เทพสังหาร ยุทธการระห่ำ - บทที่ 458 ตีคนต้องตีหน้า
ตู้ม!
หมัดหนึ่งโจมตีมา ฮิคาวะรับรู้ได้ถึงความรุนแรงของหมัด ยิ่งไปกว่านั้นยังคละเคล้าไปด้วยพลังสายฟ้าอันมหาศาล ทำให้เขาต้องสั่นสะท้าน คิดไม่ถึงว่าคนคนหนึ่งจะนำพลังสายฟ้าอันแข็งแกร่งเช่นนี้อัดเข้าไปในมือได้ เขาหมุนตัวนำดาบทหารมาขวางไว้บริเวณหน้าอกตามสัญชาตญาณ แต่การโจมตีของเย่เทียนเฉินเกิดขึ้นเร็วเกินไป หมัดอันรุนแรงเช่นนี้ เขาไม่มีความสามารถจะตอบโต้แม้แต่น้อย
ตู้ม!
ฮิคาวะถูกซัดจนปลิวออกไปทั้งร่าง กระเด็นลอยไปกลางอากาศไกลหลายร้อยเมตรถึงจะทรงตัวให้มั่นคงได้ ดาบทหารในมือถูกเย่เทียนเฉินต่อยหักอีกครั้ง ยิ่งไปกว่านั้นหมัดนี้ยังต่อยถูกหน้าอกของเขา ทำให้มุมปากมีเลือดไหลออกมา เห็นได้เลยว่าพลังของหมัดนี้แข็งแกร่งขนาดไหน
เย่เทียนเฉินยืนอยู่ตรงข้ามฮิคาวะ กระบี่ไท่อาที่ลอยอยู่เหนือศีรษะถูกเขาดึงกลับมาแล้ว เพียงแต่หมัดทั้งสองยังคงมีประกายสายฟ้าลุกโชน ดวงตาทั้งสองจับจ้องไปทางฮิคาวะอย่างเย็นชา ไม่ได้กล่าวอะไร มีเพียงเจตนาสังหารที่ฟุ้งกระจาย
“แก…ทำไมถึง…หลบเคล็ดวิชาสังหารของฉันได้ตั้งแต่เมื่อไหร่?” ฮิคาวะคิดไม่ถึงและไม่เข้าใจ มองไปยังเย่เทียนเฉินแล้วเอ่ยถามด้วยท่าทีดุดัน
“ตอนที่หมัดทั้งสองของฉันโจมตีดาบโฮคุชินอิตโตริวของแกไง!” เย่เทียนเฉินพูดอย่างเรียบเฉย
ที่แท้ในตอนที่เย่เทียนเฉินฟาดฟันกระบี่ไท่อาจนเกิดเส้นทางโลหิตสายหนึ่งและเพิ่งจะพุ่งออกมาจนเผชิญเข้ากับฮิคาวะที่ฟาดฟันดาบลงมา เขาจึงรู้ได้ทันทีว่านี่เป็นแผนโจมตีของฮิคาวะ จึงรีบเคลื่อนไหวโดยสัญชาตญาณ คิดไปถึงวิชาที่สามารถใช้ในการหลบวิชาหนึ่ง นั่นก็คือเคล็ดวิชาสลับร่าง คิดได้ดังนั้นจึงใช้หมัดอัสนีสวรรค์โจมตีดาบโฮคุชินอิตโตริวโดยตรง ทำลายการโจมตีของอีกฝ่าย ทำให้เกิดหมอกควัน ในตอนนี้เองเย่เทียนเฉินก็ใช้เคล็ดวิชาสลับร่างออกมา ใช้ไม้ท่อนหนึ่งมาแทนที่ตนแล้วใช้พลังพิเศษเปลี่ยนรูปร่างของต้นไม้โยนเข้าไปในกรงตาข่ายที่เกิดจากปราณดาบทั่วฟ้า ทำให้ฮิคาวะเข้าใจผิดคิดว่าตนถูกสังหาร ในขณะเดียวกันก็ลงมือโจมตีฮิคาวะอย่างรวดเร็ว ทำให้ฮิคาวะได้รับบาดเจ็บสาหัสได้สำเร็จ
อั่ก!
ในปากของฮิคาวะมีเลือดไหลออกมาเป็นสาย อดไม่ได้ที่จะใช้มือซ้ายกุมหน้าอกเอาไว้ ลุกขึ้นยืนจากบนพื้น เขารู้สึกได้ว่าร่างกายทั้งหมดของตนถูกพลังสายฟ้าทำลาย ชีพจรและเส้นเลือดถูกทำลายไปหลายแห่ง หมัดเมื่อครู่ของเย่เทียนเฉินไม่เพียงแต่จะทำให้ดาบทหารของเขาหัก แต่ยังโจมตีถูกหน้าอกของเขาอีกด้วย ทำให้เขากระเด็นออกไปจนได้รับบาดเจ็บไม่น้อย
เปรี้ยะ!
ตู้ม!
พลังสายฟ้าสายหนึ่งลุกโชนในอากาศ เกิดเป็นดอกไม้สายฟ้าปรากฏ สวยงามแพรวพราวเป็นอย่างยิ่ง สุดท้ายจึงค่อยๆ หายไป ฮิคาวะมองไปยังเย่เทียนเฉินด้วยความโหดเหี้ยมดุดัน ทำให้เย่เทียนเฉินรู้สึกแปลกใจ คิดไม่ถึงว่าฮิคาวะจะแข็งแกร่งขนาดนี้ หมัดอัสนีสวรรค์ที่ใช้ความสามารถในระดับพลังพิเศษขอบเขตจักรพรรดิของตนสามารถทำลายภูเขาเล็กๆ ได้ในพริบตา พลังหมัดนั้นรุนแรงมาก ทว่าฮิคาวะไม่เพียงแต่จะไม่ตาย ยังสามารถฝืนบีบให้พลังสายฟ้าในร่างกายออกมาได้อีกด้วย แข็งแกร่งมากจริงๆ
“ดี ดูท่าทางเมื่อกี้แกยังไม่ได้ลงมือเต็มที่ ฉันเองก็ไม่ได้สู้เต็มกำลังมานานแล้ว เมื่อปีนั้นฉันติดตามอาจารย์มาที่ประเทศจีน สู้กับยอดฝีมือของพรรควรยุทธโบราณของประเทศจีนของพวกแกก็ยังไม่เคยแพ้ ตอนนั้นฉันเพิ่งจะอายุ 10 ปี ตอนนี้ผ่านมาแล้ว 20 ปี ฉันได้มาเยือนประเทศจีนของพวกแกอีกครั้ง และฉันจะไม่แพ้ฉัน จะตัดหัวของแกซะแล้วเอากลับไปที่ประเทศชิบะ!” สายตาของฮิคาวะเปลี่ยนไปกลายเป็นโหดเหี้ยมอำมหิตขึ้นมาก ทั่วทั้งร่างอัดแน่นไปด้วยปราณอันอำมหิตจนสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน บนร่างของเขามีไอสังหารอำมหิตล้อมรอบจนแน่น ต่อให้ไม่ลงมือ หากใครเข้าใกล้ก็คงต้องตาย
“แกไม่คิดว่าตัวเองพูดจาใหญ่โตเกินไปหน่อยรึไง? ถ้าจะพูดเรื่องฆ่าคน ฉันเองก็ไม่รู้ว่าฆ่าคนไปแล้วมากน้อยแค่ไหน...” เย่เทียนเฉินมองไปทางฮิคาวะแล้วเอ่ยปากอย่างจนใจ
“หึ อีกเดี๋ยวแกก็จะรู้เอง เดี๋ยวจะได้รู้ถึงรสชาติของความตาย!” ฮิคาวะแค่นเสียงเย็นครั้งหนึ่ง มองไปทางเย่เทียนเฉินแล้วพูดขึ้น
“น้องสาวแกสิตาย ครอบครัวแกสิตาย มีอะไรก็มาเลย!”
เย่เทียนเฉินก็เป็นเช่นนี้ ยิ่งการต่อสู้เคร่งเครียดมากเท่าไหร่ ยิ่งอยู่ในช่วงเวลาการต่อสู้เป็นตายมากเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งผ่อนคลาย เดิมทีเขาก็เป็นคนที่ยิ่งเจอกับคนแข็งแกร่งก็ยิ่งแข็งแกร่งอยู่แล้ว นอกจากนี้ ตลอดมาเขาคิดว่าหากไม่มีสภาพจิตใจอันสงบนิ่งแล้วต้องการเอาชนะคู่ต่อสู้คงเป็นเรื่องยากลำบากมาก มีเพียงตอนที่คนเรามีสติสมบูรณ์ถึงจะใช้เคล็ดวิชาต่อสู้ออกมาได้ดียิ่งขึ้น ถึงจะใช้พลังต่อสู้ที่แข็งแกร่งได้มากยิ่งขึ้น
ฟุ่บ!
ฮิคาวะซัดฝ่ามือไปยังเย่เทียนเฉิน เย่เทียนเฉินขมวดคิ้ว วิชาฝ่ามือนี้รุนแรงเป็นอย่างมาก หรือจะเป็นฝ่ามือโฮคุชินที่เล่าขาน? เย่เทียนเฉินจำได้ว่าจางอีเต๋อเคยบอกกับเขาว่าสำนักโฮคุชินอิตโตริวนั้นนอกจากจะมีเพลงดาบอันแปลกประหลาดลึกล้ำแล้วยังมีวิชาฝ่ามืออีกด้วย ร้ายกาจเป็นอย่างมากเช่นกัน เมื่อปีนั้นตอนที่สำนักโฮคุชินอิตโตริวมายังประเทศจีนเพื่อมาสู้กับพรรควรยุทธโบราณแต่ละแห่ง ต้องการที่จะโจมตีรากฐานวัฒนธรรมของประเทศจีน ทำให้จิตใจของประชาชนธรรมดาจำนวนมากถูกทำลายจนแหลกสลาย แน่นอนว่าคนที่พวกเขาส่งมาย่อมต้องเป็นยอดฝีมือระดับสูง เพียงแต่ศิลปะการต่อสู้ของประเทศจีนกว้างขวางลึกล้ำ สืบทอดกันมาหลายพันปี ไม่ได้เรียบง่ายอย่างที่พวกเขาจินตนาการ ไม่ว่าจะเป็นการลอบสังหารหรือจะเป็นการประลองอย่างยุติธรรมพวกเขาก็ไม่ตกเป็นรอง แน่นอนว่านี่ทำให้ประเทศชิบะเกิดการพัฒนาฝีมือจนพรรควรยุทธโบราณของประเทศจีนจำต้องยอมรับความร้ายกาจของพวกเขา
ฟิ้ว!
แม้กำลังคิด แต่การเคลื่อนไหวในมือของเย่เทียนเฉินไม่ได้เชื่องช้า หมัดขวากำแน่น พลังสายฟ้าลุกโชน ซัดออกไปปะทะ
ตู้ม!
เย่เทียนเฉินและฮิคาวะต่างถูกโจมตีจนถอยหลังไปหลายเมตร ทั้งสองมองอีกฝ่ายด้วยท่าทีดุดัน ต่างก็คิดไม่ถึงว่าฝ่ามือและหมัดของอีกฝ่ายจะร้ายกาจและรุนแรงขนาดนี้
ฟิ้วๆ!
ชั่วขณะต่อมา ยอดฝีมือระดับสูงวัยเยาว์ทั้งสองคนต่างหายไปท่ามกลางความมืดยามค่ำคืน ได้ยินเพียงเสียงต่อสู้ดังตู้มๆๆ ในอากาศ ทำให้ผู้คนตกใจเป็นอย่างมาก เพียงแค่ฟังก็สัมผัสได้ถึงความรุนแรงของพลังแล้ว
พลั่ก! เงาฝ่ามือพุ่งเข้ามา โจมตีถูกกำแพงของคฤหาสน์ ทำให้กำแพงอิฐพังทลายในพริบตา กำแพงเสริมเหล็กแหลกเป็นผุยผง
เปรี้ยง! หมัดหนึ่งโจมตีออกไป โจมตีผ่านด้านบนคฤหาสน์ไปถูกกลางสระน้ำ น้ำในสระพลันพุ่งทะยานขึ้นฟ้าเป็นเสาน้ำ ทำให้ใต้สระปรากฏรูใหญ่ ไม่ทันไรน้ำในสระก็เหือดแห้ง ไม่รู้ว่าหมัดนี้โจมตีไปลึกแค่ไหน
ตู้มๆๆ …
เย่เทียนเฉินและฮิคาวะปรากฏตัวขึ้น ต่างโจมตีมุ่งสังหารอีกฝ่ายไม่หยุด ความเร็วของทั้งสองพุ่งทะยานถึงขีดสุด ฮิคาวะเร็วมาก ส่วนเย่เทียนเฉินนั้น หลังจากมีเคล็ดวิชาเทพท่อง การเคลื่อนไหวก็รวดเร็วยิ่งขึ้น สามารถไล่ตามไปโจมตีฮิคาวะโดยตรง ทั้งสองต่างเป็นยอดฝีมือ ความสามารถแข็งแกร่งเท่าเทียม สู้กันจนฟ้าดินสะเทือน เริ่มจากหายตัวไปในอากาศ ได้ยินเพียงเสียงต่อสู้ จากนั้นจึงปรากฏตัวอีกครั้งแล้วสู้กันจนหายไปอีก
ในตอนที่ไม่ได้ยินเสียงหมัดและฝ่ามือปะทะกันจนเกิดเสียงดังสนั่นในอากาศอีกต่อไป เย่เทียนเฉินและฮิคาวะต่างก็ปรากฏตัวขึ้นในอากาศ มุมปากของเย่เทียนเฉินมีเลือดไหลออกมา ไหล่ซ้ายปรากฏรูใหญ่ สามารถเห็นรอยประทับฝ่ามือได้อย่างชัดเจน เขาถูกฝ่ามือของฮิคาวะครั้งหนึ่ง เลือดไหลออกมาเป็นสายและหยดลงพื้น เย่เทียนเฉินไม่ได้สนใจ ตอนนี้ไม่ว่าใครต่างก็ไม่สนใจอาการบาดเจ็บ หากไม่ระวังอาจจะถูกอีกฝ่ายโจมตีสังหาร
ส่วนฮิคาวะนั้นมองใบหน้าได้ไม่ชัดเจนแล้ว อาจเรียกได้ว่านั่นไม่ใช่ใบหน้ามนุษย์อีกต่อไป แต่เป็นใบหน้าหมู แต่ละหมัดของเย่เทียนเฉินต่อยลงบนใบหน้าของฮิคาวะ คนอื่นกล่าวกันว่าตีคนอย่าตีหน้า แต่เย่เทียนเฉินกลับคิดว่าตีคนต้องตีหน้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งพวกคนไร้ยางอายเหมือนพวกสารเลวนี่ จะไม่ต่อยตีที่หน้าได้อย่างไร? หมัดสุดท้ายเย่เทียนเฉินโจมตีที่มือซ้ายของฮิคาวะอย่างรุนแรง ทำให้มือซ้ายหัก ดังนั้นจึงพบว่ามือซ้ายของฮิคาวะห้อยต่องแต่ง ไม่สามารถยกขึ้นมาได้ กระดูกหักไปแล้ว และเป็นไปได้มากว่ากระทั่งชีพจรก็ขาดสะบั้น เรียกได้ว่าพิการแล้ว
ในเวลาไม่ถึงสิบนาที เย่เทียนเฉินและฮิคาวะสู้กันไปกว่าร้อยกระบวนท่าแล้ว ทั้งสองต่างได้รับบาดเจ็บ ยิ่งไปกว่านั้นยังบาดเจ็บไม่น้อย ไม่ต้องพูดถึงคนธรรมดาเลย ต่อให้มียอดฝีมือชั้นสูงมาเห็นภาพนี้ก็เกรงว่าจะต้องตื่นตะลึงจนหน้าถอดสีแน่นอน ทั้งสองคนนี้แข็งแกร่งมากจริงๆ อีกทั้งยังอายุน้อยเช่นนั้น แต่พลังความสามารถกลับล้นเหลือ หากต้องการตัดสินแพ้ชนะคงไม่ใช่เรื่องง่ายขนาดนั้น
“แกเก่งมากจริงๆ!” ฮิคาวะมองไปทางเย่เทียนเฉินอย่างเย็นชา ตอนนี้เขาไม่มีความเชื่อมั่นในตนเองเช่นนั้นอีกต่อไป เดิมทีคิดว่าขอเพียงเขาลงมือก็จะสามารถฆ่าเย่เทียนเฉินได้ในพริบตา เพียงแต่ตอนนี้เขาลงมือเต็มกำลังแล้ว สู้กันไปหลายร้อยกระบวนท่าแล้ว แต่ก็ยังไม่สามารถฆ่าเย่เทียนเฉินได้ ไหนเลยจะยโสโอหังได้อีก ตอนนี้เขามองเย่เทียนเฉินในฐานะคู่ต่อสู้ที่เท่าเทียม
“มีวิชาอะไรก็ใช้ออกมาเถอะ ฉันอยากจะเห็นสักหน่อยว่าสำนักโฮคุชินอิตโตริวของแกจะร้ายกาจขนาดไหน...” เย่เทียนเฉินยังคงมีรอยยิ้มประดับใบหน้า สำนักโฮคุชินอิตโตริวแข็งแกร่งมากจริงๆ มิน่าล่ะถึงถูกเรียกว่าเป็นภูเขาไท่ซานของประเทศชิบะ ก็เหมือนกับพรรคบู๊ตึ้งและพรรคเส้าหลินของพรรควรยุทธโบราณในประเทศจีน วรยุทธของพรรคนี้ร้ายกาจมาก เย่เทียนเฉินอยากจะเห็นให้มากขึ้นจริงๆ บางทีอาจจะเรียนรู้อะไรออกมาก็เป็นได้
“ฮ่าๆๆๆ เย่เทียนเฉิน แกคิดว่าปกป้องผู้หญิงของตัวเองได้แล้วจะปกป้องพ่อแม่และน้องสาวของแกได้เหรอ? ตอนนี้พวกมันคงกลายเป็นศพไปแล้ว!” จู่ๆ ฮิคาวะก็หัวเราะออกมา
เย่เทียนเฉินชะงักไป คิดว่าคนของสำนักโฮคุชินอิตโตริวสามารถหาบ้านเดิมตระกูลเย่ได้ หาที่อยู่อาศัยของตนได้ เช่นนั้นคงสามารถหาสถานที่ที่พ่อแม่และน้องสาวของตนอาศัยอยู่ได้แน่ บ้านเดิมตระกูลเย่และคฤหาสน์ที่ตนอาศัยอยู่ถูกโจมตีแล้ว เช่นนั้นพ่อแม่และน้องสาวล่ะ? แล้วยังมีฉีหรูเสวี่ยและอลิซอีกด้วย ผู้หญิงสี่คนนี้อยู่ในคฤหาสน์ ต้องเผชิญหน้ากับยอดฝีมือของสำนักโฮคุชินอิตโตริวเช่นนี้ พวกเธอจะหยุดได้เหรอ?
เปรี้ยง! เย่เทียนเฉินไม่ได้พูดอะไร ใช้หมัดตอบไปโดยตรง คิดให้มากความก็ไม่มีประโยชน์ ทำได้เพียงฆ่าฮิคาวะให้ได้ เขาถึงจะกลับไปหาแม่และน้องสาวได้ ยิ่งไปกว่านั้นจะมากจะน้อยเขาก็ยังมีคนหนุนหลัง หวังเพียงว่าจะไม่มีคนแข็งแกร่งมากเกินไป ไม่งั้นอาจจะปกป้องแม่และน้องสาวของเขาไม่ได้
ความคิดแน่วแน่ ไม่ยอมให้เรื่องใดมาทำลายสติของตน ตอนนี้จิตวิญญาณของเย่เทียนเฉินไปถึงระดับว่างเปล่าแล้ว ในเวลาเพียงชั่วพริบตา เขาลืมตาขึ้น ทั่วทั้งร่างเกิดประกายสีทอง หมัดอัสนีสวรรค์อยู่ในมือซ้ายขวา เดิมทียังคละเคล้าไปด้วยพลังสายฟ้าสีม่วง แต่ตอนนี้ถึงกับกลายเป็นสีทอง ดูแล้วน่าหวาดกลัวเป็นอย่างยิ่ง เขาพัฒนาขึ้นไปอีกระดับหนึ่งแล้ว ก้าวข้ามก่อนหน้านี้ไปแล้ว ต้องการสังหารฮิคาวะไปซะ!
…………………………