบื้องลึกของชายหนุ่ม ลู่หยุนขนลุกเกรียวไปทั่วร่าง “ถ้าเจ้ามองข้าให้ดี เจ้าก็จะเห็นว่าข้าดูดีกว่าเจ้าน่าสะอิดสะเอียนนั่นตั้งมากมาย รูปลักษณ์เช่นข้า เจ้าจะหาไม่ได้อีกในโลกนี้”
ภาพลวงตาใช้มือลูบไล้ทั่วใบหน้าของมัน พอเสียที ฉับพลันน้ำเสียงเปลี่ยนเป็นเอาจริงเอาจัง “เจ้ามีทางเลือกสองทาง ทางเลือกแรก รอจนกว่ายู่เฉิงจะกลับขึ้นมา แถวนี้เป็นถิ่นนาง ฉะนั้นนางสามารถพาเจ้าข้ามฝั่งไปได้ไม่ยาก ส่วนทางเลือกที่สอง เจ้าก็ใช้ภาพวาดแห่งความว่างเปล่าที่เจ้าให้เจ้าน่าสะอิดสะเอียนฉิงฮั่นไปเสียแล้วนั่นละ”
“ข้าไม่รออีกต่อไป ไม่มีใครรู้ว่า ยู่เฉิงจะกลับมาเมื่อใด เห็นได้ชัดที่นี่มีอันตรายเคลือบแฝง ยิ่งเราช้าเท่าใด เราจะยิ่งได้รับอันตรายมากเท่านั้น ประการสุดท้าย…” รอยยิ้มอย่างประสงค์ร้ายปรากฏบนริมฝีปาก ชี้นิ้วไปยังฉิงหงเชิง พูดเสียงราวกระซิบ “เจ้าจะช่วยหลอกล่อมันลงไปเสียในหนองน้ำได้หรือไม่ เมียว”
“ไม่มีทาง!” เมียวร้องลั่น “เจ้าจะฆ่าคนอีกไม่ได้! ตอนนี้มีคนต้องตายไปแล้ว อย่าให้ใครต้องตายที่นี่อีก หาไม่ มังกรอาจจะฟื้นคืนชีพ แล้วเมื่อนั้น ข้าจะเป็นคนแรกที่รับเคราะห์”
“อะไรนะ เจ้าว่ามังกรจะฟื้นคืนชีพ อย่างนั้นหรือ” ลู่หยุนเบิกตา “ที่นี่มีมังกรอยู่ด้วยรึ!”
“มะะ–ไม่มี!” เมียวรู้ทันทีว่าได้พลั้งหลุดปากความลับออกไป จึงเฉไฉเปลี่ยนเรื่อง “ข้าสร้างภาพลวงตาหลอกมันก็ได้ เจ้าใช้ภาพวาดได้ไม่ต้องกังวล”
พูดจบร่างของเมียวหายไป ฉิงหงเชิงแววตาเลื่อนลอยจับจ้องความว่างเปล่าอย่างไร้จุดหมาย ไม่มีใครสามารถบอกได้ว่าเขาเห็นอะไร
“เมียวบอกว่า หากมีคนตายอีก จะทำให้มังกรจะฟื้นคืนชีพอย่างนั้นหรือ” ลู่หยุนพูดกับตนเองดุจคนละเมอ เรื่องนี้เกินสติปัญญาที่จะเข้าใจ
“มังกรฟื้นคืนชีพงั้นรึ” ฉิงฮั่นถึงกับตะลึงด้วย “ที่นี่มีมังกรด้วยรึ”
ซ่าสสส!
ศีรษะหนึ่งผลุบโผล่พ้นผิวน้ำ ร่างวิญญาณของยู่เฉิงลอยขึ้นในอากาศหน้าบูดบึ้งอย่างผิดหวัง
“นายท่าน ข้าตามมันไม่ทัน” นางสลัดคราบปีศาจแสนดุร้ายจนสิ้น เหลือเพียงเด็กหญิงตัวน้อยที่กำลังเสียใจสุดแสนเพราะทำขนมหวานตกพื้นไป
ขณะที่ลู่หยุนถอนใจเฮือกอย่างโล่งอกเมื่อเห็นยู่เฉิงกลับขึ้นมาจากหนองน้ำ เรื่องมังกรไว้ทีหลังเขาเดินเข้าไปหานาง “เจ้าปลอดภัยดีอยู่หรือ”
“ข้าไม่เป็นอะไร” ยู่เฉิงหน้ายุ่ง “เพียงแต่จับไอ้เจ้ายักษ์นั่นไม่ได้”
“เช่นนั้นก็ดีแล้ว ที่นี่คงมีตัวอื่นให้เจ้าไล่จับอีก เมียวบอกข้าว่าหนองน้ำนั่นเป็นถิ่นที่ของเจ้า บอกสิว่าใต้น้ำ เจ้าเจออะไรบ้าง”
“ถิ่นที่ของข้า งั้นรึ” ยู่เฉิงงงงัน นางไม่เคยคิดนึกมาก่อนว่าอาณาบริเวณแถบนี้จะเป็นเขตแดนของตน “ใต้ผืนน้ำมีทั้งมีปลาซากศพ แม่มดผีดิบ หนอนหน้าปีศาจ” นิ่งคิดอึดใจ ก่อนเปิดเผยข้อมูลสำคัญ “หนองน้ำมิใช่หนองน้ำทั่วไป มันคือหนองน้ำปีศาจ! ใครที่ตกลงไป ยากที่จะรอดชีวิต!”