เด็กอัจฉริยะ แม่ลึกลับ - ตอนที่ 114 เส่าเฉิน ดูเร็ว ว่านั่นใคร?
เย่หลิน ประธานคนปัจจุบันของบริษัทซีเอกซ์เมคอัพ
สองปีครึ่งก่อนหน้านี้ หลังจากที่เย่เสี่ยวโม่หย่านมเมื่ออายุได้หกเดือน เธอก็คิดที่จะออกไปหางานทำ
แต่ ที่ต่างประเทศ ภาษาอังกฤษเธอไม่ค่อยดี ไม่มีประกาศนียบัตรวิชาชีพ อีกทั้งเธอไม่อยากพึงความสัมพันธ์ของชูหยูจี้ ดังนั้น งานจึงไม่ได้หาง่ายๆ
ท้ายที่สุดเธอก็จนปัญญา เธอจึงล้มเลิกการมองหางานแต่งหน้า จึงไปทำเคาน์เตอร์ร้านค้าเพื่อโปรโมตการขายเครื่องสำอาง และด้วยเหตุนี้ จึงได้เปิดบทบาทในอาชีพของเธอ
เพราะเธอชำนาญในด้านการแต่งหน้า สามารถสังเกตข้อดีและข้อเสียของใบหน้าแขกได้ในพริบตาเดียว และสามารถช่วยปกปิดข้อด้อยของมันได้อย่างแม่นยำ เน้นจุดเด่น คนขยันมั่นเพียร ทุ่มเทพยายาม ปฏิบัติสุภาพอ่อนโยนต่อผู้อื่น ดังนั้น ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่เธอส่งเสริมการขาย ไม่นานสินค้าในห้างก็หมด
ต่อมา มีหลายแบรนด์เริ่มขุดคุ้ยเธอ
หลังจากนั้น ด้วยการสนับสนุนและการลงทุนของชูหยูจี้ เธอก่อตั้งสตูดิโอของตัวเอง เนื่องจากบริษัท"เย่หลิน"สนับสนุนเธอ ดาราในประเทศหลายคนที่เริ่มชื่นชอบชูหยูจี้ ก็มาที่นี่เพื่อเข้าร่วมกิจกรรม ทั้งหมดมาหาเธอ เพื่อเทคนิคการแต่งหน้าและบุคลิกของเธอ หลังจากมีการยอมรับที่มากขึ้น จึงเริ่มช่วยโฆษณาเธอในแวดวงการ ในชั่วขณะ สตูดิโอ"ซีเอกซ์"ของเธอถูกได้รับความสนใจจากโลกภายนอก
ในช่วงเวลานี้ ชูหยูจี้ช่วยจัดหาช่างแต่งหน้าที่มีชื่อเสียงจำนวนมากทั้งในและต่างประเทศ เพื่อเข้ามาร่วมงาน
ธุรกิจมาถึงจุดที่ประสบความสำเร็จ เมื่อต้นปีนี้สตูดิโอของเธอยังเปลี่ยนชื่อเป็นบริษัทซีเอกซ์เมคอัพ
และ ทั้งหมดนื้ ใช้เวลาเพียงแค่สองปีกว่าๆ
เย่หลินหยุดเดินชั่วขณะ พยักๆหน้า ถึงแม้ว่าตอนนี้ตัวตนของเธอจะไม่เหมือนเดิม แต่ เพราะเป็นแบรนด์ของซีเอกซ์ อีกทั้งตัวเธอเองก็ชอบแต่งหน้ามากกว่า ดังนั้น เธอจะไม่ยอมทิ้งงานแต่งหน้านี้ เพียงแต่กำหนดรับแค่สองคนต่อวัน แม้ว่าราคาจะสูงมากก็ตาม แต่ว่ากันว่าต้องจัดคิวนัดล่วงหน้าถึงสองสามเดือน
"โอเค ฉันทราบแล้ว"
หลังจากจัดการเรื่องของบริษัทในช่วงบ่ายแล้ว เธอก็ทำการเปลี่ยนชุดทำงานของตนเอง แล้วคนขับรถของบริษัทก็พาเธอไปส่งที่งานเลี้ยง
เพราะเธอวางตัวดี ใครๆก็รู้ว่าซีเอกซ์มีช่างแต่งหน้าฝีมือยอดเยี่ยม แต่มีไม่กี่คนที่รู้ว่า ช่างแต่งหน้าคนนี้ยังเป็นเจ้านายที่อยู่เบื้องหลังซีเอกซ์ด้วย
งานเลี้ยงได้จัดขึ้นให้เหมือนกับอยู่ในคฤหาสน์
"เกิดอะไรขึ้นกับบริษัทของคุณ? จ่ายไปมากขนาดนี้ คาดไม่ถึงว่าจะยังไม่ตรงต่อเวลาอีก" เธอเพิ่งจะลงจากรถ ก็เห็นสาวชาวจีนคนหนึ่งยืนอยู่หน้าประตูคฤหาสน์ เห็นรถของพวกเขาเข้ามา ก็เข้ามาเผชิญหน้า มองดูเวลา ก็อ้าปากต่อว่าอย่างรุนแรงโดยไม่สุภาพเลยแม้แต่น้อย
เผชิญหน้ากับผู้หญิงที่อำนาจบาตรใหญ่ตรงหน้า เย่หลินมองนาฬิกาข้อมือบนแขนขวา ยังมีเวลาอีก 5 นาทีกว่าจะถึงเวลานัด เธอยังไม่ได้สายไป แต่ว่า ลูกค้าคือพระเจ้า เธอไม่ได้โต้แย้งอะไร
เธอโค้งตัวเล็กน้อย เริ่มจัดของที่ใช้สำหรับการแต่งหน้า ผมลอนยาวสีน้ำตาลแดง ผมม้าสั่นไหว เลยทัดไว้ที่ข้างหู เพราะการโค้งตัว จึงเปิดเผยใบหน้าที่สวยไร้ที่ติออกมา
ผู้หญิงที่ยืนอยู่ข้างๆเธอบ่นพึมพำ : "ช่างแต่งหน้า สวยขนาดนี้เลยหรอ? เทคนิคนั่น สามารถทำได้หรอ? ไม่ใช่จงใจหาข้ออ้างในการแต่งหน้าเพื่อปะปนเข้ามาด้านใน เพื่อมาจับผู้ชายใช่ไหม?"
เย่หลินได้ยินแล้ว ก็แกล้งทำเป็นไม่ได้ยิน ไม่แสดงอารมณ์ผันแปรบนใบหน้า
แต่ลูกค้าคนนั้น ชัดเจนว่ามีสีหน้าไม่พอใจ
ระหว่างผู้หญิง บางครั้ง มีความริษยาที่ยากจะหลีกเลี่ยง ถูกเปรียบเทียบกับช่างแต่งหน้า ใครก็ไม่ค่อยมีความเต็มใจนักหรอก
เมื่อเย่หลินอยู่ที่บริษัทเสริมสวย ปกติจะสวมผ้าปิดปาก ดังนั้น จึงไม่เคยพบปัญหาเหล่านี้
นึกถึงตรงนี้ เธอก็หยิบผ้าปิดปากออกมาจากกระเป๋า ปิดบังโฉมหน้าที่งดงามของเธอ แล้วก็หยิบแว่นดำมาสวมใส่จนเอง ต่อจากนั้น ผมที่ยาวก็ใช้หนังยาง มัดเอาไว้ด้านหลัง ชั่วพริบตา หากมองไม่ละเอียด ก็กลายเป็นคนทั่วๆไป
ลูกค้าคนนั้น นี่จึงทำให้สีหน้าคลี่คลาย
"เอาล่ะ คุณแต่งหน้าให้ฉันใหม่หน่อย"
บนใบหน้าของผู้หญิงคนนี้ชัดเจนว่าผ่านมีดมาไม่น้อย เค้าโครงใบหน้าแข็งทื่ออย่างชัดเจน หลายปีมานี้ เย่หลินเห็นใบหน้าแบบนี้มาไม่น้อย แต่…..ที่เว่อร์ขนาดนี้ เธอก็พบได้น้อย ดั้งจมูกนั้นเล็กจนเหมือนกับอะไรบางอย่าง เมื่อเธอแต่งหน้าให้เธอ การกระทำบนในมือ ล้วนยับยั้งให้เบาอย่างมาก
"เฮ้ คุณแต่งหน้ายังไงเนี่ย? อย่างกับผีเลย….." หลังจากแต่งหน้าเสร็จ ผู้หญิงคนนั้นมองกระจกแล้วก็ตะโกนขึ้นมา
ชั่วพริบตา ก็ดึงดูดให้คนมองมาไม่น้อย
เย่หลินยืนอยู่กับที่ ก้มหน้า ไม่ได้ตอบกลับ ชัดเจนว่าผู้หญิงคนนี้มีจุดเล็กจุดน้อย ดังนั้น โดยปกติจะต้องพึ่งการแต่งหน้าเข้มเพื่อปกปิด แต่ การแต่งหน้าแบบนั้น ไม่มีความงดงามเลยแม้แต่น้อย แล้วก็ไม่ใช่สไตล์ของเย่หลิน
ดังในเวลานี้ที่เย่หลินแต่งหน้าปกติให้เธอ ใบหน้าของเธอที่มีจุดบกพร่องเล็ก ก็ปรากฎออกมา ต่อให้พยายามปกปิด แต่ในที่สุดก็ปกปิดไม่อยู่
"คุณแต่งหน้าให้ฉันใหม่เดี๋ยวนี้!" เธอชี้นิ้วเย่หลิน กล่าวออกคำสั่งเสียงดัง
เย่หลินนิ่งอึ้งไปเล็กน้อย ยังคงไม่ตอบโต้ หยิบเครื่องสำอางแต่งหน้าออกมา แต่งหน้าใหม่อีกครั้ง แต่ชัดเจนอย่างมากว่าวันนี้ผู้หญิงคนนี้เถียงเธอ เมื่อเธอกำลังจะแต่งหน้าตามคำเรียกร้องของเธออีกครั้ง ผู้หญิงคนนั้นก็ตวาดเสียงดัง ยกมือขึ้นผลักเธอจนล้มลงกับพื้น ผ้าปิดปากบนใบหน้าหลุดลงกับพื้น "นี่คุณแต่งหน้าอะไรกันห๊ะ? แล้วยังมาคุยโม้ว่าตัวเองเก่งมากอีก ฝีมือแบบคุณนี่ แต่งหน้าให้คนตายล่ะก็พอได้!"
บนระเบียงคฤหาสน์ชั้นสอง หนิงเส่าเฉินและหลิวซูต่างก็ถือไวน์แดงคนละแก้ว กำลังพูดคุยกันเกี่ยวกับงาน ก็ถูกเสียงดังของผู้หญิงของผู้หญิงคนนี้ พวกเขาจึงมองเข้ามา
เวลานี้ มือทั้งสองของเย่หลินกำแน่น ลุกขึ้นยืน ปัดๆมือ ก้มตัวลง เก็นบเครื่องสำอางทั้งหมดที่อยู่บนพื้น หันไปแล้วทำท่าจะออกไป ในเมื่อไม่เห็นพ้องต้องกัน อย่างนั้นเงินนี้ เธอไม่เอาก็ได้
แต่ มือก็ร้อนขึ้น เธอหันกลับมาด้วยจิตสำนึก ยังไม่ทันได้ตอบโต้ เสียง"เพี๊ยะ" ถูกตบเข้าที่ใบหน้า
ฝูงชนเสียงดังอื้ออึง
บางคนก็รู้จักผู้หญิงคนที่ตบ "เธอไม่ใช่ดาราดังคนนั้นหรอ?"
"ใช่ คือเธอ มีรายงานหลายวันก่อนว่าการศัลยกรรมผิดพลาด อย่าให้พูดเลย หน้าตาแบบนี้ คนก็ไม่ใช่ ผีก็ไม่เชิงจริงๆ……."
"คือ ตนเองผิดพลาดเอง แล้วยังไปโทษคนอื่น"
"ช่างแต่งหน้าคนนี้ช่างซวยซะจริงๆ….."
เย่หลินปิดหน้า ก้มตัว เก็บแว่นตาบนพื้น สวมใหม่อีกครั้ง กวาดสายตาไปที่ใบหน้าผู้หญิงคนนั้นอย่างเย็นชา หลังจากสักพักใหญ่ เธอก็ก้าวไปข้างหน้าก้าวหนึ่ง ยกมือขึ้น ผู้หญิงคนนั้นยังไม่ทันได้ตอบโต้ เธอก็ตบเธอกลับไปทีหนึ่ง
เธอบอกว่าการบริการเป็นสิ่งสำคัญ แต่ เธอไม่ได้บอกว่า จะสามารถรังแกคนได้ตามอำเภอใจ
ชัดเจนว่าผู้หญิงคนนั้นไม่คาดคิดว่าเธอจะสู้กลับ จึงนิ่งอึ้งไปแล้วไม่ตอบโต้ไปชั่วขณะ……
แต่เวลานี้ บนชั้นสอง……
เมื่อหลิวซีได้เห็นหน้าตาของเย่หลินชัดเจน ก็ตกใจจนถึงขีดสุด เขาใช้ข้อศอกกระแทกหนิงเส่าเฉินที่ดึงสายตากลับไปนานแล้ว "เส่าเฉิน ดูเร็ว นั่นคือใคร?"