เทพศึกมังกรหวนคืน - ตอนที่ 171 ใครให้ความกล้ากับฆาตกร แล้วมายุ่งกับคนของกู
“ไปด้วยกัน”
เฉินจื่อซวนจูงมือของเสี่ยวเสี่ยว แล้วพูดเสียงดังออกมา
เขารู้ว่าสถาการณ์การตอนนี้ ไม่ใช่มาก่อความวุ่นวายเล่นๆ แต่ยิ่งรู้ก็ยิ่งรุนแรง เขาก็ยิ่งไปจากที่นี่ไม่ได้ เขาเป็นเพื่อนของฉินเฟิง จะทำให้ฉินเฟิงเสียคนนี้ไปไม่ได้
“จื่อซวน กล้าไม่เบา แต่ว่าคุณไม่ไป พี่สะใภ้จะต้องไปรึเปล่า”
ต้าตาวจับบุหรี่ยิ้มมองมา
ช่วงเวลาที่ผ่านมานี้ เขาได้สนิทสนมเข้ากับเฉินจื่อซวนแล้ว อย่าคิดว่าเฉินจื่อซวนจะเป็นพวกปัญญาชนที่ไร้เดียงสา จริงๆ แล้วเขาเป็นคนฉลาดมาก
รู้ว่าควรทำอะไร ไม่ควรทำอะไร
ไม่อย่างนั้นก็คงไม่เปิดร้านเหล้า แล้วจัดการทุกอย่างได้อย่างมีประสบการณ์
พูดตามตรง เขาชื่นชมคนอย่างเฉินจื่อซวนมาก
“เอ่อ………”
เฉินจื่อซวนไม่ยอมหนีไปแบบนี้หรอก แต่นี่ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาไม่อยากให้ผู้หญิงข้างกายไปด้วย แล้วก็หันไปมองเสี่ยวเสี่ยว “เสี่ยวเสี่ยว เดี๋ยวพวกเราส่งคุณออกไป”
“ไม่”
เสี่ยวเสี่ยวส่ายหัว “พวกคุณอย่าคิดว่าฉันเคยเป็นผู้หญิงเต้นรำ แล้วจะคิดว่าฉันต่ำต้อย นั่นก็เพราะว่าฉันถูกบีบบังคับ ฉันกไม่อยากจะทำแบบนั้นหรอก ฉันก็มีศักดิ์ศรีเหมือนกันนะ”
“ฉันไม่ไป จะตายก็ตายไปด้วยกันเลย ได้พบกับคุณ ชาตินี้ฉันก็เพียงพอแล้ว”
พูดไป เสี่ยวเสี่ยวก็คว้าแขนของเฉินจื่อซวน จับไว้แน่นมาก เพราะกลัวว่าถ้าไม่ระวัง เฉินจื่อซวนจะเอาตัวเธอเองส่งออกไป แล้วจากนั้นตนเองก็จะโดดเดี่ยวไปทั้งชีวิต
ชีวิตครึ่งแรกของเธอมันล้วนไม่มีความหมาย ใช้ชีวิตไปวันๆ จนกระทั่งได้พบกับเฉินจื่อซวน
“เหอะ ดูละครมากไปหรือเปล่า ทำท่าความสัมพันธ์ลึกซึ้ง น่าสนใจดีนะ จริงๆ แล้วในความเป็นจริงนี้ พวกกูไม่มีทางปล่อยพวกมึงออกไปแน่นอน”
จางว่านเดินออกมา มือก็ถือพัดใบปาล์มอันหนึ่ง แล้วก็กระพือพัดไปมา น้ำเสียงหัวเราะเย็น
เขาเชื่อว่า ถ้าไม่ร้ายจะไม่ใช่ชายชาตรี
ในเมื่อเลือกที่จะลงมือแล้ว ก็จะไม่ให้เหลืออะไรมาแว้งกัดได้ ฆ่าให้หมด แล้วก็ไปโยนลงแม่น้ำสักแห่งก็จบแล้ว ไม่ว่าจะผู้หญิงผู้ชายก็ฆ่าให้หมด
ในละครมันแสดงได้ปลอมมาก ผู้หญิงมีสิทธิ์อะไรถึงหนีรอดไปได้
ละครน้ำเน่าจริงๆ
ในความเป็นจริงนั้น เช่นเขา จะไม่มีทางให้โอกาสกับคนพวกนี้หรอก
“เจ้าบาดแผลต้าตาว ช่วงเวลาที่ผ่านมานี้ พวกเราสองคนต่อสู้กันมาตลอด เผชิญหน้ากันมาตลอด ทำไมล่ะ ตอนนี้สู้ไม่ได้ ก็จะเอาคนอื่นมาช่วยงั้นหรือ? ไม่เคารพกฎกติกาแล้วสิ?”
ต้าตาวก็ทำท่าเคาะบุหรี่ แล้วมองเจ้าบาดแผลต้าตาวด้วยสายตาที่ไม่พอใจ
“……”
เจ้าบาดแผลต้าตาวที่เดิมทีควรจะกำเริบเสิบสาน ตอนนี้กลับนิ่งไป ในสังคมแบบนี้ เน้นเรื่องคุณธรรม เคารพกราบไหว้เทพเจ้ากวนอู เดิมทีนั้นเป็นข้อขัดแย้งของเขากับต้าตาว
ก็สมควรที่จะให้เขาและต้าตาวเป็นคนจัดการ ตัวต่อตัว ลูกน้องก็ส่วนลูกน้องไป
มันถึงจะเป็นไปตามกฏ
แต่ว่า ตอนนี้เป็นแบบนี้ จางว่านคิดร้ายต่อต้าตาว ทำให้เขาเอาคนมากมายมาล้อมต้าตาวไว้ บนเส้นทางในสังคมนี้ การกระทำแบบนี้มันดูต่ำช้าไป
“เจ้าบาดแผลต้าตาว นี่คือคำสั่งของท่านสาม”
จางว่านมองขวางใส่เจ้าบาดแผลต้าตาว แล้วพูดด้วยน้ำเสียงขรึมๆ
เขารู้ว่า คนอย่างเจ้าบาดแผลต้าตาวค่อนข้างให้ความสำคัญกับคุณธรรม ปกติแล้วก็ไม่ค่อยจะชอบคนที่ใช้แผนต่ำช้าอะไรเท่าไรนัก แต่ว่าตอนนี้เป็นช่วงเวลาสำคัญ เขาก็ได้แต่ต้องเอาท่านสามออกโรงมา
ไม่ต้องไปสนใจว่าท่านสามจะสั่งมาหรือเปล่า เพราะไงเขาก็พูดออกไปแล้ว ก็ถือว่าสั่งแล้วก็แล้วกัน
ครั้งก่อนต้าตาวก็ได้ตบหน้าเขาไปฉาดหนึ่ง ตอนนี้เขายังจำมันได้
“ได้”
ตัวใหญ่ๆ ของเจ้าบาดแผลต้าตาวก็เริ่มขยับ
ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม เมื่อเอาคำสั่งของท่านสามออกมาแล้ว เขาก็ต้องทำตาม
“เหอะ”
ต้าตาวสูบบุหรี่ แล้วก็เบะปากอย่างไม่พอใจ จริงๆ แล้วในใจของเขารู้ว่าแย่แล้ว เจ้าบาดแผลต้าตาวเอาคนมา200คน จางว่านเอาคนมา100คน
เล่นเอาพับนิพพานแน่นขนัดเต็มไปหมด
แต่ตอนนี้ฝั่งเขา มีเพียง20กว่าคนเท่านั้น
ที่เหลือได้สั่งให้ไปที่อื่นหมดแล้ว อย่างน้อยอีก1ชั่วโมงถึงจะกลับมาทัน
แต่ว่า จางว่านคงไม่ให้เวลาเขาเป็นชั่วโมงหรอก
“ต้าตาว ไม่ต้องมองแล้ว วันนี้ไม่มีใครมาหรอก ไม่มีใครกล้ามาหาเรื่องบอดี้การ์ดมังกรของพวกเราหรอก ต่อให้มาแล้วไง ก็ไร้ประโยชน์ วันนี้ที่นี่ได้ถูกล้อมไว้หมดแล้ว ครั้งก่อนมึงตอบหน้ากูมาครั้งหนึ่ง วันนี้กูก็จะทำให้มึงตายทั้งเป็น”
จางว่านพูดยิ้มด้วยน้ำเสียงร้ายๆ
ครั้งก่อนเขาก็แค้นอยู่พักหนึ่ง เดิมทีคิดจะไปหาท่านสาม แต่ว่าไม่มีหน้าเข้าไปหา ถ้าเข้าไปหาท่านสามเพียงเพราะเรื่องของต้าตาว บนเส้นทางนี้ เขาต้องถูกหัวเราะเยาะแน่นอน
ได้แต่มาแก้แค้นเอาเองวันนี้
“จางว่าน บอกตามตรง ที่ตบหน้ามึงไปครั้งก่อนยังไม่มันมือเลยว่ะ วันนี้กูอยากจะซัดไปอีกสักครั้ง” ต้าตาวมองมือตนเอง แล้วก็มองไปยังใบหน้าของจางว่าน
ความหมายมันชัดเจน
“ตายซะเถอะมึง ลุย”
ใบหน้าของจางว่านเผยความเคียดแค้นออกมา ต้าตาวกลับพูดเรื่องที่ตบหน้านั้นออกมา ตอนนี้ไม่รู้ว่าพวกลูกน้องจะหัวเราะกันไปถึงไหนแล้ว ให้ตายเถอะ
กล้าพูดออกมางั้นหรือ
เขาคิดดีแล้ว ว่าจะสับตัวของต้าตาวเป็นกี่ท่อนดี
“ครับ”
พวกลูกน้องก็รู้เรื่องดี แล้วพวกลูกน้องก็เดินถือมีดสปาต้าคนละเล่ม เข้าไปล้อมไว้ หนึ่งในนั้นพวกลูกน้องเก่งๆ ของจางว่านและเจ้าบาดแผลต้าตาว ก็ได้พุ่งเข้าไปก่อนแล้ว
พวกนั้นมีฝีมือค่อนข้างดี
หลังจากตะลุมบอน
แผลบนตัวของต้าตาวก็มากขึ้น สายตาเผยความเหนื่อยล้าออกมา ท่าทางก็เชื่องช้าลง เขาจะทนไม่ไหวแล้ว สุดท้ายมี3คนมาล้อมไว้ เขามองไปที่ดาบทีละเล่ม แล้วพูดเสียงต่ำว่าว่า “พี่ใหญ่ ขอโทษทีนะ”
สุดท้ายเขาก็แพ้
สำหรับฉินเฟิงแล้ว เขาสับสนมาก ดูถูกก่อน แล้วก็ตกใจ ต่อจากนั้นก็ได้ให้โอกาสการเป็นคนกับเขาอีกครั้ง และต่อจากนั้นก็เลือกที่จะติดตามด้วย
ประโยคสุดท้าย เขาก็ยอมที่จะเรียกคำว่า “พี่ใหญ่” ออกมา
เพียงแต่
เวลานี้
ด้านนอกประตูมีประโยคหนึ่งดังเข้ามา “ใครให้ความกล้ากับมึง มายุ่งกับคนของกูวะ!”
“เสียงนี้ เป็นเสียงของฉินเฟิงงั้นหรือ? เหอะ มีคนกล้ามาจริงๆ ว่ะ แต่ไอ้ฉินเฟิงมันมาแล้วจะมีประโยชน์อะไร ก็แค่ยามคนหนึ่ง จะเก่งแค่ไหนกันวะ”
จางว่านหัวเราะอย่างไม่พอใจ แล้วสั่งการไปว่า “ไปขวางมันไว้”
“ครับ”
แล้วก็มีลูกน้องกลุ่มหนึ่งเตรียมจะเข้าไปขวางฉินเฟิงไว้
ส่วนต้าตาวที่เดิมทีได้อ่อนแรงมากแล้ว พอได้ยินดังนั้น ก็มีแรงขึ้นมาเหมือนกับเสือ เดิมทีนั้นมีอีกหลายมีดที่จะฟันลงบนตัวเขาได้ แต่ว่าเขากลับหลบหลีกออกไปได้
“แรงฮึดสู้ครั้งสุดท้ายก่อนตายงั้นหรือ? ”
ลูกน้องสามคนนั้นก็มองหน้ากัน อย่างไม่เชื่อสิ่งที่เห็นตรงหน้า
“ไม่ กำลังเสริมมาแล้วเว้ย”
ต้าตาวหัวเราะลั่น
ในตอนนี้เอง ทางประตูก็มีเสียงร้องโอดโอยดังขึ้น ทำให้ทุกคนอึ้งไป รวมทั้งจางว่านและเจ้าบาดแผลต้าตาวด้วย ต้องหันหัวมามองทางประตู
เห็นเป็นคนนอนร้องโอดโอยที่พื้นเต็มไปหมด
และในตอนนั้น มีชายคนหนึ่งที่มีท่าทางไม่ธรรมดา ราวกลับเป็นนายทหารนกรบเลือด เดินจูงเด็กน้อยเข้ามาจากประตู สายตาเอาชนะได้ทุกคน
ด้านซ้ายมีชายขาเป๋อีกคน แต่งตัวเป็นกรรมกรชาวนา แต่ไม่รู้ว่าทำไม บนตัวของเขา ทำให้ทุกคนมองไปแล้วเหมือนเป็นเสือร้ายตัวหนึ่ง และจากนั้นก็รู้สึกเย็นวาบขึ้นมา เหมือนมีมาดมาพาดที่ลำคอของพวกเขาแล้ว
ส่วนด้านขวานั้นคือ ชายรูปร่างใหญ่บึกบึน แต่ทำให้คนรู้สึกว่ามันดูบ้าคลั่งมาก เป็นความบ้าคลั่งที่กลั้นไว้ไม่อยู่ ราวกับเป็นสัตว์ยักษ์ใหญ่ในร่างคน ที่พร้อมจะฉีกศัตรูออกเป็นชิ้นๆ ได้เลย
และพวกเขา ทั้งซ้ายทั้งขวา ล้วนกำลังป้องกันให้กับชายที่อยู่ตรงกลาง