ฉันโยนเสื้อผ้าที่อยู่ในมือใส่หน้าของจังเฉิง“คุณคิดว่าคุณสลับเปลี่ยนเสื้อผ้าฉันแล้วฉันจะจำไม่ได้เหรอ?”
พูดพลาง ก็ไปฉีกชุดที่อยู่บนตัวของหลินหลิง“ทำไม?แย่งผู้ชายของคนอื่นก็ไม่พอแล้ว แม้แต่เสื้อผ้าที่ฉันเคยใส่ก็อยากจะแย่ง ทำไมแกหน้าด้านแบบนี้!”
หลินหลิงถูกการกระทำของฉันจนตกใจกลัว รีบจับท้องของตัวเองไว้และหลบด้านหลังจังเฉิง
จังเฉิงนำเสื้อผ้าที่อยู่บนตัวโยนทิ้งลงบนพื้น ดึงฉันเอาไว้ไม่พูดจา ยังสะบัดแขนมาตบหน้าฉัน
ทั่วทั้งร่างกายฉันชะงักลงทันที ฉันอยู่กับจังเฉิงมาเจ็ดปี ทะเลาะกันรุนแรงแค่ไหน เขาไม่เคยจะลงมือกับฉันสักครั้ง ตอนนี้เป็นเพราะว่าเรื่องนี้ถึงตบหน้าฉัน
หลินหลิงที่อยู่ด้านหลังจังเฉิงมองฉันด้วยความสะใจ
เห็นได้ชัดว่าจังเฉิงก็ชะงักไปเหมือนกัน รีบหาคำแก้ตัว“เธอบ้าเกินไปแล้ว ฉันกลัวว่าเธอจะทำร้ายถึงลูกในท้องของหลินหลิง”
ตบนี้ ทำให้ความรักที่เหลืออยู่เพียงเล็กน้อยของฉันที่มีต่อเขาสลายหายไปหมด
ถ้าหากพูดว่า ตอนนี้ฉันยังดื้อรั้นที่จะรักษาชีวิตแต่งงานนี้ไว้ นั้นคือฉันหัวแข็งไม่อยากให้ตำแหน่งกับเมียน้อย และที่สำคัญที่สุดคือ ฉันยิ่งเห็นหน้ากากที่แท้จริงของจังเฉิงมากขึ้น
เวลาที่ผู้ชายไร้ความปรานี ก็คือไร้ความปรานีจริงๆ ถ้าหากว่าฉันหย่า ความไร้ปรานีของจังเฉิงยังแบ่งความรับผิดให้ฉันจ่ายหนี้ครึ่งหนึ่ง
เพราะว่าก่อนหน้านี้ฉันให้เพื่อนสนิทฉันช่วยตรวจสอบก่อนแล้ว จังเฉิงไม่รู้ดำเนินเรื่องยังไง อย่างไรก็ตามหาหลักฐานในการโอนทรัพย์สินระหว่างแต่งงานของเขาไม่เจอ และยังไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าเขาซื้อบ้านให้เมียน้อย แสดงให้เห็นว่าเขาได้คิดแผนนี้มาก่อนแล้ว
ฉันตกอยู่ในภวังค์ ไม่รู้ว่าจังเฉิงกับหลินหลิงออกไปเมื่อไหร่ แต่เมื่อฉันได้สติกลับมา พวกเขาก็นั่งรถหนีไปแล้ว ความโกรธของฉันยังอัดแน่นอยู่ในใจ นานมากฉันก็ยังกลืนความโกรธนี้ไม่ลง
ฉันนั่งยองๆลงบนพื้น ความเจ็บปวดภายในใจเหมือนถูกบีบหัวใจ จนเจ็บปวดรุนแรงมาก
สุดท้ายฉันถูกเซิ่งซื่อหาวดึงขึ้นมาจากพื้น รอยตบที่อยู่บนหน้าของฉันเห็นชัดเจนมาก มือของเขาค่อยๆลูบแก้มที่ได้รับบาดเจ็บของฉัน หรี่ตาลง ถามด้วยน้ำเสียงอันตราย“ใครทำ?”
“จังเฉิง”พูดพลาง ในใจฉันรู้สึกกล้ำกลืน กอดเซิ่งซื่อหาวร้องไห้ออกมา
ช่วงเวลาที่ผ่านมาฉันแสดงออกว่าเข้มแข็งมาโดยตลอด น้อยมากที่จะร้องไห้ฟูมฟาย บางทีนี้เป็นครั้งแรกที่เซิ่งซื่อหาวได้เห็น บางทีความสัมพันธ์เป็นชู้แบบนี้ของฉันกับเซิ่งซื่อหาว ทำให้ฉันรู้สึกว่าเขาให้ฉันพึ่งพาชั่วคราวได้
ร้องไห้จนเหนื่อย เซิ่งซื่อหาวพาฉันไปขึ้นรถ หลังจากนั้นก็ให้กระดาษเช็ดหน้าฉัน
“เรื่องเล็กแค่นี้เธอก็เป็นถึงขนาดนี้?”เขาเลิกคิ้วขึ้น หัวเราะฉัน
“เสื้อผ้าที่คุณซื้อถูกจังเฉิงมอบให้กับเมียน้อย คุณดูทำไมเขาถึงหน้าด้านขนาดนั้น”ฉันสูดลมหายใจเข้า ในขณะเดียวกันก็เช็ดน้ำตา
“เขาไม่ได้เพิ่งจะไร้ยางอายมาสองสามวันนี้ และเสื้อผ้าชุดเดียวคุ้มค่ากับการยั้งสติไม่อยู่ของเธอ?”
“แต่นั่นเป็นสิ่งที่คุณมอบให้”
คำพูดนี้ของฉันไม่รู้ว่าอะไรทำให้เขามีความสุข เซิ่งซื่อหาวยื่นมือมาลูบศีรษะของฉัน“ชุดนั้นความจริงแล้วธรรมดามาก ฉันจะซื้อให้เธอใหม่”
น้ำเสียงนั้นอ่อนโยนเหมือนกับกำลังปฏิบัติกับเด็กคนหนึ่ง เดิมทีหัวใจที่ได้รับบาดเจ็บของฉันชั่วพริบตาเดียวก็ถูกปลอบโยน หัวใจพองโตอย่างอบอุ่นขึ้นมาทันที
ครั้งนี้เซิ่งซื่อหาวพาฉันเข้าไปในร้านยี่ห้อดังที่มีระดับ ฉันมองดูป้ายของเสื้อผ้า ก็ตกใจกับตัวเลขห้าหลักด้านบน
“ตั้งแต่ศีรษะจรดเท้า หาชุดที่เหมาะสมกับเธอ”เซิ่งซื่อหาวสั่งพนักงาน
ไม่นาน พนักงานก็เลือกเสื้อผ้ามาสองสามชุด มาวางบนตัวของฉัน และพูดแสดงความคิดเห็นให้ฉัน“คุณผิวขาว ใส่อะไรก็สวย เพียงแต่สองสามชุดนี้ยิ่งมีความโดดเด่นมากขึ้น คุณลองใส่ดูหน่อย”
ฉันลองไปสองสามชุดแล้ว ในที่สุดก็เลือกชุดสีเทา สไตล์เรียบง่าย ที่สำคัญที่สุดคือดูมีรสนิยมเฉพาะตัวมาก
เวลาที่เซิ่งซื่อหาวให้บัตรกับพนักงาน ถูกฉันดึงเอาไว้“เสื้อผ้านี้ฉันจ่ายเอง”
เขาเลิกคิ้ว ไม่พอใจ
“นี่คือบัตรเครดิตของจังเฉิง ก็เป็นค่าเสียหายที่ตบหน้าฉัน”ฉันหยิบบัตรเครดิตออกมาจากกระเป๋าเงิน ใช้นิ้วมือชี้รอยฝ่ามือบนใบหน้า
ช่วงนี้จังเฉิงพูดว่าขาดเงินรุนแรง เขามีเงินเดือนสองหมื่นถึงสามหมื่นหยวน แต่ต้องผ่อนค่าห้องหนึ่งหมื่นหยวน หลินหลิงตั้งท้องก็ต้องใช้เงิน สามารถพูดได้ว่าถูกโจมตียับเยิน ทำให้เขากระอักเลือดออกมาอย่างไม่ต้องสงสัย
เซิ่งซื่อหาวเข้าใจความคิดของเธอ ก็ไม่ได้ดึงดันอีก พนักงานเห็นฉันซื้ออย่างว่องไว รีบเลือกรองเท้าให้ฉันอีกหนึ่งคู่
เสื้อผ้าหนึ่งชุดกับรองเท้าทั้งหมดห้าหมื่นหยวน คาดว่าจังเฉิงได้รับข้อความคงเจ็บใจเจียนตาย
เป็นไปอย่างที่คิด เวลาที่อยู่บนรถ จังเฉิงโทรศัพท์เข้ามา ฉันมองไปที่เซิ่งซื่อหาว ปิดเครื่องโทรศัพท์ทันที
“ไปบริษัทกับฉันสิ!”
“ไปที่นั่นทำไม?”ในใจของฉันตึงเครียดขึ้นมา ตอนนี้ฉันยังไม่ถึงเวลาฉีกหน้าของจังเฉิง ไม่สามารถให้เขาจับความผิดเรื่องที่ฉันมีชู้ได้
“ช่วยเธอแก้แค้น”
ความหมายของเซิ่งซื่อหาวฉันไม่เข้าใจ ฉันแทบจะก้มหน้าเดินตามเขาเข้าไปในลิฟต์ โชคดีตอนนี้ไม่ใช่เวลาเข้าทำงาน ในลิฟต์คนไม่เยอะ ฉันจึงผ่อนคลายลง
“มีความกล้าหาญแค่นี้?”เซิ่งซื่อหาวหัวเราะฉัน
ฉันมองเขาด้วยความโกรธ และเป็นเวลานี้ ลิฟต์ก็เปิดออกที่ชั้นสาม ฉันรีบก้มหน้าลง
“จังเฉิง พี่สาวไม่รับโทรศัพท์อาจจะกำลังชอปปิงอยู่!คุณจะโมโหไปทำไม?”
เสียงนี้คุ้นเคยมาก เห็นได้ชัดเจนว่าเป็นหลินหลิง กำลังคิดอยู่ ทันใดนั้นเซิ่งซื่อหาวก็ขวางฉันเอาไว หลังจากนั้นก็จับหน้าฉันเงยขึ้นมา ตรงเข้ามาจูบฉัน
MANGA DISCUSSION