เด็กม.ปลายสายม็อบอย่างผมจะกลายเป็นสายเรียลได้ไหมถ้าเป็นนักผจญภัย - ตอนที่ 53 สิ่งที่รอคอยอยู่นอกประตูบานนั้น - 2
- Home
- เด็กม.ปลายสายม็อบอย่างผมจะกลายเป็นสายเรียลได้ไหมถ้าเป็นนักผจญภัย
- ตอนที่ 53 สิ่งที่รอคอยอยู่นอกประตูบานนั้น - 2
บทที่ 2 ตอนที่ 26.3
「…..ย-ใหญ่」
พอได้เห็นร่างของแม่แพะใกล้ๆ ร่างอันมหึมาของเธอนั้นให้ความรู้สึกอันกดดันที่ถ้าไปยืนอยู่ต่อหน้าคงได้ถูกบดขยี้แน่ๆ
ส่วนสูง ประมาณ 20 เมตร…..ขนาดใกล้เคียงกับตึกแมนชั่น 7 ชั้น ไม่ได้สูงเว่อร์มากมายแต่มีความหนาราวกับหัวผักกาด ดูราวกับว่ามีมวลสารเท่ากับแมนชั่นเลย
เนื่องจากมีขนาดใหญ่ จึงดูจะสูญเสียความว่องไวที่ลูกแพะมีไป แต่ด้วยความแตกต่างด้านขนาด มันก็อาจจะทำให้ความเร็วจริงๆไม่ได้แตกต่างอะไรมากนัก ต่อให้ดูเหมือนเคลื่อนไหวช้า ก็จำเป็นต้องเคลื่อนไหวหลบให้เร็วกว่าเดิมอยู่ดี เพียงแค่มีขนาดใหญ่ก็นับเป็นภัยอันตรายแล้ว
แถมด้วยไม่เหมือนกับลูกแพะที่ไร้ขน ทั่วทั้งร่างกายแม่แพะมีขนดูแข็งแกร่งทนทานปกคลุม ทั้งขนาดที่ใหญ่และขน…..พลังป้องกันและพลังชีวิตลูกแพะคงไม่อาจเทียบได้เลย
「โยมิโยมิ อัญเชิญวงค์วานเลย」
โอริเบะออกคำสั่งให้โยโมะซึชิโคเมะอัญเชิญวงศ์วาน แล้วจึงเกิดแอ่งน้ำสีดำค่อยๆแผ่ขยายออกมาบริเวณใต้เท้าของโยโมะซึชิโคเมะ
จากแอ่งน้ำนั้นค่อยๆมีแขนจำนวนนับไม่ถ้วนผุดขึ้นมา จากนั้นคนตายในชุดเกราะสงครามสมัยโบราณก็ออกมาทีละคน
มันคือทักษะอัญเชิญวงศ์วานเฉพาะตัวที่ทำให้โยโมะซึชิโคเมะเป็นแรงค์ D ที่แข็งแกร่งที่สุด อัญเชิญกองทัพยมโลก
ตามปกติทั่วไปของการอัญเชิญวงศ์วาน มักจะเป็นการอัญเชิญแบบไม่มีขีดจำกัดแต่ทีละ 1 ตัว หรือไม่ก็อัญเชิญได้จำกัดแต่ออกมาพร้อมกันในทีเดียว ทว่าอัญเชิญกองทัพยมโลกสามารถอัญเชิญออกมาได้อย่างไม่มีขีดจำกัดและได้พร้อมๆกันในทีเดียว
แถมด้วยกองทัพยมโลกที่ถูกอัญเชิญมาคือมอนสเตอร์แรงค์ D ที่มีสกิลศิลปการต่อสู้ติดตัวมา และโยโมะซึชิโคเมะยังมีสกิลที่ช่วยเสริมความแข็งแร่งให้กับอันเดดทั้งหมดด้วย
ถึงแม้ว่าจะมีความสามารถมากถึงขนาดนี้ แต่นักผจญภัยแทบทุกคนที่ได้มันมากลับยอมปล่อยไป การ์ดที่ได้รับความนิยมยอดแย่อันดับ 1 นั่นก็คือโยโมะซึชิโคเมะล่ะ
『เคียดดแค้นนน…..!』
เหล่ากองทัพยมโลกที่ถูกเรียกออกมา ส่งเสียงร้องชวนขนลุกในขณะที่พุ่งตรงไปหาลูกแพะทั้ง 7
การเคลื่อนไหวนั้น คงจะเป็นผลจากสกิลศิลปการต่อสู้ มีทั้งความว่องไวและการประสานงานกันจนยากที่จะเชื่อได้ว่าเป็นอันเดดระดับต่ำที่ไร้อัตตา ดูจะมีความแข็งแกร่งที่มากกว่ากูลธรรมดามาก
…..แต่ท้ายที่สุดก็เป็นแค่มอนสเตอร์แรงค์ D แถมยังเป็นแค่โทเค็นอีก ไม่ใช่คู่มือสำหรับลูกแพะทั้ง 7 ที่มีความแข็งแกร่งระดับแรงค์ C
เหล่ากองทัพยมโลกต่อสู้อย่างห้าวหาญไร้ซึ่งความกลัว ไม่ว่าจะถูกตัดแขนขาหรือแทงทะลุลำตัว ทว่าการโจมตีก็ไม่ถูกตัวพวกลูกแพะเลย ถูกจัดการทิ้งอยู่ฝ่ายเดียว
ความเร็วในการจัดการทิ้งของพวกลูกแพะ กับความเร็วในการอัญเชิญกองทัพยมโลก ดูเหมือนว่าความเร็วในการจัดการทิ้งจะเร็วกว่า
ถ้าหากเป็นแบบนี้ต่อไป โยโมะซึชิโคเมะที่เป็นร่างต้นคงถูกลอสในไม่ช้า
—-แต่ว่า ด้วยการสนับสนุนจากเหล่าการ์ดของอาจารย์ มันก็เป็นอีกเรื่อง
เหล่าการ์ดของอาจารย์เล็งโจมตีไปที่ลูกแพะทีละตัว จัดการพวกมันลงได้อย่างแม่นยำ
เมื่อลูกแพะถูกจัดการลงได้ มันจะคลานออกมาจากปากขนาดใหญ่ 7 ปากที่อยู่บนท้องของแม่แพะในทันที แต่ก็มีช่วงหน่วงเวลาครู่หนึ่งก่อนที่จะสามารถกลับไปต่อสู้ได้อีกครั้ง
ในขณะเดียวกัน ความเร็วในการอัญเชิญกองทัพยมโลกก็ค่อยๆไล่ตามทันการถูกจัดการ จำนวนกองทัพยมโลกค่อยๆเพิ่มขึ้นมาทีละเล็กทีละน้อย
ดูเหมือนว่าคงไม่เป็นอะไรที่จะปล่อยเหล่าลูกแพะให้พวกอาจารย์รับมือไป
อีกด้านหนึ่งทางแม่แพะนั้น ทางนี้ดูจะไม่ค่อยคืบหน้าไปซักเท่าไหร่
『ยูคิต่อสู้แบบคลุกวงในเพื่อดึงความสนใจของศัตรูไว้! ให้ความสำคัญอันดับแรกกับการหลบหลีก อย่าให้โดนโจมตีแม้แต่ครั้งเดียว! เอลิซ่าคอยคุ้มกันยูคิ! ถ้าหากยูคิเกิดพลาดขึ้นมาล่ะก็ให้ใช้โล่แห่งการอุทิศตนรับเอาไว้! เมอาใช้ดากเนส(Darkness) กับมิราจ(Mirage)คอยบังตามันเอาไว้! สถานะผิดปกติอาจจะไม่ได้ผลแต่ก็พอซื้อเวลาได้ชั่วครู่ก่อนที่มันจะถูกต้านทานได้! กลุ่มโจมตีด้วยเวทพยายามเล็งไปที่ใบหน้า! บดบังทัศนวิสัยมันซะ!』
ขึ้นขี่ดราโกเน็ตแล้วมองจากบนฟ้าลงมายังสนามรบ ออกคำสั่งอย่างรวดเร็วต่อเนื่องผ่านลิงค์
ที่อยู่เบื้องล่าง ทั้งระเบิดเพลิง, หอกสายฟ้า, และห่าฝนธนู โหมกระหน่ำเข้าใส่แม่แพะอย่างไม่ขาดสาย เป็นที่ตระการตามาก ทว่า…..
「…..ชิ ไม่รู้เลยว่าได้ผลอะไรบ้างรึเปล่า」
แม้จะรับเอาการโจมตีเต็มกำลังที่ถ้าเป็นจ้าวแห่งเขาวงกตแรงค์ D ก็คงได้ถูกจัดการไปนานแล้วเข้าไป แม่แพะก็ไม่แสดงท่าทีอะไรเลย
ร่างของอีกฝ่ายมีความใหญ่โตมากจนรู้สึกเหมือนกำลังเอามีดคัตเตอร์ไปแทงต้นไม้ใหญ่
เนื่องจากร่างของอีกฝ่ายมีขนาดใหญ่จึงสามารถมองการเคลื่อนไหวออกได้ง่าย จนถึงตอนนี้ทางนี้จึงไม่ได้รับความเสียหายมากนัก แต่ก็สามารถเดาออกได้ว่าหากโดนการโจมตีแค่ทีเดียวคงได้เกิดเรื่องแย่สุดๆแน่
หากรับการโจมตีตรงๆเข้าไปแม้ทีเดียว ต่อให้เป็นการ์ดแรงค์ C คงได้ความเสียหายขั้นปางตายได้เลย
อีกทั้งแม้จะมีการเคลื่อนไหวที่อ่านออกได้ง่าย มันก็ยังมีความแตกต่างในเรื่องระยะที่เกิดจากความใหญ่โต ถ้าหากเคลื่อนไหวช้าแม้เพียงเล็กน้อยก็จะไม่สามารถหลบได้ทัน
ไม่ว่าจะโจมตีใส่มากแค่ไหนก็ไม่มีทีท่าว่าจะได้ผล กลับกันแล้วไม่สามารถรับการโจมตีจากอีกฝ่ายได้แม้เพียงครั้งเดียว
พวกเราค่อยๆถูกไล่ต้อนทางจิตใจเข้ามาอย่างช้าๆ
『…..ฟุฟุฟุ ดูเหมือนจะถึงเวลาได้ใช้สิ่งนั้นแล้วส์สินะ』
จะทำยังไงดี…..ขณะที่ผมกำลังเค้นสมองอยู่นั้น จู่ๆก็ได้ยินเสียงอันนาพูดแบบซ่อนความหมายอะไรบางอย่างเอาไว้ผ่านมาทางตราเข็มกลัดที่อกเสื้อ
มันชัดเจนมากเสียจนรู้สึกไม่อยากจะถามออกไปอยู่ครู่หนึ่ง แต่ก็ตัดสินใจถามออกไป
ร่อนลงมาหาอันนาที่ยืนรออยู่บนพื้นแล้วทำการถาม
「…..มีแผนอะไรงั้นเหรอ?」
「คิดอยู่แล้วว่าจะต้องเกิดอะไรแบบนี้…..! เลยได้ทำการฝึกฝนมาอย่างหนักกับท่าผสานเพื่อใช้กับศัตรูที่แข็งแกร่งค่ะ!」
อันนาพูดพร้อมดวงตาที่เปล่งประกาย
เธอนี่น้า…..อยากจะสวนกลับไปตรงที่บอกว่าคิดอยู่แล้วว่าจะต้องเกิดอะไรแบบนี้ แต่ก็หักห้ามใจเอาไว้แล้วทำการยืนยัน
「คิดว่ามีโอกาศชนะไหม?」
「แน่นอนค่ะ! ถ้าหากว่าไม่ได้ผลล่ะก็จะยอมยกตำแหน่งประธานชมรมให้เลย」
โย้ช ถ้าทำถึงขนาดนั้นล่ะก็
『เร็นกะ หวนคืนจิตวิญญาณ! ทุกคนทำการโจมตี ดึงความสนใจของแม่แพะเอาไว้!』
เร็นกะกลายร่างเป็นคิชโชเต็ง เหล่าการ์ดทั้งหลายต่างพากันโจมตีอย่างหนักหน่วงมากกว่าเติม เมื่อเห็นช่องว่าง เหล่าการ์ดของอันนาจึงพากันถอยร่นจากแนวหน้าแล้วมารวมตัวอยู่ในจุดเดียวกัน
「เอาล่ะ เหล่าผู้ที่ถูกเลือกของชั้น! เริ่มต้นโอเปอเรชั่นอัลฟ่าได้!」
ด้วยคำสั่ง เหล่าการ์ดของเธอก็ขยับ
เอลฟ์ขึ้นขี่หลังเพกาซัส ดูลลาฮานเข้าสวมใส่รอบตัวเอลฟ์ การ์ดทั้ง 3 ใบกลายสภาพเป็นอัศวินหญิง 3 ประสาน
อีกทั้งการ์ดแรงค์ D ใบอื่นๆก็เริ่มใช้พลังสนับสนุนหลายอย่างให้แก่อัศวินเพกาซัส
「นี่มัน…..!」
ขณะที่มองดูอยู่ อัศวินเพกาซัสก็พุ่งตรงเข้าใส่แม่แพะ
เร็ว! ด้วยความเร็วมหาศาลจนสามารถมองเห็นได้แค่เพียงเส้นของแสงจากสกิลนับสนุน อัศวินหญิงบินไปรอบตัวแม่แพะแล้วเข้าทะลวงด้วยหอกที่เธอถือเอาไว้
ภาพนั้นราวกับว่าเป็นดาวตก
แค่เพียงพริบตาเดียว ร่างอันมโหฬารของแม่แพะก็เปรอะเปื้อนไปด้วยเลือดแล้วส่งเสียงร้องออกมา
「แ, ม, ะ, ะ, ะ, ะ, ะ, ะ, ะ, ะ !!」
โอ้ ได้ผล! ถ้าแบบนี้ล่ะก็ทำได้แน่!…..ไม่สิ แย่แล้ว!
-ชิ้ง-! แม่แพะทำการจ้องมาทางนี้ อะไรบางอย่าง กำลังมาแล้ว…..!
「อันนา!」「คิย๊าา!」
ก่อนจะมีเวลาได้คิดก็ทำการคว้าแขนของดึงตัวเธอขึ้นมา แล้วทะยานขึ้นบนฟ้า
ในขณะเดียวกันนั้น ด้วยแรงอันมหาศาลพร้อมเสียงคำราม แม่แพะได้เคลื่อนผ่านจุดที่ยืนกันอยู่เมื่อครู่นี้
แรงในการเคลื่อนที่ของมันราวกับเป็นรถไฟสายด่วน เพียงแค่แรงลมก็เพียงพอในการส่งพวกเราลอยไปในอากาศราวกับใบไม้ได้แล้ว
ขณะที่กำลังอุ้มอันนาอยู่อย่างสุดกำลัง ก็คิดนอกเรื่องไปว่าดีจริงๆที่ใส่อานกับเข็มขัดนิรภัยให้กับดราโกเน็ตไว้
ในที่สุด หลังจากเตรียมตัวอะไรกันพร้อมแล้วทำการมองลงไป พวกเราก็ได้เห็นเนินเขาที่ยืนอยู่เมื่อครู่หายไปทั้งหมด หลงเหลือไว้แค่เพียงแนวดินสีน้ำตาลที่เป็นเส้นทางของแม่แพะ
พลังอะไรกันนี่…..
「ช-ช่วยไว้จริงๆเลยค่ะรุ่นพี่…..」
「อา…..เกือบไปแล้ว จริงด้วย แล้วพวกอาจารย์…..」
ปลอดภัย สินะ โชคยังดีที่มันพุ่งไปทางทิศตรงข้ามที่พวกอาจารย์อยู่
หลังจากการพุ่งชน แม่แพะก็ไม่ขยับเขยื้อนอะไรเลย เป็นประเภทที่ต้องเว้นช่วงหลังจากใช้ท่าใหญ่งั้นสินะ
แม่แพะที่ไร้ซึ่งการป้องกัน ถูกอัศวินเพกาซัสเข้าโจมตีใส่อีกครั้ง
อาจะเพราะความโกรธที่มาสเตอร์ของตนถูกเล็ง การโจมตีของอัศวินเพกาซัสจึงดูเกรี๊ยวกราดมากกว่าเดิม จนถึงขนาดที่คิดว่าอาจจะเอาชนะโดยที่ไม่ต้องรอการสนับสนุนจากอาจารย์เลยก็เป็นได้
「ป…..เป็นไงบ้างส์คะ ท่าไม้ตายของชั้น!」
อาจจะเพื่อกลบเกลื่อนความกลัวที่รู้สึกเมื่อครู่ อันนาจึงพูดขณะที่ยืดอกซึ่งมีขนาดใหญ่สำหรับคนอายุเท่าเธอ ผมจึงยิ้มแห้งๆให้แล้ว「อา ยอดเยี่ยมมากเลย」กำลังจะพูดตอบแต่ในตอนนั้นเอง—-
「แแแแแ, มมมมมมม, ะ, ะ, ะ, ะ, ะ, ะ, ะ, ะ !!」
เสียงร้องของแม่แพะดังขึ้นมากลบเสียง
ในใจของผม เกิดมีภาพของการพุ่งชนนั้นขึ้นมาอีกครั้ง
…..หรือว่า!
「แย่แล้ว! รีบกลับมาซะ!」
「…..เอ๋!?」
ทันทีที่ผมพูดเตือน ก็เกิดมีผืนผ้าสีดำลงมาปกคลุมโดยมีแม่แพะเป็นศูนย์กลาง
ว่าแล้วเชียว! ที่แม่แพะร้องนั้นไม่ใช่เพราะว่าเจ็บปวด แต่เป็นการคำรามด้วยความโกรธก่อนที่จะออกท่าใหญ่
จากนั้นจู่ๆก็เกิดสิ่งปกติกับเหล่าการ์ด
『คุ่ก!?』
『ดราโกเน็ต!? เป็นอะไรไป!?』
『นี่มัน…..! ร่างกาย, หนัก!?』
รีบให้ดราโกเน็ตที่เริ่มโซเซเสียการควบคุมลงจอดฉุกเฉิน ไม่ใช่แค่เพียงดราโกเน็ตเท่านั้นที่เจอกับสถานการณ์ประหลาด การ์ดของผมทั้งหมดต่างก็รู้สึกเช่นเดียวกัน
…..ไม่สิ มียูคิเป็นข้อยกเว้นอยู่
เหล่าการ์ดของอันนาเองก็ไม่ถูกยกเว้น ถึงแม้ว่าอัศวินเพกาซัสจะไม่ได้ร่วงตกลงไป แต่ก็เห็นได้ชัดว่าขาดพละกำลัง
เมื่อสบโอกาศเช่นนี้ก็ไม่มีทางที่แม่แพะจะปล่อยให้หลุดมือไปได้ ทำการฟาดกรงเล็บขนาดใหญ่เข้าใส่
「ทาเนีย!」
เมื่อได้ยินเสียงอันนา เอลฟ์ก็ทำการเอนตัวออกไปทางด้านหน้าเพกาซัส ถึงแม้ว่าจะสามารถหลบการโจมตีตรงๆไปได้ ทั้งเอลฟ์กับดูลลาฮานก็ร่วงลงสู่พื้น ลำตัวของเพกาซัสเกิดรอยแผลลึก เมื่ออันนาเห็นแบบนั้นก็ส่งเสียงดังขึ้นมา
「อิลยา! ดันเจี้ยนเทโอ!」
พริบตาถัดมา เสียงของการลอสก็ดังขึ้นมาจากกระเป๋าของอันนา
「นั่น, มัน…..สกิลแบบนี้, ข้อมูล…..」
「รีบเปลี่ยนตัวซะ! ให้การ์ดที่ยังปลอดภัยอยู่กลับมา!」
「! ทาเนีย!」
พอได้ยินผมตะโกน อันนาก็ลุกลี้ลุกลนพยายามจะให้เอลฟ์กลับมา แต่ว่าดูเหมือนขาของเธอจะหักตอนตกลงมา การเคลื่อนไหวของเธอจึงเชื่องช้า
แล้วแม่แพะก็ทำการไล่ตามมา มันเหวี่ยงขาหน้าที่ราวกับต้นไม้ใหญ่ลงมา—-
「ทาเนียยยยยยยย!」
เสียงตะโกนของอันนากลายเป็นเสียงร้องแห่งความเจ็บปวด
เธอที่เป็นแบบนั้น ผมจึง…..
「ไม่เป็นไร ทันเวลาพอดี」
ที่อยู่เบื้องหน้าของผมนั้น คือยูคิที่กำลังอุ้มเอลฟ์เอาไว้อยู่
วิชาจั่กจั่นลอกคราบทันแบบเส้นยาแดงผ่าแปด
「อะ…..」
อันนาเมื่อเห็นก็โล่งอก แล้วทรุดตัวลงไปนั่ง
ถ้าหากว่าใช้ลิงค์ก็สามารถยืนยันความปลอดภัยของการ์ดได้ แต่…..ดูเหมือนจะตื่นตระหนกมากเสียจนไม่ทันคิด
「แต่ว่า…..」
ไอ้แรงดึงดูดนี้มันอะไรกัน? ความรู้สึกที่สัมผัสได้จากเหล่าการ์ดคือร่างกายหนักขึ้นเรื่อยๆ ราวกับว่ากลายเป็นหิน ยิ่งไปกว่านั้น รู้สึกราวกับว่าพลังกายยังถูกสูบออกไปอย่างช้าๆด้วย
การที่ยูคิไม่ได้รับผลเพียงคนเดียว บางทีคงจะเป็นเพราะผลจากผู้กล้าตัวน้อย…..
…..หินกับการดูดซับ งี้นี่เอง นี่คือการจำลองฉากของเทพนิยายตอนที่หมาป่าถูกยัดหินใส่ท้อง!
ในขณะที่ผมเพิ่งจะรู้ถึงตัวจริงของสถานะผิดปกติที่เหล่าการ์ดได้รับผลกระทบ แม่แพะก็ได้มีการเคลื่อนไหวใหม่
มันคว้าเอาลูกแพะตัวหนึ่งจากลูกแพะทั้ง 7 แล้ว-กร้วมกร้วม-เริ่มทำการกลืนกินมันเข้าไป
ขณะที่กำลังตกตะลึงกับการกระทำของแม่แพะในการกินลูกของตัวเอง บาดแผลตามร่างกายของมันก็ฟื้นฟูอย่างรวดเร็วจนไม่เหลือร่องรอยใดๆ
「เอาจริง, ดิ…..」
ถึงกับต้องพึมพำออกมา
โชคยังดีที่ลูกแพะที่ถูกกินไม่มีทีท่าว่าจะคืนชีพกลับมา แต่ว่ายังมีลูกแพะอีกถึง 6 ตัว หมายความว่า นี่จะต้องทำความเสียหายอย่างหนักให้อีกถึง 6 ครั้งงั้นเหรอ?
แย่แล้ว ทั้งพลังเวทและพลังกายของการ์ดไม่ได้ไร้ขีดจำกัด ถ้าการต่อสู้ยืดเยื้อออกไป จะเป็นฝ่ายเราที่เสียเปรียบ
เหงื่อเย็นๆไหลผ่านปลายคาง
นี่น่ะเหรอ พลังของอิเรกูลาห์เอ็นเคาเตอร์แรงค์ B…..
『…..โอ่ย อุทามาโร่』
ในตอนนั้นเอง เร็นกะทำการเรียกผ่านทางลิงค์มา
『มีอะไรรึ?』
『………………..』
พอผมถามกลับไป เร็นกะดูจะลังเลซึ่งเป็นเรื่องแปลกสำหรับเธอ…..
『นาย จะสามารถเชื่อใจชั้นโดยไร้ซึ่งข้อสงสัยได้ไหม?』
『หมายความว่ายังไง?』
『………………..』
เร็นกะไม่ตอบ รู้สึกว่าการพูดคุยของพวกเรากำลังถูกซุซูกะกับยูคิฟังอยู่อย่างใจจดใจจ่อ
ไม่รู้ว่ากำลังวางแผนอะไรกันอยู่แต่…..
『อา จะเชื่อในตัวเธอเอง』
ผมจึงตอบไปด้วยความจริงใจ
『งั้นเหรอ…..』
เร็นกะพึมพำเบาๆ แต่ใบหน้าของเธอดูจะมีความสุข…..
『ซิงโครซะ อุทามาโร่ กับชั้น มาซิงโครสมบูรณ์แบบ 100% กัน』
『ซิงโคร? แต่ว่า…..』
ด้วยความสามารถของผมในตอนนี้ ต่อให้อยู่ในสภาพดีที่สุด ขีดจำกัดก็ได้แค่ 80% เท่านั้นเอง
อีกอย่าง ไม่ว่าจะเชี่ยวชาญการซิงโครมากขนาดไหน ก็ว่ากันว่า 99% คือมากที่สุดแล้ว การที่จะลดบาเรียที่ปกป้องมาสเตอร์ให้เป็น 0 มันไม่น่าจะเป็นไปได้
เร็นกะหันกลับมา จ้องผมตรงเข้าไปในดวงตาแล้วพูด
『ถ้าหากว่าเป็นพวกชั้นในตอนนี้แล้วล่ะก็ไม่เป็นไรหรอก —-เชื่อสิ』
『เข้าใจแล้ว』
ผมพยักหน้า ปิดตาลง ทำการซิงโครกับเร็นกะเงียบๆ
70, 80, 90…..
อัตราการซิงโครเพิ่มขึ้นอย่างราบรื่นจนทำเอาสงสัยว่าที่ทำกันผ่านๆมามันคืออะไร
แต่ว่า 99%…..ในท้ายที่สุด พวกเราก็มาชนเข้ากับกำแพงบางๆแต่ทว่ามีความมั่นคง
「นี่มัน…..」
ถ้าจะให้บรรยายออกมาเป็นภาพล่ะก็ มันคือประตูที่ถูกปิดอย่างแน่นหนาเอาไว้ด้วยโซ่
เมื่อลองแตะดู สัญชาตญาณมันก็ร้องเตือนไม่ให้เปิดมัน
สิ่งนี้ไม่ได้มีไว้เพื่อหยุดผม แต่มีไว้เพื่อปกป้องผมจากสิ่งที่อยู่ด้านนอกประตู
แต่ว่า…..มันทำให้ผมยิ้มแห้งๆออกมา
วันนี้ เป็นวันที่มีความเกี่ยวข้องกับประตูเยอะจริงๆ ในความฝันมีประตูที่คนตายมาหา ในความจริงที่คฤหาสน์ก็มีประตูที่เรียกหมาป่ามา แล้วในท้ายที่สุดก็มีประตูของลิงค์อีก
ถ้างั้นล่ะก็ นี่เองก็เป็นกับดักด้วยล่ะมั้ง
ถ้าเหตุการณ์ในวันนี้ ไม่สิ ตั้งแต่เหตุการณ์ที่ถูกผู้ใช้หมาล่าเนื้อโจมตี ถูกเตรียมเอาไว้ก็เพื่อจะให้ผมได้เปิดประตูบานนี้ล่ะก็ ถ้างั้นสิ่งที่รอคอยอยู่นอกประตูก็คือ…..
「—-แต่ถึงอย่างนั้น ผมก็เชื่อใจเร็นกะล่ะ」
พริบตาที่ผมพูดเช่นนั้น โซ่ทั้งหมดก็แตกออกเป็นชิ้นๆ ผมได้ก้าวผ่านกำแพง 99%—-แล้วซิงโครอย่างสมบูรณ์แบบกับเร็นกะ
เมื่อลืมตาขึ้นอีกครั้ง ภาพที่ได้เห็นก็ถูกเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง
ที่ผมได้เห็นนั้น คือเส้นทางสู่ความเป็นไปได้ของทุกสิ่ง เส้นทางที่มีความเป็นไปได้ต่ำจะอยู่ไกลออกไป ส่วนเส้นทางที่มีความเป็นไปได้สูงจะอยู่ใกล้ ความเป็นไปได้มีความเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ตัวผมสามารถเคลื่อนที่เข้าใกล้หรือออกห่างจากเส้นทางเหล่านั้นได้ด้วยการชั่งน้ำหนักโชคดีและโชคร้าย
แน่นอนว่าปริมาณโชคดีของคนๆหนึ่งมีจำกัด ไม่สามารถที่จะเปลี่ยนแปลงชะตากรรมอันยิ่งใหญ่ของโลกได้…..
ผมมองไปที่แม่แพะ
ที่ตรงนั้น เส้นทางเป็นไปได้ที่จะจัดการแม่แพะสามารถมองเห็นได้อย่างแจ่มชัด
การที่สามารถมองเห็นเส้นทางในการจัดการ ก็หมายถึงการที่สามารถมองเห็นจุดอ่อนและวิธีการสำหรับจัดการมันไปด้วย
วิธีการจัดการแม่แพะที่ไวที่สุดและดีที่สุด ก็คือการใช้พลังทำลายที่มากที่สุดยิงเข้าใส่จุดอ่อน ซึ่งก็คือมดลูดของมัน
ทว่าเส้นทางที่นำไปสู่ความสำเร็จนั้นช่างแคบและห่างไกล
สาเหตุมาจากพลังทำลายที่ขาดไปของทางฝั่งเรา ด้วยสิ่งที่มีอยู่ในมือของทางเราตอนนี้ ไม่สามารถที่จะทะลวงท้องแม่แพะได้
ผลก็คือ วิธีที่น่าเชื่อถือที่สุดก็คือการค่อยๆลดจำนวนของลูกแพะไปเรื่อยๆ แต่นั่นก็มีความน่าจะเป็นอยู่มากที่จะเกิดความสูญเสียกับใครบางคน
—-ผิ้ง
「อั่ก…..!」
แล้วการซิงโครกับเร็นกะก็หลุดออกและมาพร้อมกับอาหารปวดหัวอย่างรุนแรง
…..ดูเหมือนว่าสภาพของผมในปัจจุบัน จะสามารถมองเห็นความเป็นไปได้ในระยะเวลาสั้นๆเท่านั้น
เร็นกะที่เอามือกุมหัวอยู่เช่นกันได้ถามมา
『คุ…..เห็นรึเปล่า?』
『อา…..』
『ดูเหมือนว่า…..จะต้องจัดการภายในดอกเดียวสินะ』
『อา แต่ว่า…..』
มีพลังทำลายไม่พอ…..
ต่อให้การ์ดทั้งหมดของผมโจมตีพร้อมกันก็ไม่สามารถทะลวงการป้องกันของแม่แพะได้ ถ้าหากว่ารวมพลังจากการ์ดของอาจารย์กับโอริเบะก็พอจะมีความเป็นไปได้ แต่ในกรณีนั้นจะทำให้การป้องกันของฝั่งเราอ่อนลงและมีความเป็นไปได้สูงว่าพวกอาจารย์จะเสียชีวิตได้
『ไม่หรอก ทำได้แน่ โอ่ย ซุซูกะ!』
เร็นกะประกาศออกมาอย่างหนักแน่นแล้วเรียกหาซุซูกะ
『จะมัวซึมไปถึงเมื่อไหร่ มาให้ยืมพลังซะดีๆ! รู้นะว่าจริงๆแล้วก็อยากจะมาเข้าร่วมกลุ่มกับพรรคพวกอยู่น่ะ! ยัยคนเก็บตัวนี่!』
『นะ!?』
ซุซูกะหน้าแดงไปจนถึงใบหู
『ค-ใครกัน…..!』
『เงียบไปเลย! ใครได้เห็นมันก็รู้ทั้งนั้น! เลิกเอาแต่จิกกัดอยู่รอบนอกแล้วพูดมาเลยว่าอยากจะเป็นพรรคพวกด้วยกันซักที!』
『อ๋า~ พูดไปซะแล้ว…..』
เมอาพึมพำมาเบาๆด้วยความหงุดหงิด
…..เรื่องที่ซุซูกะอยากจะมาเข้าร่วมกลุ่มพรรคพวกด้วย แต่ว่าไม่ยอมซื่อตรงกับตัวเองนั้น ทุกๆคนรู้สึกตัวดีอยู่แล้ว
แต่ถึงจะเป็นแบบนั้น พอพวกเราพยายามชวนเข้ามา เธอก็จะชิ่งหนีเล่นตัวหยั่งกับแมว ทำให้รับมือด้วยลำบากเอามากๆ
แต่ทุกคนก็ยังคงรอคอยเพื่อให้ซุซูกะรู้สึกคุ้นชินกับพวกเราอยู่ แต่…..ดูเหมือนในที่สุดเร็นกะจะหมดความอดทนเข้าแล้ว
『หล่อนเองก็ชอบอุทามาโร่ใช่ไหมล่ะ!』
『…..อา โธ่! เข้าใจแล้วน่า! เพราะงี้แหละพวกชอบเปิดเผยตัวเองถึงได้…..!』
ซุซูกะขยี้หัวแล้วร้องตะโกน
ในตอนนั้นเอง การ์ดของซุซูกะก็เปล่งแสง พอเอาออกมาดู ที่ตรงนั้นก็มีชื่อของสกิลถูกสลักอยู่ตามที่คาดไว้ —-มิตรภาพร่วมมือ
อมยิ้มขึ้นที่มุมปาก ในที่สุดก็ซื่อตรงขึ้นมาแล้วสินะ
เร็นกะแปลงร่างจากคิชโชเต็งกลายเป็นโคคุอันเท็น
ด้วยเสียงอันแหบแห้ง เร็นกะพูดออกมา
『ลุยกันเลย…..!』『จ้าจ้า…..』
มิตรภาพร่วมมือ—-『โลกามลายสูญยามราตรี』x『ความรักที่มากเกินไปแปรเปลี่ยนเป็นความเกลียดชังร้อยเท่า』
ฝนสีดำโปรยปราย แม่แพะที่โดนมันเข้าไปเต็มๆ—-แต่ว่าไม่ได้แสดงอาการผิดปกติใดๆเลย
ซึ่งก็แน่นอน นั่นเพราะว่ามันไม่ได้สร้างความเสียหายโดยตรงแต่อย่างใด แต่เป็นการลดความสามารถด้านการป้องกันทั้งหมดของแม่แพะต่างหาก
ส่วนการโจมตีที่จะตามมา…..
『ยูคิ!』
『ฮะ…..!』
ซิงโคร บางทีอาจจะเพราะการฟูลซิงโครที่ทำไปเมื่อครู่นี้ เลยทำให้จับเคล็ดอะไรบางอย่างได้ แต่อย่างที่คิดว่า 99%—-ยังไม่สามารถทำการฟูลซิงโครได้ แต่ก็สามารถไปได้สูงถึง 90% อย่างง่ายดาย
เอาล่ะ ลุยกันเลย
—-ชุดหมาป่า กลายร่างจากสาวน้อยเป็นมนุษย์หมาป่า
—-ยามจันทราเต็มดวง สำหรับไลแคนโทรปที่พลังต่อสู้เพิ่มขึ้นตามข้างขึ้นข้างแรมของดวงจันทร์แล้ว คืนนี้เป็นคืนพระจันทร์เต็มดวงที่สามารถแสดงพลังออกมาได้ถึงขีดสุด
—-ทำลายขีดจำกัด ร่างกายของยูคิค่อยๆขยายขึ้นจากขนาดปกติ
พอเธอกลายร่างเสร็จ ที่ตรงนั้นก็มีมนุษยหมาป่าร่างยักษ์สูง 7~8 ม. ยืนอยู่
「ก๊าชชชชชชชช!!!!」
—-การตื่นขึ้นของสัญชาตญาณ พร้อมด้วยเสียงเสียงคำรามที่ราวกับเสียงฟ้าผ่า ขีดจำกัดของกล้ามเนื้อถูกปลดออกแล้วร่างกายก็ขยายขนาดมากขึ้นไปอีก
ยูคิที่ปลดปล่อยศักยภาพทุกอย่างออกมา ก้มตัวลงราวกับการง้างธนู
「แมะะะะะะะะะะะะ!!」
พอมาถึงจุดนี้แม่แพะก็ดูจะเกิดความร้อนรน ทำการสูดหายใจเข้าเฮือกใหญ่—-แล้วพ่นลมหายใจร้อนแรงออกมาราวกับเลเซอร์บีม ด้วยยูคิในตอนนี้อยู่ในท่วงท่าที่รวบรวมพลังทั้งหมดอยู่ในการโจมตีทีเดียว จึงไม่สามารถที่จะหลบหลีกได้—-แต่ว่า
『ไม่ปล่อยให้ทำหรอกค่ะ』
พวกเรายังมี โล่ที่แสนพึ่งพาได้ของปาร์ตี้เราอยู่ เอลิซ่ายืนขวางระหว่างยูคิกับแม่แพะ สร้างโล่สีขาวขึ้นมาป้องกันลมหายใจเอาไว้
โล่แห่งการอุทิศตน ไม่ใช่สกิลสำหรับป้องกันการโจมตีของศัตรู แต่เป็นสกิลที่ลดทอนความเสียหาย แล้วรับมันเอาไว้ด้วยตัวเอง
ทั่วทั้งร่างของเอลิซ่าถูกเผาจนไหม้เกรียม เกิดไอน้ำสีขาวลอยขึ้นมา มีผิวหนังใหม่ถูกฟื้นฟูขึ้นภายใต้นั้นแต่มันก็ระเหยไปอย่างรวดเร็วเช่นกัน
มันคือการต่อสู้ระหว่างว่าลมหายใจของแม่แพะจะชนะ หรือว่าตัวเธอจะสามารถทนรับด้วยเลือดที่เก็บสะสมเอาไว้
แม้แต่หน่วยฟื้นฟูอย่างเร็นกะเอง เนื่องจากไม่สามารถยกเลิกโลกามลายสูญยามราตรี จึงไม่สามารถขยับได้
ขณะที่เหล่าพวกพ้องเฝ้ามองพร้อมภาวนา ผู้ที่ชนะการประจัญหน้ากัน—ก็คือแม่แพะ
คุ…..ได้แค่นี้งั้นรึ เลือดที่สะสมเอาไว้เกือบจะหมดแล้ว การเดิมพันล้มเหลว
ในขณะที่ผมกำลังจะให้เอลิซ่าถอยไปนั้นเอง
「—-อาร์ม」
ด้วยเสียงนั้น ชุดเกราะได้เข้าไปสวมร่างของเอลิซ่า พร้อมด้วยพลังสนับสนุนหลายอย่างหลั่งไหลเข้าใส่ตัวเธอ
「อันนา…..!」
「อะฮะฮะ….. ในฐานะประธานชมรม มันก็ต้องแสดงด้านดีๆให้เห็นกันซักหน่อยสิ」
อันนาพูดพร้อมหัวเราะเบาๆ จากนั้นได้เกิดวงเวทขึ้นที่ใต้เท้าของเอลิซ่า แล้วบาดแผลของเธอก็ถูกรักษาในทันที
『—-ขอโทษที่การสนันสนุนล่าช้า แต่อย่างน้อยก็ได้ส่งอะราเดียไปทางนั้นแล้วนะ』
อาจารย์พูดผ่านตราเข็มกลัด
ด้วยการเพิ่มพลังป้องกันจากแปลงอุปกรณ์ของดูลลาฮาน และการคุ้มครองจากผู้พิทักษ์แม่มดอะราเดีย เอลิซ่าได้ฟิ้นฟูกลับมาอย่างสมบูรณ์
เท่านี้ไม่ว่าลมหายใจจะพ่นมานานแค่ไหนก็ไม่มีทางจะจัดการเธอลงได้อีก
และแล้วลมหายใจก็ค่อยๆแผ่วลงและ…..จบลง
ตัวแม่แพะ ตัวชะงักค้างจากการพ่นลมหายใจและไม่สามารถขยับได้
หน้าท้องเปิดเผยและไร้ซึ่งการป้องกัน
ในตอนนั้นเอง ลูกกระสุนนามว่ายูคิก็ได้ยิงออกไป
กระสุนสังหารเป่าจนเกิดรูขนาดใหญ่ที่ท้องของแม่แพะ—- คว้าเอาตัวผู้ใช้หมาล่าเนื้อที่อยู่ภายในท้องของเธอออกมา
「แมะะะะะ…..!」
ด้วยแกนกลางที่ถูกแย่งชิง อิเรกูลาร์เอ็นเคาเตอร์『หมาป่ากับลูกแพะทั้งเจ็ด』ก็เริ่มแตกสลายและทำลายตัวเองไป
ในขณะเดียวกัน โลกที่ถูกย้อมไปค่อยๆคืนกลับมาเป็นเขาวงกตดั้งเดิม
ระหว่างที่อันนากับโอริเบะหมดแรงล้มลง ผมทำการมองไปรอบๆอย่างระมัดระวังเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีการซุ่มโจมตี แล้วในที่สุดก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก
…..จบแล้ว สินะ ศัตรูสุดแกร่ง…..ที่ไม่เคยเผชิญหน้ามาก่อน ไม่ได้รู้สึกถึงความสำเร็จ มีเพียงแค่ความรู้สึกว่างเปล่า
『…..มาสเตอร์』
ในตอนนั้นเองที่ยูคิกลับมา พร้อมกับผู้ใช้หมาล่าเนื้อในอ้อมแขน ดูเหมือนจะหมดสติ ร่างกายไม่ขยับเขยื้อน ที่หน้าอกขยับขึ้นและลงอย่างช้าๆ
「รุ่นพี่ คนคนนี้ ผู้ใช้หมาล่าเนื้อ…..งั้นเหรอส์คะ?」
อันนาถามแบบเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง
ตัวจริงของผู้ใช้หมาล่าเนื้อที่ได้เห็นเป็นครั้งแรก เป็นผู้หญิงวัยรุ่นธรรมดาๆ ไม่มีอะไรที่เหมือนกับนักบุญของสมาคมพระแม่ดาราเลยแม้แต่น้อย ใบหน้าตอนหลับอย่างสงบนั้นช่างไร้เดียงสาจนยากที่จะเชื่อได้ว่าเป็นสัตว์ประหลาดที่สังหารคนไปกว่า 100 คน
「รุ่นพี่ อันนา ดูนี่สิ」
พอหันไปตามเสียงของโอริเบะ ก็เห็นในมือเธอถือการ์ด 1 ใบ ยื่นมาให้และเมื่อทำการรับเอามา ที่เห็นอยู่นั้นก็คือการ์ดของหมาป่ากับลูกแพะทั้งเจ็ด
เป็นการ์ดที่ให้ความรู้สึกแปลกๆโดยมีแค่ภาพที่เหมือนกับปกของหนังสือภาพ
นี่มัน การ์ดของอิเรกูลาห์เอ็นเคาเตอร์…..อย่างงั้นเหรอ?
และแล้ว ในตอนนั้นเอง
「โอ่~~ย มันเกิดอะไรกันขึ้น!?」
จากบันไดทางขึ้น อากิระซังและเหล่าเจ้าหน้าที่ตำรวจค่อยๆลงมาเรื่อยๆทีละคน
ด้วยการที่หมาป่ากับลูกแพะทั้งเจ็ดถูกจัดการ การแยกโดดเดี่ยวพื้นที่ก็หายไปด้วย ทำให้สามารถเข้ามาได้
ถ้าเป็นอิเรกูลาห์เอ็นเคาเตอร์ปกติ มันจะสามารถเข้ามาได้แต่ไม่สามารถออกไปได้ แต่คราวนี้ดูจะไม่สามารถทำได้ทั้งเข้าและออก
「…..ช้าจริงเชียว คุณพี่」
อาจารย์พูดพร้อมถอนหายใจ ซึ่งพวกเราก็ได้แต่ยิ้มแห้งๆให้
และแล้ว การต่อสู้กับผู้ใช้หมาล่าเนื้อที่ดูเหมือนจะยาวนานแต่กลับสั้น ก็มาถึงจุดจบ
【Tips】หมาป่ากับลูกแพะทั้งเจ็ด ส่วนที่ 2
เฟสที่ 3 คือศึกต่อสู้ตัดสินกับศัตรูที่เลือกไว้ในเฟสที่ 2
ในกรณีที่เปิดประตู จะเป็นตามเทพนิยาย หลังจากที่หมาป่ากินลูกแพะแล้ว หมาป่าจะถูกฆ่าโดยแม่แพะ ในขั้นตอนนี้ วิญญาณของเหล่ามาสเตอร์ที่ถูกกักขังอยู่ภายในท้องของหมาป่าจะตื่นขึ้นมา แต่แม่แพะและลูกแพะอมตะทั้ง 7 จะเข้าโจมตี แม่แพะมีความแข็งแกร่งมหาศาลและพลังชีวิตที่สูง สามารถฟื้นฟูตัวเองอย่างสมบูรณ์ได้ด้วยการกินลูกแพะ จึงไม่สามารถหลีกเลี่ยงการต่อสู้ที่ยืดเยื้อไปได้ สิ่งเดียวที่ช่วยคือลูกแพะที่ถูกกินจะไม่คืนชีพกลับมา
ในกรณีที่ทำลายนาฬิกาลูกตุ้ม จะเป็นการฆ่าลูกแพะตัวที่เจ็ด แม่แพะจะไม่รู้ถึงการโจมตีของหมาป่า เหล่าลูกแพะจะยังคงอยู่ภายในท้องของหมาป่าและไม่สามารถออกมาได้อีก กลายเป็นศึกสุดท้ายของนักผจญภัยกับหมาป่า หมาป่าจะฟื้นฟูอย่างสมบูรณ์จากลูกแพะที่กินเข้าไป แต่การต่อสู้จะง่ายกว่าจากที่ไม่มีลูกแพะทั้งเจ็ดอยู่ อีกทั้งพลังชีวิตก็มีน้อยกว่าแม่แพะ การเคลื่อนไหวในช่วงแรกก็เชื่องช้าเพราะตัวหนักจากการกินลูกแพะ ทว่าเมื่อจัดการไปเรื่อยๆ ตัวมันก็จะค่อยๆเบาลงและเก่งกาจมากขึ้นๆ
ในกรณีที่นักผจญภัยพลาดสกิลปริศนาทั้งหมดในเฟสแรก ศัตรูจะเข้าโจมตีทั้งคู่ แม่แพะพร้อมลูกแพะอมตะทั้งเจ็ด และหมาป่าที่ตัวเบาตั้งแต่เริ่มต้น เป็นนรก
นอกจากนี้ หากเป็นในแรงค์เดียวกันแล้ว『ชายเป่าขลุ่ยแห่งฮาเมลิน』จะแข็งแกร่งกว่า『หมาป่ากับลูกแพะทั้งเจ็ด』 ความแข็งแกร่งของอิเรกูลาร์เอ็นเคาเตอร์『หมาป่ากับลูกแพะทั้งเจ็ด』จะอยู่ในระดับต่ำจนถึงปานกลาง