เด็กอัจฉริยะ แม่ลึกลับ - ตอนที่ 152 เบื้องหลังของพ่อ
อีกอย่าง ประธานเหลียง?
แม่บอกว่าพ่อทำธุรกิจเล็กๆไม่ใช่เหรอ?
แต่ คนที่สามารถมาที่นี่ในวันนี้ ถ้าไม่ใช่ว่ามีชื่อเสียง ก็ต้องร่ำรวย พวกเขาปฏิบัติตัวแบบนี้กับเขา ทำธุรกิจเล็กๆ? ไม่ ไม่มีทาง……
เธอก้มหน้า ปกปิดความรู้สึกที่ซับซ้อนในสายตา แล้วเงยหน้าขึ้นอีกครั้ง ในตามีแต่ความสงบ มองไม่เห็นสิ่งอื่น
“ประธานเหลียง คุณมาก็ดีแล้ว งานเลี้ยงวันนี้คุณเป็นคนจัดใช่ไหม? แขกคนนี้ของคุณ อ่อยฉันอย่างเปิดเผย พอทำไม่สำเร็จ กลับกลายเป็นว่าคนผิดคิดจะฟ้องก่อน คุณต้องทวงความเป็นธรรมให้ฉัน” ผู้กำกับวังคนนั้นเห็นเหลียงกั้วอัน สีหน้าที่แต่เดิมมีความชัดเจนก็ยิ่งชัดเจนเข้าไปอีก
เหลียงกั้วอันมองตามสายตาของเขา มองมาทางเย่หลิน
จากนั้น สีหน้าเขาก็เปลี่ยน ในตามีความประหลาดใจอย่างเห็นได้ชัด เดินหน้าเข้าใกล้ เขาเอ่ยปาก กำลังเตรียมจะพูดอะไรสักอย่าง
แต่เห็นเย่หลินเดินใกล้เข้ามาอย่างช้าๆ พูดอย่างมีน้ำเสียงที่นิ่งว่า“สวัสดีค่ะ ประธานเหลียง……ฉันชื่อเย่หลิน”ทั้งๆที่เป็นคำพูดแค่ไม่กี่คำ แต่เย่หลินกลับรู้สึกว่าตัวเองใช้พลังงานทั้งหมดไป
เธอกับเขาอยู่ใกล้กันมาก ดังนั้น เธอเห็นมือของเหลียงกั้วอันกระตุกได้ชัด ก้มหน้าลง และเมื่อเงยหน้าขึ้นอีกครั้ง สีหน้าก็กลับไปเป็นเหมือนเดิม
“เย่หลิน ใช่ไหม? คือ นี่มันเรื่องอะไรกัน?”
เย่หลินมองผู้ชายตรงหน้า ผู้ชายคนที่ตัวเองเรียกว่าพ่อมาสิบกว่าปี ตอนนี้ ถ้าไม่ใช่เพราะหน้าตาแบบนั้น เธอจะไม่มีทางเอาเขาไปเชื่อมโยงกับคนที่เธอรู้จัก
“ประธานเหลียงอยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เปิดดูภาพจากกล้องวงจรปิด ก็รู้แล้วไม่ใช่เหรอคะ?”เธออยากจะรู้นัก พ่อของเธอ จะให้ความเป็นธรรมหรือเปล่า
“พ่อ พ่อจะลังเลอะไรอีก ไล่เธอออกไป ก็พอแล้วไม่ใช่เหรอ?”เสียงของผู้หญิงดังขึ้นข้างหูของเย่หลิน
เธอหันไปมองผู้หญิงคนนั้นทันที
ผู้หญิงคนนี้เหมือนเธอเคยเจอที่ไหนมาก่อน? เธอหลับตาตั้งใจคิด อ้ออ้อ ใช่ ผู้หญิงที่มากับเซี่ยอวี่ในวันหมั้นของหนิงเส่าเฉิน แต่ว่า เธอเรียกเหลียงกั้วอันว่าพ่อ?
คิดมาถึงตรงนี้ ก็ยิ่งช็อกเข้าไปใหญ่
พ่อยังมีลูกคนอื่น?
“ผู้กำกับวัง คุณคิดว่าต้องการเปิดมันไหม?”เหลียงกั้วอันมองผู้กำกับวังคนนั้น พูดขึ้นเสียงเย็น
ผู้กำกับวังคนนั้นดูตกใจกับการกระทำของเหลียงกั้วอันมาก เขารู้อยู่แล้วว่าที่นี่มีกล้องวงจรปิด
แต่ว่า เขาอยู่ในวงการนี้มานาน ชื่อเสียงก็ไม่ใช่น้อยๆ
ขอแค่มีความเกี่ยวข้องกับวงการนี้ ไม่ว่าใครก็ต้องไว้หน้าเขา ไม่มากก็น้อย แต่เหลียงกั้วอันคนนี้ กลับเข้าข้างผู้หญิงคนนั้น
พอได้ยินว่าจะเปิดภาพจากกล้องวงจรปิด ก็รีบกุมท้องไว้ทันที“โอ้ย ฉันปวดท้อง ฉัน……ฉันไปห้องน้ำแป๊บหนึ่ง ไว้กลับมาค่อยมาหาเธอ”
การที่เขาหนีไปแบบนี้ ก็ถือว่าเป็นการบอกความจริงเรื่องนี้กับทุกคนแล้ว
เขาหันไปมองเย่หลินอีกครั้ง คนนามสกุลวังนั่นยังกล้าท้าทายเธออย่างเปิดเผย
เย่หลิน บริษัทซีเอกซ์เมคอัพ นี่คงเป็นครั้งแรกในวงการภายในประเทศ ที่มีคนจดจำเธอ
เหอเฟยที่เพิ่งเดินเข้ามาจากข้างนอก เจอเข้ากับเย่หลินที่เดินออกมาจากกลุ่มคนพอดี ก็เดินเข้าไปแตะที่หน้าผากเธอ “เกิดอะไรขึ้น? ทำไมมีคนรุมเยอะขนาดนี้?”
เย่หลินยิ้มน้อยๆ“ไม่มีอะไร แค่หมาที่กัดคนอื่นไปทั่ว”
“ประธานเหอ ฉันไม่ค่อยสบาย ฉันอยากกลับก่อน”
เหมือนกับมองอารมณ์ของเธอออก ว่าไม่โอเค เหอเฟยจึงพยักหน้า เดินเข้าไปจับแขนเธอไว้ “เดี๋ยวฉันไปเป็นเพื่อน”
“คุณหนูเย่ ดื่มด้วยกันสักแก้วได้ไหม?”เหลียงกั้วอันเดินเข้าไป ยืนอยู่ตรงหน้าเย่หลิน
เย่หลินกลืนน้ำลาย ในตาพร่าเลือน
เธอคิดว่าหากตัวเองเจอกับเขาอีกครั้ง จะเกลียด จะด่า จะใจร้าย แต่ว่า……วินาทีนั้น เธอกลับอยากร้องไห้
เรียกว่าพ่อมาสิบปี มันมีความรู้สึก!
“ขอโทษค่ะ ฉันไม่ค่อยสบาย”เธอพูดปฏิเสธเขาเสียงเย็น
เหอเฟยสัมผัสได้ถึงความผิดปกติของเธอ แต่ไม่ได้ถามอะไรมาก พาเธอไปส่งที่ชั้นล่าง แล้วจึงแยกออกไป
ตอนที่แยกไป เธอได้โทรหาหนิงเส่าเฉิน พูดถึงสถานการณ์ตอนนี้ให้เขาฟัง
ดังนั้น พอเย่หลินถึงบ้าน หนิงเส่าเฉินก็หน้านิ่ง ดึงเธอไปเช็คอาการ“คุณเป็นอะไรหรือเปล่า?”
เย่หลินยื่นมือออกไป กอดหนิงเส่าเฉินไว้แน่น เวลาผ่านไปนาน เธอถึงเอ่ยปากพูดขึ้นเบาๆ“เส่าเฉิน……”
หนิงเส่าเฉินดึงเธอออกจากอ้อมกอด เห็นหน้าของเธอเต็มไปด้วยน้ำตา สายตาเขามืดลงทันที “เขาทำอะไรกับคุณใช่ไหม?”
เย่หลินส่ายหน้า ดึงหนิงเส่าเฉินไปนั่งลงตรงโซฟา เธอเม้มปาก “เส่าเฉิน คุณรู้จักเหลียงกั้วอันไหม?”
หนิงเส่าเฉินใช้ทิชชูเช็ดน้ำตาให้เธอ ได้ยินเธอพูดถึงเหลียงกั้วอัน มือก็กระตุกไปทีอย่างเห็นได้ชัด
“ประธานอันเหนิงกรุ๊ป ทำไมหรอ?”
ประธานอันเหนิงกรุ๊ป? ถึงแม้ความรู้ของเย่หลินจะน้อย แต่เธอก็เคยได้ยินชื่ออันเหนิง เป็นบริษัทที่ทำผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในชีวิตประจำวัน พื้นฐานเป็นผู้นำผลิตภัณฑ์ด้านการดูแลและใช้งาน ตอนเธอขึ้นมัธยมต้นก็ได้ยินชื่อเสียงมาบ้าง ถือว่าเป็นที่รู้จักกันดีของคนภายในประเทศ
เธอกุมหน้าผากไว้ ผ่านไปนานถึงเอามือออก มองไปที่หนิงเส่าเฉิน “เส่าเฉิน เขาเป็นพ่อของฉัน”
หนิงเส่าเฉินที่ปกติเป็นคนนิ่งๆ แต่ในเวลานี้กลับประหลาดใจจนเห็นได้ชัด “คุณ……ไม่ใช่ว่าพ่อแม่เสียแล้วเหรอ?”
เย่หลินได้ยินแบบนั้น เงยหน้าขึ้นยิ้มบางๆให้หนิงเส่าเฉิน ผู้ชายคนนี้ทั้งโหดและฉลาด แต่พอเป็นเรื่องเธอ เขากลับเลือกที่จะเชื่อแบบไม่มีข้อแม้ ตอนนั้นหลิวซูก็คงจะดูประวัติของเธอแบบคร่าวๆ ไม่ได้ตรวจสอบอะไรที่ลึกมากกว่านั้น ไม่อย่างนั้น หนิงเสี่ยวซีกับชูหยูจี้ก็สามารถตรวจสอบข้อมูลปลอมแปลงก่อนอายุสิบแปดของเธอได้แล้ว ด้วยฝีมือของผู้ชายคนนี้ ไม่มีทางที่จะสืบไม่ได้
แต่ เขากลับเลือกที่จะเชื่อ พอคิดถึงตรงนี้ เธอก็รู้สึกสบายใจ
“ฉันโกหกคุณ……เส่าเฉิน ทำไมคุณไม่เคยถามฉันเลย ว่าทำไมฉันต้องคลอดหนิงเสี่ยวซี?”
หนิงเส่าเฉินจ้องหน้าเธอ นิ้วเรียวยาวนั้นลูบแก้มเธอ“ถ้าคุณเต็มใจจะพูด ผมก็จะฟัง ถ้าไม่เต็มใจ ผมก็เคารพการตัดสินใจของคุณ”
เย่หลินดึงมือเขามาวางไว้ที่หัวของตัวเอง ขมวดคิ้ว เอ่ยปากเล่าเรื่องเมื่อตอนอายุสิบแปดปีอย่างช้าๆ
อาจเป็นเพราะข้างกายตอนนี้มีหนิงเส่าเฉิน หนิงเสี่ยวซีกับหนิงเสี่ยวโม่ พอพูดถึงเรื่องราวที่ผ่านมาอีกครั้ง เธอดูสงบ ไม่มีความทุกข์เหมือนก่อนหน้านี้
แต่มือของหนิงเส่าเฉินที่กอดเอวเธออยู่ รัดบ้าง คลายบ้าง เย่หลินรู้ว่านั่นเป็นการแสดงความรู้สึกของเขาอีกแบบหนึ่ง
ในที่สุดก็เล่าเรื่องหลายปีที่ผ่านมานี้ เล่าเป็นระยะๆจนจบ เงยหน้าขึ้น เธอก็เห็นตาของหนิงเส่าเฉินนั้นแดง
“ต่อไป ผมจะไม่ให้คุณลำบากอีก ผมสัญญา”เขาจูบเบาๆที่หน้าผากของเธอ พูดสัญญาเสียงต่ำ
พูดจบ ก็หยิบมือถือข้างๆขึ้นมาโทรหาหลิวซู “นายไปตรวจสอบเรื่องของเหลียงกั้วอัน พรุ่งนี้เอามาให้ฉัน” นิ่งไปพักหนึ่ง แล้วพูดต่อว่า “คนนามสกุลวังนั่น มีละครหลายเรื่องที่หนิงกรุ๊ปเป็นคนสนับสนุนใช่ไหม? รีบยกเลิกให้หมด”
ไม่รู้ว่าหลิวซูพูดอะไร หนิงเส่าเฉินถึงพูดขึ้นเสียงเย็นว่า“ไม่ต้องไปคิดถึงผลที่ตามมา”
พูดจบก็วางสาย
ในคืนนี้ หายากที่หนิงเส่าเฉินจะเงียบ ไม่ทำอะไรเลย กอดเธอไว้อย่างเดียวแล้วหลับไป
ตื่นขึ้นมาตอนเช้า ข้างกายว่างเปล่า เย่หลินขมวดคิ้ว