เทพสังหาร ยุทธการระห่ำ - บทที่ 473 ฝ่ามือล่องลอยไว้อัดพวกสารเลวจนหน้าเขียว
หมัดอัสนีสวรรค์ปะทะฝ่ามือโฮคุชิน เย่เทียนเฉินสู้กับมัตสึโมโตะชิโมะเค็น
หลังจากที่สู้กันมา 10 นาที ทั้งสองก็ผละออกจากกัน แม้ต้องเผชิญหน้ากับมัตสึโมโตะชิโมะเค็นที่แข็งแกร่งกว่าตัวเอง เย่เทียนเฉินก็ไม่ยอมถอยแม้แต่ครึ่งก้าว ต่อให้ถูกฝ่ามือโฮคุชินไปแล้วสามฝ่ามือแต่เย่เทียนเฉินก็ยังคงมีท่าทีแข็งกร้าว ในดวงตาทั้งสองเต็มไปด้วยความเชื่อมั่นอันไร้คู่ต่อกร ต่อให้อยู่เบื้องหน้ามัตสึโมโตะชิโมะเค็นที่แข็งแกร่งกว่าเขา เขาก็ไม่ยอมถอยแม้แต่ก้าวเดียว จิตใจอันไร้คู่ต่อกรที่เกิดจากความกลัวเช่นนั้นเต็มไปด้วยความทะเยอทะยานและความกล้าหาญ
มัตสึโมโตะชิโมะเค็นเปลี่ยนความคิดแล้ว เดิมทีเขายังอยากให้เย่เทียนเฉินเข้าร่วมสำนักโฮคุชินอิตโตริว จะอย่างไรชายหนุ่มชาวจีนคนนี้ก็สร้างความสั่นสะท้านให้เขามากเกินไป เขาคิดไม่ถึงว่าเย่เทียนเฉินยังอายุน้อยจ อายุน้อยกว่าฮิคาวะมาก แต่ความสามารถในการต่อสู้กลับแข็งแกร่งขนาดนั้น ถึงกับสามารถฆ่าฮิคาวะได้ ตอนนี้ถ้าหากคนเช่นนี้ทำงานให้สำนักโฮคุชินอิตโตริวของตนและให้พวกเขาบ่มเพาะเลี้ยงดูก็เป็นไปได้มากว่าจะเป็นเรื่องดีต่อสำนักโฮคุชินอิตโตริวอย่างใหญ่หลวง ส่วนเรื่องฮิคาวะย่อมไม่สำคัญเช่นนั้นอีก
เพียงแต่เมื่อผ่านการต่อสู้เมื่อครู่นี้มาแล้ว มัตสึโมโตะชิโมะเค็นเห็นสายตาอันไร้คู่ต่อกรของเย่เทียนเฉิน แม้พลังบ่มเพาะของเขาจะสูงกว่าเย่เทียนเฉิน ความสามารถจะแข็งแกร่งกว่าเย่เทียนเฉินมาก แต่สายตาที่ไร้คู่ต่อกรของเย่เทียนเฉินเช่นนั้นทำให้มัตสึโมโตะชิโมะเค็นรู้สึกหวาดกลัวจริงๆ กระทั่งไม่อยากจะเชื่ออยู่บ้าง
สำหรับยอดฝีมืออย่างแท้จริงจะสามารถอ่านสายตาเช่นนั้นได้ ความแข็งแกร่งของคนผู้หนึ่งไม่ได้มีแค่ด้านพลังการบ่มเพาะเท่านั้น ที่สำคัญกว่าก็คือจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้อันแข็งกร้าวและไร้ซึ่งศัตรู ความสามารถของเขามัตสึโมโตะชิโมะเค็นแข็งแกร่งมาก เรียกได้ว่านับเป็นยอดฝีมืออันดับต้นๆ ในสำนักโฮคุชินอิตโตริวเลยก็ว่าได้ นอกจากจักรพรรดิดาบผู้เป็นพี่ชายแท้ๆ แล้ว เหนือกว่าเขายังมีผู้อาวุโสระดับสูงอีกหลายท่าน แต่คนเหล่านี้ ไม่ได้มาวุ่นวายอะไร รู้จักแต่บ่มเพาะความสามารถหรือไม่ก็นั่งรักษาลมหายใจเฮือกสุดท้ายเอาไว้ ดูว่าจะยืดเวลาออกไปได้นานแค่ไหน ถึงแม้ว่ามัตสึโมโตะชิโมะเค็นจะแข็งแกร่งถึงระดับนี้เขาก็ไม่เคยมีสายตาเช่นนั้นได้เลย เขาเคยได้ยินจักรพรรดิดาบผู้เป็นพี่กล่าวว่าคนที่มีสายตาไร้คู่ต่อสู้เช่นนี้จะมีความแข็งแกร่งทางด้านจิตใจและความแน่วแน่เป็นอย่างมาก การที่คนเช่นนี้จะแข็งแกร่งขึ้นมาได้ก็เป็นเรื่องของเวลาเท่านั้น เนื่องจากเขามีจิตวิญญาณแน่วแน่ไม่ยอมแพ้ ไม่ว่าจะเผชิญหน้ากับความยากลำบากใด จะเผชิญหน้ากับศัตรูที่แข็งแกร่งขนาดไหน เขาก็จะไม่ยอมแพ้ นี่จะน่ากลัวขนาดไหนกัน?
ดังนั้นเย่เทียนเฉินจึงไม่ยอมให้สำนักโฮคุชินอิตโตริวใช้ประโยชน์ มัตสึโมโตะชิโมะเค็นต้องการฆ่าเขา หากเย่เทียนเฉินไม่ตาย สำนักโฮคุชินอิตโตริวจะต้องเกิดความยุ่งยากอย่างใหญ่หลวงแน่นอน นี่เป็นคนที่อันตรายเป็นอย่างยิ่ง
ตอนนี้เอง ฝ่ามือทั้งสองของมัตสึโมโตะชิโมะเค็นแฝงไปด้วยปราณแท้สีดำขนาดใหญ่ แข็งแกร่งยิ่งกว่าเมื่อครู่นี้อีก เขาเดินเข้าไปหาเย่เทียนเฉินทีละก้าว ในตอนที่อยู่ห่างจากเย่เทียนเฉิน 10 เมตรก็ใช้น้ำเสียงเผด็จการชี้เป็นชี้ตายชีวิตของผู้อื่นกล่าวขึ้นว่า “ไปตายซะ!”
พลั่ก!
ฝ่ามือตบลงไป พลังของฝ่ามือนี้แข็งแกร่งมาก เรียกได้ว่าปกคลุมไปครึ่งท้องฟ้าเลยก็ว่าได้ ไม่ได้อวดอ้างแม้แต่น้อย นั่นคือปราณแท้สีดำแปรสภาพออกมาบริเวณมือขวาของมัตสึโมโตะชิโมะเค็น ความอำมหิตและไอสังหารของปราณแท้สีดำนี้แข็งแกร่งมาก ในตอนที่เย่เทียนเฉินเพิ่งจะเริ่มสู้กับมัตสึโมโตะชิโมะเค็นเขาก็รับรู้ได้แล้วว่าหากไม่ใช่เพราะกายเนื้อของตนแข็งแกร่งและสามารถเลี่ยงจุดสำคัญได้ หากถูกซัดเข้าไปสามฝ่ามือจริงๆ เขาคงลุกไม่ขึ้นแน่นอน
เย่เทียนเฉินรู้สึกจิตวิญญาณสั่นไหว คิดถึงฝ่ามือหนึ่งที่อาจจะยับยั้งฝ่ามือโฮคุชินนี้ได้ บางอย่างไม่อาจใช้เพียงความสามารถอันแข็งแกร่งไปกดข่ม แต่ต้องพิจารณาการแพ้ทางของสรรพสิ่งให้ดี นี่ก็คือเคล็ดวิชาห้าธาตุ หลักการก็คือสรรพสิ่งล้วนมีแพ้มีชนะต่อกัน
ฟุ่บ!
เมื่อเผชิญหน้ากับฝ่ามืออันโหดเหี้ยมถึงขนาดนั้นของมัตสึโมโตะชิโมะเค็นที่ซัดลงมา ทั้งยังมีพลังอำนาจอันยิ่งใหญ่ขนาดนั้น เย่เทียนเฉินกลับยืนอยู่กับที่ไม่แม้แต่จะขยับเขยื้อน มือขวาโบกสะบัดพริ้วไหว ปรากฏเป็นเงาลวงตาบางอย่างคล้ายกับฝ่ามือของผู้หญิง มีความบอบบางปานนั้น โจมตีเข้าไปรับฝ่ามือโฮคุชินด้วยความเชื่องช้าจนถึงขีดสุด ช้าได้เท่าไหร่ก็จะช้าเท่านั้น แปลกเป็นอย่างมาก มัตสึโมโตะชิโมะเค็นที่ได้เห็นก็ต้องขมวดคิ้ว ฝ่ามือโฮคุชินนี้เรียกได้ว่ามีพลังอำนาจและความโหดเหี้ยมมาก แต่ไหนแต่ไรไม่เคยเห็นใครรับมือเช่นนี้ ตามปกติหากไม่ปะทะรุนแรงก็ต้องหลบไป แต่เย่เทียนเฉินถึงกับใช้วิชาฝ่ามือของผู้หญิงมารับมือ ทำให้เขามองไม่ออกจริงๆ
ฟุ่บ!
เสียงอันกระจ่างชัดดังขึ้น ไม่ใช่เสียงระเบิดดังลั่นฟ้าแบบนั้น มัตสึโมโตะชิโมะเค็นตกตะลึง ฝ่ามือนี้เขาใช้พลังไปร้อยส่วน ต่อให้เป็นภูเขาก็สามารถทำลายได้ด้วยฝ่ามือนี้ แต่ในตอนที่เย่เทียนเฉินซัดฝ่ามือที่เหมือนกับผู้หญิงแบบนั้นออกมาถึงกับสลายพลังของฝ่ามือโฮคุชินของเขาไปทั้งหมด ไม่ได้มีการระเบิดสะเทือนฟ้าสะเทือนดินอะไร แต่สามารถสลายพลังของฝ่ามือโฮคุชินไปได้ ทำให้มัตสึโมโตะชิโมะเค็นคิดไม่ถึงจริงๆ
“แก…นั่นมันฝ่ามืออะไร? ทำไมดูเหมือนผู้หญิง?” มัตสึโมโตะชิโมะเค็นอดไม่ได้ที่จะเอ่ยปากถาม
“นี่คือฝ่ามือที่คนจีนทุกคนใช้เป็น มีไว้ทำลายฝ่ามือของสำนักโฮคุชินอิตโตริวของแกโดยเฉพาะ ชื่อว่าฝ่ามือล่องลอยไว้อัดพวกสารเลวจนหน้าเขียว เป็นไงร้ายกาจหรือเปล่า?” เย่เทียนเฉินเห็นว่าฝ่ามือนี้สามารถสลายพลังของฝ่ามือโฮคุชินอันรุนแรงได้จริงๆ ก็รู้สึกชอบมาก นี่คือการเดิมพันของเขา และเป็นการเดิมพันที่ถูกต้อง
“เหลวไหลฝ่ามือล่องลอยอะไร ฉันมัตสึโมโตะชิโมะเค็นศึกษาวรยุทธของประเทศจีนของพวกแกมามาก แต่ไม่เคยได้ยินชื่อฝ่ามือนี้มาก่อน แกเพ้อเจ้อให้มันน้อยหน่อยเถอะ!” มัตสึโมโตะชิโมะเค็นพูดอย่างดุดัน
“ฉันไม่ได้พูดจาเพ้อเจ้อ ถ้าไม่เชื่อแกก็ลองโจมตีมาอีกครั้งเป็นไง?” เย่เทียนเฉินพูด ยังคงมีรอยยิ้มประดับที่มุมปาก
พลั่ก!
ฟิ้วๆ!
มัตสึโมโตะชิโมะเค็นย่อมไม่เชื่อว่าจะมี “ฝ่ามือล่องลอยไว้อัดพวกสารเลวจนหน้าเขียว” อะไรนั่น เห็นได้ชัดว่าเย่เทียนเฉินพูดจาไร้สาระ แต่ฝ่ามือนี้แปลกประหลาดมากจริงๆ ซัดฝ่ามือออกไปอย่างเชื่องช้าเป็นอย่างมาก ในตอนที่เย่เทียนเฉินใช้ออกมาก็เหมือนกับผู้หญิงคนหนึ่ง เข้าปะทะอย่างไม่กระวนกระวาย แต่กลับสามารถกดข่มแบบนั้นได้ ทำให้ฝ่ามืออันโหดเหี้ยมอำมหิตอย่างเช่นฝ่ามือโฮคุชินสลายไปได้ นี่จะทำให้เขารู้สึกเหลือเชื่อเกินไปแล้ว แปลกประหลาดจริงๆ
ฝ่ามือทั้งสองโจมตีมา ต่างมีพลังอำนาจรุนแรงเป็นอย่างมาก ปกคลุมเย่เทียนเฉินไว้ทั้งหมด ยิ่งไปกว่านั้นฝ่ามือขนาดใหญ่สีดำทั้งสองนี้ยังค่อยๆ พุ่งไปรวมที่เย่เทียนเฉินอย่างเชื่องช้า อากาศฟุ้งกระจายรอบด้าน พื้นสั่นสะเทือนจนแยก ทั่วทั้งเมืองเทียนซาสั่นสะท้านราวกับจะถล่มก็มิปาน เย่เทียนเฉินรู้สึกได้ว่าพลังเขตแดนปิดกั้นของตนใกล้จะพังทลายไปโดยสิ้นเชิง เนื่องจากไอสังหารที่แผ่ออกมาจากบนร่างของมัตสึโมโตะชิโมะเค็นแข็งแกร่งมากจริงๆ หากตนต้องการฆ่าเขานับว่ากินแรงอยู่บ้าง
แต่เย่เทียนเฉินยังคงยืนอยู่กับที่โดยไม่ขยับเขยื้อน โบกสะบัดฝ่ามือทั้งสองของตนเบาๆ คล้ายกับผู้หญิงคนหนึ่งกำลังฝึกวิชาฝ่ามืออย่างไรอย่างนั้น ความเบาและอ่อนนุ่มเช่นนั้น การเคลื่อนไหวอย่างเชื่องช้าเช่นนั้น ทำให้คนอื่นแปลกใจจริงๆ เผชิญหน้ากับพลังฝ่ามืออันรุนแรงที่ซัดลงมา แต่เขาทำราวกับไม่เกี่ยวข้องกับตน ยังคงซัดฝ่ามือของตนออกไปอย่างเชื่องช้า
ทันใดนั้น รอบๆ เย่เทียนเฉินมีรอยประทับฝ่ามือจำนวนหนึ่งปรากฏขึ้น รอยประทับฝ่ามือนี้ลอยอยู่รอบตัวเขา เป็นฝ่ามือที่ถูกใช้ออกมาจากพลังในร่างกายของเขา ฝ่ามือแล้วฝ่ามือเล่าปรากฏ ฝ่ามือหนึ่งค่อยๆ โจมตีออกไปยังฝ่ามือขนาดใหญ่สีดำทั้งสองอย่างเชื่องช้า ฝ่ามือที่ซัดออกไปสลายไปแล้วแต่กลับไม่สามารถโจมตีฝ่ามือขนาดใหญ่สีดำให้สลายไปได้ ฝ่ามืออีกฝ่ามือหนึ่งโจมตีเข้าไป ยังคงไม่สามารถทำลายฝ่ามือที่ถูกซัดมาหาตนได้เช่นเดิม เพียงแต่พลังอำนาจถูกลดทอนไปบ้างแล้ว เย่เทียนเฉินยังคงไม่รู้สึกกระวนกระวาย ยังคงเคลื่อนไหวต่อไปเช่นนั้น
“หึ คิดว่าร่ายรำเหมือนผู้หญิงในสถานการณ์แบบนี้จะหนีความตายได้รึไง? เป็นไปไม่ได้หรอก!” มัตสึโมโตะชิโมะเค็นแค่นเสียงเย็นครั้งหนึ่ง เห็นว่าถึงแม้เย่เทียนเฉินจะใช้ฝ่ามือแปลกประหลาดออกมาแต่ยังไม่สามารถทำลายฝ่ามือที่ตนซัดออกไปสุดแรงได้จึงพูดอย่างลำพองใจ
“เป็นไปได้หรือเปล่าแกก็ดูเองแล้วกัน ทำไมต้องพูดจาไร้สาระด้วย!” เย่เทียนเฉินไม่มองท่าชายหนังสือแม้เพียงสายตา ยังคงเคลื่อนไหวร่ายรำตามใจ รอบๆ ร่างกายของเขาปรากฏรอยประทับฝ่ามือออกมานับพันนับหมื่น ทั้งหมดต่างเกิดจากพลังที่แท้จริงของเขาและถูกเขาควบคุมไว้แล้ว
“ได้ ฉันจะดูสิว่าแกจะปากดีได้ถึงเมื่อไหร่ จะตายยังไง!” มัตสึโมโตะชิโมะเค็นพูดอย่างดุดัน
“เดี๋ยวแกก็จะรู้เอง…ไป!”
ทันใดนั้น เย่เทียนเฉินตะโกนเสียงดัง ฝ่ามือทั้งสองที่เดิมทียังเคลื่อนไหวอย่างเชื่องช้าพลันพุ่งไปยังฝ่ามือขนาดใหญ่สีดำที่ถูกซัดลงมา ขณะเดียวกันรอยประทับฝ่ามือจำนวนมากบริเวณรอบกายของเย่เทียนเฉินทั้งบนล่างต่างก็โจมตีไปยังฝ่ามือขนาดใหญ่สีดำทั้งสอง
ตู้ม!
เสียงดังสะเทือนฟ้า พลังเขตแดนปิดกั้นของเย่เทียนเฉินแตกสลาย โล่ทองคำของเขาเกิดหลุมใหญ่ ขณะเดียวกันป้ายหินขนาดใหญ่ทั้งสองป้ายบริเวณทางเข้าเมืองเทียนซาต่างก็สลายไปทั้งหมด บ้านเรือนถล่มลงมา จินตนาการได้เลยว่าการดวลกันระหว่างสองคนนี้เกิดการปะทะกันของพลังที่รุนแรงขนาดไหน
“เป็นไปได้ยังไง แก…แกใช้ฝ่ามืออะไรกันแน่?” มัตสึโมโตะชิโมะเค็นอดไม่ได้ที่จะถามด้วยความตื่นตะลึง เนื่องจากเย่เทียนเฉินทำให้ฝ่ามือโฮคุชินที่เขาโจมตีลงไปสุดแรงสลายไปได้ สามารถใช้ฝ่ามือที่เหมือนผู้หญิงเช่นนั้นสลายพลังเขาได้ มัตสึโมโตะชิโมะเค็นรู้สึกสั่นสะท้านมากจริงๆ อดไม่ได้ที่จะคิดว่าบนร่างของชายหนุ่มชาวจีนคนนี้ยังมีพลังการต่อสู้อันแข็งแกร่งมากขนาดไหนที่ยังไม่ได้ใช้ออกมา และยังมีวิชาที่ร้ายกาจขนาดไหนที่ยังไม่ได้แสดงออกมา?
“ฉันบอกแล้ว นี่เรียกว่าฝ่ามือล่องลอยไว้อัดพวกสารเลวจนหน้าเขียว แกก็ไม่เชื่อ หรือจะลองต่อไปล่ะ?” เย่เทียนเฉินพูดด้วยท่าทีนิ่งเรียบ
“ฉันไม่เชื่อ…”
ครั้งนี้มัตสึโมโตะชิโมะเค็นไม่ได้ใช้พลังที่แท้จริงสีดำนั้นอีก แต่พุ่งเข้ามาหาเย่เทียนเฉินอย่างรวดเร็ว มือทั้งสองยังอยู่ในสภาพฝ่ามือ โจมตีเย่เทียนเฉินไม่หยุดด้วยฝ่ามือโฮคุชิน เขาไม่เชื่อว่าจะมี “ฝ่ามือล่องลอยไว้อัดพวกสารเลวจนหน้าเขียว” อะไรนั่น และไม่เชื่อว่าจะมีฝ่ามือที่เอาไว้ใช้รับมือกับฝ่ามือของสำนักโฮคุชินอิตโตริวของตนโดยเฉพาะ ถ้าเป็นเช่นนั้นคงเป็นอันตรายต่อสำนักโฮคุชินอิตโตริวอย่างยิ่งยวด ดังนั้นเขายังคงใช้ฝ่ามือโฮคุชินออกไปสุดแรง ต้องการโจมตีเย่เทียนเฉินให้ตาย
ในใจของเย่เทียนเฉินลอบหัวเราะเย็นชา เขารู้ว่าต่อให้มัตสึโมโตะชิโมะเค็นจะสู้กับตนหลายวันหลายคืน ขอเพียงเขาใช้ฝ่ามือโฮคุชินตลอดก็ไม่สามารถฆ่าตนได้แน่ เนื่องจากเย่เทียนเฉินทดสอบมาแล้ว ฝ่ามือดรุณีหยกที่บันทึกอยู่ในคัมภีร์ดรุณีหยกคือดาวข่มของฝ่ามือโฮคุชิน ใช้ช้ารับเร็ว ใช้อ่อนรับแข็ง