เด็กอัจฉริยะ แม่ลึกลับ - ตอนที่ 1 ปิดบังใบหน้าที่แท้จริง
“เป้ยอี หลังแม่จากไป ลูกก็ไปตาม……หาเด็กคนนั้น จะไม่มีใครมาห้ามลูกอีก” แม่เฉินที่กำลังจะสิ้นลมหายใจจากโรคร้ายที่รุมเร้า ใบหน้าที่สวยงามของเธอไม่งดงามเหมือนอย่างเคย และอาการป่วยนี้กำลังจะพรากเธอไปจากใบโลกนี้ เมื่อมองไปยังลูกสาวที่นั่งร้องไห้อยู่ข้างเตียงผู้ป่วย ดวงตาของเธอฉายแววเศร้า
มนุษย์เราต่างก็เป็นแบบนี้ทั้งนั้น พวกเขาจะเข้าใจในหลายสิ่งหลายอย่างก็ต่อเมื่อกำลังจะเสียมันไป แต่น่าเสียดายที่มันสายเกินไป
เฉินเป้ยอีเช็ดน้ำตาของเธอและมองไปที่แม่ด้วยรอยยิ้มที่เข้มแข็งพร้อมกับส่ายหน้า “แม่คะ หนูไม่ไปหาลูกแล้วค่ะ แต่หนูขอร้องแม่อย่าทิ้งหนูไปเลยนะคะ……”
หกปีที่แล้ว หลังจากแม่ของเธอตรวจพบว่าเป็นโรคมะเร็งได้ไม่นาน แล้วพ่อของเธอก็แยกทางกันอย่างกะทันหัน ในช่วงหลายปีมานี้สองแม่ลูกต้องพบเจอกับอะไรบ้าง มีเพียงพวกเธอเท่านั้นที่รู้
ตอนนี้ลมหายใจของแม่เฉินอ่อนลงมากแล้ว พูดแต่ละครั้งก็จะต้องใช้พลังเยอะ เธอหยุดพูดไปชั่วขณะ ก่อนที่จะพูดขึ้นอีกครั้งว่า "ไปเถอะ……ไปตามหาเขา พ่อของเด็กคนนั้น……ชื่อว่า……หนิงเส่าเฉิน……แต่……สัญญากับแม่……อย่า……เปิดเผยใบหน้าที่แท้จริงของลูก ไปหาเขา……เฉินเป้ยอี…… สัญญากับแม่……”
แม่เฉินจับมือของเฉินเป้ยอีไว้แน่น ดูเหมือนว่าแม่เฉินกำลังออกแรงทั้งหมดในชีวิตนี้ของเธอ
"ทำไมคะ แม่" ทำไมเธอจึงเปิดเผยใบหน้าของตัวเองไม่ได้ ตั้งแต่เล็กจนโตสิ่งที่แม่ภูมิใจที่สุดในตัวเธอ ก็คือหน้าตาที่เหมือนกับแม่ของเธอ และเป็นกรรมพันธ์ที่ไม่มีใครเทียบได้ไม่ใช่เหรอ
แต่หลังจากเกิดเรื่อง แม่ของเธอได้ใช้ทักษะการแต่งหน้าที่ยอดเยี่ยม เพื่อปกปิดรูปลักษณ์แท้จริง……
เป็นเวลาหกปีแล้วที่มันถูกซ่อนไว้
แต่แม่ของเธอไม่ได้ตอบ ตอนนี้มือที่เคยกุมไว้ก็หลุดออก………..
ไม่มีใครบอกเธอได้ว่าทำไมแม่ของเธอไม่ให้เปิดเผยรูปลักษณ์ที่แท้จริงของเธอ ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เธอถามแม่เป็นนัยๆอยู่หลายครั้ง แต่ทุกครั้งเธอจะถูกแม่ดุและเอาแต่พูดว่าวันหนึ่งแม่จะบอกเรื่องนี้กับเธอ
แต่……วันนี้ ก็ไม่สามารถรู้ได้แล้วใช่ไหม
คฤหาสน์สุดหรู ณ เมืองซี
หนิงเส่าเฉินที่เปิดประตูห้องหนังสือ เพราะเพิ่งเสร็จจากการประชุมทางโทรศัพท์จากต่างประเทศ ก็ได้ยินเสียงฝีเท้าที่ไม่คุ้นเคย
เขาเอี้ยวตัว และมองไปทางประตู
สายตาของเขามองไปเห็นผู้หญิงคนหนึ่งอายุประมาณสามสิบปีเห็นจะได้ ลักษณะใบหน้าที่จัดว่าดูดี สวมใส่แว่นตากรอบสีดำ ผิวสีเหลืองเข้ม ใส่เสื้อเชิ้ตลายสก็อตสีขาว กางเกงวอร์มสีเทาและรองเท้ากีฬาสีดำ ซึ่งรู้ได้เลยว่าเธอมาจากบ้านนอก แต่เนื้อตัวก็สะอาดสะอ้านดี
"ฉันเป็นพี่เลี้ยงคนใหม่ค่ะ" เมื่อรู้สึกได้ถึงสายตาของเขาที่จับจ้องมา เฉินเป้ยอีจึงทักทายและแนะนำตัวด้วยความรู้สึกกังวลใจเล็กน้อย
ตามข้อมูลที่เธอค้นหามาในอินเตอร์เน็ตก่อนที่จะเดินทางมา ชายคนนี้อายุเพียง 27 ปี แต่ดำรงตำแหน่งเป็นหัวหน้าตระกูลหนิง และมีอุตสาหกรรมหลากหลายประเภทที่อยู่ในความดูแล เรียกได้ว่าสิ่งไหนที่เป็นเงินเป็นทอง พวกเขาจะคว้าไว้ทั้งหมด
และในอินเทอร์เน็ตบอกว่าหนิงเส่าเฉินเป็นไอดอลชายที่เพียบพร้อมในทุกๆด้าน ไม่ว่าหน้าตาเงินทองหรือความสามารถ ผู้หญิงธรรมดาๆอย่างเธอจะคิดไขว่คว้ามาคงเป็นไปไม่ได้ แต่……เขาผู้นี้กลับเป็นพ่อของลูกเธอ เขาผู้นี้กลับเป็นเจ้าของ “อสุจิ” ที่ให้กำเนิดลูกของเธอ
เธอรู้สึกอึ้งเมื่อเธอค้นหาชื่อเขาบนเว็บฯ และปรากฏข้อความกับข่าวมากมายออกมา!
เหตุการณ์ในตอนนั้น เนื่องจากแม่ของเธอป่วยแล้วต้องได้รับการรักษาอย่างเร่งด่วน และเนื่องจากเธอยังเด็กจึงฟังคำพูดของแม่ แต่เธอจำได้ดีว่าหลังสอบคัดเลือกเข้ามหาวิทยาลัยไม่กี่วัน แม่ของเธอก็เอ่ยถามขึ้นมาว่า ถ้ามีทางรักษาโรคให้แม่ได้ แต่ต้องชดใช้ค่าตอบแทนด้วยความเสียสละทั้งชีวิต เธอจะยินยอมทำหรือไม่?เธอไม่แม้แต่จะคิดไตร่ตรองก็ตอบตกลงไปในทันที จากนั้นแม่ของเธอได้แต่งหน้าแปลงโฉมให้กับเธอ อีกทั้งเปลี่ยนชื่อเป็นคนละคนและพาเธอมายังโรงพยาบาลเพื่อทำการผ่าตัด
ต่อมาพวกเธอถูกส่งตัวไปที่โรงพยาบาลสุดหรู ซึ่งได้รักษาอาการป่วยของแม่เธอให้บรรเทาลง และที่นั่นเธอได้ตั้งครรภ์จนครบสิบเดือน จากนั้นเธอได้ให้กำเนิดเด็กชายคนหนึ่ง แต่เธอยังไม่มีโอกาสแม้แต่จะมองลูกตัวเองเด็กชายก็ถูกพาตัวไป ในปีนั้นเธออายุเพียง 18 ปี
เธอไม่ได้เรียนต่อที่มหาวิทยาลัยและต้องอยู่ดูแลแม่ ถึงจะอายุ23ปีแล้ว แต่เธอไม่มีความสามารถใดๆเลย เธอไม่รู้อะไรแม้แต่น้อย และเพื่อแม่ เธอไม่เคยปริปากบ่น แต่สิ่งที่เธอไม่เข้าใจคือหลังจากเหตุการณ์วันนั้น ทำไมแม่ของเธอจึงไม่ให้เธอเปิดเผยตัวตนออกมา และยังพาเธอไปที่เมืองอื่นไม่กลับไปที่บ้านเกิดของเธออีกเลย
เมื่อมองไปรอบๆคฤหาสน์ และมองไปยังชายที่อยู่ตรงหน้า เธอก็ยิ่งไม่เข้าใจว่าผู้ชายที่เพียบพร้อมเช่นนี้ทำไมต้องใช้วิธีแบบนั้นในการมีลูก และทำไมต้องเป็นเธอ?
หากเป็นก่อนหน้านั้นเธอยังพอเข้าใจว่าอาจเป็นเพราะหน้าตาที่ดูดีของเธอ แต่ตอนที่แม่พาเธอไปโรงพยาบาล แม่ได้แต่งหน้าปกปิดใบหน้าที่แท้จริงของเธอไว้เรียบร้อยแล้ว
แต่เธอรู้ดีว่าเธอน่าจะไม่สามารถรู้คำตอบได้อีกแล้ว……
การเดินทางมาของเธอในครั้งนี้ เธอไม่มีความคิดอื่นนอกจาก แค่อยากเจอเด็กคนนั้น ถ้าเธอสามารถอยู่เคียงข้างเขาและดูแลเขาได้เธอก็จะไม่มีอะไรจะขออีกแล้วในชีวิตนี้ เพราะในตอนนี้เขากลายเป็นครอบครัวเพียงคนเดียวของเธอ
เธอทำอะไรก็ไม่เป็นเลย เธอคิดหาวิธีมากมายในการเข้าสู่บ้านตระกูลหนิง แต่ไม่มีวิธีใดผ่านเข้าไปได้เลย แต่เมื่อไม่นานมานี้เธอเพิ่งเห็นว่าบ้านตระกูลหนิงต้องการพี่เลี้ยงให้หนิงเสียวซี เธอรู้สึกว่านี่เป็นโอกาสเดียวของเธอ
เธอเคยคิดจะใช้กลเม็ดเสริมความงามให้กับตัวเอง แต่เธอไม่อาจขัดคำพูดของแม่ได้ ที่สำคัญเธอไม่อยากยุ่งเกี่ยวกับผู้ชายไปมากกว่านี้อีก บั้นปลายของชีวิตที่เหลืออยู่ เธอไม่เคยคิดที่จะหาผู้ชายคนไหนอีกแล้ว
ในตอนนั้นแม่ของเธอก็กำลังเจ็บป่วย แต่พ่อกลับทิ้งพวกเธอไปได้อย่างเลือดเย็น หลังพ่อของเธอจากไป เธอก็ไม่อาจเชื่อใจผู้ชายคนไหนได้อีกต่อไป……
เธอมองไปยังเขาที่สวมเสื้อเชิ้ตสีขาวกางเกงขายาวสีดำ การแต่งกายที่เรียบง่ายและสบายๆ แต่ไม่สามารถปกปิดลักษณะที่โดดเด่นที่แฝงไปด้วยความเย็นชาของเขาได้เลย
"อืม!" หนิงเส่าเฉินละสายตาไปจากเฉินเป้ยอีเขาเดินไปทางห้องครัวชั้นล่างแล้วเปิดตู้เย็นหยิบน้ำเย็นออกมาดื่ม และตอบกลับมาเพียงคำเดียวอย่างไร้อารมณ์
ครั้งแรกที่เธอได้พบกับพ่อของลูก มันช่างแปลกหน้า และไร้ความรู้สึกจริงๆ
"คุณหนิงคะ คุณเกามาแล้วค่ะ" คนรับใช้รายงานขึ้น
"เส่าเฉินคะ" น้ำเสียงที่อ่อนโยนไพเราะดังขึ้นมา
เฉินเป้ยอีไม่มีจิตใจที่สนใจเรื่องของคนอื่น เธอเพียงแค่เหลือบไปมองต้นเสียงนั้น แต่แล้วเธอก็ตกตะลึงเมื่อเห็นใบหน้านั้น……
เธอเคยเจอผู้หญิงคนนี้มาก่อน ตอนนั้นที่โรงพยาบาลระหว่างนอนรอการผ่าตัด เธอมองออกไปข้างนอกห้องและเห็นผู้หญิงคนนี้นำขวด “อสุจิ” มาให้ แม้จะเคยเห็นเพียงแค่ครั้งเดียวแต่เธอจำได้แม่นยำ อีกทั้งผู้หญิงที่มีใบหน้างดงามแบบนี้ เธอจะลืมไปได้ยังไง
แต่ทำไมเธอถึงมาอยู่ที่นี่? ยิ่งไปกว่านั้นเธอกับหนิงเส้าเฉินดูเหมือนจะมีความสัมพันธ์ที่ไม่ธรรมดา……
หรือว่าเธอเป็นคนรักของเขา? เป็นไปไม่ได้!
ผู้หญิงคนไหนจะใช้อสุจิแฟนของตัวเองเพื่อให้ผู้หญิงคนอื่นตั้งท้องกัน?แต่……ตอนนี้ในสมองของเธอสับสนไปหมดแล้ว