เด็กอัจฉริยะ แม่ลึกลับ - ตอนที่ 101 ท้ายที่สุดก็ต้องถอนหมั้น
หลังจากแต่งหน้าแล้วก็ออกไป คนดูแลในร้านก็มาบอกกับเธอว่า เหอเฟยมีธุระ จึงออกไปก่อน แล้วนำกล่องเล็กๆมาส่งให้เธอ
"คุณเฉิน พี่เหอบอกว่า หนังสือข้างในนี้ คุณเฉินเอากลับไปอ่านก่อน รอให้อ่านหนังสือจบ แล้วค่อยมาเข้าเรียนที่นี่อีกครั้ง"
เฉินเป้ยอีรับกล่องนั้นมา กล่าวขอบคุณแล้วก็กลับบ้าน
หนังสือที่เหอเฟยให้เธอ ทั้งหมดพูดเกี่ยวกับการเสริมความงาม คล้ายกับการแต่งหน้าของคนผิวขาว แต่งหน้าแบบอินเดีย การแต่งหน้าแบบอียิปต์ การแต่งหน้าแบบย้อนยุค การแต่งหน้าในราชวงศ์ถัง การแต่งบาดแผลกระสุนปืน บาดแผลจากมีด รอยฟกช้ำ แผลถลอก แผลโดนฟัน นิ้วขาดเป็นต้น การแต่งหน้าเทคนิคพิเศษในภาพยนต์และทีวี ประวัติศาสตร์ สมัยใหม่ หนังไซ-ไฟ ยุคใกล้ปัจจุบัน เทพนิยาย การแต่งหน้าละครทีวี การแต่งหน้าละครเวที
ประเภทที่เกี่ยวข้องมีมากมายและซับซ้อน เธอเห็นเหอเฟยจดบันทึกขั้นตอนที่สำคัฟนและเกี่ยวข้อง เช่นด้านไหนต้องสนใจอะไร วิธีการแบบใดที่มีประสิทธิผลดีกว่า เนื้อหามีสาระสำคัญ ทำให้เฉินเป้ยอีชื่นชมอย่างมาก
เธอเคยเห็นตัวหนังสือของเหอเฟย ชัดเจนมาก ว่าหนังสือเล่มนี้ น่าจะเป็นของส่วนตัวของเธอเอง
ดูกล่องไม้เล็กๆที่ใส่หนังสือนั้น ในความปราณีตละเอียดอ่อนเผยให้เห็นความหรูหรา เธอคู่ควรกับมันอย่างมาก
นึกถึงตรงนี้ ในใจก็ยิ่งอบอุ่นและซาบซึ้ง
เธอไม่เคยรู้เลย ว่าแท้จริงแล้วอาชีพแต่งหน้ายังมีอะไรต้องเรียนรู้อีกมาก เวลานี้ก็ถูกเนื้อหาด้านในดึงดูดความสนใจไว้แล้ว
จนกระทั่งหนิงเส่าเฉินโทรมา เธอจึงได้สติ
"ข้างนอกบ้าน ออกมาสิ ฉันจะพาคุณไปทานข้าว"
เฉินเป้ยอีตอบรับ นำหนังสือในมือเก็บไว้ในกล่องไม้เล็กๆ ใส่กุญแจดีแล้ว จึงลงไปชั้นล่าง
"คุณกลับมาได้ยังไง?" เมื่อเดินออกมา ก็เห็น หนิงเส่าเฉินยืนพิงประตูอยู่
"ถ้าฉันบอกว่าอยากเจอคุณจนทนรอไม่ไหว คุณจะเชื่อไหม?" หนิงเส่าเฉินเปิดประตูรถให้เธอ
เฉินเป้ยอีดึงๆชายเสื้อ กลอกตามองบนใส่เขา เธอไม่เคยรู้มาก่อนว่าหนิงเส่าเฉินผู้เย็นชาขนาดนั้นจะพูดคำหวานๆขึ้นมา นึกไม่ถึงว่าอยู่ดีๆจะพูดออกมา
"คุณน้าของคุณให้ของสะสมของตนเองแก่ฉัน คุณช่วยฉันพูดขอบคุณหน่อยสิ" เธอคาดเข็มขัดนิรภัยไปพลาง พูกับหนิงเส่าเฉินไปพลาง
"นั่นคือเธอพบว่าคุณมีพรสวรรค์ทางด้านนี้ อยากที่จะปลูกฝังคุณ" หนิงเส่าเฉินสตาร์ทรถ แล้วยกมือขึ้นบีบๆใบหน้าของเฉินเป้ยอี
"ฉันรู้ ว่าคุณฝากฝังกับเธอ" เธอตอบกลับตามความเป็นจริง "ขอบคุณคุณนะ!"
หนิงเส่าเฉินขมวดคิ้ว "ขอบคุณฉันทำไม? ที่มอบหัวใจให้อ่ะหรอ?"
เวลานี้ พอดีกับรถที่อยู่ภายใต้แสงอาทิตย์ แสงแดดในฤดูใบไม้ผลิ ส่องผ่านกระจกเข้ามา เฉินเป้ยอีเหมือนจะตัดสินใจอะไรบางอย่าง จู่ๆก็จับมือใหญ่ของหนิงเส่าเฉินที่วางอยู่บนเข่า "หนิงเส่าเฉิน ฉันจะพยาบามอย่างเต็มที่ หากเป็นเช่นนั้น ถึงแม้ว่าในอนาคตจะไม่มีคุณ ฉันก็จะอยู่ให้ได้"
เธอไม่เคยรู้มาก่อนว่าประโยคนี้ก็เหมือนกับคำทำนาย อีกไม่นาน เธอก็จะทำให้เป็นจริงขึ้นมา
"เอี๊ยด"
รถที่ขับอยู่ จู่ๆก็เลี้ยวขวา จากนั้นก็เบรกทันที รถจึงหยุดอยู่ข้างถนน
หนิงเส่าเฉินหันมา มองเฉินเป้ยอี ด้วยสีหน้าจริงจัง : "คุณหมายความว่ายังไง?"
มีความโกรธและความเจ็บปวดในดวงตาที่เย็นชาของเขา และยังมีความหวาดกลัวเล็กน้อย
เฉินเป้ยอีถูกการตอบสนองนี้ของเขาทำให้ตกใจ เธอกลืนน้ำลาย "เอ่อ ฉัน……ฉันหมายความอย่างที่พูดแหละ ถ้าในอนาคตคุณไม่ต้องการฉันแล้ว งั้นฉันก็……”
น่าเสียดายที่เธอยังไม่ทันพูดจบ ถูกคนใช้สองมือโอบท้ายทอยของเธอ โน้มตัวเข้ามาจูบ มีการลงโทษอยู่ด้วย ในการจูบ
จนกระทั่งเฉินเป้ยอีถูกจูบจนแทบหายใจไม่ออก หนิงเส่าเฉินจึงปล่อย หน้าผากของทั้งสองคนชนอยู่ด้วยกัน
หนิงเส่าเฉินค่อยๆพูดว่า "เป้ยอี เรื่องการถอนหมั้น รออีกสองสามวัน เชื่อฉันนะ ฉันจะไม่ทิ้งคุณไป แล้วฉันก็สามารถ จะทำให้คุณได้มีตัวตนอย่างเปิดเผย"
น้ำเสียงของเขาเบามาก แต่ก็อบอุ่นมากเช่นกัน
เฉินเป้ยอี"อืม"เบาๆคำหนึ่ง
ความจริง เธอก็อยากจะอธิบายว่าตนเองไม่ได้หมายความว่าแบบนี้ ความจริง เธอเพียงแค่อยากทำให้เขาเบาใจ
แต่ เวลานี้ เธอไม่อยากจะพูดอะไรอีก
สองสามวันต่อมา เฉินเป้ยอีไม่อยากคิดถึงเรื่องระหว่างเธอและหนิงเส่าเฉินอีก ทั้งใจของเธอจึงทุ่มอยู่กับหนังสือสองสามเล่มที่เหอเฟยมอบให้เธอ เรียนรู้จนไม่เป็นอันกินอันนอน มักจะต้องให้หนิงเส่าเฉินเตือน ถึงจะจำได้ว่าต้องทานข้าว
แต่หนิงเส่าเฉิน หลังจากวันนั้น นอนหลับข้างกายของเธอแทบทุกวัน แต่ก็ไม่เคยเกินเลยสักครั้ง เพียงแค่กอดเธออย่างเรียบง่าย
การให้เกียรติของเขานี้ทำให้หัวใจของเฉินเป้ยอี นับวันยิ่งอบอุ่นมากขึ้น
"หนิงเส่าเฉิน คุณมาช้ากลับก่อนเวลาแบบนี้ทุกวัน ไม่กลัวคนอื่นตำหนิคุณเอาหรอ?" เฉินเป้ยอีที่นอนอ่านหนังสืออยู่บนตักของหนิงเส่าเฉิน มือใหญ่ๆของหนิงเส่าเฉินลูบไปมาที่ผมของเธอ
หนิงเส่าเฉินหัวเราอย่างเย็นชา "ใครจะกล้าตำหนิ?"
เฉินเป้ยอีมองเขา ก็จริงๆ เขาเป็นเจ้านายใหญ่ ไม่มีใครกล้าตำหนิหรอก
ลุกขึ้น เดินไปยังห้องเสื้อผ้าด้านนอกแล้วหยิบเสื้อมาให้เขาเปลี่ยน
"ลุกขึ้นเถอะ คุณชายหนิง หรือว่า จะให้ฉันช่วยเปลี่ยนให้?" ตอนออกมา เห็นหนิงเส่าเฉินยังนอนอยู่ตำแหน่งเดิมไม่ขยับ เฉิยเป้ยอีจึงกล่าวหยอกล้อ
หารู้ไม่ว่ายังไม่ทันพูดจบ ก็ถูกดึงเข้าไปในอ้อมกอดของใครบางคน พลิกตัว แล้วก็ถูกกดไว้ภายใต้ตัวเขา
เห็นสีแดงเป็นเลือดฝาดบนใบหน้าของผู้หญิงตรงหน้า หนิงเส่าเฉินก็ยิ้มมุมปาก ผู้หญิงคนนี้ ตั้งแต่นานมาแล้ว ทุกครั้งที่มีการกระทำที่ค่อนข้างสนิทสนมอะไร ก็ยังคงหน้าแดง
เขาอดไม่ได้ที่จะจูบลงไป อ่อนโยนเป็นพิเศษ
ดมื่อรู่สึกว่าบริเวณท้องน้อยเกิดการเปลี่ยนแปลง เฉินเป้ยอีจึงแสดงท่าทีตอบสนอง ใช้กำลังผลักหนิงเส่าเฉิน ขณะที่เขากำลังตกตะลึง ก็รีบออกมาจากร่างของเขา
ยืนตัวตรง ดึงเสื้อของตนเอง สายตาไม่กล้ามองหนิงเส่าเฉิน เพียงกระดกนิ้วชี้เล็กน้อย ชี้ไปยังช่วงล่างของเขา "คุณ…..คุณรีบไปทำงานเถอะ"
ช่วงเวลาที่อยู่ด้วยกันนี้ เธอเข้าใจแล้วว่า ปฏิกริยาการตอบสนองนี้หมายถึงอะไร ยังจำได้หลังจากที่หนิงเฉ่าเฉินอธิบายให้เธอฟังอย่างอ่อนหวานชวนให้คล้อยตาม ทันใดเธอก็นึกขึ้นไป เรื่องบนเรือในวันนั้น ก็แอบยิ้มในใจ ที่แท้เวลานั้น เขาก็เริ่มมีใจกับเธอแล้ว
หนิงเส่าเฉินสูดลมหายใจเข้าลึกๆ แล้วพ่นออกมาอย่างหนักแน่น ลุกขึ้นยืน โอบกอดเฉินอีจากด้านหลัง "คุณไม่ควรที่จะรับหน้าที่เพียงแค่จุดไฟแบบนี้เสมอ แล้วก็ไม่รับผิดชอบที่จะดับไฟนะ คุณไม่กลัวหรอว่าพอนานไปแล้ว ไฟนี้ จะจุดไม่ติดแล้ว?"
เฉินเป้ยอีตกใจเล็กน้อย มีปฏิกริยาตอบสนอง หันตัวกลับไปทันที ผลักหนิงเส่าเฉินออก "งั้น ที่คุณพูดมา ทีหลัง ก็ไม่ต้องมานอนกับฉันที่นี่ ไม่ต้อมากอดฉัน…..ไม่ต้อง….."
ยังไม่ทันพูดจบ ใครบางคนก็โน้มตัวลงมา จูบลงไปบนริมฝีปากของเธอ
"ไม่ต้อง ฉันเต็มใจที่จะถูกคุณจุดไฟ" พูดจบ ก็ปล่อยเฉินเป้ยอี หันตัวอย่างรวดเร็ว ไปยังห้องนอน
ไม่นาน เฉินเป้ยอีก็ได้ยินเสียงน้ำดังออกมาจากด้านใน
เขา ยังอาบน้ำเย็นอีกหรอ? อากาศเดือนแรกในฤดูใบไม้ผลิ ยังหนาวอย่างมาก…..คิดแล้ว อดไม่ได้ที่จะเจ็บปวดใจ
แต่ว่า ให้สถานะนี้ของเธอในขณะนี้ เกิดความสัมพันธ์กับเขา เธอก็ทำไม่ได้จริงๆ เธอไม่ได้หัวโบราณ แต่ มีหลักการที่ยึดถือ!
เมื่อออกมา เฉินเป้ยอีกำลังอ่านหนังสืออยู่ หนิงเส่าเฉินก็โน้มตัวลงไปจูบเธอเล็กน้อยแล้วกล่าวว่า: "ตอนบ่ายมีงานแถลงข่าว เป้ยอี นับตั้งแต่พรุ่งนี้ไป ฉันจะประกาศให้คนทั้งโลกรู้ว่าคุณคือผู้หญิงของหนิงเส่าเฉิน!"
เขายิ้มมุมปาก ในสายตาเต็มไปด้วยการเฝ้ารอ ตวามรู้สึกภายในใจนั้น ก็ติดต่อไปถึงเฉินเป้ยอี เธอพยักหน้า ยิ้มตอบกลับ
แต่ในใจก็อดไม่ได้ที่จะเป็นกังวลขึ้นมา
เธอ นี่ต้องรอคอยให้ความจริงเปิดเผยแล้วหรอ?