เด็กอัจฉริยะ แม่ลึกลับ - ตอนที่ 140 ท้ายที่สุดแล้วเบื้องหลังเรื่องราวเป็นมาอย่างไร
พ่อหนิงเงยมองเย่หลินที่อยู่ตรงหน้า
เธอเหมือนกับแม่ของเธอมากจริงๆ
ส่ายๆหัว "เรื่องราวในตอนนั้น เป็นพ่อเกาเหวินที่เสนอออกมา ในเวลานั้น ฉันก็เห็นแก่การทดแทนบุญคุณ ฉะนั้น เลยรับปากว่าจะร่วมมือกับพวกเขา ในเวลานั้น ฉันก็คิดแล้ว ว่ายัยหนูคนนั้น เป็นคนดี มีจิตใจเมตตา คิดดูแล้ว ขอเพียงแต่อาเฉินมีลูกเป็นของตนเอง ในอนาคตพวกเขาทั้งสองคนได้มีชีวิตที่ดีก็พอแล้ว ก็เลยไม่ได้ตรึกตรองมากมายขนาดนั้น ครั้งนี้กลับไป ฉันก็ไม่รู้เรื่องของคุณกับอาเฉิน ดังนั้น จึงไม่ได้เข้าไปก้าวก่าย เฮ้อ ยัยหนู คุณอย่าตำหนิลุงเลยนะ"
พ่อหนิงพูดคำพูดเหล่านี้จบ ก็ถอนหายใจเบาๆ แล้วพูดต่อว่า "ฉันก็คาดไม่ถึงว่าเด็กอย่างเธอคนนั้น เติบโตมาแล้ว จะจิตใจคับแคบขนาดนี้ ถ้ารู้นะ ฉันจะไม่รับปากกับพวกเขาว่าจะทำแบบนั้นเด็ดขาด เสี่ยวเย่ ลุง……ทำให้คุณลำบาก"
พ่อหนิงเคยเป็นบุคคลที่มีอิทธิพลมาก่อน คำขอโทษของเขา สำหรับเย่หลินแล้ว ยังคงเหนือความคาดหมายอย่างมาก เพียงแต่ เธอมักจะรู้สึกว่าเรื่องราวนั้น ดูเหมือนจะไม่ง่ายดายอย่างที่พ่อหนิงพูด
เธอหันไป มองๆหนิงเส่าเฉินกับหนิงเสี่ยวซี แววตาเต็มไปด้วยความสุข "คุณลุง ฉันควรจะขอบคุณคุณลุงถึงจะถูก คุณทำให้ฉันได้รู้จักกับเส่าเฉิน ทำให้ฉันมีเสี่ยวซี มีเสี่ยวโม่ ฉันไม่ตำหนิคุณหรอก เมื่อก่อน……อาจจะเคยตำหนิบ้าง" เธอหยุดไปชั่วขณะ แล้วสูดหายใจเข้า นั่งหลังตรง หอมแก้มหนิงเสี่ยวซี และจับมือหนิงเส่าเฉินไว้แน่น
"ตอนนี้ ไม่ตำหนิแล้ว ฉันขอถามหน่อยว่ารู้จักแม่ฉันไหม เพราะอะไร ก่อนที่แม่ฉันจะตัดสินใจให้ฉันอุ้มท้องเสี่ยวซี ก็ให้ฉันเปลี่ยนหน้า เปลี่ยนชื่อ ฉันไม่รู้ว่าท้ายที่สุดแล้วเพราะอะไรเธอถึงทำแบบนี้? ดังนั้น ฉันคิดว่าคุณลุงน่าจะรู้"
ทุกคนที่อยู่ในที่นั้นต่างตกตะลึง มีแต่สายตาของหนิงเส่าเฉิน ที่เคร่งขรึมมากขึ้น
เรื่องการตั้งท้องแทนแบบนี้ ในความเป็นจริงถ้าเกิดขึ้นในสังคมคนชั้นสูง ก็ไม่แปลกอะไร
แต่การปกปิดหน้าตาและชื่อของคนที่ตั้งครรภ์เช่นนี้ ค่อนข้างมีลับลมคมใน
พ่อหนิงเงยหน้ามองเย่หลิน แล้วหลุบตาลง กระแอมเบาๆ
"ในเวลานั้นไปพบแม่เธอได้อย่างไร เรื่องนี้ ฉันก็ไม่แน่ใจ พ่อเกาแค่เอารูปคุณให้ฉันดูเท่านั้น และรับรองสุขภาพคุณกับครอบครัวคุณกับฉัน ฉะนั้น ฉันก็ไม่ได้สืบสาวราวเรื่อง บางทีแม่ของคุณอาจจะอยากให้คุณเป็นคนดียิ่งขึ้นในวันข้างหน้า" พูดถึงตรงนี้ สายตาก็ลึกซึ้ง
เย่หลินอ้าปาก ชั่วขณะก็พูดไม่ออก คำอธิบายทั้งหมดดูสมเหตุสมผล แต่ยังรู้สึกว่าค่อนข้างเป็นเรื่องไกลตัว ถ้าแม่เพียงแค่กลัวว่าเธอจะลำบากในอนาคต เช่นนั้นหลังจากให้กำเนิดหนิงเสี่ยวซีแล้ว ก็ควรให้เธอกลับคืนสู่ใบหน้าที่แท้จริงได้ แล้วกลับไปใช้ชีวิตที่เมือง S เมือง C และเมือง S อยู่ห่างกันหลายพันลี้ โดยพื้นฐานแล้วก็ไม่มีใครรู้ว่าเธอให้กำเนิดลูกอยู่แล้ว
แต่แม่พาเธอไปที่เมือง W อีกทั้ง จนถึงตอนตาย ยังคงมุ่งมั่นที่จะให้เธอปกปิดใบหน้าไว้
อีกอย่าง ครั้งที่แล้วที่ไปบ้านคุณตา คุณยายจะพูดก็ไม่ได้พูด เพราะถูกคุณตาขัดขวางไว้ ชัดเจนมาก ในส่วนนี้ยังมีความจริงที่ซ่อนอยู่มากมาย
"สามี คุณบอกว่าคนของตระกูลเกาทำกลอุบายอะไรอยู่เบื้องหลัง วางแผนจะทำร้ายเราหรือเปล่า?" เหอหลิงเอ่ยพูด แม้แต่คนที่ไร้เดียงสาแบบเธอนี้ ก็ฟังออกว่าเรื่องนี้ผิดปกติ จะนับประสาอะไรกับคนอื่นๆ
ครั้งนี้เกาเหวินกล้าใช้เรื่องที่ไม่สามารถมีบุตรได้บังคับเธอให้ออกไป ในใจก็มั่นใจได้ ว่าหลังจากพ่อหนิงรู้แล้ว ก็จะช่วยปกปิดให้เธอ
นี่จึงทำให้รู้สึกกลัว และผิดหวังในใจ
มีความลับอะไร ที่ทำให้พ่อหนิงกับคนอื่นต้องโกหกลูกชายตนเองเลยเหรอ?
เพียงแต่ชัดเจนว่าพ่อหนิงไม่เต็มใจที่จะเล่าต่อ ลุกขึ้นยืน "เสี่ยวเย่ เรื่องนี้ ก็อย่าซักไซ้ไล่เลียงอีกเลย ในเมื่อตอนนี้คุณได้อยู่ด้วยกันกับอาเฉินแล้ว ก็ถือว่าพวกเขาทำเรื่องดีๆโดยไม่ตั้งใจ ปล่อยให้ผ่านไป ให้ทุกอย่างผ่านไปเถอะ"
เย่หลินกลืนๆน้ำลาย พยักหน้า ถึงแม้ว่าจะผิดหวังเล็กน้อยที่ยังคงหาคำตอบไม่ได้ แต่ก็รู้สึกเกรงใจ ที่จะเค้นหาความจริงกับพ่อหนิงอีก
หนิงเส่าเฉินกุมมือของเธอ ถูเบาๆเล็กน้อย อุณหภูมิจากฝ่ามือของเขาทำให้หัวใจของเฉินเป้ยอีสงบลงอย่างรวดเร็ว
หลังจากรู้ว่าเย่หลินเป็นแม่ของตนเอง หนิงเสี่ยวซีก็แทบจะขลุกอยู่ข้างกายของเธอตลอดเวลา ส่วนเย่เสี่ยวโม่ เห็นพี่ชายดีกับเย่หลินขนาดนี้ ก็รู้ว่าตนเองเข้าใจผิดเขา และกลับรักเขาอย่างมาก
ดังนั้น จึงไม่ได้หวงแหน
เพียงแต่ ไม่ให้หนิงเส่าเฉินโดนตัวเย่หลิน กระทั่งมองก็ไม่ให้เขามอง
เพราะเหตุนี้ หนิงเส่าเฉินจึงหน้าดำคร่ำเครียดตลอด
เหอหลิงเห็นหน้าตาแบบนี้ของลูกชาย ก็แอบยิ้มมุมปาก เธอเคยมีประสบการณ์มาก่อน เรื่องบางเรื่อง ก็เข้าใจได้โดยธรรมชาติ
หลังจากทานข้าวเย็นเสร็จ เหอหลิงก็บอกให้หนิงเสี่ยวซีไปนอนพักผ่อนที่ห้อง
เสี่ยวซีโตแล้ว พูดรู้เรื่อง บอกง่าย
แต่เย่เสี่ยวโม่นั้น ยากเหลือเกิน
"เสี่ยวโม่ ไปนอนกับป้าซวี่เถอะ ดึกมากแล้ว"
"แม่ คืนนี้ฉันอยากนอนกับคุณ"
"ทำไมล่ะ?"
"ฉันต้องปกป้องคุณ ไม่เช่นนั้น คุณอาจจะถูกคนไม่ดีรังแกได้" พูดจบ ก็หันหน้าไป จ้องมองหนิงเส่าเฉินที่ยืนอยู่ด้านหลังคนทั้งสอง
"เสี่ยวโม่ เขาไม่ใช่คนไม่ดี เขาคือพ่อ" เย่หลินรู้สึกปวดหัวอย่างมาก เดิมทีก็คิดว่าเย่เสี่ยวโม่แค่อารมณ์ไม่ดีเล็กน้อย แต่ขณะนี้ดูแล้ว เธอเป็นศัตรูกับหนิงเส่าเฉินจริงๆ
"คุณโกหก ถ้าเขาไม่ใช่คนไม่ดี ทำไมเวลาคุณเอ่ยถึงเขากับพ่อชู คุณต้องร้องไห้ด้วยล่ะ?"
เย่หลินตกใจเล็กน้อย หัวใจเต้นระรัว หันไปมองหนิงเส่าเฉินอย่างรู้สึกไม่สบายใจเล็กน้อย
หนิงเส่าเฉินนำมือล้วงกระเป๋าแล้วมองเย่เสี่ยวโม่ เงยหน้า สายตามองไปยังเย่หลิน "หลายปีมานี้ ทำให้คุณต้องทุกข์ทรมานแล้ว"
คำพูดง่ายๆประโยคหนึ่ง แต่ทำให้เย่หลินน้ำตาไหลพรากในทันที
พอเย่เสี่ยวโม่เห็น ก็ยิ่งสับสน ปล่อยเย่หลิน เดินเข้าไปนำมือน้อยๆทุบตีหนิงเส่าเฉินไม่หยุด "คุณเป็นคนไม่ดี คุณรังแกแม่ฉันอีกแล้ว"
เย่หลินลูบหน้าผาก ตอนนี้ กลืนไม่เข้าคายไม่ออก ดึงเย่เสี่ยวโม่ โอบไว้ในอ้อมกอด
แล้วหันไปพูดกับหนิงเส่าเฉินว่า: "ฉันจะไปนอนเป็นเพื่อนเธอ ราตรีสวัสดิ์"
หลังจากกล่อมให้เย่เสี่ยวโม่หลับแล้ว เย่หลินก็อุ้มเธอไปยังห้องพี่ซวี่ เธอนอนไม่ค่อยหลับ เย่เสี่ยวโม่อยู่ เธอก็นอนไม่หลับ
จู่ๆก็นึกได้ว่ามือถืออยู่ที่ห้องรับแขก เมื่อมาถึงห้องรับแขก ก็พบว่าหนิงเส่าเฉินและพ่อหนิงยังนั่งอยู่ที่โซฟา คล้ายกับคุณอะไรกันอยู่ หลังจากเธอกล่าวราตรีสวัสดิ์แล้ว ก็เดินมุ่งตรงไปยังห้อง
"อาเฉิน รีบตามไปสิ?" เห็นหนิงเส่าเฉินยังคงนั่งดูมือถืออยู่ เหอหลิงจึงโยนหมอนอิงที่อยู่ด้านหลังของเธอมายังเขา
หนิงเส่าเฉินขมวดคิ้ว หันหน้าไป เห็นภาพด้านหลังของเย่หลิน ก็รีบลุกขึ้นแล้วตามขึ้นชั้นบนไป
ท่าทางนั้น ทำให้เหอหลิงรู้สึกขบขัน
"เฮ้อ ในที่สุดฉันก็รู้สึกว่าลูกชายคนนี้ของเรา มีความเห็นอกเห็นใจคนบ้างแล้ว" เหอหลิงมองภาพด้านหลังที่รีบร้อนนั้น ก็อดยิ้มไม่ได้
แต่พ่อหนิงขมวดคิ้วอย่างลึกซึ้ง
หรือว่า…..จะเป็นโชคชะตาจริงๆ?