เด็กอัจฉริยะ แม่ลึกลับ - ตอนที่ 168 การเหนี่ยวนำทางจิตใจ
เธอหลับตาลง และเดิมพันอยู่ภายในใจ
พี่ชาย ถ้าหากพวกเรามีโทรจิตกันจริง ตอนนี้ฉันใกล้ตายแล้ว คุณจะรู้สึกอึดอัด รู้สึกเสียใจไหม ?
“อ่า…………”เย่หลินได้ยินเสียงร้อง จากนั้น เธอก็ถูกโยนออกไป ร่างกายของเธอไปกระแทกเข้ากับขาของโต๊ะหนังสือนั้น
โต๊ะหนังสือที่เดิมทีพังยับเยินอยู่แล้ว มันจะทนแรงชนของเธอได้อย่างไร มันจึงพลิกคว่ำลงมาทางเธอ
“อ๊ะ………..”เธอตะโกนออกมา
จากนั้น เธอก็ได้ยินเสียงเคาะประตู และเธอก็รู้สึกว่าร่างกายหนักอึ้ง จากนั้นก็มีเสียง“อู้อี้”ดังขึ้นมา
“เกิดอะไรขึ้น ?”เสียงของหนิงเส่าเฉินดังมาจากเหนือศีรษะ
เย่หลินสูดลมหายใจ และเงยหน้าขึ้นมองใบหน้าของหนิงเส่าเฉิน และหันศีรษะของเขาไปโดยไม่รู้ตัว มองไปที่ชายคนที่กำลังกดทับเธออยู่
เขาหลับตาลง และเลือดก็ไหลออกมาจากหูของเขา
ในใจก็ตกใจมาก “เร็ว เขาได้รับบาดเจ็บ”
ทางเข้าห้องผ่าตัด
เย่หลินเดินไปเดินมา สีหน้านิ่งสงบมาก แต่ในใจกลับร้อนรน
หนึ่งชั่วโงก่อน เธอและเกาไห่ได้สร้างความสัมพันธ์แบบพี่น้อง
มานั่งเถอะ อาจจะต้องใช้เวลาอีกสักพักกว่าเขาจะฟื้น หนิงเส่าเฉินลากเธอมานั่งลงบนเก้าอี้ข้างหลัง
เมื่อสายตามองลงมาที่คอของเธอ รอยนิ้วสีแดงที่อยู่บนนั้น สายตาเขาก็มืดมนลง สีหน้าก็ไม่ค่อยดีเล็กน้อย
เย่หลินเม้มริมฝีปาก คล้องแขนของหนิงเส่าเฉิน และเอนศีรษะพิงเขา ในตอนท้าย เขาปล่อยมือ เขากำ
หน้าอกไว้และตะโกนออกมา จากนั้นก็โยนฉันออกไป จากนั้น เมื่อเห็นโต๊ะจะทับใส่ฉัน เขาก็มาบังโต๊ะแทน
ฉันไว้ เส่าเฉิน คุณว่า “ความสัมพันธ์ทางสายเลือดมันน่าอัศจรรย์จริงๆ” เมื่อพูดถึงตรงนี้ เธอก็ยกมุมปากขึ้น
คำตำหนิของหนิงเส่าเฉินมาถึงที่ริมฝีปาก และกลืนมันกลับไป เขาควรจะทำยังไงกับเธอดี เห็นได้ชัดว่าเกาไห่ต้องการที่จะบีบคอเธอก่อน และเห็นได้ชัดว่าเขาผลักเธอออกไปก่อน ดังนั้นถึงไปโดนกับโต๊ะ แต่เธอกลับคิดถึงแต่ความดีของเขา
“คุณว่าถ้าพี่ชายของฉันรู้ว่าฉันคือน้องสาว เขาจะดีใจไหม ?”
หนิงเส่าเฉินถอนหายใจเบาๆ และตบหลังมือของเธอ “อย่ากังวลเลย อีกเดี๋ยวรอเขาตื่นแล้วค่อยพูด”
“ครอบครัวสามารถลงไปที่ห้องผู้ป่วยได้แล้ว คนป่วยถูกพาออกไปแล้ว” ประตูห้องผ่าตัดเปิดออก และหมอก็โผล่หัวออกมา
เย่หนิงยิ้มอย่างมีความสุข และดึงหนิงเส่าเฉินเดินลงไป
ในห้องผู้ป่วย เกาไห่นอนอยู่ครึ่งหนึ่ง หน้าผากของเขาพันผ้าพันแผลสีขาวไว้ และบนมือของเขามีขวดอยู่ ประโยคของหมอก้องอยู่ภายในใจของเขา:“ด้านนอกคนนั้น เป็นน้องสาวคุณเหรอ ? พวกคุณพี่น้องมีความสัมพันธ์ที่ดีจริงๆ”
คนที่อยู่ข้างนอก น้องสาว ? เขาไม่คิดว่าเป็นเกาเหวินอยู่แล้ว
เธอกับเขา ควาสัมพันธ์จะไม่มีวันดีขึ้น
ประตูเปิดออก และมีเสียงดังขึ้นอย่างรวดเร็ว เกาไห่รีบหลับตาลง
“พี่ชาย” เสียงผู้หญิงที่สดใสและมีความสุขดังเข้ามาในหู
เกาไห่ลืมตา ผมของเขาสกปรกเกินไป หมอกลัวว่าจะสร้างแผล ดังนั้น จึงขอร้องให้เขายินยอมและโกนผม แต่ ก็ไม่ได้ดูแย่ แต่กลับรู้สึกสดชื่นขึ้น
“พี่ชาย” เย่หลินพูดย้ำอีกครั้ง
ผู้หญิงที่อยู่ข้างหน้า เกาไห่เคยเจอมาก่อน เมื่อหลายปีก่อน ผู้หญิงที่เดินพรมแดงกับชูหยูจี้คนนั้น เขาจำได้ว่าเขายังโทรหาเกาเหวิน เพื่อเตือนเธอ
แต่……..พี่ชาย ?
คุณจำคนผิดแล้ว เสียงของเกาไห่แหบเล็กน้อย หลังจากไม่ได้พูดปกติมานานหลายปี
ในใจของเย่หลินดีใจมาก น้ำตาไหลลงมา เธอสูดหายใจเขา และหยิบใบรับรองการตรวจ DNA ออกมาจากกระเป๋าและส่งให้กับเกาไห่
“คุณดูสิ พวกเราเป็นพี่น้องกัน”
เกาไห่ตกตะลึง และไม่ได้หยิบกระดาษแผ่นนั้นมา แต่เพียงลดสายตาลงมองลงไปบนพื้น และเมื่อเห็นผลการตรวจ เขาก็ยิ้มอย่างเย็นชา:“ สรุปแล้วพวกคุณต้องการให้ผมทำอะไร ? พูดมาตรงตรงเถอะ ?”
เย่หลินตัวสั่น เกาไห่ไม่เชื่อเธอ ?
“พี่ชาย ตอนที่พี่ตกหน้าผาในตอนนั้น พวกเราก็ไม่เคยเจอกัน ไม่รู้จักกันเลย แต่ ฉันโศกเศร้าเสียใจ ในใจรู้สึกเจ็บปวด ดังนั้น ฉันจึงไปยังสถานที่เกิดเหตุ ด้วยกระแสจิตของพวกเรา ฉันไปเจอร่างที่คุณเจ็บปวด ”เธอหยุดชะงักแล้วหายใจเข้า และนั่งลงตรงขอบเตียงของเขา จ้องมองตรงไปที่เกาไห่
“เมื่อสามปีก่อน ทำไมคุณถึงตื่นขึ้นมา เป็นเพราะว่าฉันเกิดลูก และพบเจอกับอันตราย และพยายามหนีจากความตาย คุณรู้สึกได้ ไม่ใช่เหรอ ? พี่ชาย เกาเหวินไม่ใช่น้องสาวของคุณ ฉันนี่สิ พวกเรามีสายเลือดเดียวกัน พวกเราเป็นพี่น้องพ่อแม่เดียวกัน พี่ชาย……..”เมื่อพูดถึงตรงนี้ เธอก็ร้องไห้ไม่ออก
นิ้วเรียวยาวของเกาไห่ค่อยค่อยยกขึ้นมาที่ตำแหน่งหัวใจของตัวเอง ผู้หญิงคนนี้พูดไม่ผิด เมื่อวานเขาโหดร้ายและอยากบีบคอเธอให้ตาย แต่ เมื่อเธอน้ำตาไหล และใบหน้าของเธอเป็นสีดำ ในใจเขาก็เกิดความโศกเศร้าลและอาการจุดเสียดที่อธิบายไม่ได้ จนทำให้เขาทนไม่ได้จนต้องปล่อยมือ เมื่อเขาเห็นโต๊ะล้มลง เขาก็เอาตัวเองไปกันโต๊ะไว้ให้เธอโดยไม่รู้ตัว
เมื่อคิดถึงตรงนี้…….
ริมฝีปากของเขาก็สั่นเล็กน้อย
เมื่อเขาเงยหน้าไปมองเย่หลิน ดวงตาที่พล่ามัวของเขา ก็มีความโฟกัสขึ้นแต่ก็ยังมีหมอกเลือนลาง
“พี่ชาย ทำไมคุณไม่ยอมออกไปจากที่นี่ ใครเป็นคนขังคุณเอาไว้ที่นี่ ? เกาเหวินรึเปล่า………..”
“ไปให้พ้น ผมไม่สนใจคุณ”ทันทีที่สิ้นเสียงของเธอ เกาไห่ก็ยื่นมือออกไป และผลักเธอลงพื้น
หนิงเส่าเฉินที่เดิมทีอยู่ข้างนอก เมื่อได้ยินเสียงก็วิ่งเข้ามา และเห็นแย่หลินครึ่งหนึ่งนอนอยู่บนพื้น
“ใครอนุญาติให้คุณปฎิบัติกับเธอแบบนี้ ?” น้ำเสียงของหนิงเส่าเฉินเย็นชา ดวงตาของเขากวาดไปที่เกาไห่ และมองไปที่เย่หลิน “มีความสัมพันธ์หรือไม่? ลุกขึ้นมาก่อน”
เย่หลินส่ายศีรษะ และยิ้ม
เกาไห่เลื่อนตัวลง แล้วห่อตัวเองไว้ในผ้าห่ม
“พี่ชาย……….”
“คุณออกไปคุณออกไป…….ผมไม่อยากได้ยินเสียงของคุณ”
ในเวลาต่อมา เกาไห่ตื่นเต้นขึ้นมาก ไม่ว่าเย่หลินจะพูดอะไร เขาก็ไม่ฟัง เขาตะโกนใส่เธอตลอดทาง และบอกให้เธอออกไป
หนิงเส่าเฉินรู้สึกเสียใจต่อเย่หลิน และขัดขวางไม่ให้เธอเข้าไปในห้องผู้ป่วยอีก
“ผู้ป่วยได้รับการปฎิบัติอย่างผิดมาตลอด และเขาก็ได้รับความบอบช้ำทางจิตใจ จิตใต้สำนึกของเขาคิดว่าตัวเองจะได้รับการปฎิบัติแบบนั้น ดังนั้น เมื่อเผชิญการดูแลและการรักษาแบบปกติ ถึงแม้ในใจของเขาจะเข้าใจ แต่ก็ต่อต้านมาก เขาไม่รู้วิธีที่ถูกต้องในกานตอบสนองพวกคุณ
ดังนั้นเขาจึงเลือกวิธีการด่าโดยไม่รู้ตัว”
เย่หลินขมวดคิ้ว และมองหมอที่อยู่ข้างหน้า เป็นหมอที่หนิงเส่าเฉินเชิญมาจากเมือง C เขาเป็นนัก
จิตวิทยาระดับประเทศ
แล้ว เขาจะเป็นแบบนี้ตลอดไปรึเปล่า ? เมื่อเย่หลินถามคำถามนี้ออกไป มือทั้งสองข้างก็เกร็งขึ้นอย่างไม่รู้ตัว
“สิ่งนี้ต้องใช้เวลานการแปลี่ยนแปลง ผมแนะนำ พวกคุณพาเขาไปอยู่ข้างกายของพวกคุณ และให้เขา
ค่อยๆทำความคุ้นเคยกับคุณ เมื่อผ่านไปนานแล้ว ไม่แน่เขาอาจจะกลับมาเป็นปกติได้ และก็ไม่แน่ว่า บางทีก็จะมีช่วงเวลาที่ดีและแย่ พวกคุณต้องเตรียมใจให้พร้อม”
เช้าวันรุ่งขึ้นที่สนามบิน
“พี่ชาย ฉันจะพาคุณกลับไปเมือง C ตกลงไหม ? คุณจำเมือง C ได้ไหม ? สถานที่ที่คุณเติบโต ?”