เด็กอัจฉริยะ แม่ลึกลับ - ตอนที่ 157 ตามหาตัวตนที่เป็นความลับ
เย่หลินนิ่งไปพักหนึ่ง หันหลัง ก็เจอเข้ากับผู้ชายคนหนึ่ง ตอนแรกเธองง โม่หาน?
นึกถึงครั้งที่แล้วที่ฉันใช้เขามาทำให้หลิงเส่าเฉินโกรธ ก็รู้สึกละอายขึ้นมา
“โม่หาน คุณกลับประเทศมาตั้งแต่เมื่อไหร่? คุณก็อาศัยอยู่ที่นี่เหรอ?”
“เมื่อกี้ผมมองจากข้างหลังก็คิดอยู่ว่าเหมือน นึกว่าจะดูผิดไป พ่อผมอยู่ที่นี่น่ะ ผมกลับมาไม่กี่วัน มีหนังเรื่องหนึ่งที่ถ่ายทางนี้ ผมก็เลยมาเยี่ยมเขา ”เย่หลินพยักหน้า เธอเคยได้ยินชูหยูจี้พูดถึง ว่าความสัมพันธ์ของพ่อแม่โม่หานไม่ค่อยดี แยกกันอยู่มาตลอด
“อ๋อ แบบนี้นี่เอง”เธอยิ้มให้เขาแบบเป็นพิธี
รอยยิ้มนั้น ราวกับสายลมในฤดูใบไม้ผลิ ทำให้โม่หานอึ้งจนเหม่อไปพักหนึ่ง ถึงได้สติกลับมา
“คุณจะไปไหนเหรอ?”
ริมฝีปากเย่หลินขยับ “เอ่อคือ ตอนบ่ายฉันจะไปทำธุระที่เมืองw”
“ไปเมืองw? พอดีเลย ผมก็ถ่ายหนังที่นั่นเหมือนกัน ถ้าไม่รังเกียจ นั่งรถไปด้วยกันกับผมไหม?”โม่หานพูดจบ ก็หยิบมือถือขึ้นมา หน้าจอขึ้นบนหน้าการนำทางพอดี ที่หมายที่ตั้งไว้ คือเมืองwจริงๆ
เย่หลินกัดริมฝีปากล่าง อยากบอกว่าตัวเองซื้อตั๋วรถไฟแล้ว ไม่รบกวนเขาดีกว่า แต่ว่า เธอไม่ใช่คนที่ปฏิเสธคนเก่ง แล้วยังรู้สึกว่าเรื่องคราวก่อน ตัวเองทำไม่ถูกต้องจริงๆ ไม่รู้ว่าชูหยูจี้ได้อธิบายให้เขาฟังหรือยัง หลังจากวันนั้น เขาก็ไม่ได้ตามตื้อเธออีกเลย แต่ในใจเธอยังรู้สึกมีความละอายอยู่บ้าง พอเป็นแบบนี้ก็ยิ่งปฏิเสธยากเข้าไปอีก
“ผมแค่กำลังจะไปที่นั่นพอดี คุณไม่ต้องกดดันขนาดนั้นก็ได้”โม่หานคงจะดูออกว่าเธอลังเล คิดแล้วก็พูดต่อว่า“ผมฟังจากหยูจี้มาแล้วเรื่องคุณกับลูกพี่ลูกน้องเขา ที่จริงคืนนั้น ผมก็ดูออกแล้ว ว่าพวกคุณรักกัน เพราะฉะนั้น ไม่ต้องกดดัน ตอนนี้ผมคิดว่าคุณเป็นเพื่อนคนหนึ่ง”
เขาพูดขนาดนี้แล้ว ถ้าเย่หลินยังปฏิเสธอีก คงจะดูเหมือนเป็นคนใจแคบ จึงพยักหน้าไป
“ถ้าอย่างนั้นพวกเราไปชั้นใต้ดินไหม หาอะไรกินสักหน่อย ก็รีบไปเลย คุณคิดว่าไง?”สีหน้าโม่หานมีความพอใจ ที่เห็นเย่หลินเริ่มผ่อนคลาย ก็รีบชี้ไปที่ลิฟต์ นำให้เธอทำการตัดสินใจ
เย่หลินคิดถึงที่ที่ตัวเองจะไป มันก็ค่อนข้างไกลจากสถานีรถไฟ แล้วโม่หานเองก็เป็นเพื่อนของชูหยูจี้ คิดๆแล้ว ก็พยักหน้า “คงต้องรบกวนคุณแล้ว”
จากนั้น ทั้งสองคนก็หันหลังจากสวนของหมู่บ้านไปยังลิฟต์ที่อยู่ทางขวา
เพราะฉะนั้น ตั้งแต่ต้นจนจบ เย่หลินไม่เห็นผู้ชายที่รอเธออยู่นอกประตูที่อยู่ไม่ไกลเลย
ก่อนหน้านี้หนิงเส่าเฉินนัดเย่หลินกินข้าวเที่ยงด้วยกัน เห็นเธอยังไม่ออกมา หันหลังกำลังจะขึ้นรถ แนวสายตาก็ไปเห็นรถสปอร์ตสีเทาควันบุหรี่ขับขึ้นมาจากชั้นใต้ดินที่ห่างออกไปไม่กี่เมตรพอดี ผู้หญิงที่นั่งอยู่ในรถถ้าไม่ใช่เย่หลินแล้วจะเป็นใคร?
ไม่รู้ว่าผู้ชายที่เป็นคนขับรถพูดอะไรกับเธอ เธอถึงได้ยิ้มอย่างมีความสุขแบบนั้น
หลิวซูที่นั่งวิดีโอคอลกับหนิงเชี่ยนอยู่ในรถ ก็เห็นรถที่กำลังแล่นมาอยู่ตรงข้ามเหมือนกัน และเห็นเย่หลินที่นั่งอยู่ข้างคนขับ
แทบไม่สนใจว่าหนิงเชี่ยนกำลังพูดอยู่กับเขา ผลักประตูออกไป รีบร้อนอยากบอกหนิงเส่าเฉิน แต่กลับเห็นว่าสีหน้าเขามืดมนจนน่ากลัว เห็นได้ชัดว่าเขาเองก็เห็นแล้วเหมือนกัน
เขาเม้มปาก ชี้ไปที่รถสปอร์ตที่ตอนนี้เห็นแค่ไฟท้าย “ยังไงครับ?จะตามไปไหม?”
หนิงเส่าเฉินไม่พูดอะไร แค่เข้าไปนั่งในรถ แล้วปิดประตูรถแรงๆ
เขาโทรหาเธอไม่รับ ส่งข้อความ ส่งวีแชตไปก็ไม่ตอบ รู้ว่าคำพูดของตัวเองคำนั้น อาจจะทำร้ายใจเธอ แต่ ที่จริงเขาแค่อยากให้เธอใช้ชีวิตที่ง่ายขึ้น มีความสุขมากขึ้น
ต่อมาก็ไปพูดกับหลิวซู หลิวซูโทษเขาที่พูดตรงเกินไป เพราะฉะนั้น เขาถึงได้ไม่สนว่าบริษัทยังมีงานที่ต้องสะสางอีกมากแค่ไหน ก็รีบมาที่นี่ตั้งแต่เช้า อยากจะเซอร์ไพรส์เธอ
แต่เธอกลับนั่งหัวเราะอย่างมีความสุขอยู่ในรถกับผู้ชายคนอื่น
“คนคนนั้น เหมือนจะเป็นคนที่ชื่อโม่หานเมื่อตอนนั้นหรือเปล่า? คนที่อยู่ต่างประเทศ ที่พวกเขานัดบอดกัน หน้าตาก็ถือว่าดี เห็นว่ามีชื่อเสียงโด่งดังอยู่ภายในประเทศ……”หลิวซูยังพูดไม่ทันจบ ก็เห็นหนิงเส่าเฉินมองมาตาขวาง ก็รีบเปลี่ยนคำพูดอย่างรวดเร็ว “แน่นอน เทียบกับประธานหนิงคุณแล้ว นั่นมันแตกต่างกันราวฟ้ากับเหวเลย”
“พอๆ นายรีบตามไป……”
จากนั้น ทั้งสองก็ตามรถสปอร์ตไปตลอดทาง มองทั้งสองคนคุยกันหัวเราะกันแล้วไปที่ร้านก๋วยเตี๋ยวก่อน สั่งกันคนละถ้วย กินเสร็จแล้วก็รีบขึ้นรถไป
“คิดไม่ถึงจริงๆ ว่าเมื่อตอนนั้นคุณก็เคยไปเมืองs?”
“ผมก็แค่ฟังหยูจี้พูดถึงหลายครั้ง จากนั้น ก็ลองไปดู ภูมิทัศน์ที่นั่นสวยมากจริงๆ”เย่หลินพบว่าโม่หานคนนี้ แม้ว่าเขาจะดูเด็ก แต่กลับผ่านประสบการณ์มามากมาย
“อืม ทางนั้นสวย แต่กลับไม่มีเสน่ห์เท่าเมืองหลวง”
“ผู้หญิงสมัยนี้ โดยเฉพาะผู้หญิงที่สวยๆ ก็ต่างโหยหาที่จะมาใช้ชีวิตในเมืองหลวง หาได้ยากที่เย่หลินเธอจะคิดถึงบ้านขนาดนี้ หาได้ยาก……”คำชมของเขาไม่ได้พูดตรงๆ แต่กลับทำให้เธอรู้สึกว่าได้รับมัน
ดวงตาของเย่หลินนิ่งไป สักพัก เธอก็พูดยิ้มๆว่า“ฉันกลับคิดว่า หากได้ใช้ชีวิตในเมืองs ก็เป็นตัวเลือกที่ไม่เลว เมืองหลวงเป็นที่ที่ดี แต่กลับไม่มีความรู้สึกและความเรียบง่ายเหมือนเมืองเล็กๆ”
โม่หานยิ้ม “ตอนที่ผมกลับมา ก็ได้รู้จักกับผู้หญิงคนหนึ่ง เธอก็พูดคำพูดแบบนี้เหมือนคุณ”
เย่หลินยิ้ม“จริงเหรอ? ผู้หญิงสมัยนี้ ที่ยังโหยหาจะใช้ชีวิตอยู่ในเมืองเล็กๆ มีไม่เยอะจริงๆ”
โม่หานพยักหน้า เหมือนว่านึกถึงใครสักคนหรือเรื่องบางเรื่อง มุมปากสวยๆนั้นยกยิ้มขึ้น พวงมาลัยหมุนไปทางซ้าย เข้าสู่ทางไฮเวย์
“เหมือนพวกเขาจะไปเมืองw ยังจะตามไปไหมครับ?”หลิวซูมองรถสปอร์ตเข้าไปทางไฮเวย์ หันไปถามหนิงเส่าเฉิน หนิงเส่าเฉินไม่ได้พูดอะไร หลิวซูจึงพยักหน้า ตามขึ้นไปเอง
เพราะตามติดแบบใกล้มาก พวกเขาถึงเห็นได้ชัดเจนว่าคนสองคนที่อยู่ในรถคันข้างหน้าคุยกันตลอดทาง และคุยอย่างสนุกสนานด้วย หนิงเส่าเฉินรู้สึกเหมือนมีอะไรจุกอยู่ในอก ขมวดคิ้วไว้แน่นตั้งแต่ขึ้นรถจนถึงตอนนี้
“ยังมีระยะทางอีกช่วงหนึ่ง คุณจะนอนก่อนไหม?”โม่หานเห็นว่าสีหน้าเย่หลินไม่ค่อยดี จึงพูดแนะนำขึ้นมา
เย่หลินประหลาดใจกับความใส่ใจรายละเอียดของผู้ชายคนนี้ เธอแค่ขยี้ตาเท่านั้นเอง ยิ้มกลับไป“โอเค……”
พูดจบ โม่หานก็เอียงไปด้านข้าง แขนยาวนั้นยื่นไปยังเบาะหลัง หยิบเสื้อคลุมบางๆตัวหนึ่ง ส่งไปให้เย่หลิน “คลุมไว้หน่อยเถอะ อยู่ข้างนอก ร่างกายเป็นของตัวเอง ต้องดูแลดีๆ”
เย่หลินรับเสื้อคลุมไหมพรมบางๆตัวนั้นมา สีดำสนิท มีกลิ่นหอมจางๆ ตรงอกเสื้อ ปักดอกกุหลาบไว้ดอกหนึ่ง ไม่เหมือนเสื้อของผู้ชาย เธอยิ้มขึ้น คลี่เสื้อออกคลุมตัวของตัวเองไว้ แล้วหลับตา
หลายวันมานี้ อารมณ์ของเธอตึงเครียดมาก เพราะแบบนั้น จึงนอนไม่ค่อยหลับ พอตอนนี้รู้สึกโล่งขึ้นมาหน่อย เธอก็หลับลึกไปเลย
“จิ๊จิ๊ ดูเหมือนทั้งสองคนจะเข้ากันได้ดีนะครับ?”หลิวซูแกล้งทำเป็นมองไม่เห็นสีหน้าของหนิงเส่าเฉิน พูดขึ้น
ผู้ชายที่อยู่ข้างๆ ทั้งตัวกำลังลุกเป็นไฟ สายตาก็เย็นชาขึ้น พูดขึ้นเสียงเย็นว่า“กล้าแย่งผู้หญิงกับฉัน กล้ามาก! ”