เด็กอัจฉริยะ แม่ลึกลับ - ตอนที่ 457 เสียชีวิต
“ซู……ซูหย่ามาแล้ว”
ซูหย่าพยักหน้า แล้วส่งสายตาให้เด็กทั้งสองคน “กล่าวทักทายหน่อยสิ”
“สวัสดีคุณปู่”
“สวัสดีคุณปู่
จากนั้นซูหย่าก็เห็นพ่อเซียวหันกลับไปเช็ดน้ำตา
คนที่ใกล้จะตาย จิตใจล้วนดีไปหมด เธอคิดได้แค่นี้
เมื่อเซียวอู๋มา พวกเขากำลังจะทานข้าว สีหน้าการแสดงออกของเขาเฉยเมยอย่างมาก เหมือนเลิกงานกลับบ้านปกติ มาหอมแก้มลูกทั้งสองคน
จากนั้นก็พยักหน้าให้พ่อแม่ แล้วไม่ได้พูดอะไร
แต่ซูหย่าเห็นมือของพ่อเซียวสั่นเล็กน้อย
คฤหาสน์ตระกูลเซียววันนี้ ไม่มีคนอื่น มีเพียงพ่อเซียวแม่เซียวและครอบครัวของพวกเขา
ถ้าไม่ใช่เพราะความทรงจำที่ไม่ดี ซูหย่าจะคิดว่า นี่เป็นครอบครัวที่มีความสุขครอบครัวหนึ่ง
แต่ว่า……
เมื่อทานอาหารใกล้เสร็จ พ่อเซียวก็ส่งสายตาให้แม่เซียว แม่เซียวเดินเข้าห้องไป หยิบซองเอกสารเดินออกมา
ส่งให้เซียวอู๋ ดูเหมือนว่าเซียวอู๋จะรู้ว่ามันคืออะไร จึงไม่ได้รับไว้ ซูหย่าเห็นเช่นนั้นจึงยื่นมือไปรับ “แม่ นี่คืออะไรเหรอ?”
ได้ยินซูหย่าเรียกตนเองว่าแม่ สายตาแม่เซียวก็เป็นประกายขึ้นมา รีบพูดว่า “นี่คืออสังหาริมทรัพย์ของตระกูลเซียวในทุกๆแห่ง พ่อของคุณเก็บไว้ 60% ให้กับคุณกับเสี่ยวหวู่……”
ถึงแม่ซูหย่าจะไม่ได้ตั้งใจถามว่าอสังหาริมทรัพย์ภายใต้ชื่อของตระกูลเซียวมีเท่าไหร่ ในภาพความทรงจำ พี่ใหญ่แค่เตรียมนัดดูตัวให้เธอกับเซียวอู๋ บอกว่าภูมิหลังครอบครัวค่อนข้างดี
คิดแล้ว 60%ก็น่าจะไม่เลวเลยแหละ
หลังจากแต่งงาน ถึงแม้เงินเดือนเธอจะไม่น้อย แต่ต้องเลี้ยงดูลูกสองคน เซียวหวู่ แม้ว่าจะเป็นข้าราชการระดับสูง อยากจะอยู่สบายในเมืองชั้นหนึ่งอย่างเมือง Cนี้ บางครั้งพวกเขาก็ต้องพึ่งพาพ่อแม่ฝ่ายหญิงในด้านทุนทรัพย์บ้าง โชคดีที่เซียวอู๋ให้บัตรเงินเดือนแก่เธอ ก็เลยไม่ต้องไปยุ่งกับครอบครัว ฉะนั้นจึงไม่รู้สถานการณ์ปัจจุบันของครอบครัวพวกเขา แล้วครอบครัวเธอก็คงไม่รู้เรื่องราวเหล่านี้ มิเช่นนั้นเธอกลัวว่าเขาจะไม่สบายใจ
เวลานี้จู่ๆทรัพย์สินเหล่านี้ก็ตกใส่หัวพวกเขา พูดตามความจริงซูหย่าก็ใจสั่นเล็กน้อย
แต่เธอยังคงเต็มใจที่จะเชื่อฟังเซียวอู๋ ถ้าเซียวอู๋ไม่ต้องการ ทรัพย์สินจะมากแค่ไหน เธอก็ไม่โลภมาก
การเคี้ยวของเซียวอู๋ช้าลงเล็กน้อย เขาคีบอาหารใส่ถ้วยซูหย่า “ให้คุณ ก็รับไว้เถอะ”
ซูหย่าประหลาดใจเล็กน้อย เห็นได้ชัดว่าพ่อเซียวกับแม่เซียวโล่งอก
“ใช่ เสี่ยวหย่า คุณรับไว้เถอะ” แม่เซียวรีบพูดต่อว่า “ฉันจะให้ทนายความไปที่สำนักงานของเซียวอู๋ในวันพรุ่งนี้ เพื่อทำระเบียบการขั้นตอน”
เซียวอู๋สูดลมหายใจเข้า วางตะเกียบในมือลง ทว่าสายตาไม่ได้เคลื่อนย้าย ยกซุปขึ้นดื่ม “เขียนชื่อซูหย่าเถอะ”
ซูหย่าร้อง”ห๊ะ”ออกมา “เขียน……เขียนชื่อฉัน?” “ทรัพย์สินร่วมกันของสามีภรรยา เขียนชื่อใคร มันจะต่างกันเหรอ?”
แม่เซียวดูเหมือนจะเข้าใจความหมายของเซียวอู๋ จึงมองซูหย่า “ใช่สิเหมือนกันนั่นแหละ เสี่ยวหวู่เขางานยุ่ง อย่างนั้นเช้าพรุ่งนี้ เสี่ยวหย่าฉันจะให้ทนายไปหาคุณ”
พูดขนาดนี้แล้ว ซูหย่ายังสามารถพูดอะไรได้อีกล่ะ?
เธอพยักหน้า “ได้ อย่างนั้นก็ขอบคุณ……คุณพ่อ แล้วก็คุณแม่ด้วย”
มื้ออาหารนี้ ถึงแม้ว่าเซียวอู๋จะไม่ได้เรียกพ่อแม่ตั้งแต่ต้นจนจบ แต่ก็สามารถทำให้เขามาที่บ้านได้อีกครั้ง คู่สามีภรรยาดีใจมาก
กลับบ้านมาตอนกลางคืน ซูหย่านอนอยู่ในอ้อมกอดของเซียวอู๋ “เสี่ยวหวู่ ฉันคิดว่า คุณจะไม่ต้องการมัน”
เซียวอู๋จับมือของซูหย่า จูบลงบนริมฝีปาก เงียบอยู่นาน จึงค่อยๆพูดด้วยน้ำเสียงเรียบๆว่า “ไม่ดีนักที่จะให้พ่อตาแม่ยายใช้จ่ายสิ้นเปลือง จะว่าไปทรัพย์สินของตระกูลเซียว ฉันก็อุ่นใจ อีกอย่างหนึ่ง รับมาแล้วเขาจะได้ตายไปอย่างสบายใจหน่อย ยิงปืนนัดเดียวได้นกสามตัว ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะไม่รับ”
ซูหย่าลุกขึ้น เธอมองเขาอย่างประหลาดใจ “เสี่ยวหวู่ คุณ……คุณรู้ทั้งหมดเลยเหรอ?”
เซียวอู๋พยักหน้า ถอนหายใจเล็กน้อย “ติดตามฉัน ทำให้คุณต้องลำบากเลย” พูดจบ มือใหญ่ก็ลูบที่แก้มของเธอเบาๆ
ซูหย่าส่ายหน้า “ไม่ลำบากหรอก เสี่ยวหวู่ ฉันรู้ว่า คุณมีหลายวิธีมากที่สามารถหาเงินได้ แต่ฉันไม่อยากให้คุณทำลายอนาคตของตัวเองแบบนั้น ดังนั้น ฉันจึงยินยอมพร้อมใจ คุณก็รู้ว่า ฉันไม่ได้เหมือนคนทั่วๆไป ถ้าคุณไม่ต้องการเงินนี้ ต่อไป ฉันก็จะไม่รับเงินจากบ้านพ่อแม่ พวกเราจะขยันขันแข็งหากันเอง อาจจะผ่านช่วงที่ยากลำบากหน่อย แต่ฉันไม่อยากให้คุณทำเพราะเรื่องนี้ แล้วต้องรับในสิ่งที่คุณไม่เต็มใจจะรับ…….”
ยังพูดไม่ทันจบ ก็ถูกชายหนุ่มจูบอย่างลึกซึ้ง
เซียวอู๋คิดว่าตนเองมีดีอะไรกัน ถึงได้สามารถแต่งงานกันผู้หญิงแบบนี้ เซ่อขนาดนี้…..
เวลานี้ เขาคิดว่า บั้นปลายชีวิต เขาจะต้องปฏิบัติต่อเธอให้ดียิ่งขึ้น
หลังจากการจูบอันยาวนานจบสิ้นลง
“พรุ่งนี้ไปเอามันกลับมา นี่คือสิ่งที่พวกเขาใช้เพื่อมาชดใช้ความผิด ถ้าไม่เอา ก็จะเป็นการไม่ดี”
ซูหย่าพยักหน้า “โอเค ฉันเชื่อคุณ”
เพียงแต่ วันต่อมา เมื่อเห็นกองสัญญาเอกสารที่ยกให้ปึกนั้น ซูหย่าก็ต้องตื่นตระหนก เธอหาข้ออ้างไปห้องน้ำ แล้วโทรศัพท์ไปหาเซียวอู๋
“เสี่ยวหวู่ ทำไมครอบครัวคุณถึงได้รวยขนาดนั้น ฉัน…..ฉันไม่กล้าเซ็นลงนามแล้ว”
สิทธิ์ถือหุ้นโรงแรมกว่าสามสิบแห่ง อาคารสูงเจ็ดแห่ง แล้วก็ร้านค้าและห้องชุดวิลล่ากว่าร้อยแห่ง แต่นี่เป็นเพียง60%ของตระกูลเซียวเท่านั้น
เธอสูดลมหายใจเข้า ที่แท้ ตัวเองก็ได้แต่งงานกับทายาทเศรษฐี
“เซ็นไปเถอะ ต่อไป เห็นกระเป๋าแล้ว จะได้ไม่ต้องมองตาปริบๆ”
ซูหย่าปิดปาก เธอไม่เคยรู้มาก่อนเลย ที่แท้ เสี่ยวหวู่ของเธอจะเอาใจใส่เธอแบบนี้ แม้กระทั่งของที่เธออยากได้ ก็จดจำใส่ใจ
อนาคตต่อไป ซูหย่าก็จะกลายเป็นหญิงมหาเศรษฐีที่มีรายชื่อติดอันดับ
ทุกคนต่างบอกว่า เซียวอู๋แต่งเข้ามา ภรรยาร่ำรวยอย่างมาก
เวลานั้น เธอจึงได้รู้ว่า เมื่อตอนที่เธอเซ็นสัญญา เซียวอู๋ให้ทนายความหลอกเธอ เซ็นเอกสารสัญญาพิเศษฉบับหนึ่ง เนื้อหาคือ ถ้าในอนาคตเซียวอู๋หย่าร้างกับซูหย่า ทรัพย์สมบัติที่มีทั้งหมดนี้ จะต้องตกเป็นของซูหย่าทั้งหมด
เมื่อรู้ถึงการมีอยู่ของเอกสารฉบับนี้ ซูหย่าก็แทบจะไม่ร้องไห้เลย
เธอรู้ว่า นี่คือความรู้สึกมั่นคงที่สุดที่เซียวอู๋มอบให้กับเธอ
ซูหย่าคิดว่าตนเองมีดีอะไรกัน ถึงได้สามารถแต่งงานกับผู้ชายแบบนี้ ซื่อบื้อแบบนี้…..
เวลานี้ เธอคิดว่า บั้นปลายชีวิต เธอจะต้องปฏิบัติต่อเขาให้ดียิ่งขึ้น
เมื่อพ่อเซียวจากไป เซียวอู๋ก็ได้ออกไปปฏิบัติงานนอกสถานที่ ซูหย่าพาลูกทั้งสองไปบ้านตระกูลเซียว แต่ไม่สามารถไปเจอหน้าเขาได้ทันเวลา
เธอโทรหาเซียวอู๋ เซียวอู๋สงบนิ่งอย่างมาก แล้วตอบ”อืม”คำหนึ่ง
ซูหย่ารู้ว่า เขาคนนี้ยิ่งเป็นทุกข์ ก็ยิ่งไม่แสดงออก
“ถ้าคุณไม่อยากกลับมา ก็ไม่ต้องกลับมา พ่อบอกว่า เขาเข้าใจความรู้สึกคุณ”
เซียวอู๋ตอบ”อืม”อีกคำหนึ่ง
แต่สุดท้ายเขาก็ยังกลับมา ขณะฝังศพพ่อเซียววันนั้น
ฝนตกลงมาอย่างหนัก เขายืนอยู่หน้าหลุมฝังศพ ไม่ได้คุกเข่า แต่ทุกคน ไม่มีใครกล้าต่อว่าเขาแม้แต่คนเดียว หนึ่งคืออำนาจและอิทธิพลที่ยิ่งใหญ่ สองคือ คนที่รู้จักต่างก็รู้ว่าพ่อเซียวรู้สึกขอโทษลูกชายคนนี้
หลังจากกลับไป เซียวอู๋ก็เป็นไข้ ป่วยจากการตากฝน
ตอนที่เป็นไข้ละเมอ เขาดึงมือของซูหย่า พูดพึมพำว่า “พ่อ คุณอย่าทิ้งฉันให้อยู่คนเดียวอีกเลยนะ”
ซูหย่ารู้สึกสงสารอย่างยิ่ง
ทางด้านแม่เซียวหลังจากที่พ่อเซียวจากไปได้หนึ่งปีกว่า ด้วยอาการเลือดออกในสมอง จึงเสียชีวิตขณะนำส่งโรงพยาบาล
ตั้งแต่นั้นมา เซียวอู๋ก็ไม่มีครอบครัวแล้วจริงๆ
ซูหย่าพูดถึงเรื่องนี้กับปี๋ไค ปี๋ไคก็ถอนหายใจอย่างแรง กงเกวียนกำเกวียนจริงๆ กรรมนั้นย่อมสนองแน่ เพียงแต่ยังไม่ถึงเวลา