เด็กอัจฉริยะ แม่ลึกลับ - ตอนที่ 134 ความลับที่น่าตกตะลึงของเกาเหวิน
เธอมองเย่หลิน จากนั้นก็พิจารณาเธอ นิสัยของเธอคนนี้ไม่สนใจใยดีอะไรมาตลอด ไม่ใส่ใจรายละเอียด บวกกับปกติแล้วเย่หลินจงใจที่จะปกปิดอย่างมาก ได้ติดต่อไม่กี่ครั้ง ก็ไม่ได้ดูรูปร่างหน้าตาของเธออย่างละเอียด ขณะนี้ มองดูแล้ว ใบหน้านั้นเหมือนกับหลานชายตัวน้อยของเธอ 70-80%
ต่อให้ไม่แต่งหน้า ก็ไม่ต้องสงสัย เธอก็สวยอย่างมาก
เหอหลิงมองไปที่เธอ อ้าปากค้างจนกลายเป็นรูปตัวโอ
"มิน่าล่ะเสี่ยวซีถึงได้หน้าตางดงามขนาดนั้น ฉันว่าสายตาของนายท่านตระกูลฉันไม่แย่เลย" เหอหลิงพูดจบ ก็ลุกขึ้นไปนั่งข้างๆเย่หลิน ดึงมือของเธอ มาพิจารณาไปมาอย่างตื่นเต้น ด้วยสีหน้าเต็มไปด้วยความเป็นกันเอง
ท่าทีของเธอทำให้ในใจของเย่หลินอบอุ่นขึ้นอย่างคาดไม่ถึง หยิบกระดาษทิชชู่ขึ้นมาซับน้ำตาบนใบหน้า เช็ดให้จนหมดจด
"คุณป้า" รู้แล้วว่าเธอเป็นแม่ของหนิงเส่าเฉิน เย่หลินจึงเปลี่ยนการทักทาย
"อื้ม" เหอหลิงตอบรับอย่างรวดเร็ว
เธอมองๆเหอเฟย แล้วก็มองเย่หลิน "ใช่แล้ว น้องสาว เมื่อกี้ที่คุณพูดว่าตายไม่ตาย มันเกิดอะไรขึ้น?"
เหอเฟยไม่ตอบคำถามของเหอหลิง หรี่ตาลง เงยหน้ามองเย่หลิน "ท้ายที่สุดแล้วมันเกิดอะไรขึ้น? ทำไมคุณต้องโกหกอาเฉินว่าคุณตายแล้ว? คุณรู้ไหมเพราะคุณ หลายปีมานี้ ทำให้ตัวเขาเอง เหมือนคนซังกะตาย ไม่มีชีวิตชีวา" น้ำเสียงของเธอสงบมาก แต่ว่าในใจเย่หลิน เหมือนก้อนหินโยนเข้ามาภายในใจ ถาโถมเข้ามา
"ทำไมคุณทำแบบนี้? เกิดอะไรขึ้นใช่ไหม?"
พูดจบ ก็หันกลับไปมองเหอหลิง แล้วเหอเฟยก็พูดว่า : "พี่ คุณจำได้ไหมที่อาเฉินจะแต่งงาน แล้วเสี่ยวซีพูดถึงแม่น้อย" เธอชี้ไปที่เย่หลิน "คือเธอนี่แหละ เธอคือความเสียใจที่ลูกชายของคุณไม่สามารถผ่านพ้นไปได้!"
เหอหลิงพูดตอบกลับว่า : "ไม่ได้บอกว่าตายไปแล้วเหรอ?"
พูดจบ สายตาของทั้งสองคนก็มองไปที่เย่หลิน
เย่หลินสูดลมหายใจเข้า เรื่องบางเรื่อง บางทีก็ควรจะจบแล้ว ทันทีหลังจากนั้นก็เล่าเรื่องที่เกาเหวินประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์และไม่สามารถให้กำเนิดลูกได้ ให้สองพี่น้องฟัง
หลังจากพูดจบ เธอก็ก้มหน้า พูดเสียงเบาๆว่า : "เป็นฉันเองที่ไม่ดี ฉันไปทำร้ายเธอ ฉะนั้น ฉันเลยจนปัญญาที่จะอยู่ด้วยกันกับเส่าเฉิน เพราะทำให้เธอไม่สามารถมีลูกได้……”
"เธอถูก……” เหอหลิงขัดจังหวะคำพูดเย่หลิน ที่คิดอยากจะพูดอะไร แต่ถูกเหอเฟยดึงแขนไว้
เย่หลินจมอยู่กับการตำหนิตนเอง จึงไม่ได้พบความผิดปกติของทั้งสองคน
"คุณป้า ขอโทษนะคะ ต้องโทษฉัน ที่ทำร้ายเส่าเฉิน ทำร้ายครอบครัวของคุณ ต่อไป……ก็ไม่สามารถมีลูกได้อีก" พูดจบ ขอบตาเธอก็แดง
"คุณรักเส่าเฉินไหม?" เหอเฟยไม่ตอบรับคำพูดของเธอ แต่กลับ ถามคำถามอื่น
เย่หลินตกตะลึง ฉีกยิ้มอย่างทำอะไรไม่ถูก "รัก แล้วจะทำอย่างไรได้?"
"ในเมื่อคุณรัก แล้วทำไมคุณต้องโกหกเส่าเฉินว่าคุณตายไปแล้วด้วยล่ะ? ถึงแม้จะไม่อยู่ด้วยกัน คุณก็ไม่จำเป็นต้องโกหกแบบนี้นี่?" เหอเฟยกล่าวถามด้วยความไม่เข้าใจ
เย่หลินส่ายหน้า "เรื่องนี้ฉันก็ไม่รู้ว่าจะอธิบายกับคุณยังไง ฉันไม่ได้โกหกเส่าเฉิน แต่มีคนตายแทนฉันไป" ถึงแม้จะผ่านมาหลายปีแล้วก็ตาม แต่พอพูดถึงเรื่องนี้ขึ้นมา เย่หลินก็ยังอดขนพองสยองเกล้าไม่ได้
เพียงเหอเฟยได้ฟัง ก็อดไม่ได้ที่จะโอบแขนทั้งสองแน่น ชัดเจนว่ารู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย "มีคนตายแทนคุณอย่างนั้นเหรอ? หมายความว่า คนคนนั้นที่เส่าเฉินเห็นว่าตาย ไม่ใช่คุณอย่างนั้นเหรอ?"
เย่หลินพยักหน้า มองเหอเฟย เธอพูดคำที่เหอเฟยฟังแล้วเข้าใจ "คุณน้า คนที่ตายคนนั้น รูปร่างหน้าตาเหมือนกับฉันก่อนหน้านี้ทุกประการเลย"
สีหน้าของเหอเฟยมืดมนลงมาโดยสิ้นเชิง เรื่องนี้ชัดเจนว่าไม่ง่ายเลย
"ฉะนั้นล่ะ? ปัญหาตอนนี้ก็คือ พวกคุณทั้งสองต่างฝ่ายต่างก็รักกัน แต่เพราะเกาเหวินเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ จนไม่สามารถให้กำเนิดลูกได้ ดังนั้น คุณก็เลยโทษตัวเองแล้วไม่ต้องการอาเฉิน ออกจากเขามา หลังจากนั้นก็มีคนคนหนึ่งที่มาตายแทนคุณ คุณก็ไม่ได้อธิบายกับอาเฉินว่าคนคนนั้นไม่ใช่คุณใช่ไหม? แล้วก็มาต่างประเทศคนเดียว ฉันพูดถูกไหม?" แตกต่างจากความเรียบง่ายของเหอหลิง ถึงแม้เหอเฟยจะอายุน้อยกว่ามาก แต่ชัดเจนมากว่า ทางด้านการพูดจา มีหลักการเหตุผลอย่างมาก
เย่หลินพยักหน้า แล้วก็ส่ายหน้า "ฉันไม่ใช่ไม่ต้องการเขา ฉันแค่ไม่มีหน้าที่จะต้องการ คุณเกามีบุญคุณกับเขา ขณะนี้ ก็เพราะพวกเราทั้งสองคน เธอจึงไม่สามารถให้กำเนิดลูกได้ สถานการณ์แบบนี้ ถึงแม้ฉันและเส่าเฉินจะอยู่ด้วยกัน พวกเราก็คงไม่สบายใจไปตลอดชีวิต ดังนั้น…..การละทิ้งก็อาจจะเป็นหนทางที่ดีที่สุด คนคนนั้นที่ตายแทนฉัน ฉันก็คิดว่า ความเจ็บปวดระยะยาวไม่ดีเท่าการเจ็บปวดระยะสั้น ดังนั้น จึงไม่ได้อธิบายกับเส่าเฉิน ฉัน….."
"เฮ้อ ยัยเด็กน้อย เดิมทีเกาเหวินก็ไม่สามารถให้กำเนิดลูกได้อยู่แล้ว ก่อนหน้านี้เธอก็รู้อยู่แล้วว่าตนเองไม่สามารถตั้งครรภ์ได้ ดังนั้น จึงให้คุณไปช่วยให้กำเนิดหนิงเสี่ยวซีไง? เธอเป็นจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ซะที่ไหนกันล่ะ?" เหอหลิงฟังถึงตรงนี้ ก็อดกลั้นไว้ไม่อยู่ หลังจากฟังคำพูดของเหอเฟยและคำแก้ต่างของเย่หลินแล้ว ทันทีก็อดที่จะพูดออกมาไม่ได้
มือทั้งคู่ของเย่หลินกุมแก้ว ได้ฟังเหอหลิงพูดแบบนี้แล้ว เธอก็มือสั่นเล็กน้อย น้ำในแก้วก็กระฉอกออกมา สาดกระเซ็นไปบนร่างกาย หกรดกางเกง ซึมเข้าสู่ผิว ตอนแรกก็แสบร้อน ต่อจากนั้นก็เย็นเยือก แต่เธอกลับไปรู้สึกรู้สา หันหน้าไปอย่างช้าๆ สายตาของเธอมองไปยังเหอหลิง "คุณป้า…..คุณ….คุณพูดว่าอะไรนะ?"
เหอเฟยเอื้อมตัว ไปหยิบกระดาษทิชชู่สองสามแผ่น เช็ดน้ำที่อยู่บนตัวแทนเธอ "ดังนั้นก็คือว่า พวกคุณสองคนมีปัญหาอะไร ทำไมยังไม่ไปจัดการกันให้ชัดเจนก็เลิกกันแล้ว นี่ยังดีที่วันนี้ได้พบกันแล้ว ไม่เช่นนี้ พวกคุณทั้งสองก็จะทำแบบนี้กันไปตลอดชีวิตเหรอ? อย่างนั้นหนิงเสี่ยวซีก็จะไม่ได้เจอแม่ไปตลอดชีวิตใช่ไหม?"
พูดถึงตรงนี้ เหอเฟยก็โทษตัวเองอย่างมาก ครั้งที่แล้วที่หนิงเส่าเฉินแต่งงาน หลังจากที่เธอได้ยินว่าเฉินเป้ยอีตายแล้ว ก็ไม่ได้บอกหนิงเส่าเฉิน เรื่องที่เธอปิดบังโฉมหน้าและเธอเป็นแม่ผู้ให้กำเนิดของหนิงเสี่ยวซี เพราะเกรงว่ารู้ความจริงแล้วจะยิ่งทำให้เขาเป็นทุกข์ แล้วก็กลัวว่าหนิงเสี่ยวซีจะยิ่งสิ้นหวัง
แต่คาดไม่ถึง ที่แท้ระหว่างคนทั้งสอง ต่างก็เก็บซ่อนความเข้าใจผิดที่ใหญ่หลวงขนาดนี้
เย่หลินเม้มริมฝีปากแน่น ไม่ได้เปล่งเสียงเป็นเวลานาน ในสายตาของเธอแดงฉาน ไหล่สั่นระริก สั่นอย่างรุนแรง มือทั้งสองกำแน่นจนกลายเป็นหมัด หลังมือปรากฎเส้นเลือดอันปูดโปน
ช่วงเวลาหลายปีมานี้ เธอประสบพบเจออะไร มีเพียงตัวเธอเองที่รู้ หนิงเส่าเฉินต้องประสบพบเจออะไร แล้วหนิงเสี่ยวซีต้องพบเจอกับอะไร เธอก็คล้ายกับสามารถรับรู้ได้ ความทรมานในจิตใจนั้นคงไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน
ไปๆมาๆ แต่ละฉากก็ราวกับในละคร ที่ปรากฏให้เห็นอยู่ตรงหน้า
แต่ทุกสิ่งทุกอย่างนี้ เป็นเพียงเพราะเธอรู้สึกละอายใจต่อเกาเหวิน เพียงเพราะเธอคิดว่านั่นคือบรรทัดฐานของศีลธรรม ดังนั้น เธอจึงเลือกที่จะถอยออกมา เธอใช้ความเจ็บปวดของคนสองสามคน มาช่วยให้เธอสมหวังเพียงคนเดียว
ผลสุดท้าย ไม่นึกเลยว่าจะเป็นอุบาย
บนใบหน้าซีดเซียวไร้สีเลือด แววตาค่อยๆเปลี่ยนเป็นโหดเหี้ยมอำมหิต