เด็กอัจฉริยะ แม่ลึกลับ - ตอนที่ 164 คุณ ไม่เหมาะสมกับเขา !
เธอเงยหน้า และเอาแซลมอนเข้าไปในปาก เธอถึงเงยหน้ามองขึ้นไปเห็นผู้หญิงที่อยู่ข้างหน้า ซึ่งเป็นผู้หญิงที่เจอที่จุดชมวิวในตอนบ่าย
เธอเปลี่ยนเสื้อผ้า เป็นชุดรัดรูปสีดำแบบเปิดเอว ที่ทำมาจากหนัง
พูดตามตรง ผู้หญิงทั่วไปสวมชุดแบบนี้ จะทำให้คนอื่นรู้สึกหยาบคาย แต่ผู้หญิงคนนี้สวมใส่แล้ว กลับรู้สึกดูหล่อมาก
ดูดีมาก เธอยกนิ้วให้เธอภายในใจ
อย่างไรก็ตาม ถ้าหากลบล้างสายตาดูถูกในแววตานั้นได้ ก็จะยิ่งดีขึ้น
“สวัสดีค่ะ”เธอยิ้มให้อย่างไม่รำคาญ แต่อย่างไรก็ตาม เมื่อมองจากมุมมองของผู้คน เธอก็คือเมียน้อย ดังนั้นการที่เธอมาปรากฎตัวกับหนิงเส่าเฉินในที่สาธารณะแบบนี้ มันจึงไร้ยางอายเล็กน้อย และก็ควรถูกดูหมิ่น
แต่ว่า คุณผู้หญิง !คุณไม่ใช่ฉัน และคุณก็ไม่ใช่หนิงเส่าเฉิน คุณยุ่งมากเกินไปหน่อยรึเปล่า ?
“คุณไม่คู่ควรกับเขา !”หญิงสาวนั่งลงตรงหน้าเธอ และพูดอย่างตรงประเด็น
ในใจของเย่หลินมีความสุข และรู้สึกชอบลักษณะนิสัยของเธอแบบนี้ อย่างน้อยก็เป็นที่ชื่นชอบมากกว่าเกาเหวินทั้งต่อหน้าและลับหลัง
เธอคีบปลาแซลมอนอีกชิ้นเข้าไปในปาก แล้วเงยหน้าขึ้นมองผู้หญิงตรงหน้าและพูดขึ้นว่า:“ ฉันชื่อเย่หลิน คุณผู้หญิง ชื่ออะไร นามสกุลอะไร ?”
“อวี๋ย่าหนาน”
เรียบง่ายและตรงไปตรงมา
เย่หลินพยักหน้า วางช้อนส้อมในมือลง และเม้มริมฝีปากแดงของเธอ “คุณอวี๋บอกว่าฉันไม่คู่ควรกับเขา เขาคนนี้ หมายถึง อาเฉินของครอบครัวเรา ?”
หลังจากพูดแบบนี้ เย่หลินก็รู้สึกว่าขนแขนของตัวเองลุกชันขึ้น
อาเฉินของครอบครัวเรา ? ไม่รู้ว่าถ้าผู้ชายคนนั้นได้ยินแล้ว จะรู้สึกอย่างไรบ้าง ?
คิดว่า เขาน่าจะเม้มริมฝีปาก กอดเอวของเธอ แล้วเรียกเธอว่าเสี่ยวหลินใช่ไหมนะ ?
มุมปากกระตุก โดยไม่ได้ตั้งใจ
ในความเป็นจริงอวี๋ย่าหนานมองผู้หญิงคนนี้มาระยะหนึ่งแล้ว นอกจากความสวยแล้ว เธอมองไม่ออกจริงๆว่าผู้หญิงคนนี้โดนเด่นตรงไหน ที่สามารถจะคู่ควงกับหนิงเส่าเฉินได้
และก็คิดไม่ออกว่าหนิงเส่าเฉิน มองเห็นจุดเด่นอะไรในตัวผู้หญิงคนนี้ ?
ในตอนนี้ เมื่อเห็นเธอพูดแบบนี้ ในใจก็ยิ่งรังเกียจเธอ
“คุณเย่ คุณไม่คิดว่าในฐานะเมียน้อย คุณพูดโอ้อวดแบบนี้ มันดูเกินไปหน่อยรึเปล่า ?”
เย่หลินพยักหน้า และยกแก้วน้ำส้มบนโต๊ะขึ้นมาจิบ แล้วพยักหน้าซ้ำแล้วซ้ำเล่า เมียน้อย ? อืม ใช่ เกินไปหน่อย ฉันก็ไม่ได้พูดโอ้อวดขนาดนั้น แต่……อาเฉินของเราต้องการให้ฉันมาให้ได้ ทำยังไงดีล่ะ ?
เธอพูดอาเฉินของเราออกมาอีกครั้ง และครั้งนี้รู้สึกว่าเธอพูดได้อย่างราบรื่น
การแสดงออกของอวี๋ย่าหนานจริงจังมาก เธอลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็ว แววตาของเธอเหี่ยวเฉาจ้องมองไปที่เย่หลิน “หลอกล่อผู้อื่นด้วยความงาม คุณเย่ คุณคิดว่าความภาคภูมิใจของตัวเองคืออะไร ?”
เย่หลินกำลังพูดคำพูดนั้นของเธอซ้ำอยู่ภายในใจ หลอกล่อผู้อื่นด้วยความงาม
อืม คำพูดนี้ ไม่มีอะไรผิด !แต่ว่า คุณผู้หญิง อาเฉินของพวกเรา ไม่ใช่ตกหลุมรักเธอเพราะว่า“ความงาม”หรอกนะ คุณดูผิดแล้ว !
เมื่อคิดถึงสิ่งนี้ ใบหน้าของเธอก็แสดงความภาคภูมิใจเล็กน้อย และก็รู้สึกอารมณ์ดีมาก
ในขณะนี้ ก็มองเห็นหนิงเส่าเฉินเดินมาทางเธอพอดี
เธอกระตุกคางไปทางอวี๋ย่าหนาน เพื่อเตือนเธอว่า หนิงเส่าเฉินมาแล้ว
แน่นอนว่า เมื่อเธอมองเห็นผู้หญิงที่อยู่ตรงข้ามเธอ สีหน้าของเธอก็ซีดลงมาก
“พวกคุณกำลังพูดอะไรกัน ?” หลังจากที่หนิงเส่าเฉินเดินมา เขาก็เดินไปอยู่ข้างกายของเย่หลินอย่างเป็นธรรมชาติ เขามองไปที่เธอและถามอย่างอบอุ่น
“ฉัน………”อวี๋ย่าหนานกำลังจะพูด
แต่ก็ถูกเย่หลินชิงพูดก่อน:“ ไม่มีอะไร แค่คุณอวี๋กำลังชมฉันว่ามีความสามารถในการหลอกล่อผู้ชายที่ดีอย่างคุณมาไว้ได้ พูดจบ เธอก็จงใจหยิบแก้วน้ำส้มที่จิบไปแล้วขึ้นมา และส่งให้กับหนิงเส่าเฉน ดื่มหน่อยไหม คั้นสด มันสดมาก”
ริมฝีปากของหนิงเส่าเฉินกระตุก เขารับมันมาอย่างเป็นธรรมชาติ เขาจิบพลางขมวดคิ้ว “คุณดื่มน้อยหน่อย มันค่อนข้างเย็น”
“คุณก็ด้วย ครั้งที่แล้วกระเพาะยังมีเลือดออกไม่ใช่เหรอ ?”เธอพูดพร้อมกับหยิบแก้วจากมือของหนิงเส่าเฉินออดไป “ไวน์แดงมีฤทธิ์แรง ต่อไปคุณห้ามดื่มเยอะ” น้ำเสียงของเธอมีความอ่อนหวานและห่วงใย
หนิงเส่าเฉินพยักหน้า และลูบหัวของเย่หลิน “ตกลง ผมฟังคุณ ต่อไปจะดื่มให้น้อยลง”
พวกเขาทั้งสองคนแสดงคสามรักที่ไม่เหมือนใคร ยิ่งกว่านั้นตั้งแต่หนิงเส่าเฉินมา ก็ไม่ได้มองเธออีกเลย ทำให้รอยยิ้มที่แข็งแกร่งบนใบหน้าของอวี๋ย่าหนานทนไม่ได้
“ประธานหนิง ที่ดินทางตอนใต้ ฉันได้ยินว่า คุณมีความคิดที่จะต้องการ ?”
เมื่อหนิงเส่าเฉินได้ยินคำนั้น เขาก็หันศีรษะมามองอวี๋ย่าหนาน ขมวดคิ้วแล้วพยักหน้า “ใช่ ที่ดินตรงนั้น หนิงกรุ๊ปจะต้องได้”
อวี๋ย่าหนานเม้มริมฝีปาก ก้มศรีษะลง ราวกับคิดอะไรอยู่ จากนั้นเธอก็เงยหน้าขึ้นมองหนิงเส่าเฉิน “ไม่รู้ว่าหนิงเส่า สนใจที่จะเสนอราคาหรือไม่ ?”
หลังจากพูดจบ เธอก็มองไปที่เย่หลินอย่างไม่เจตนา ความหมายนั้นก็คือ นี่คงทำให้คุณงงสินะ ? พวกเขากำลังพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องงาน คุณคงรับคำต่อไม่ได้แล้วสินะ ?
เย่หลินได้รับการจ้องมองของอวี๋ย่าหนาน และทันใดนั้นก็รู้สึกว่าผู้หญิงคนนี้ น่ารักเล็กน้อย
หนิงเส่าเฉินเป็นคนในแวดวงธุรกิจ ดังนั้นการติดต่อกับผู้หญิง จึงเป็นเรื่องที่ปกติมาก และการพูดคุยเรื่องานก็เป็นเรื่องปกติเช่นกัน
ถ้าหากว่าเขาพูดไม่กี่คำกับผู้หญิงคนไหน แล้วจะต้องโกรธ ถ้าอย่างนั้น เขาก็ไม่มีค่าอะไรมากมายกับเธอ
เมื่อคิดแบบนี้ เธอก็หัวเราะเยาะในใจ ตกลง ในเมื่อคุณอยากจะพูดคุยกับอาเฉินของเราขนาดนั้น เธอก็จะเว้นที่ให้
เมื่อคิดได้แล้ว เธอก็ลุกขึ้นยืน และจับแขนของหนิงเส่าเฉิน “ในเมื่อพูดคุยกันเรื่องงาน ถ้างั้นก็มานั่งพูดกัน”
หลังจากหนิงเส่าเฉินนั่งลง เย่หลินก็มองไปที่อวี๋ย่าหนานก่อน และสุดท้ายก็มองใบหน้าของหนิงเส่าเฉิน “เส่าเฉิน ฉันไปหาอะไรทานหน่อยนะ พวกคุณพูดกันไปก่อน เดี๋ยวอีกสักพักฉันกลับมาหาคุณ”
พูดจบ เธอก็หันหลัง จากไปโดยไม่คิดถึง
อวี๋ย่าหนานอดไม่ได้ที่จะเปิดริมฝีปากแดงของเธอ พฤติกรรมของผู้หญิงคนนี้ทำให้เธอประหลาดใจ
เธอยังคิดว่า เธอจะหึงหรือไม่ก็ไม่น่าจะให้อภัย……….
เย่หลินรู้สึกว่ารีสอร์ทนี้วันนี้จะต้องใช้เงินเป็นจำนวนมาก อาหารทะเลพวกนี้สดมาก สดจนทำให้เธอประหลาดใจ
เธอไม่สนใจที่จะไปเที่ยวหรือแต่งตัวเป็นพิเศษ กระเป๋าแบรนด์เนมที่ผู้หญิงทั้งหลายโปรดปราน เธอมักจะรู้สึกว่าของพวกนั้นมันดูฉูดฉาด
ซึ่งมันขัดกับค่านิยมของเธอ แต่ว่าสำหรับเรื่องกิน เธอกลับสนใจมากเป็นพิเศษ
ช่วงสองสามปีที่อยู่ต่างประเทศ หลังจากสภาพความเป็นอยู่ดีขึ้นเล็กน้อย เธอก็จะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อจะลองอาหารมากมาย และทำงานวิจัยบางอย่างกับอาหาร แต่ด้วยจำนวนเงินที่จำกัด และในหลายๆครั้ง ก็ทำได้เพียงเฝ้าดูและไม่สามารถทานได้
ดังนั้น ? ในช่วงเวลานี้มีอาหารอร่อยอยู่ตรงหน้า เธอก็ลืมเรื่องที่หนิงเส่าเฉินและอวี๋ย่าหนานพูดคุยกันไปนานแล้ว
และแน่นอนว่า เธอก็เชื่อมั่นในหนิงเส่าเฉิน
ถ้าหากเขาเปลี่ยนใจง่ายขนาดนั้น ถ้างั้นตลอดสี่ปี เขาก็คงเปลี่ยนไปหลายครั้งแล้ว ใครจะยังรอเธออยู่ตั้งหลายปี ?
เธอเชื่อมั่นว่า อาเฉินของเธอ ไม่ใช่คนผิวเผิน
และเธอก็เชื่อว่า พวกเขาจะเป็นคู่ชีวิตกัน
ทันใดนั้น ไฟ ก็ดับลง
สถานที่จัดงานก็ตกอยู่ในความมืด มองไม่เห็นแม้กระทั่งนิ้วมือทั้งห้านิ้ว