เด็กอัจฉริยะ แม่ลึกลับ - ตอนที่ 14 ความเข้าใจผิด1

หลังจากวางสายโทรศัพท์ เธอมองไปที่เซี่ยอวี่และกล่าวขอโทษ:"เสียวซีอาจมีไข้ ฉันต้องกลับไปดู"

เซียอวี่เห็นความกังวลใจของเธอผ่านดวงตา พร้อมกับความสูญเสียอย่างเห็นได้ชัดในสายตาของเขา เขายืนขึ้นและจับผมที่หลังหูเฉินเป้ยอีแล้วพูดเบา ๆ : "ไปเถอะ"

หลังจากสั่งให้เซี่ยอวี่เก็บเรื่องหนิงเสียวซีเป็นความลับ เฉินเป้ยอีก็วิ่งกลับไปด้วยความตื่นตระหนก

ทันทีที่เห็นเฉินเป้ยอีจากไป เซี่ยอวี่ก็เสียใจมาก เขาโตขนาดนี้ และนี่เป็นครั้งแรกที่รู้สึกถึงความสุขที่ไม่มีความสุข ปรากฎว่าโลกนี้ ไม่ใชว่าร่ำรวยแล้วจะมีอำนาจทุกอย่าง

อย่างไรก็ตาม เขาจะไม่ยอมแพ้

เมื่อคืนหนิงเสี่ยวซีอาจรู้สึกหวาดกลัวหมอประจำตระกูลมาถึงบ้านของตระกูลหนิงทันทีที่เฉินเป้ยอีก็มาถึงบ้าน

หลังจากการตรวจ เขากล่าวว่า: "ไม่ต้องกังวล มันเกิดจากความหวาดกลัว พักผ่อนแล้วจะดีขึ้น" ทุกคนก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก

หลังจากเหตุการณ์นี้ เฉินเป้ยอีอยู่ในบ้านตระกูลหนิงอีกครั้ง

ทุกคนรู้ว่าเธอช่วยชีวิตหนิงเสี่ยวซีและคนรับใช้ในตระกูลก็สุภาพกับเธอมากกว่าเมื่อก่อน

หนิงเสี่ยวซียิ่งติดเธอมากขึ้น เขาเชื่อฟังเธอ และเปลี่ยนชื่อของเธอจากอดีตป้าเป็น "แม่น้อย"

คำว่าแม่น้อยนั้นทำให้คนเข้าใจผิดว่าเธอเป็นมือที่สามของพ่อ ดังนั้นเฉินเป้ยอีจึงไม่เห็นด้วยอย่างมาก แต่หนิงเสี่ยวซีก็ปฏิเสธที่จะเปลี่ยนมัน

ครึ่งเดือนต่อมาในคืนก่อนการหมั้นของหนิงเส่าเฉินและเกาเหวิน

"พรุ่งนี้บ่าย คุณพาเสียวซีไปโรงแรม Haiman แต่เช้า" หนิงเส่าเฉินสั่งเฉินเป้ยอีระหว่างอาหารค่ำ

เฉินเป้ยอีพยักหน้า "โอเค!"

นับตั้งแต่สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นครั้งที่แล้ว เฉินเป้ยอีอยู่ห่างจากหนิงเส่าเฉินมากขึ้น

ยกเว้นคำพูดที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ เธอแทบจะตัดโอกาสทั้งหมดในการติดต่อกับเขา

เพราะเธอรู้สึกอย่างนั้นจริงๆกับผู้ชายคนนี้ เธอรู้สึกเหมือนเป็นเพื่อนกับราชา และเธอไม่รู้ว่าเขาจะโกรธอีกเมื่อไหร่ เธอจึงเลือกที่จะหนี

หลังจากพูดจบ เฉินเป้ยอีก็รีบหันกลับและเดินขึ้นไปชั้นบน

เมื่อมองไปหลังที่กำลังจากไปอย่างรวดเร็ว ภายนอกหนิงเส่าเฉินดูสงบ แต่ความโกรธไม่สามารถควบคุมได้ในใจของเขา

เขาน่ากลัวขนาดนั้นเลยเหรอ? ผู้หญิงคนนี้จะปฏิบัติกับเขาเหมือนสัตว์ร้าย

ในช่วงบ่ายของวันถัดมา เฉินเป้ยอีทำตามคำสั่งพาหนิงเสียวซีออกไปก่อนหน้านี้หนึ่งชั่วโมง

“ แม่น้อย วันนี้พ่อของผมหมั้น”

เฉินเป้ยอีพยักหน้า“ อืม แล้วยังไง?”

งานหมั้นของหนิงเส่าเฉินเป็นงานสำคัญในเมือง C สื่อและข่าวหลัก ๆ ได้เผยแพร่เรื่องนี้มานานแล้วแม้ว่าเธอจะไม่ได้ยินอะไรนอกหน้าต่าง แต่เธอก็สามารถรู้ได้

ยิ่งไปกว่านั้น บ้านตระกูลหนิงกำลังเตรียมต้อนรับเจ้าหญิงที่จะเข้ามา

เปลี่ยนตั้งแต่รองเท้าแตะหน้าประตูจนถึงสไตล์ของใช้บนโต๊ะอาหารและตะเกียบที่เกาเหวินชอบ ทั้งในห้องครัวไปจนถึงห้องน้ำชุดห้องน้ำล้วนเป็นสิ่งที่เกาเหวินคุ้นเคย … และอื่น ๆ ที่มีรายละเอียดสูงขนาดนี้ เธอจะไม่รู้ได้อย่างไร แต่สิ่งเหล่านี้ไม่เกี่ยวข้องกับเธอเลย เธอไม่เข้าใจว่าทำไมหนิงเสี่ยวซีถึงถามเธอด้วยน้ำเสียงแบบนี้

"แม่น้อย ถ้าคุณชอบพ่อของผมจริง บอกผม ผมสามารถช่วยคุณได้" หนิงเสี่ยวซีจับมือของ เฉินเป้ยอีและโยกไปมา

เฉินเป้ยอีหัวเราะ เด็กดื้อจริง ๆ และส่ายหัว "ฉันไม่ชอบ ไม่ชอบ … พ่อของคุณกำลังจะหมั้น หยุดพูดเรื่องไร้สาระ"

"พ่อผมรวยและหล่อขนาดนี้ จะไม่ชอบได้ยังไง"

เฉินเป้ยอีแค่ยิ้มเท่านั้น และไม่ตอบเขาอีก มันไม่เหมาะสมที่จะพูดคุยเรื่องความรักกับเด็ก

หนิงเส่าเฉินนั้นยอดเยี่ยมมาก แต่เธอมีความรู้ในตัวเอง ดังนั้น ตั้งแต่แรกเริ่ม เธอไม่มีความคิดอะไรกับบุคคลคนนี้ ไร้ซึ่งความปรารถนา

อย่างไรก็ตาม ในสายตาของหนิงเสียวซี เธอคิดว่าการที่เฉินเป้ยอีปฏิเสธที่จะตอบ ต้องเป็นเพราะพ่อของเธอกำลังจะหมั้น เธอจึงเสียใจมากจนเธอไม่อยากตอบ

ดวงตาเล็ก ๆ เป็นประกายขึ้นมา

ไม่จำเป็นต้องพูดว่างานเลี้ยงวันหมั้นของหนิงเส่าเฉินนั้นไม่มีใครเทียบได้กับคนทั่วไปอย่างแน่นอน การจองโรงแรมระดับหกดาวที่หรูหราที่สุดในเมืองC ไม่ใช่สิ่งที่คนธรรมดาจะจินตนาการได้

เมื่อเฉินเป้ยอีมาถึงหลิวซูก็ยืนอยู่ที่ประตู

เมื่อเห็นพวกเขาเข้ามา ก็ทักทายพวกเขา "ชั้นแรกเต็มไปด้วยผู้สื่อข่าวและสื่อ หนิงเส่าเฉินอยู่บนชั้นสามเขาขอให้ผมพาคุณไปที่ชั้นสาม"

หลังจากพูดจบเขาก็พาเฉินเป้ยอีผ่านประตูเล็ก ๆ ข้างๆเขาและไปที่ชั้นสาม

หลังจากมาถึงชั้นสาม จู่ๆหนิงเสียวซีก็พูดกับเฉินเป้ยอีว่า เขารู้สึกหนาว และใส่เสื้อโค้ชของเขาอยู่ในรถ จึงขอให้เธอลงไปเอาให้

เฉินเป้ยอีไม่ได้คิดมากเกี่ยวกับเรื่องนี้ และลงไปชั้นล่าง

“ ลุงหลิว ถามเรื่องหนึ่งหน่อยสิครับ”

หลิวซูชอบหนิงเสียวซีมาตลอด แต่เด็กคนนี้เย็นชาเหมือนพ่อของเขา และไม่ค่อยพูดคุยกับเขานับประสาอะไรกับการใช้งาน ทันใดนั้นด้วยรอยยิ้มบนใบหน้าของเขา เขาเอนตัวไปและมองไปที่หนิงเสี่ยวซี"พูดมาสิ ลุงฟังอยู่"

“ คุณบอกว่า ผู้หญิงชอบผู้ชาย แล้วผู้ชายคนนั้นไม่ชอบผู้หญิงคนนั้น แล้วเราจะทํายังไงให้พวกเขาอยู่ด้วยกันครับ” หนิงเสี่ยวซีพูดจบเหมือนกระตุกลิ้น แม้ว่าเขาจะมีไอคิวอย่างสูงแต่มัน จำกัด เฉพาะในแง่มุมทางทฤษฎีเท่านั้น เขาไม่เข้าใจว่าอุบัติเหตุเหล่านี้และความรักระหว่างชายหญิงคืออะไร

"ไปนอนด้วยกัน"หลิวซูตอบกลับอย่างรวดเร็วแล้วปิดปากของเขาอย่างรวดเร็ว "อะแฮ่ม ทำไมถามเรื่องนี้" เขารู้สึกว่ามันไม่เหมาะสมที่เด็กจะพูดแบบนี้ต่อหน้าเด็ก ๆ

หนิงเสี่ยวซีขมวดคิ้ว นอนด้วยกัน? ถูกต้อง ทำไมเขาถึงไม่คิดถึงเรื่องนี้ล่ะ? หลังจากนั้นถ้าพวกเขาตั้งครรภ์และให้กำเนิดน้องชาย ก็จะไม่จากกันแล้ว

แม้ว่าพ่อของเขาและเกาเหวินจะหมั้นกันในวันนี้ แต่เขาก็ไม่สนใจเรื่องนั้นมากนัก

เขาส่ายหัวและเริ่มไม่สนใจหลิวซูอีกครั้ง เพราะนิสัยของเขาเหมือนกับหนิงเส่าเฉิน หลิวซูคุ้นเคยกับมันมานานแล้ว เขาเหลือบมองเขาและไม่ได้คิดถึงเรื่องนี้อีกต่อไป

เฉินเป้ยอีเอาเสื้อคลุมของหนิงเสี่ยวซีมาจากในรถและกลับไปที่ลิฟต์ หลังจากลิฟต์เปิดออกเธอก็ตกใจเมื่อเห็นคนข้างในมีชายและหญิงยืนอยู่ในลิฟต์

ชายคนนี้คือเซี่ยอวี่ วันนี้เขาแตกต่างจากชุดลำลองชุดสูทและรองเท้าหนังทั่วไป เมื่อมองไปที่เขา เขามีพลังหล่อเหลาและดูเป็นผู้ชายมากขึ้น

ถัดจากเขามีหญิงสาวสวยคนหนึ่งยืนอยู่ในชุดราตรีสีแชมเปญที่มีลักษณะสามมิติและผิวขาวเธอดูเหมือนลูกครึ่งจีน – ต่างประเทศ เธอตื่นตามาก หญิงงามจับแขนของเซี่ยอวี่และยกหัวขึ้นเล็กน้อยมองไปที่เซี่ยอวี่ สิ่งที่กำลังพูด ทั้งสองดูเหมือนจะอารมณ์ดี