เด็กอัจฉริยะ แม่ลึกลับ - ตอนที่ 151 พ่อที่หายไปสิบปีปรากฏตัว
เกาเหวินเห็นว่าเธอไม่ได้สนใจตัวเอง รู้สึกเหมือนหาเรื่องให้ตัวเองลำบากใจ จึงลุกขึ้น มองเธออีกครั้ง แล้วเดินเข้าไปในกลุ่มคน
สายตาเธอมองตามแผ่นหลังที่เดินออกไป กลับเห็นเหอเฟยที่เดินเข้ามาจากข้างนอก
เห็นได้ชัดว่าเกาเหวินเองก็เห็นเธอเหมือนกัน
เพียงแต่สายตาของเหอเฟยอยู่ที่เย่หลินตลอดเวลา ดังนั้นเธอจึงไม่เห็นเกาเหวิน
เย่หลินมองมือของเกาเหวินที่ยกขึ้นแล้วเอาลง เย่หลินก้มหน้า กลั้นยิ้มเอาไว้
เกาเหวินมองเหอเฟยนั่งลงตรงที่นั่งตรงข้ามกับเย่หลิน ในตาแฝงไปด้วยความประหลาดใจ
น้าของหนิงเส่าเฉินกับเย่หลินอยู่ด้วยกัน?
“ประธานเหอ คุณกำลังหลบคุณอวี๋อยู่เหรอ?”
เหอเฟยเพิ่งดื่มเครื่องดื่มเข้าไป ได้ยินเย่หลินถามเธอแบบนี้ แทบสำลัก เธอไอสองสามครั้ง จ้องไปที่เธอ“เธอรู้จักเขาได้ยังไง?”แล้วนึกอะไรขึ้นได้ “อ๋อ วันนั้นพี่สาวฉันเคยพูดถึง”
นิ่งไปสักพัก ก็ยิ้มขึ้นที่มุมปาก หัวเราะเยาะตัวเองแล้วพูดขึ้นว่า“เธอคงคิดว่าฉันน่าตลกสินะ บางทีเขาอาจจะจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าฉันเป็นใคร?”
พอนึกถึงการกระทำของชายคนนั้น เย่หลินก็ขมวดคิ้ว“อาจจะไม่ใช่แบบนั้น!หลังจากที่คุณไป เขาก็ถอยออกจากผู้หญิงกลุ่มนั้น แล้วเหม่อมองดูแผ่นหลังของคุณ”
มือของเหอเฟยกำแก้วไว้แน่น เธอมองไปที่เย่หลิน มีความประหลาดใจ จากนั้นจึงหายใจเข้าลึกๆ เม้มปาก ก้มหน้าลง แล้วไม่ได้พูดอะไร
แต่เย่หลินกลับเห็นว่าเบ้าตาเธอเริ่มแดง
บนโลกนี้ สิ่งที่มนุษย์ควบคุมยากมากที่สุด ดูเหมือนจะเป็นความรัก คนที่ทั้งเก่งและฉลาดอย่างเหอเฟยเองก็หนีไม่พ้น
หางตาเธอเห็นว่ามีเงาคนคนหนึ่งเดินมางทางพวกเธอ
เฉินเป้ยอีเงยหน้าขึ้น ก็เห็นคุณอวี๋คนนั้น
จึงรีบลุกขึ้น“ประธานเหอ ฉันไปห้องน้ำแป๊บหนึ่งนะ”
เธอยืนอยู่ตรงมุมห้องน้ำ แล้วยื่นหน้าออกไปมองทางทิศทางนั้น แล้วก็เห็นคุณอวี๋นั่งลงตรงที่นั่งของเธอจริงๆ
ความสนใจทั้งหมดของเธอตกอยู่ที่ผู้ชายคนนั้น ดังนั้นจึงไม่ได้สังเกตว่ามีคนกำลังเข้าใกล้เธอจากด้านหลัง
“คนสวย……”
เธอได้ยินใครบางคนเรียกเธอจากข้างหลัง เย่หลินตบหน้าอกเบาๆ เห็นได้ชัดว่าตกใจ จากนั้นก็ได้กลิ่นฉุนของเหล้าลอยมา เธอขมวดคิ้วขึ้น
ถอยหลังไปสองก้าว อยากจะเดินหนี
แต่นึกไม่ถึงว่าแขนจะถูกดึงไว้จากคนข้างหลัง
“นายทำอะไร?”เธอร้องขึ้นเสียงดัง สะบัดแขนออกจากมือผู้ชายคนนั้นอย่างแรง
“คุณหนู พวกเรามาคุยเรื่องราคากัน……”
“นายกำลังพูดเรื่องอะไรอยู่?”เย่หลินได้ยินคำพูดที่เหลือทนเหล่านั้น ก็พูดขึ้นเสียงดัง ขัดคำพูดที่ไร้สาระของชายคนนั้น
ใต้แสงไฟสลัวนี้ เธอเห็นผู้ชายตรงหน้า มีเครา เห็นได้ชัดว่ารูปร่างอ้วนเล็กน้อยทำให้เธอนึกถึงผู้จัดการหลินคนนั้น ในใจก็เริ่มกลัวขึ้นมา
คิดได้แบบนั้น ก็ถอยหลังไปสองก้าว หันหลัง รีบเดินไปที่ห้องจัดงานเลี้ยงอย่างรวดเร็ว
แต่ว่า……
แขนก็ถูกคนดึงไว้อีกครั้ง
“เธอคิดว่าฉันเป็นใคร?”เสียงหยาบของชายคนนั้นตะโกนขึ้น สักพัก สายตาของทุกคนก็มองมาทางนี้
“อ้าว ผู้กำกับวัง เกิดเรื่องอะไรขึ้นกับคุณ?”มีคนทักเขา
“เปิดไฟให้ฉัน”เขาตะโกน
ไม่นานนัก ไฟเหนือศีรษะก็สว่างขึ้น
รอบข้างล้อมไปด้วยผู้คน งานเลี้ยงน่าเบื่อ ถ้ามีเรื่องอะไรให้คั่นเวลา ทุกคนคงจะไม่พลาดอยู่แล้ว
ผู้กำกับคนนั้นมองเย่หลินตั้งแต่หัวจรดเท้า พอได้เห็นหน้าตาเธอชัดเจนแล้ว เห็นได้ชัดว่าสายตาเขาเปลี่ยนไปแว็บหนึ่ง
“มามามา พวกเธอทุกคนดู ผู้หญิงคนนี้เป็นผู้ก่อตั้งบริษัทซีเอกซ์เมคอัพ เธออ่อยฉัน ขอให้ฉันช่วยปูทางให้เธอ พอฉันไม่เห็นด้วย เธอกลับอายจนโกรธ จะแว้งมากัดฉัน”เขาชี้ไปที่เย่หลิน พูดอย่างเข้มขรึมจริงจัง
ทุกคนหันไปมองเย่หลิน แล้วหันไปมองคนนามสกุลวังคนนั้น จากนั้นก็ซุบซิบขึ้น
“ใช่บริษัทซีเอกซ์เมคอัพต่างประเทศนั่นหรือเปล่า?ถึงว่าทำไมเด็กขนาดนี้ ก็มีอะไรเป็นของตัวเอง……ที่แท้ ก็เพิ่งผู้ชายนี่เอง……”ไม่รู้ว่าใครพูดแบบนี้ในกลุ่มคน
จากนั้น ทุกคนก็เริ่มนินทาขึ้น
ในขณะที่สายตาของเย่หลินมองไปที่ทุกคน เธอเห็นเกาเหวินที่กำลังยืนดื่มไวน์แดงอยู่นอกกลุ่มคน สายตาก็นิ่งไป เหมือนว่าเข้าใจอะไรบางอย่าง
เธอชื่นชมความฉลาดของผู้หญิงคนนี้ ในช่วงเวลาสั้นๆแค่นี้ ก็สามารถคิดแผนที่ปาหินก้อนเดียวได้นกสองตัวแบบนี้ ที่สามารถทำให้เธอเสียทั้งชื่อเสียง และทำให้ทุกคนมีความข้องใจเกี่ยวกับประสิทธิภาพที่แท้จริงของบริษัทซีเอกซ์
“เธอคิดว่าวิถีชีวิตของพวกเราจะเหมือนกับของพวกเธอในต่างประเทศหรอ ถ้าหากอยากจะยืนอยู่ในประเทศนี้ให้ได้ มันต้องเพิ่งความสามารถของตัวเอง”ผู้กำกับวังคนนั้นทำหน้านิ่ง พูดในสิ่งที่เย่หลินฟังไม่รู้เรื่องอย่างนิ่งขรึม
เย่หลินบังคับตัวเองให้ใจเย็นลง หางตาก็เหลือบไปเห็นกล้องวงจรปิดที่อยู่ข้างบนศีรษะ
ยิ้มมุมปาก เงยหน้าขึ้น มองไปยังผู้ชายที่มีอายุปาไปแล้วครึ่งชีวิตตรงหน้า พูดขึ้นว่า“ลุง ฉันถามแค่คำเดียว ในเมื่อคุณรู้ว่าฉันเป็นผู้ก่อตั้งบริษัทซีเอกซ์ ถ้าอย่างนั้นฉันอยากจะถามคุณหน่อย ฉันชื่ออะไร นามสกุลอะไร? แล้วฉันอ่อยคุณยังไง? ที่ไหน เมื่อไหร่? ขั้นตอนมันเป็นยังไง?”
ผู้กำกับวังคนนั้นประหลาดใจกับความนิ่งของเธอเล็กน้อย เขากลืนน้ำลาย ชี้มือไปที่เธอ“เธอชื่ออะไร ฉันจะรู้ได้ยังไง เธอเป็นคนพูดเองว่าเป็นคนของบริษัทซีเอกซ์ ที่ตรงนั้นแหละ พูดว่าแค่ฉันสามารถตอบสนองความต้องการของเธอ ไม่ว่าจะทำยังไง เธอก็ยอม”
เย่หลินยิ้มเย็น“ใช่เหรอ?”ถามกลับ
สีหน้าของผู้กำกับวังตอนนี้ดูนิ่งขรึมจนน่ากลัว แต่เพราะเห็นหน้าของหนิงเส่าเฉินจนชิน เย่หลินก็ไม่มีความกลัวเลย แค่รู้สึกปวดหัวที่มาเจอกับคนประสาทแบบนี้
“คุณผู้หญิง เขา เธอหาเรื่องไม่ได้”ในเวลานี้ ก็มีคนพูดขึ้นเบาๆข้างๆเย่หลิน
หาเรื่องไม่ได้? เย่หลินนึกถึงหนิงเส่าเฉินอีกครั้ง เขา เธอยังกล้าแหย่ เธอไม่เชื่อว่าผู้ชายคนนี้ เธอจะหาเรื่องไม่ได้?
“ขอถามหน่อยค่ะ งานเลี้ยงวันนี้ ใครเป็นคนรับผิดชอบคะ?”เธอหันไปถามผู้คนรอบข้างเสียงดัง
“นี่มันเรื่องอะไรกัน?”เสียงเข้มๆของผู้ชายดังขึ้นในหมู่ผู้คน
จากนั้น ทุกคนก็หลีกทาง ในหมู่ผู้คนมีผู้ชายคนหนึ่งเดินออกมาช้าๆ
ผู้ชายคนนั้น อายุราวๆหกสิบ หน้าเหลี่ยม คิ้วหนาตาโต อ้วนเล็กน้อย แต่ก็ดูเป็นการเสริมความมั่งคั่งให้กับเขา
“ประธานเหลียง”
“สวัสดีครับประธานเหลียง……”
ทุกคนกำลังทักทายผู้ชายคนนั้น และบางคนถึงกับยื่นมือออกไป อยากทำความรู้จักคนใหญ่คนโตคนนี้ แต่ว่าประธานเหลียงกลับมองข้ามไปเหมือนไม่มีตัวตน
เย่หลินนิ่งอึ้งอยู่กับที่ มือข้างที่ถือกระเป๋าของเธอ กำไว้แน่นแล้วแน่นอีก พ่อของเธอ……
คนที่เก้า……ไม่สิ สิบปีไม่ได้เจอเลย
แต่ว่า เมื่อกี้คนพวกนี้เรียกเขาว่าอะไรนะ? ประธานเหลียง? ไม่ใช่เย่กั้วอัน?
เหลียง มันคือเรื่องอะไรกัน?