เด็กอัจฉริยะ แม่ลึกลับ - ตอนที่ 115 ถามถึงอดีต
หนิงเส่าเฉินชำเลืองมองเขา ถึงแม้ว่าจะหงุดหงิด แต่ยังคงมองตามสายตาเขาไป
เป็นเธอหรอ? ผู้หญิงที่หน้าตาคล้ายกับหนิงเสี่ยวซี?
ถึงแม้ว่าเธอตอนนี้ มันไม่น่าทึ่งเท่าหลังจากแต่งหน้าในคืนนั้น ชุดทำงาน แต่งหน้าอ่อนๆ ผมยาวมัดรวบไว้ข้างหลัง แต่งตัวเรียบง่ายมาก แต่ใบหน้าช่างงดงามอย่างยิ่ง เพียงแค่มองอย่างถี่ถ้วน แม้ว่าจะถูกปิดกั้นด้วยแว่นกรอบดำก็ตาม ก็หยุดความงามของเธอไม่ได้
"ลงไปขวางเธอไว้!" ครั้งที่แล้ว หลังจากที่เธอได้เปิดเผยใบหน้าออกมา แล้วก็ไม่มีร่องรอยอีก นอกจากนี้เขายังใช้เวลาส่วนใหญ่ในประเทศจีน เพื่อออกไปตามหา แต่ไม่มีข่าวคราวเลย คาดไม่ถึงว่าจะมาถึงต่างประเทศ
ผู้หญิงคนนั้นเดอมทีศัลยกรรมผิดพลาด เลยอารมณ์เสีย เมื่อสักครู่นี้ถูกช่างแต่งหน้าตบ ฉับพลันก็โกรธจนเต้าเร่าๆ
เห็นเย่หลินหันกลับต้องการจะไป เธอก็แทบจะโผเข้าไปหา เพียงแต่ ไม่รู้ว่ามีร่างหนึ่งออกมาจากไหน ดึงเย่หลินที่ไม่รู้จักมาก่อนมาไว้ด้านข้าง ดาราหญิงที่กำลังจะตะครุบตัวเธอก็ล้มลงบนพื้น ได้ยินเพียงเสียงร้องของเธอ"โอ้ย……”
จากนั้น ก็เห็นเธอปิดจมูก แล้ววิ่งออกไปด้านนอก เดิมทีก็ไม่มีเวลาจะไปหาเรื่องเย่หลิน
หลังจากเย่หลินมีปฏิกิริยาตอบกลับมา หันไปต้องการจะกล่าวขอบคุณ แต่หลังจากหันไป เมื่อเห็นหลิวซู เย่หลินก็ตัวแข็งทื่ออยู่ตรงนั้น ในสมองขาวโพลนว่างเปล่า หัวใจเต้นรัวราวกับกลอง
เธอก้มหน้าลงอย่างตื่นตระหนก หลับตา พยายามจัดระเบียบความคิดของตนเอง ก่อนจะลืมตาอีกครั้ง เธอก็ยิ้มแล้วมองหลิวซู
ชั่วพริบตา เธอดึงแขนที่ถูกหลิวซูจับไว้กลับมา โค้งตัวให้เขา แล้วพูดอย่างไม่ใส่ใจว่า : "ขอบคุณคุณผู้ชายสำหรับการช่วยเหลือ"
พูดจบ เธอก็หันกลับ จะเดินไป
หลิวซูอยู่ที่นี้ ไม่ต้องบอก ว่าหนิงเส่าเฉินก็อยู่ เธอคาดไม่ถึง ในโอกาสอย่างนี้ ทั้งสองได้พบเจอกันอีกครั้ง กะทันหันแบบนี้ หลบหนีไม่ทัน
ปีนั้นที่คลอดเย่เสี่ยวโม่แล้ว ภายในไม่กี่วัน เธอขอให้ชูหยูจี้ส่งเธอไปต่างประเทศ
เธอแค่กลัวว่าหากใกล้เกินไป ตนเองจะควบคุมหัวใจตัวเองไม่ได้
หลังจากมาถึงที่นี่ เดิมทีเธอคิดว่า ชั่วชีวิตนี้ จะไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีก
แต่ไม่คิดว่า จะบังเอิญเจอกันอย่างนี้
"คุณผู้หญิงท่านนี้ เจ้านายของเรามีเรื่องอยากจะถามคุณหน่อย รบกวนตามฉันไปชั้นบนด้วย" แตกต่างจากการพูดคุยของหลิวซูที่น่าประทับใจ เขาเวลานี้ สีหน้าเย็นชา น้ำเสียงเยือกเย็นและยากที่จะปฏิเสธ
จับแขนเย่หลินอีกครั้ง แล้วเดินไปทางบันไดที่อยู่ด้านหลัง
เย่หลินแทบจะถูกลากดึงขึ้นไปชั้นบน
แสงชั้นบนสลัวเล็กน้อย เย่หลินกำลังมองทางอยู่ ก็ถูกหลิวซูผลักเข้าไปในห้องห้องหนึ่ง
ประตู ด้านหลัง ถูกปิดลงอีกครั้ง
ร่างที่สูงใหญ่นั้น ใบหน้าที่ปราณีตงดงาม อารมณ์เย็นชา มองมา เย่หลินก็รู้สึดขอบตาแดง เธอก้มหน้าลง กลืนน้ำลาย ต้องใช้ความพยายามอย่างมาก จึงเอ่ยว่า "คุณผู้ชาย คุณตามหาฉันมีธุระอะไร?" เธอตั้งใจทำให้น้ำเสียงอ่อนโยนลง อีกอย่างใบหน้าที่แปลกแตกต่างนี้ เธอเชื่อว่าหนิงเส่าเฉินไม่สามารถจำเธอได้อย่างแน่นอน
หนิงเส่าเฉินชำเลืองมองเธอ เม้มปากบางๆ ไม่ได้ตอบกลับ
เป็นเวลานาน จึงค่อยๆพูดว่า : "เงยหน้าขึ้นมา"
ครั้งนี้เย่หลินไม่ได้ขยับเป็นเวลานาน จนกระทั่งเธอรู้สึกว่ามีร่างหนึ่งปกคลุมเธอ เธอจึงเงยหน้าขึ้น พบกับดวงตาที่ถามเจาะลึกของหนิงเส่าเฉิน มือที่ห้อยทั้งสองข้าง กำเป็นหมัดโดยไม่รู้ตัว
กระพริบตา เธอสูดลมหายใจเข้าจมูก น้ำตาไหลลงมาทั้งสองข้าง
"คือเธอมาหาเรื่องฉัน ฉันไม่ได้ตั้งใจล่วงเกินเธอ คุณผู้ชาย คุณปล่อยฉันเถอะ……."
พูดพลาง ก็เอื้อมมืออยากจะไปดึงเสื้อของหนิงเส่าเฉิน เป็นอย่างที่คาดไว้ มือเธอยังไม่ทันโดนชายเสื้อของเขา เขาก็ตอบสนองโดยการถอยหลังไปหลายก้าว สายตาเย็นชามองไปยังเธอ "ฉันถามคุณ เดือนเมษาใน9ปีที่แล้ว คุณอยู่ที่ไหน? กำลังทำอะไรอยู่? อย่าหวังที่จะโกหก ฉันสามารถส่งคนไปตรวจสอบได้……"
เดือนเมษายนใน9ปีที่แล้ว? ตอนนี้หนิงเสี่ยวซี9ขวบ 9ปีก่อน เดือนนั้นเป็นเดือนที่ให้คลอดหนิงเสี่ยวซี เธอขมวดคิ้ว จงใจเกาศีรษะ ผ่านไปครู่หนึ่ง เธอจึงตอบกลับว่า: "ปีนั้น ฉันอยู่มหาวิทยาลัยปีหนึ่ง เดือนเมษายน ฉันก็น่าจะกำลังอ่านหนังสืออยู่"
ช่วงเวลาสั้นๆนี้ เธอต้องอขอบคุณที่ก่อนหน้านี้ชูหยูจี้ได้ช่วยทำข้อมูลให้เธอใหม่อีกครั้ง
"มหาวิทยาลัยปีหนึ่ง? ที่ไหน?"
"มหาวิทยาลัยเมืองW" เธอตอบกลับอย่างรวดเร็ว เพราะกลัวว่าจะในอนาคตจะต้องมีวันนี้สักวันหนึ่ง ดังนั้น เธอจึงทำข้อมูลเย่หลินใหม่ แล้วท่องจำจนขึ้นใจแล้ว
"เคยมีลูกมาก่อนไหม?"
"มี!" เธอตอบกลับอย่างตรงไปตรงมา พอพูดจบ เธอก็กุมท้องน้อย ชี้ไปที่ทุเรียนอบแห้งที่อยู่บนโต๊ะ "คุณผู้ชาย ฉันขอทานนั่นหน่อยได้ไหม? ตอนเย็นฉันไม่ได้ทานข้าว หิวมากเลย!" เธอพูดความจริง แต่ ก็ต้องการที่จะใช้อาหารมาปกปิดความเชื่อมั่นของตนเอง แล้วก็ เฉินเป้ยอีไม่ทานทุเรียน
หนิงเส่าเฉินมองเธออย่างลึกซึ้ง แล้วพยักหน้า
ต่อจากนั้นเย่หลินก็พยักหน้าเพื่อขอบคุณ หยิบทุเรียนอบแห้งบนโต๊ะขึ้นมา ออาใส่ในปาก ทานอย่างเอร็ดอร่อย
ในห้องที่ไม่ใหญ่ ก็อบอวลไปด้วยกลิ่นของทุเรียน
เวลานี้ มือถือในกระเป๋าก็ดังขึ้น
เธอมองแล้ว สีหน้าก็ดีใจ คิดๆแล้ว ก็จงใจกดเปิดลำโพง "ฮัลโหล เสี่ยวโม่"
"แม่ คุณจะกลับมาเมื่อไร? ฉันเป็นไข้ ถ้าคุณยังไม่กลับมาอีก คุณอาจจะไม่ได้เห็นหน้าฉันครั้งสุดท้ายแล้วนะ" เสียงที่อ่อนโยนแฝงไปด้วยความออดอ้อน มาจากอีกด้านหนึ่งของมือถืออย่างกระง่อนกระแง่น
เย่หลินลูบหน้าผาก "เย่เสี่ยวโม่ ฉันบอกคุณแล้ว ทีหลังคุณดูละครเกาหลีให้น้อยหน่อยนะ" ในมือถือ ไม่ได้ขานรับ มีเสียงซ่าซ่าดังเข้ามา ผ่านไปครู่หนึ่ง
"คุณเย่ คุณรีบกลับมาเถอะ เสี่ยวโม่ไข้ขึ้น 40 องศา เธอกลัวว่าคุณจะเป็นกังวล ไม่ยอมให้ฉันโทรศัพท์หาคุณ ฉันเห็นเธอเมื่อกี้ ตัวเริ่มสั่นแล้ว ทานยาลดไข้แล้ว ก็ไม่เป็นผล คุณรีบกลับมาพาเธอไปโรงพยาบาลเถอะ" คือเสียงของพี่ซวี่ ฟังออกว่า ร้อนใจอย่างมาก
ถึงแม้ว่าเย่เสี่ยวโม่จะพูดจาเรื่อยเปื่อย แต่ ก็อบอุ่นใจ รู้ว่างานเธอยุ่ง เพิ่งสองขวบก็ขอให้เธอส่งเธอไปโรงเรียนอนุบาล โรงเรียนมีกิจกรรมอะไร ก็ไม่เคยเอามาบอกเธอ
มีครั้งหนึ่ง เด็กคนอื่นล้วนมีพ่อแม่จูงมือมา ทำกิจกรรม
มีเพียงเธอ ที่อยู่คนเดียว
เมื่ออาจารย์ส่งวีดิโอมา เธอก็รู้สึกผิดต่อเธออย่างมาก โอบกอดเธอร้องไห้อย่างเจ็บปวดใจ แต่เด็กคนนั้นกลับปลอบโยนเธอ บอกว่าเธอเซนซิทิฟเกินไป
เด็กที่ยิ่งรู้ว่าอะไรควรอะไรไม่ควร ก็ยิ่งรู้สึกติดค้างเธออย่างมาก แล้วก็ยิ่งเจ็บปวดใจ
แต่ว่า หลายปีมานี้ ถึงแม้ซีเอกซ์จะดีขึ้นทุกๆวัน แต่อุตสาหกรรมนี้มีการแข่งขันสูง เธอก็มีความกดดันไม่น้อย เปิดบริษัทนี้ ชูหยูจี้ให้ความไว้วางใจและสนับสนุนทางการเงินให้เธอ เธอไม่อยากทำให้เขาต้องผิดหวัง ในเมื่อทำแล้ว เธอก็อยากจะทุ่มเทอย่างสุดความสามารถ ดังนั้น นอกจากเมื่อช่วงปีใหม่นั้น เธอก็ไม่ได้หยุดแทบตลอดทั้งปี
"โอเค ฉันจะกลับไปเดี๋ยวนี้" วางสายแล้ว ลุกขึ้น ลุกลี้ลุกลนเดินออกหน้าประตู แต่ก็ถูกคนทางด้านหลังดึงแขนเอาไว้