เด็กอัจฉริยะ แม่ลึกลับ - ตอนที่ 124 เรื่องราวในชีวิตที่น่าทึ่งของเย่หลิน
การกระทำของคนทั้งสอง ทำให้แขกที่อยู่ในงานตกใจ แน่นอนรวมถึงเย่เส่าเฉินด้วย
"หยูจี้ คุณคิดจะทำอะไร?" เย่หลินคิดจะสะบัดมือของเขาทิ้ง แต่เขาจับไว้แน่นมาก
เสียงวิพากษ์วิจารณ์ด้านหลัง ยิ่งดังขึ้นเรื่อยๆ เย่หลินปวดหัวมาก
วันนี้เป็นงานแต่งงานของพวกเขา ทว่าตัวเขาเองก็ไม่ชัดเจนอย่างนี้ ต่อจากนี้อ้ายหมี่จะคิดยังไง?
"หยูจี้ คุณบอกฉันมาก่อนว่าจะทำอะไร? เกิดอะไรขึ้น?" เธอร้อนใจจนร้องไห้
ชูหยูจี้มองคนที่ตามมาทางด้านหลัง ก็จำใจหยุดฝีเท้าลง จากนั้นก็กระซิบข้างๆหูเย่หลิน : "คุณตาคุณมาตามหาคุณ เย่จึ"
ใคร? คุณตา? เย่หลินไม่ทีปฏิกิริยาตอบกลับไปชั่วขณะ คุณตา อยู่ในชีวิต 20 กว่าปีของเธอด้วยหรอ? เป็นคำศัพท์ที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน
เธอลืมไปแล้ว ว่าบนโลกนี้ ยังมีคุณตาที่มีชีวิตอยู่ด้วย?
คุณตา ก็คือพ่อของแม่เธอ ไม่ผิดใช่ไหม? แต่แม่ของเธอจายไปแล้ว อีกทั้งในความทรงจำของเธอ แม่ไม่เคยเอ่ยถึงพ่อแม่เลย ครั้งเดียวก็ไม่เคย
ยิ่งไปกว่านั้น อยู่ต่างประเทศอย่างนี้ คุณตาคนนี้ จะโผล่ออกมาจากไหน? กะทันหันขนาดนี้
อีกทั้ง สามารถทำให้ชูหยูจี้ร้อนรนขนาดนี้ เธอแปลกใจจริงๆ ว่าคนนั้นคือใคร?
ตอนนี้ เธอก็เลยไม่ได้ขัดขืน รีบเดินตามชูหยูจี้ไป
นอกห้องโถงรับแขก ชายชุดดำสองสามคน ยืนอยู่สองแถว เห็นชูหยูจี้กับเธอมา ทั้งหมดก็โค้งคำนับ คนด้านหลังที่อยากเข้ามามองอย่างตื่นเต้น ถูกชายชุดดำด้านนอกขวางไว้
เข้าไปในห้องโถง นายท่านอ้ายหันหลังให้พวกเขา โค้งตัวเล็กน้อย นั่งลง ชายชราที่มีหนวดเคราสีขาวนั่งอยู่ ชายชราเครายาวประมาณฟุต ผมหงอกขาว หลับตา ฟังนายท่านอ้ายพูดอะไรอยู่
"พ่อ เย่จึมาแล้ว" ชูหยูจี้พูด นาท่านอ้ายก็หันกลับมา มองเย่หลิน ยิ้มแล้วเอ่ยเรียก
"เย่หลิน เร็ว มาเร็ว คุณดูสิว่านั่นใคร?" นายท่านอ้ายกับเธอไม่เคยเจอหน้ากัน ไม่ค่อยคุ้นเคยเท่าไหร่ จากนั้น คนรุ่นหลังๆ ก็เจอกันปกติ ไม่ได้ทักทายแบบมีมารยาท ดังนั้น จู่ๆขณะนี้เขาก็แสดงความรักใคร่กับเธอ มีได้เพียงเหตุผลเดียว เพราะชายชราที่เรียกว่าคุณตาคนนั้น
เธอแปลกใจจริงๆ ว่าท้ายที่สุดคุณตาของเธอนี้เป็นใคร ถึงสามารถทำให้นายท่านอ้านเคารพนบนอบเช่นนี้
เห็นเธอไม่ขยับเขยื้อน ชูหยูจี้ที่อยู่ข้างๆก็ผลักเธอ เย่หลินก้มหน้า พูดอย่างไม่รู้ร้อนรู้หนาวว่า : "ขอโทษนะคะ ฉันไม่รู้จัก"
เธอพูดตามความจริง
ชายชราลืมตาขึ้นอย่างรวดเร็ว มองเย่หลิน ยันไม้ค้ำหัวมังกร ลุกขึ้นยืน เดินไปข้างๆเย่หลิน "ยัยหนู คุณคือลูกสาวของผิงจึใช่ไหม?"
หลินผิง คือชื่อของแม่เธอ ผิงจึ น่าจะเป็นชื่อเรียกเล่นๆของแม่
เธอพยักหน้า ไม่พูดอะไร
"เธอสั่งสอนคุณแบบนี้หรอ? เห็นผู้อาวุโส ก็ไม่มีมารยาทแบบนี้นะหรอ?" ดูๆชายชรา ก็อายุมากแล้ว แต่พอพูดขึ้นมา กลับลึกซึ้งทรงพลัง ดูมีอำนาจเช่นนั้น หนิงเส่าเฉินยังเทียบไม่ได้
แต่ เธอไม่ได้รู้สึกกลัว กลับกัน ขณะนี้ จะบอกเธอว่าชายชราคนนี้คือคุณตา ก็ยิ่งรู้สึกเคียดแค้น
เดิมทีเธอคิดว่าแม่ไม่มีญาติ อย่างไรเสียป่วยจนกลายเป็นอย่างนั้น ก็ไม่มีใครมาดูเธอสักคน
แต่ ไม่คิดว่า จะมี และยังเป็นญาติที่สนิทที่สุด
"แม่ฉันป่วย จนตาย ก็ไม่เคยมีคนในครอบครัวมาดูเธอเลยสักคน ฉะนั้น ตลอดมาฉันคิดว่าหลังจากที่แม่ฉันตายไป ฉันก็คือเด็กกำพร้า ในเมื่อเป็นเด็กกำพร้า จะต้องมีผู้อาวุโสซะที่ไหน?" เธอไม่รีบไม่ร้อน ตอบกลับอย่างไม่แข็งกร้าวและไม่ถ่อมตัว
เธอได้ยินเสียงสูดลมหายใจของคนข้างๆ
นายท่านหลินมองเด็กผู้หญิงตรงหน้า ตอนแรกในสายตาก็เจ็บปวดอย่างมาก ต่อจากนั้นก็ชื่นชมอย่างมาก
เพียงแต่ เสียงก็ยังเย็นชา "พาเธอไป"
พูดจบ เงาบุคคลสองสามคนด้านหลังเย่หลินเข้ามา
เย่หลินจึงเงยหน้า มองไปยังชายอาวุโสที่อยู่ตรงหน้า สายตาปรากฎความไม่เข้าใจ "คุณจะทำอะไร?"
ชูหยูจี้ก็รีบร้อน "นายท่านหลิน มีอะไร ค่อยพูดค่อยจากันก็ได้ คุณเป็นคุณตาของเย่จึ เธอไม่รู้เรื่อง คุณอย่าตำหนิเธอเลย"
เย่หลินฟังออกถึงน้ำเสียงของชูหยูจี้ คาดไม่ถึงว่าจะสั่นเล็กน้อย
"คุณยายของคุณอยากพบคุณ แล้วก็ เด็กผู้หญิงคนนั้น ตอนนี้น่าจะถึงแล้ว คุณยังจะไปไหม?"
เด็กผู้หญิง? เย่หลินตกใจ "คุณทำอะไรเย่เสี่ยวโม่?"
เธอซักถามด้วยน้ำเสียงตำหนิติเตียน ทำให้นายท่านหลินไม่พอใจเล็กน้อย นี่มันกี่ปีมาแล้ว ที่ไม่มีใครกล้าพูดกับเขาแบบนี้?
หันตัวกลับ สองมือไพล่หลัง เดินไปยังด้านนอก
เวลาเดียวกันชายชุดดำสองสามคนก็หันตัวกลับมา ยืนอยู่ด้านข้างเย่หลิน ถ้าหาก คุณไม่ไป พวกเขาก็จะช่วยเหลือ
เย่เสี่ยวโม่อยู่ที่นั่น ถึงแม้ว่าจะเป็นถ้ำเสือบึงมังกร เย่หลินก็จะไป ดังนั้น เธอหันไปมองชูหยูจี้ทีหนึ่ง ฉีกริมฝีปากยิ้มๆ "ไม่เป็นไร วันนี้คุณเป็นเจ้าบ่าว อย่าทำหน้านิ่งคิ้วขมวด เอ่อ ทางด้านของบริษัทคุณช่วยดูแลประสานงานไปก่อนนะ ฉันจะรีบกลับมาโดยเร็ว"
มองเครื่องบินส่วนตัวที่หรูหราตรงหน้า หลังทางเข้าเครื่องบิน มีชายชุดดำยืนอยู่อีกสองแถว ถึงแม้ว่าเย่หลินจะเคยสัมผัสกับหนิงเส่าเฉิน ชูหยูจี้ที่เป็นคนใหญ่โตแบบนี้ เวลานี้ก็ยังทำให้ต้องหวาดหวั่น
เย่หลินเป็นห่วงเย่เสี่ยวโม่ รู้สึกว่าเวลาผ่านไปช้ามาก ดังนั้น จึงคิดว่าเครื่องบินบินนานมากๆ ในที่สุด เครื่องบินลงจอดในสถานที่ที่คล้ายพระราชวังโบราณ
ลงจากเครื่องบิน มีผู้หญิงกลุ่มหนึ่งสวมชุดเหมือนกัน ล้อมรอบหญิงสูงอายุที่สง่างามสุภาพเยือกเย็นคนหนึ่ง เธอเดินเข้าไป ฉากนี้ ทำให้เย่หลินข้ามผ่านความรู้สึกของตัวเองไปในช่ะวพริบตา เหงื่ออกที่ฝ่ามือ อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
เคลื่อนสายตาลง มองไปยังในมือของหญิงชรา จูงเด็กผู้หญิงคนหนึ่ง ไม่ใช่เย่เสี่ยวโม่ แล้วจะเป็นใครล่ะ?
"แม่ คุณมาแล้วหรอ?" เย่เสี่ยวโม่วิ่งมาอย่างรวดเร็ว โผเข้าหาอ้อมกอดของเย่หลิน
เย่หลิยรีบคุกเข่าลง ตรวจสอบทั้งร่างกายของเย่เสี่ยวโม่ "เสี่ยวโม่ หนูเป็นอะไรหรือเปล่า? ทำไมหนูถึงมาอยู่ที่นี่คนเดียว? ทำไมหนูถึงไม่บอกแม่สักคำเลยล่ะ?"
เย่เสี่ยวโม่ถูกเย่หลินกล่าวตำหนิฉอดๆ เงยหน้ามองนายท่านหลิน "คุณตา คุณบอกว่าบอกกับแม่ของฉันแล้วไม่ใช่หรอ?" ขมวดคิ้วแน่น คว่ำปากน้อยๆ
นายท่านหลินกระแอมเบาๆ "ก็ที่ไม่ใช่รับมาให้คุณแล้วหรอ?"
"เด็กน้อย คุณเป็นทุกข์แล้ว" เสียงที่ผ่านโลกมาอย่างโชกโชนแต่อ่อนโยนดังมาจากเหนือศีรษะ
เย่หลินเงยหน้า ไม่เหมือนกับความเคร่งขรึมที่นายท่านหลินคนนั้นมีให้คนอื่น เพียงแค่เห็นหญิงอาวุโสคนนี้ เป็นคนที่มีความเมตตาและอ่อนโยน เวลานี้ดวงตาทั้งคู่ก็มีน้ำตาเอ่อออกมา ใบหน้านั้น ถึงจะมีรอยเหี่ยวย่นเต็มใบหน้า ก็ไม่ยากที่จะมองออกว่า ตอนสาวๆเธอต้องงดงาม
คนคนนี้ ถ้าเดาไม่ผิด คงจะเป็นคุณยายใช่ไหม? เพราะแม่เหมือนกับเธอ เธอก็เหมือนกับเธอ
คิดถึงตรงนี้ เธอก็อดไม่ได้ที่จะจ้องมอง เพียงแต่ เพราะเหตุใดตอนนี้ถึงตามหาเธอล่ะ? แม่ก็ตายไปแล้ว
"ในเมื่อพวกคุณต้องการรู้จัก ทำไมถึงไม่ทำความรู้จักตอนที่แม่ของฉันยังอยู่บนโลกนี้ล่ะ?" เธอคิดคิด แล้วก็เอ่ยปาก
หญิงชราที่อยู่ตรงหน้า เดินเข้ามาสองสามก้าว กุมมือของเธอ "เด็กน้อย พวกเราไม่เคยคิดเลยว่า โลกใหญ่ขนาดนี้ แม่ของคุณหลบหนีอย่างสุดความสามารถ วกเราไม่มีทางที่จะลงมือได้ ถ้าไม่ใช่จี้ในมือของเสี่ยวโม่เด็กคนนี้ พวกดราก็เกรงว่า แม้แต่คุณก็ไม่รู้จักด้วยซ้ำไป"
จี้?
"แม่ คุณดูสิ อันนี้?" ในอุ้งมือของเย่เสี่ยวโม่ มีเส้นสีแดงเส้นหนึ่งวางอยู่ อีกด้านหนึ่ง เป็นจี้ทรงสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูน จี้นั้นทำจากเงิน ด้านนอกแกะลายฉลุ ตรงกลางเป็นก้อนหินเล็กๆสีแดง นั่นคือสิ่งที่แม่ทิ้งเอาไว้ให้
เย่หลินเศร้าสลด รับเอามา "เย่เสี่ยวโม่ คุณเอามาจากที่ไหน?"