เด็กอัจฉริยะ แม่ลึกลับ - ตอนที่ 459 หนิงเสี่ยวซี
ทั้งสองคนเพิ่งออกจากบ้านมา ก็ได้ยินเสียงรถจอด ชายหญิงคู่หนึ่งเดินลงมาจากรถ ผู้หญิงเย่หลินรู้จัก คนคนนั้นชื่อโอวหยางอะไรสักอย่าง ผู้ชายคือเซี่ยอวี่
นี่กี่ปีแล้วที่ไม่ได้เจอกัน? เธอยังคงจำได้แม่นยำ คนคนนั้นช่วยเธอซื้อผ้าอนามัย แล้วก็เอาเสื้อมาบังให้เธอ
อืม ใช่ เธอลืมไปเลย เซี่ยวอวี่กับโอวหยางแต่งงานกันแล้ว เคยได้ยินหนิงเส่าเฉินบอก
เมื่อโอวหยางเห็นเย่หลิน เห็นได้ชัดว่าตกตะลึง ได้ยินแม่บอกว่า เพราะแม่ของผู้หญิงคนนี้ พ่อจึงย้ายออกจากบ้านไป
แววตาเธอเย็นชาอย่างมาก
เซี่ยวอวี่เห็นเย่หลิน ก็รู้สึกว่าคนคนนี้เหมือนเคยเจอกันมาก่อน
เย่หลินมองเขาแล้วยิ้มเล็กน้อย “สวัสดีค่ะ คุณเซี่ย”
น้ำเสียงนี้ เซี่ยอวี่ก็ตกตะลึง เขาหัวเราะ เขาฟังผิดไปอย่างแน่นอน นี่คือภรรยาของหนิงเส่าเฉิน……
“คุณคือ……”
เป็นธรรมดาที่เย่หลินไม่สามารถอธิบายเรื่องที่ปิดบังใบหน้าของตนเองก่อนหน้านี้ได้ เรื่องบางเรื่อง ผ่านไปแล้ว ก็ควรจะให้มันผ่านไป
“เธอก็คือลูกสาวของนังจิ้งจอกคนนั้น” โอวหยางพูดอย่างลวกๆ
เซี่ยอวี่ดึงเธอเล็กน้อย
สายตาของหนิงเส่าเฉินเย็นชาลงทันที “คุณพูดอีกทีสิ?”
เป็นธรรมดาที่โอวหยางจะรู้จักหนิงเส่าเฉินดี เธอถอยไปอยู่ข้างหลังเซี่ยอวี่ พูดพึมพำว่า : “ที่แท้ลูกไม้ก็ย่อมหล่นไม่ไกลต้น ไม่ใช่เธอก็แย่งเขามาจากเกาเหวินหรอกเหรอ?”
หนิงเส่าเฉินอยากจะเดินเข้าไป เย่หลินรั้งเขาไว้ “ไปกันเถอะ”
เรื่องบางเรื่องเถียงไปก็ไร้ประโยชน์
เธอหันไปพูดกับเซี่ยอวี่ว่า “แววตาหมอเซี่ยดูไม่ค่อยดีเลย”
เซี่ยอวี่ยิ้มตอบกลับอย่างจนปัญญาเล็กน้อย “ต้องขอโทษด้วย……”
เย่หลินยิ้มตอบกลับอย่างสดใส “ไปก่อนนะ”
รอยยิ้มนี้ มันสะเทือนใจโอวหยางที่อยู่ข้างๆ “เซี่ยอวี่ ไม่อนุญาตให้คุณมองผู้หญิงอื่นนะ”
เซี่ยอวี่ผลักเธอที่พัลวันอยู่กับแขนของเขา “คุณลืมไปแล้วเหรอ วันนี้มาคุยเรื่องหย่ากับพ่อของคุณ พรุ่งนี้ เราก็จะต่างคนต่างโสด ฉันจะมองใคร แล้วเกี่ยวอะไรกับคุณด้วย?”
เมื่อเย่หลินเปิดประตูรถ ก็ได้ยินเสียงร้องไห้จากด้านหลัง
“เซี่ยอวี่ ฉันไม่หย่ากับคุณหรอก”
“อย่าเพ้อเจ้อ”
เย่หลินปิดประตูรถ เห็นว่าหนิงเส่าเฉินไม่ได้สตาร์ตรถ ก็เบ้ปาก “หมายความว่าอะไร? ทำไมไม่ไปล่ะ?”
“ต่อไปไม่อนุญาตให้ยิ้มอย่างนั้นกับผู้ชายคนอื่นอีก”
เย่หลินรู้ว่าเขาหมายความว่าอะไร แต่แกล้งโง่ “เป็นมารยาทนะ”
เซี่ยอวี่ ขอให้ชีวิตใหม่ของคุณมีแต่ความสุข
……
ปีนี้เย่หลินอายุ 38 ปี และปีนี้หนิงเสี่ยวซีอายุ 20 ปี เป็นนักศึกษาปีสองอยู่ในเมืองที่ห่างไกลออกไป บอกว่าอยากสัมผัสชีวิตแบบคนธรรมดา เย่หลินเป็นห่วง เลยตัดสินใจไม่เยี่ยมเขา หนิงเสี่ยวซีอยู่หอพักกับเพื่อนร่วมชั้นสี่คน จู่ๆเพื่อนก็วิ่งมาจากด้านนอก แกว่งมือถือในมือ
“พวกเรา มาดูสาวสวยที่หน้าประตูโรงเรียนเร็ว”
เพื่อนสองคนที่อยู่บนเตียงแทบจะกระโดดลงมา “ดูหน่อยๆ ดูหน่อยๆ……”
หนิงเสี่ยวซีที่อยู่บนเตียง รู้สึกเฉยๆ ในบ้านก็มีผู้หญิงสวยๆ เขามีภูมิคุ้มกันต่อสาวสวยอยู่แล้ว
“ว้าว ดูดีจริงๆ ไม่เคยเห็นสาวรุ่นใหญ่ที่สวยอย่างนี้มาก่อนเลย จุ๊ๆ……”
“เฮ้อ รวบรวมถุงเท้าของทุกคนมาเลย”
หนิงเส่าเฉินหรี่ตา ตื่นเต้นเล็กน้อย
“มึงไสหัวไปเลย ใครทำให้กูเห็นเธออยู่ตรงหน้าได้ เทอมนี้ รวบรวมเสื้อผ้ามาเลย แล้วก็จะซักด้วยมือด้วย”
หนิงเสี่ยวซีเม้มๆปาก ฟังเงื่อนไขนี้ก็ไม่เลว
“เชี่ย นับประสาอะไรกับซักเสื้อผ้า แค่ทำให้เธอยิ้มให้พวกเราได้ อย่าพูดถึงซักเสื้อผ้าเลย ล้างเท้าพวกเราก็จะทำให้”
ท้ายที่สุดหนิงเสี่ยวซีก็ลุกขึ้นนั่ง นิ้วเรียวยาวยื่นออกไป ไปย่างมือถือมาจากเพื่อนร่วมหอ เมื่อเห็นภาพด้านข้างของผู้หญิงคนนั้น เขาก็แทบกระอักเลือด
เขาสมองกลวงเหรอ? คาดไม่ถึงว่ามาใช้ชีวิตอยู่มหาวิทยาลัยแล้ว นี้ยังต้องมาอยู่หอร่วมกับกลุ่มSBอีก
เพียงแต่ เอาเถอะ เพื่อปรนนิบัติรับใช้บางคน เขาก็ต้องเสียสละความงามของแม่สักเล็กน้อย หวังว่าประธานหนิงจะไม่รู้
เขากระแอมเบาๆ “ถ้าฉันสามารถให้เธอเลี้ยงข้าวพวกคุณได้ อย่างนั้นเรื่องราวทั้งหมดของภาคเรียนนี้……”
“สัญญา”
“สัญญา”
“สัญญาแน่นอน
คนทั้งสามตอบกลับมาอย่างมั่นใจ
“คำพูดออกจากปากไปแล้ว”
“ยากที่จะคืนคำ ใครโกหก ให้แม่งเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ”
หนิงเส่าเฉินสบายใจ หยิบมือถือออกมา กดต่อสายไปยังเบอร์ที่คุ้นเคย
“เสี่ยวซี คุณเลิกเรียนแล้วเหรอ?”
“อื้ม อยู่ไหน?”
“ฉันอยู่หน้าทางเข้ามหาวิทยาลัยของคุณ”
“อ้อ อย่างนั้น คุณเย่ ตอนกลางวัน สามารถเลี้ยงข้าวเพื่อนร่วมหอของฉันหน่อยได้ไหม?”
เย่หลินหยิบมือถือออกมาดู เป็นเบอร์ของหนิงเส่าเฉินจริงๆ แล้วก็เป็นเสียงของลูกชาย เพียงแต่ นี่เรียกคุณเย่ได้ยังไงกัน ทำไมดูเป็นเด็กไม่รู้จักเคารพผู้ใหญ่เลย
“โอเค อย่างนั้นอีกสักพักจะส่งที่อยู่ให้คุณ”
พอวางสาย เย่หลินก็ส่ายหน้า เจอหน้าแล้วค่อยจัดการคุณ กล้ามาเรียกคุณเย่
แต่ทางด้านหอพัก ส่งเสียงคึกคักเจี๊ยวจ๊าว
“เชี่ย หนิงเส่าเฉิน คุณรู้จักเหรอ?”
หนิงเสี่ยวซีเม้มปาก ตอบกลับอย่างไม่สะทกสะท้านว่า: “อืม เป็นญาติคนหนึ่ง” แม่ก็คือญาติ ไม่ผิด
ได้ยินเสียงข้อความดัง”ตึ๊ง”
หนิงเส่าเฉินก็มองเพื่อนร่วมหอ “ไปกันเถอะ”
เมื่อคนทั้งสามเข้าไปในห้องวีไอพี เมื่อเห็นสาวสวยคนนั้นยิ้มกับพวกเขาอย่างอ่อนโยน หนุ่มๆวัยรุ่นทั้งสาม ก็มองอย่างใจลอยไปในชั่วพริบตา
แต่ว่า…..
“แม่ คุณมาคนเดียวเหรอ? พ่อไม่มาเหรอ?”
เพียงแต่ต่อมา เสียงที่ดังเข้ามามันคืออะไรกัน?
หนิงเสี่ยวซีเรียกว่าอะไรนะ? เรียกแม่เหรอ?
เย่หลินทักทายเพื่อนร่วมหอทั้งสาม “มา พวกคุณมานั่งเร็วเข้า ได้ยินเสี่ยวซีบอกว่า อยู่มหาวิทยาลัย พวกคุณดูแลเขาดีมาก ฉันเป็นแม่ของเสี่ยวซี ต้องขอบคุณอย่างมากที่พวกคุณดูแลเขา วันนี้อยากทานอะไร ก็บอกมาได้เลย”
อาหารมื้อนี้ เพื่อนร่วมหอทั้งสาม เหมือนกับได้กิน”ขี้” ทานไม่ลงเลย
และเสี่ยวซีก็ทำตัวไม่ถูกเหมือนกัน เขาฝืนยิ้มอย่างเกรงใจ ดูแล้ว การมีแม่ยังสาว ก็เป็นผลดีนะ
ในที่สุด ก็มีผู้ใจกล้าคนหนึ่งในจำนวนนั้น เอ่ยปากว่า “อืม…..เอ่อ คุณเป็นแม่เลี้ยงของเสี่ยวซีเหรอ?”
เย่หลินวางช้อนซุปที่อยู่ในมือลงบนโต๊ะเบาๆ เข้าใจในทันใด ส่ายหน้าแล้วยิ้มเล็กน้อย “เพื่อนนักเรียน ฉันคลอดหนิงเสี่ยวซีตอนอายุ18 ปีนี้อายุ38 เคยตรวจสอบทางการแพทย์แล้ว เป็นแม่แท้ๆ ไม่ผิดพลาด”
หันหน้ากลับไปมองลูกชายข้างๆที่เล่นละครได้ดี เย่หลินก็หัวเราะอย่างเย็นชาแล้วกล่าวว่า “เลือกมา จะให้บอกพ่อของคุณ หรือตอนบ่ายจะไปเป็นเพื่อนช้อปปิ้ง?”
หนิงเสี่ยวซีอ้าปากค้าง “แม่ เปลี่ยนตัวเลือกได้ไหม?”
“ขอไปเป็นเพื่อนช้อปปิ้งตอนเย็น”
หญิงสาวหยิบมือถือออกมา เริ่มกดตัวเลขสองสามตัวนั้นที่หนิงเสี่ยวซีคุ้นเคย เมื่อกดตัวเลขตัวที่เก้า หนิงเสี่ยวซีก็หลับตา “ตอนบ่ายไปเป็นเพื่อนคุณช้อปปิ้ง”
ในห้างสรรพสินค้า
ชายหนุ่มที่หล่อเหลาถือของสองไม้สองมือ เดินตามหลังสาวสวยที่เพริศพริ้ง “แม่ คุณยังจะซื้ออะไรอีก?”
“ยังไม่ได้ซื้อของให้คุณปู่คุณย่าคุณเลย มาทางด้านนี้แล้ว ต้องซื้อผลิตภัณฑ์ประจำท้องถิ่นกลับไปซะหน่อย วางใจได้ ฉันจะบอกว่าเสี่ยวซีกตัญญูต่อพวกเขา”
หนิงเสี่ยวซีมองแม่ เขาสาบานว่า อนาคตถ้าเขาแต่งงานกับภรรยา เงื่อนไขก็คือ ไม่ชอบช้อปปิ้ง
แต่เมื่อเขาเห็นเงาของเชี่ยนลี่เดินออกมาจากในร้านร้านหนึ่ง สีหน้าของเขา ก็มืดมนถึงขีดสุด