เทพเซียนเจ้านครวิญญาณ - ตอนที่ 30 ผีร้ายเก้าชีวิต
บทที่ 30 ผีร้ายเก้าชีวิต
ผีร้ายเก้าชีวิต!
ตำนานได้พูดถึงเจ้าผีตัวนี้ว่า มันถือกำเนิดขึ้นมาเมื่อหญิงสาวทั้ง 9 คนที่เกิดในช่วงโมงแห่งหยินในวันหยิน เดือนหยิน และปีหยิน หญิงสาวทั้งหมดจะต้องถูกฝังร่วมกันในโลงศพแม่และโลงศพลูกทั้ง 8 หากจะบอกว่าพวกนางเป็นผีก็คงไม่ใช่ เพราะพวกนางสามารถชั่วร้ายถึงขนาดที่ว่าสังหารทุกคนได้โดยไม่ต้องไตร่ตรอง
ลู่หยุนเคยอ่านเรื่องนี้ในบันทึกของเขา แต่ก็ไม่เคยเห็นวิธีการให้กำเนิดผีที่น่าเกลียดน่ากลัวนี้จริง ๆ มาก่อน
“ถ้างั้นแล้วผีมีจริงเหรอเนี่ย?!” ชายหนุ่มร้องออกมาด้วยท่าทางตะลึงงันเมื่อเห็นร่างสีขาวด้านหลังหลี่ยูวไฉมองมาที่เขา
เจ้าอ้วนที่ลูบไล้กะโหลกอย่างเสียสติในที่สุดก็ระลึกได้เกิดอะไรขึ้น “ใครน่ะ? เกิดอะไรขึ้น!” เขารีบมองไปรอบ ๆ ด้วยความระมัดระวังตัวสูงสุด
มือทั้งสองเหยียดออกจากเงามืดและปิดหูของเขา
“โอ้ มันก็แค่หนูตัวใหญ่นี่เอง แต่แปลกนะ ทำไมหนูมันถึงอยู่ที่นี่ได้ล่ะ?” หลี่ยูวไฉบ่น ใบหน้าอ้วนกลมของเขาก้มมองและกอดกะโหลกไว้อย่างแน่นหนา ก่อนจะหัวเราะแบบโง่ ๆ ออกมา
“เอาล่ะ เรากำลังอยู่ในโลกแห่งเทพเจ้าและเซียน แค่มีผีมันจะไปแปลกตรงไหนกัน?” ลู่หยุนบ่นอย่างเงียบ ๆ ขณะที่เขาสังเกตเห็นเงาสีขาว
สียงผู้หญิงล่องลอยจากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่งถึงหูของเขา “เจ้าเป็นใคร?” ใบหน้าสวยซีดไม่มีเลือดโผล่ออกมาจากด้านหลังศีรษะของเขา
“เจ้ากล้าเข้าใกล้ข้างั้นเหรอ?” ลู่หยุนยิ้มอย่างเฉยเมย ไฟสีดำที่อยู่ภายในตัวของเขาลุกโชนขึ้นมา
“อ๊า—” เสียงกรีดร้องที่น่าสังเวชดังสะท้อนอยู่ในอากาศ เจ้าเมืองหนุ่มหันกลับมามองหญิงสาวอายุประมาณสิบเจ็ดปีที่นั่งลงบนพื้นตัวสั่นงันงก รูปร่างของนางนั้นน่ารับประทานยิ่ง แต่แม้ว่าหญิงสาวจะมีเสน่ห์ ทว่าใบหน้าของนางนั้นกลับก็ไร้ซึ่งสีของเลือด ร่างของหญิงสาวดูโปร่งใสจนเขาสามารถมองเห็นพื้นด้านล่างได้
ผีชัดๆ!
มันเป็นครั้งแรกของลู่หยุนที่ได้พบเจออะไรแบบนี้ แต่ก็ไม่มีข้อสงสัยเกี่ยวกับผู้หญิงคนนี้เลย
“ข้าไม่มีพลังในการจัดการผีดิบแห่งสามภพและ 5 ธาตุด้านนอกนั่นก็จริง… แต่ผีธรรมดาอย่างเจ้ายังกล้าโผล่ออกมาหาข้าอีกงั้นเหรอ?” เปลวไฟสีดำติดอยู่ในดวงตาของเขา ไฟเหล่านี้ถือเป็นหายนะของผีทุกตัวในโลก
“เมตตาข้าด้วย เมตตาข้าด้วย!” เด็กสาวคุกเข่าลงบนพื้นแล้วตะโกนซ้ำ ๆ
แปลกมาก ลู่หยุนยังพอเห็นเงาสีขาวจากด้านหลังหลี่ยูวไฉ ใบหน้าของผีสาวเองก็หวาดกลัวเขาอยู่เช่นกัน
ผีเก้าชีวิต… หญิงสาวเก้าคนที่มีพลังหยินสุดขั้วถูกหลอมรวมกันเป็นผีตัวเดียว! นี่เป็นร่างเดียวกันที่มีวิญญาณเก้าดวง! ลู่หยุนหายใจเข้าลึก ๆ “ ใครเป็นคนสร้างเจ้าขึ้นมา?”
หญิงสาวเงยหน้าขึ้นมองแล้วส่ายหัว
“เจ้าไม่รู้อะไรเลยเหรอ?” ลู่หยุนขมวดคิ้วเล็กน้อย
“ข้าอยู่ที่นี่มานับตั้งแต่ลืมตาดูโลก” หญิงสาวตอบด้วยท่าทางน่าสงสาร
“เจ้าเคยเจอคนอื่นบ้างไหม” ลู่หยุนยังคงสอบสวน
หญิงสาวพยักหน้า
“พวกเขาอยู่ที่ไหน?” ชายหนุ่มถามต่อทันทีพร้อมทั้งหัวเราะ “ ไม่จำเป็นต้องตอบ ข้าคิดว่าข้ารู้แล้วล่ะว่าพวกเขาหายไปไหน”
สังเกตได้จากกองกะโหลกและโครงกระดูกมากมาย ชัดเจนเลยว่าหญิงสาวนางนี้เป็นคนฆ่าพวกเขาทั้งหมด ถ้าหากลู่หยุนไม่ได้โผล่มา เจ้าอ้วนยูวไฉเองก็น่าจะตายไปแล้ว พลังหยางของเขากำลังถูกดูดกลืนอยู่ในตอนนี้
ผีสาวพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ “ข้าหนาว ข้าทำได้แค่เพียงดูดซับพลังหยางจากคนอื่นเพื่อเพิ่มความอบอุ่นให้ข้าเท่านั้น”
“เจ้าจะมากับข้าก็ได้นะ” ลู่หยุนเสนอดวงตาของเขาเปล่งประกาย
“ได้โปรดเมตตาข้าเถอะท่าน!” ผีสาวกราบตัวเขาอีกครั้ง “ข้าจะตายทันทีที่ออกจากสถานที่แห่งนี้”
“ตอนนี้เจ้ายังรู้สึกหนาวอยู่หรือไม่?” ลู่หยุนยิ้ม
ผีสาวกะพริบตาด้วยความประหลาดใจจากนั้นก็ส่ายหัว นับตั้งแต่ชายหนุ่มมาถึง ความเยือกเย็นของวิญญาณที่ดูเหมือนจะล้อมนางไว้ก็ได้หายไปอย่างไร้ร่องรอย
ลู่หยุนโบกมือของเขา
โครม! หวือ!
ลมหลอนน่ากลัวพุ่งผ่านออกมาจากประตูนรก
ผีสาวตัวแข็งทื่อทันที ความปรารถนาที่รุนแรงผลักดันให้นางเร่งรีบเข้าไปในนั้น เบื้องหลังประตูปรภพนั่นคือสถานที่สุดท้ายของทุกดวงวิญญาณ พวกเขาจะได้ไปเกิดใหม่พร้อมกันหมดภายในนั้น
หึ่ม – พลังงานไร้รูปแบบดูดโลงศพทั้งเก้าเข้าไปในประตู
โลงศพเหล่านี้เป็นฐานพลังของผีสาว ถ้าพวกมันถูกทำลายไป นางก็ต้องหายไปด้วยเช่นกัน ดังนั้นสถานที่ที่จะเก็บรักษามันเอาไว้ให้ดีที่สุดก็คือการนำมันไปไว้ในประตูนรก
“จงอยู่รับใช้ข้านับจากนี้” ลู่หยุนประกาศ “เจ้าชื่ออะไร?”
“ข้ามีนามว่า เยว่เฉิน” ผีสาวกระโดดขึ้นมาจากพื้นดินด้วยท่าทางตื่นเต้น
“เยว่เฉิน เจ้าควบคุมเจ้าก้อนไขมันตัวนั้นได้ไหม?” ลู่หยุนถาม
“ได้เจ้าค่ะนายท่าน!” เยว่เฉินพยักหน้า จากนั้นก็ส่ายหัว “ข้าสามารถทำให้เขามองเห็นที่เขาอยากเห็นได้ แต่ข้าไม่สามารถควบคุมความต้องการของเขาได้”
“แค่นั้นก็เพียงพอแล้ว” ลู่หยุนยิ้มอย่างซุกซน “ ทำให้เขาตามข้ามา”
“ว้าว! สมบัติมากมาย! ข้ารวยแล้ว! รวยสุดๆ!” ด้วยเสียงกรีดร้อง เขาลุกขึ้นและเดินตามลู่หยุนไป ใบหน้าของเขาตื่นเต้นพร้อมกับลูบมือไปมา
……
“หืม เด็กนี่พาผีเซียนไปด้วยกันได้งั้นเหรอ” เสียงกระซิบเบา ๆ ดังขึ้นในอากาศหลังจากที่ลู่หยุนและเยว่เฉินออกเดินทาง “ดูเหมือนกับว่าเขาเพิ่งเปิดประตูอะไรสักอย่างออกมา ข้าสงสัยจังเลยว่ามันนำไปสู่ที่ใด”
มนุษย์กลายเป็นผีเมื่อพวกเขาตาย ส่วนเซียนเองก็จะกลายเป็นผีเซียน ผีธรรมดาไม่กล้าเข้ามายุ่งกับผีเซียนหรอก
มีเพียงผีเซียนเท่านั้นที่สามารถดูดซับพลังของเซียนเป็น ๆ ได้ ตามปกติแล้ววิชาของผีเก้าชีวิตทั่วไปจะไม่สามารถใช้วิชาเช่นนี้กับเซียนได้ แต่กับผีสาวเก้าชีวิตตนนี้ นางกลับใช้ได้
……
“นายท่าน มัน เคยอยู่ที่นี่จนกระทั่งเมื่อครู่เจ้าค่ะ” เยว่เฉินลอยอยู่ข้างลู่หยุน
“ใครล่ะ?” เขาถามด้วยความประหลาดใจ
“ข้าก็ไม่รู้เหมือนกัน ข้ามองไม่เห็น “มัน” แต่ข้าสัมผัสได้ถึง “มัน” ที่มาพร้อมกับท่านเมื่อครู่”
ขนตามตัวลู่หยุนลุกซู่ขึ้น บางอย่างตามเขามาในเนินมหึมานี้ แต่เขาก็ยังสัมผัสไม่ได้งั้นหรือ?
“สิ่งนั้นยังอยู่ที่นี่ไหม” เขาถามหลังจากหายใจเข้าลึก ๆ
“ไม่ มันหายไปแล้วเจ้าค่ะ” เยว่เฉินตอบ
ลู่หยุนถอนหายใจด้วยความโล่งอก “เจ้ารู้ไหมว่ามันคืออะไร?” ดวงตาของเขาแคบลง
เยว่เฉินส่ายหัวของนาง
“งั้นช่างมัน แล้วเจ้ารู้ไหมว่าข้าจะเอาสมบัติที่ชื่อว่าคัมภีร์ค่ายกลอนันต์ ได้จากไหน?”
สิ่งนี้คือจุดประสงค์ที่ทำให้เกิดการเดินทางนี้ ในฐานะของผีที่เคยอยู่แถวนี้มาก่อน เยว่เฉินเองก็ควรจะรับรู้ได้ แต่แล้วนางก็ได้แต่จ้องหน้าเขาด้วยความงุนงง
“ถ้างั้นก็พาข้าไปที่ใจกลางที่นี่หน่อยสิ” ชายหนุ่มเปลี่ยนยุทธวิธีแทนหลังจากเห็นปฏิกิริยาของผีสาว หากมีสมบัติล้ำเลิศอยู่ในหลุมฝังศพอันยิ่งใหญ่เช่นนี้ พวกมันก็น่าจะเป็นสินค้าที่มีค่ามาก รายการดังกล่าวมักจะพบที่ใจกลางสุสานสะส่วนมาก
“รับทราบ… แต่ที่นั่นอันตรายมาก สิ่งที่ติดตามนายท่านก่อนหน้านี้อาจมาจากที่นั่นก็ได้นะเจ้าค่ะ” เยว่เฉินกล่าวหลังจากลังเลสักครู่
“โอ้?” หัวใจของลู่หยุนเต้นแรงมาก “ ยังไงก็ดีทั้งนั้น มาดูกันดีกว่าว่ามีอะไรที่ตามข้าอยู่กันแน่”
อันตรายงั้นเหรอ? พวกโจรขุดสุสานเคยกลัวอันตรายด้วยเหรอ?
ร่างของหลี่ยูวไฉเดินตามลู่หยุนไป น้ำลายไหลออกจากปากของเขาและเยว่เฉินที่อยู่ด้านหลังเขา
……
“ทำไมข้าถึงรู้สึกคุ้นเคยกับอุโมงค์นี้จังเลยนะ” คิ้วของลู่หยุนขมวดแน่ จากนั้นไม่กี่นาที แม้จะมีความรู้สึกที่คุ้นเคย แต่เขาก็ตายไปแล้วและก็ไม่เคยเข้ามาที่สุสานแห่งนี้มาก่อน “แปลกแหะ เกิดอะไรขึ้นที่นี่เนี่ย?”
จำนวนแมลงศพตามผนังลดลงทุกครั้งที่เดินออกไป มีแสงกะพริบตามการไหลหยดของน้ำที่ทะเลสาบเบื้องหน้า
“ลู่หยุน -” เสียงพรั่นพรึงเต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยวกราดถึงหูของเขาก่อนที่เขาจะสามารถมองเห็นได้อย่างเต็มที่ แล้วใบหน้าที่สดใสของฉิงฮั่นปรากฏออกมาจากที่ไหนก็ไม่ทราบ “หลี่ยูวไฉ เจ้าก็อยู่ที่นี่เหมือนกันเหรอ? เยี่ยมเลยนี่มันสุดยอดที่สุด!”