เด็กอัจฉริยะ แม่ลึกลับ - ตอนที่ 159 พินัยกรรมของแม่ ทำไมเธอถึงไม่รู้?
อย่างไรก็ตาม ดูจากการแสดงออกของเขาที่เหมือนรู้ทุกอย่าง พอคิดถึงตรงนี้ ใจของเย่หลินก็โล่งขึ้นมาก ขอแค่มีผู้ชายคนนี้อยู่ด้วย ดูเหมือนว่าเธอแทบจะไม่ต้องกังวลเลยก็ว่าได้
หนิงเส่าเฉินของเธอ ก็เหมือนกับคนที่สามารถทำได้ทุกอย่าง และคนที่สามารถทำได้ทุกอย่างคนนี้ เป็นของเธอ
คิดถึงตรงนี้ มุมปากก็ยกยิ้มขึ้น
ณ ตอนนี้ความโกรธก่อนหน้านั้น หายไปเป็นปลิดทิ้ง!
ผู้หญิงทุกคนมักจะง้อง่าย ไม่ว่าเธอจะโกรธมากแค่ไหน แค่ผู้ชายให้ความอบอุ่นกับเธอ ใจที่เย็นชา ก็อบอุ่นขึ้นได้
“นี่ครับ ถึงแล้วครับ!”
เด็กชายชี้ไปทางบ้านที่อยู่ข้างหลัง
เดินไปต่อไม่กี่นาที ทั้งสามก็มาหยุดอยู่ตรงหน้าบ้านพักตากอากาศที่ตกแต่งแบบสไตล์ยุโรป
ประตูห้องโถงที่สูง ประตูทำจากทองสัมฤทธิ์อย่างงดงาม หน้าต่างโค้งกลมและการก่ออิฐที่เข้ามุม ล้วนแสดงให้เห็นว่าสง่างามและหรูหรา….. ความหรูหราระดับนี้ ไม่น้อยหน้าไปกว่าคฤหาสน์ตระกูลหนิงเลย
มองไปรอบๆบ้านหลังนี้อีกครั้ง สวนแรงงานคนขนาดใหญ่นี้……
ถ้าไม่ใช่ว่ามาตามหาคน คนนอกคงคิดไม่ถึงว่า ในหมู่บ้านชนบทแบบนี้ กลับมีที่อยู่อาศัยหรูหราแบบนี้ซ่อนอยู่!
เธอก้าวขึ้นไปกดกริ่งที่ประตู ประตูเปิดเร็วมาก
คนที่มาเปิดประตูเป็นชายชราคนหนึ่ง ในมือถือถังน้ำที่จะรดน้ำต้นไม้ ปากถังยังคงมีน้ำหยดลง พอเงยหน้าเห็นเย่หลิน ถังน้ำในมือเขาก็ตกลงบนพื้น จากนั้นก็อ้าปากกว้าง“คุณท่าน คุณนาย…..”เขาตะโกนไปด้วย วิ่งเข้าบ้านไปด้วย ดูออกเลยว่าร่างกายเขายังคงแข็งแรง
หนิงเส่าเฉินไม่ได้พูดอะไร โอบเย่หลินเข้ามาภายในรั้วบ้าน
ตัวบ้านกว้างใหญ่มาก แต่กลับรู้สึกวังเวงแปลกๆ……
สามีภรรยาคู่หนึ่งเดินออกมาจากในบ้าน
เย่หลินจับมือหนิงเส่าเฉินไว้
“สองคนนั้นคือปู่กับย่าของเกาเหวิน”นิ่งไปพักหนึ่ง ก็พูดต่อว่า“เป็นคนที่เรื่องมาก!”
หลังจากพูดประโยคสุดท้าย หนิงเส่าเฉินก็ถอนหายใจ เย่หลินประหลาดใจมาก ดูจากสีหน้าหนิงเส่าเฉินแล้ว เขาน่าจะเคยเจอกับพวกเขามาก่อน
“อาเฉิน ผู้หญิงคนนี้เป็นใคร? นี่พวกเธอสองคนจะทำอะไรกัน?”เสียงของชายชรา
ดังขึ้น โยนไม้เท้ามาทางพวกเธอ
หนิงเส่าเฉินกอดเย่หลินไว้แล้วถอยหลังไปหนึ่งก้าว หลบเลี่ยงไม้เท้าเล่มนั้น
ชายชราคนนี้ดูเหมือนอายุจะราวๆเจ็ดสิบปี แต่งตัวด้วยเสื้อคลุมยาวสีกรมท่าแบบจีนสมัยก่อน ในมือกำไม้เท้ารูปหัวมังกร ตาสว่างใสดูมีชีวิตชีวา สุขภาพจิตใจดูเหมือนจะดีมาก หญิงชราที่ยืนอยู่ข้างเขา อายุใกล้เคียงกัน ใส่ชุดกี่เพ้าสีเดียวกัน ผมสีเทา มัดจุก ถ้าไม่มีอาคารรอบๆ เย่หลินคงคิดว่าตัวเองเดินหลงยุคไปแล้ว
“คุณปู่ คุณรู้สึกว่าเธอหน้าคุ้นๆไหม?”หนิงเส่าเฉินไม่ได้ตอบกลับชายชรา แต่กลับถามอีกคำถามหนึ่ง
ชายชราได้ยินแบบนั้น สายตาก็ตกไปที่เย่หลินอีกครั้ง จ้องเธอสักพัก เย่หลินก็สังเกตเห็นว่ามือของเขากำลังสั่น
“เธอ……เธอเกี่ยวข้องอะไรกับหลินผิง?”
เย่หลินประหลาดใจเล็กน้อย ชายชราคนนี้รู้จักกับแม่ เธอจับแขนของหนิงเส่าเฉินไว้ สูดหายใจเข้าแล้วเอ่ยปากตอบกลับไปว่า“เธอเป็นแม่ของฉัน”
“พ่อ เธอกับพี่สะใภ้หน้าตาเหมือนกันมากจริงๆ”ผู้ชายวัยกลางคนเดินออกมาจากบ้าน ส่งเสียงพูด สายตามองที่เย่หลินสลับกับหนิงเส่าเฉินไปมา
“แล้วแม่เธอล่ะ?”ชายชรารู้ว่าเธอเป็นใครก็รู้สึกแปลกใจ สีหน้าของเขาไม่มีอะไรเปลี่ยน แต่กลับมีความรู้สึกรังเกียจแทน
“เธอเสียแล้ว!”เย่หลินตอบกลับนิ่งๆ แต่สายตาเธอกลับมองไปที่ชายชรา ไม่ขยับไปไหน
“เสียแล้ว?”
“ควรตายได้ตั้งนานแล้ว!”จู่ๆหญิงชราที่ยืนอยู่ข้างๆชายชราก็เอ่ยขึ้น ในสายตาคู่นั้นยังมีรอยยิ้มบางๆซ่อนอยู่ด้วย
แม้ว่าแม่ของเธอจะไม่ได้ดีกับเธอมากนัก แต่ก็เป็นคนที่ให้กำเนิดและเลี้ยงดูเธอมา พอตอนนี้ได้ยินคนอื่นพูดเธอแบบนี้ อารมณ์ของเย่หลินก็ร้อนลุกเป็นไฟ“
คุณเป็นใคร มีสิทธิ์อะไรมาว่าแม่ฉันแบบนี้?”
“เส่าเฉิน นายกับเธอมันเรื่องอะไรกัน?เสี่ยวเหวินล่ะ?”ชายวัยกลางคนเมื่อกี้ก็พูดขึ้นอีกครั้ง สายตามองไปที่มือของทั้งสองคนที่ประสานกันอยู่
เย่หลินถึงได้รู้สึกตัวขึ้นมา นี่เป็นปู่กับย่าของเกาเหวิน แต่เธอกลับจับมือหนิงเส่าเฉินอย่างเปิดเผยแบบนี้ มันคงมากเกินไปหน่อย
พอคิดแบบนั้น ก็อยากจะเอามือของตัวเองออก แต่กลับถูกหนิงเส่าเฉินกำไว้แน่นกว่าเดิม
“คุณลุง ผมกับเขามีความสัมพันธ์แบบไหน คุณไม่ลองไปถาม‘พ่อ’ดูล่ะ”เขาพูดเน้นคำว่าพ่อ
พ่อ นั่นหมายถึงพ่อของเกาเหวิน
ตอนนี้เย่หลินงงไปแล้ว ไม่เข้าใจที่หนิงเส่าเฉินพูดแบบนี้ ทำแบบนี้ไปเพื่ออะไร?
ไม่ใช่บอกว่าให้ทำตัวถ่อมตนหรอกเหรอ?
ตอนนี้กลับพูดทุกอย่างจนชัดเจน แล้วละครที่จะเล่นกับเกาเหวินต่อจากนี้ล่ะ?
“คุณคะ คุณดูสิ เขา…..เขาพูดอะไรน่ะ?”หญิงชราคนนั้นจับแขนชายชราเขย่าไปมา
เย่หลินอดไม่ได้ที่จะหันไปมองหนิงเส่าเฉิน และเห็นว่า ตั้งแต่เขาเข้ามาจนถึงตอนนี้สีหน้าก็ไม่ค่อยดีนัก
หนิงเส่าเฉินตบหลังมือเธอเบาๆ แล้วพูดขึ้น“ที่พวกเรามาครั้งนี้ แค่อยากจะมาถามเรื่องบางอย่าง ถ้าได้คำตอบแล้วพวกเราก็จะไป”
“เส่าเฉิน นี่คือกิริยาที่นายมีต่อผู้ใหญ่เหรอ?”หนิงเส่าเฉินเพิ่งจะพูดจบ ชายชราคนนั้นก็ทุ่มไม้เท้ากับพื้นอย่างแรง
เย่หลินขมวดคิ้ว อยากจะพูดแก้ตัวให้หนิงเส่าเฉิน มือที่โอบอยู่บนเอวก็แน่นขึ้น หนิงเส่าเฉินก้มหน้ามองหน้าเล็กๆของเย่หลินที่กำลังโกรธอยู่ รอยยิ้มบนใบหน้าก็ค่อยๆเกิดขึ้น
“นังจิ้งจอกคนนั้นเป็นแบบไหน ลูกสาวที่คลอดออกมาก็เป็นแบบนั้น ดีแต่อ่อยคนไปทั่ว”หญิงชราคนนั้นเอ่ยปากพูดอีกครั้ง
เย่หลินสูดหายใจเข้า กำลังจะด่ากลับไป ทันใดนั้นหนิงเส่าเฉินก็ใกล้เข้ามา กระซิบที่หูของเธอ“ถามเรื่องที่เธออยากรู้ก่อน”
เย่หลินนิ่งไป คิดดูแล้ว ก็เอ่ยปาก“ที่ฉันมาแค่อยากจะถามว่า พวกคุณรู้จักพ่อแท้ๆของฉันไหม?”
ชายชราคนนั้นสองมือกำไม้เท้าไว้ สายตามองมาที่เย่หลิน เหมือนว่ากำลังคิดอยู่ว่าจะตอบเธอยังไง สุดท้าย เขาก็หายใจเข้าลึกๆ “เรื่องนี้ไม่สามารถบอกได้ พวกเธอรีบไปเถอะ ที่นี่ไม่ต้อนรับพวกเธอ”
พูดจบ เขาก็หันหลัง กำลังจะจากไป
“เย่จึ ในเมื่อพวกเขาไม่พูดอะไรเลย ถ้าอย่างนั้น บ้านพักตากอากาศหลังนี้ ที่ดินผืนนี้ คือสิ่งที่ยายของคุณมอบให้แก่แม่คุณเมื่อตอนนั้น ตอนแม่คุณเสีย คงระบุไว้ในพินัยกรรมว่า ถ้าไม่มีลายเซ็นของคุณ ก็ไม่มีใครสามารถยุ่งกับของพวกนี้ได้ ผมพูดถูกไหม?”หนิงเส่าเฉินกล่าวเสียงแข็ง
ตอนนี้เย่หลินงงไปหมดแล้ว……พินัยกรรมอะไร? บ้านและที่ดินอะไร? หนิงเส่าเฉินกำลังพูดเรื่องอะไรอยู่? ทำไมเธอถึงไม่รู้เรื่อง?
ถ้าแม่มีทรัพย์สินมากมายขนาดนี้ แล้วเธอจะคลอดหนิงเสี่ยวซีเพื่อหาเงินมารักษาเธอทำไม?