" ฉันไม่ยุ่งเรื่องของคุณ คุณก็ไม่ต้องมายุ่งเรื่องของฉัน " ฉันมองเขาอย่างเย็นชา
" คุณคือภรรยาของผม ทำไมผมจะยุ่งไมได้ หรือว่าคุณทำเรื่องอะไรที่มันผิดต่อผม? " จังเฉิงมองฉันด้วยใบหน้าที่บึ้งตึง สายตานั้นดูเหมือนอยากฆ่าฉันสะเดี๋ยวนี้
" จังเฉิง พูดแบบนี้คุณไม่รู้สึกผิดบ้างหรอ? " ฉันมองเขาอย่างเหน็บแนม
" สู่เสี่ยวหลง เรื่องของผมกับหลินหลิงคือผมทำผิดต่อคุณก็จริง เเต่ผมทำผิดเรื่องที่ผู้ชายทั่วไปเขาทำกัน "
พอได้ยินคำพูดที่ไร้ยางอายของจังเฉิง ฉันก็ขี้เกียจตอบเขา จึงนอนหันหลังให้เขาทันที ผู้ชายทำผิดเเล้วสามารถใช้คำพูดประโยคนี้มาปกปิดอดีต เเล้วผู้หญิงล่ะ?
วันต่อมา ตอนที่ฉันกำลังทำงาน ฉันก็ถูกหัวหน้างานเอ่ยถึงฉัน พูดไปพูดมาก็เหมือนฉันเป็นฮีโร่ที่ช่วยบริษัทให้รอดพ้นจากความทุกข์ เเละชมจนฉันยังจำตัวเองไม่ได้
แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าความรู้สึกของการได้รับการยอมรับนี้ทำให้ฉันรู้สึกเบาไปทั้งตัว ราวกับเดินอยู่บนเมฆ มองอะไรก็สวยไปหมด
เเต่ความงดงามนี้ก็ผิดปกติไปในช่วงบ่าย
เพราะฉันพบว่ามีเพียงลูกค้าของฉันเท่านั้นที่ถูกหลอก ฉันรู้สึกประหม่าขึ้นมาโดยไม่มีเหตุผล
รอจนใกล้เลิกงาน หัวหน้างานก็พาตำรวจมาสองสามคน
สายตาของหัวหน้างานไม่มีความชื่นชมอีกต่อไป เเต่กลับมีความรังเกียจอยู่ลึกๆ
" คุณตำรวจคะ นี่เป็นพนักงานฝึกงานของบริษัทเราค่ะ เธอชื่อสู่เสี่ยวหลง "
เธอพูดคำว่าพนักงานฝึกงานอย่างชัดเจน คล้ายกับทำแบบนี้เเล้วจะสามารถพิสูจน์ได้ว่าฉันกับบริษัทไม่ได้มีความเกี่ยวข้องอะไรกันมากมาย
" คุณคือสู่เสี่ยวหลง? "
ฉันพยักหน้า ในใจเริ่มรู้สึกระวนกระวาย เป็นพลเมืองดี อยู่ๆกลับถูกตำรวจถามแบบนี้ จึงทำให้รู้สึกเหมือนมีบางอย่างผิดปกติ
" งั้นขอเชิญคุณไปกับเราหน่อย "
พูดเสร็จ ฉันก็ถูกบังคับให้อยู่ตรงกลางเเล้วเดินออกไป
เพื่อนร่วมงานในบริษัทพากันชี้มาที่ฉัน ตอนเเรกพวกเขายังไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เเต่ฉันได้ยินหัวหน้างานพูดขึ้น: " สู่เสี่ยงหลงมีความเกี่ยวพันกับบริษัทหลอกลวง…… "
พอได้ยินประโยคนั้น เดิมทีที่ฉันยังงงๆอยู่ ฉันก็สะบัดตำรวจด้านข้างออกทันที หลังจากนั้นก็หันไปตะโกนใส่หัวหน้างาน: " ฉันไม่ได้ทำนะ ฉันไม่ได้มีความเกี่ยวพันกับบริษัทหลอกลวงนั้นจริงๆ "
หัวหน้างานมองฉันอย่างเย็นชา เเละพูดด้วยน้ำเสียงติดรังเกียจ: " ในบริษัทมีเพียงข้อมูลลูกค้าของเธอเท่านั้นที่รั่วไหลออกไป อีกอย่าง ตอนที่จับกุมที่ซ่อนของคนพวกนั้นได้ ทางเรายังพบบัญชีเเละในนั้นยังมีข้อมูลการโอนเงินไปยังบัญชีของเธออีกด้วย "
ฉันงุนงงทันที สองขาของฉันอ่อนเเรงจนเเทบจะยืนไม่ไหว
ตำรวจที่อยู่ด้านข้างดึงฉันขึ้นจากพื้นอย่างไม่ปรานี เพื่อนร่วมงานรอบข้างก็มองฉันด้วยสายตาที่รังเกียจและดูถูก
" ฉันไม่รู้……ฉันไม่รู้จริงๆ…… "
น้ำตาบนใบหน้าทำให้การมองเห็นของฉันพร่ามัว ในหูของฉันนอกจากเสียงกร่นด่าของเพื่อนร่วมงานเเล้ว ฉันก็ไม่ได้ยินอะไรอีกเลย
ในความพร่ามัว ฉันเหมือนเห็นหลินหลิงยืนอยู่ที่ประตูเเละกำลังมองดูฉัน ในดวงตาของเธอเหมือนเห็นความสุขบนความทุกข์ของคนอื่น
" หลินหลิง เธอใส่ร้ายฉันใช่ไหม? "
ไม่รู้ฉันไปเอาเเรงมาจากไหน ฉันสะบัดตำรวจออก หลังจากนั้นก็พุ่งไปหาหลินหลิงทันที
ความบ้าคลั่งของฉันกระตุ้นความรู้สึกตื่นตัวของตำรวจ เริ่มเเรกพวกเขายังพะว้าพะวังฉันอยู่ เเต่ครั้งนี้ หลังจากที่พวกเขาดึงฉันออกมาได้เเล้ว พวกเขาก็จับฉันใส่กุญเเจมือทันที
ฉันถูกลากขึ้นรถตำรวจอย่างไร้ศักดิ์ศรี
สุดท้ายฉันก็ถูกขังไว้ในห้องสอบปากคำ ทั้งหมดเกิดขึ้นเร็วมาก เร็วจนฉันตอบสนองกลับมาไม่ทัน
ฉันคิดถึงเซิ่งซื่อหาวเเละอยากโทรไปหาเขา เเต่ฉันหาโทรศัพท์ของตัวเองไม่เจอ บางทีมันอาจจะตกอยู่ในบริษัทก็ได้!
ตำรวจที่นั่งฝั่งตรงข้ามฉันหยิบสมุดบันทึกขึ้นมาเเละถามฉัน: " คุณนำข้อมูลของบริษัทออกไปและติดต่อกับนักต้มตุ๋นเหล่านั้นได้ยังไง? "
" ฉันไม่รู้ "
" ฉันไม่รู้ค่ะ—— "
ในขั้นตอนการสอบสวน ฉันไม่รู้เกือบทั้งกระบวนการ ในหัวของฉันนอกจากคำนี้เเล้ว ฉันก็ไม่รู้ว่าควรจะตอบว่าอะไรอีก
ถึงขนาดไม่รู้ว่าตัวเองถูกคนเล่นงานยังไงด้วยซ้ำ ตอนนี้ฉันมีเเต่ความงุนงง
เพราะฉันปฏิเสธที่จะอธิบาย ฉันจึงถูกปฏิบัติเหมือนบุคคลที่ดื้อดึง เเละโดนกระทำอย่างไม่ค่อยดีนัก ตอนกลางคืน เพราะไม่มีญาติมาส่งข้าวให้ฉัน คนที่คุมฉันจึงให้บะหมี่ฉันมาหนึ่งถ้วย เเต่ตอนนี้ฉันกินลงที่ไหนล่ะ
ทุกวินาทีที่อยู่ที่นี่คือความทรมานสำหรับฉัน ความกดดันทางจิตใจที่มากมายแทบจะบดขยี้ฉันให้จมดิน ฉันอยากทุบหัวของตัวเองที่ไม่รู้ว่าหลินหลิงเล่นงานฉันตอนไหน
ฉันได้ยินตำรวจด้านนอกคุยกัน: " เเจ้งคนในบ้านของเธอเเล้วหรือยัง? "
" เเจ้งเเล้วครับ คาดว่าอีกสักครู่ก็คงจะถึงครับ "
ไม่นาน จังเฉิงก็มาที่นี่ เเละในห้องก็มีเเค่เขากับฉัน
สิ่งที่ฉันไม่คาดคิดก็คือสิ่งที่เขาพูด: " เสี่ยวหลง ถ้าคุณยอมตกลงว่าจะลาออกจากงานหลังจากที่ออกไป ผมจะช่วยคุณให้พ้นจากโทษ "
MANGA DISCUSSION