" อ้อ เเล้วเธอบอกว่าอะไร? "
" จะบอกว่าอะไรอีกล่ะ เราเป็นเพื่อนรักกัน ฉันต้องช่วยเธออยู่เเล้ว เธอสบายใจได้ ฉันบอกเขาว่าเธอพักอยู่ที่บ้านฉัน! คืนนี้เธอก็อยู่กับเซิ่งซื่อหาวได้อย่างสบายใจได้เลย หวังว่าพวกเธอจะมีความสุขนะ "
พูดจบ ฝ่ายนั้นก็รีบวางสายทันที ก่อนวางสายฉันยังได้ยินเสียงผู้ชายจากทางฝั่งนั้นอีกต่างหาก
ดูเหมือนช่วงนี้เพื่อนรักจะยุ่งๆนะ——
เเต่ตอนนี้ไม่ต้องกลับไปแล้ว ทำให้ฉันรู้สึกดีมาก
ฉันไปอาบน้ำ ซักผ้า อบผ้าเเละตากผ้า พอทำเสร็จ ฉันก็รู้สึกว่าเมื่อไม่มีเซิ่งซื่อหาวอยู่ข้างกาย ในใจก็รู้สึกว่างเปล่าจนสับสน เเละเหมือนหลุมดำที่ไม่สามารถเติมเต็มได้
วันต่อมา ตอนที่ฉันกลับบ้าน เดิมที คิดว่าจะต้องเจอคำถามของจังเฉิงกับสายตาเย็นชาของเเม่สามี เเต่ไม่คิดว่าในบ้านจะว่างเปล่าเเละไม่มีใครอยู่เลยสักคน
พอโทรไปถาม ถึงได้รู้ว่าหลินหลิงพาพ่อกับเเม่สามีเเละจังเฉิงไปเที่ยวที่ชานเมือง
ถ้าเป็นเมื่อก่อนฉันคงจะโกรธ เเต่ตอนนี้เรื่องนี้เทียบไม่ได้กับตอนที่ฉันรู้ว่าเซิ่งซื่อหาวจะไปทำงานนอกสถานที่ที่ต่างประเทศ ซึ่งนั่นมีผลกับฉันมากกว่าเรื่องนี้
ฉันอยู่บ้านเเละหยิบโทรศัพท์ออกมาอ่านนิยาย พอได้อ่านก็ใช้เวลาทั้งวัน แทบจะหมดเวลาไปกับวันหยุดโดยไม่มีสาระอะไรเลย เเละต้อนรับวันจันทร์ที่กำลังจะมาถึง
นี่เป็นวันที่สองของการทำงานของฉัน เพราะถึงเเม้ว่าวันเเรกฉันจะทำงานสะดุด ประสิทธิภาพจึงไม่สูงนัก เเต่ฉันก็คุ้นเคยกับกระบวนการดังกล่าวเเล้ว
ดังนั้น งานวันนี้จึงเยอะกว่าวันเเรก ในมือของฉันล้วนเป็นลูกค้าระดับ c โดยพื้นฐานแล้วทางบริษัทขอให้ฉันใช้เวลาเยี่ยมตอบลูกค้าเหล่านี้เพื่อเป็นการฝึกฝนไปในตัว
ฉันโทรศัพท์ตลอดทั้งช่วงเช้า โทรจนคอกับลิ้นแห้งไปหมด ระหว่างนั้นก็มีไปห้องเติมน้ำเพื่อดื่มน้ำให้ชุ่มคออยู่ตลอด
เเต่ไม่คิดว่าพอฉันกลับมาก็พบว่าคอมพิวเตอร์ของฉันพังสะอย่างนั้น หน้าจอคอมเป็นสีฟ้าเเละกระพริบอยู่ตลอดเวลา ฉันจึงให้หัวหน้างานดู สุดท้ายก็ต้องหาคนที่ซ่อมคอมพิวเตอร์โดยเฉพาะมาซ่อมจนได้
คนที่ซ่อมคอมพิวเตอร์เป็นชายหนุ่มที่ใส่หมวกปากเป็ด เขาซ่อมคอมพิวเตอร์ไปมาประมาณหนึ่งชั่วโมง ถึงจะซ่อมเสร็จ ฉันพาเขาไปส่งเเละพูดขอบคุณเขาจากใจจริง สุดท้ายฉันก็ได้ทำงานตามปกติ
ต่อมา ฉันก็ทำงานมาเเล้วครึ่งเดือนกว่า เเละเซิ่งซื่อหาวยังคงไม่กลับมา ฉันรู้สึกจำใจ ทำได้เพียงอดกลั้นความคิดถึงเอาไว้ในใจเเละจดจ่อกับการทำงาน ความประทับใจของหัวหน้างานที่มีต่อฉันดีขึ้นเรื่อยๆ ถ้าไม่เกิดอะไรขึ้น สิ้นเดือนนี้ฉันก็น่าจะผ่านการตรวจสอบ หลังจากนั้นก็ได้เป็นสมาชิกโดยสมบูรณ์
เเละในช่วงเวลาระหว่างนี้ฉันกลัวว่าหลินหลิงจะใช้วิธีสกปรก เเต่กลับไม่ได้เป็นเหมือนที่ฉันคิดไว้ ฉันคิดว่าคำขู่ที่ฉันฝากจังเฉิงไปบอกเธอได้ผล จึงไม่สนใจเธออีก
ฉันเหมือนได้เริ่มชีวิตใหม่ มันเต็มไปด้วยพลัง และวิ่งอย่างมีความสุขบนถนนสายนี้โดยไม่หยุดหย่อน
เเต่ตอนที่ฉันกำลังขยันขันเเข็ง ฉันไม่รู้ว่าอุบายในที่ทำงานนั้นรุนแรงและโหดเหี้ยมกว่าที่เคยพบเจอในชีวิต
วันที่ยี่สิบของการทำงาน เซิ่งซื่อหาวยังคงไม่กลับมา เเต่บริษัทกลับกำลังประสบปัญหาใหญ่
ตอนที่ฉันกำลังเยี่ยมตอบลูกค้าก็พบว่ามีคนแอบอ้างในนามของบริษัทเพื่อหลอกลวงความไว้วางใจของลูกค้า เเถมยังให้ลูกค้าจ่ายเงินเพื่อทำบัตรสมาชิก เเละสัญญาว่าถ้าซื้อสินค้าของทางบริษัทก็จะลดราคาห้าสิบเปอร์เซ็นต์จากราคาเดิม
เเต่ในบริษัทไม่มีกิจกรรมนี้ พอฉันขอความคิดเห็นจากหัวหน้างานก็ได้คำตอบเหมือนเดิม ต่อมา หัวหน้างานก็รู้ถึงปัญหา
หลังจากนั้นก็มีรายงานตามระดับในตอนท้าย ด้านบนรีบให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ทันที การประชุมตอนบ่าย แต่ละคนก็ได้ส่งข้อความไปยังลูกค้าที่ตัวเองรับผิดชอบเพื่อแจ้งความจริง
พอข้อความถูกส่งออกไป ลูกค้าทางฉันเองก็เริ่มทยอยโทรเข้ามา ฉันไม่คิดว่าพวกเขาจะถูกหลอกมากมายขนาดนี้ เเต่ละคนอารมณ์ดุเดือด ฉันทำได้เพียงปลอบพวกเขาทีละคน ปลอบจนริมฝีปากแห้งเหือดเเละลำคอลุกเป็นไฟ
วันนี้ตอนเที่ยงคืนถึงจะเลิกงาน ฉันจำไม่ได้ว่าตัวเองรับโทรศัพท์ไปเเล้วกี่สาย คอฉันเเห้งจนพูดไม่ออกเเล้วด้วยซ้ำ
ก่อนเลิกงาน หัวหน้างานชมฉันว่ามีความระมัดระวังสูง เเละสามารถพบปัญหาได้ทันเวลา ทำให้บริษัทรับมือได้ ไม่อย่างนั้น ถ้าเรื่องแดงขึ้นมา บริษัทอาจจะเสียหายไปมากกว่านี้
เเถมยังสัญญากับฉันว่าถ้าเรื่องนี้ผ่านไปก็จะให้ฉันเป็นสมาชิกโดยสมบูรณ์ทันที
ทันใดนั้น ฉันก็รู้สึกมีคลื่นโหมซัดในใจ เเละอยากทำงานของฉันให้ดีในชั่วข้ามคืน ความเจ็บปวดในลำคอของฉันดูเหมือนจะบรรเทาลงด้วยประโยคเหล่านี้
กลับมาบ้าน ถึงเเม้ว่าจะเหนื่อยจนลืมตาไม่ขึ้น เเต่ฉันก็ยังหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเพื่อรายงานสถานการณ์ของวันนี้ให้กับเซิ่งซื่อหาว
ดูเหมือนว่าเซิ่งซื่อหาวจะรู้เเล้ว เขาเริ่มตอบรับทางไกลบอกว่าตำรวจจัดการเรื่องนี้ได้แล้วเเละให้ฉันสบายใจได้
ฉันเพิ่งวางโทรศัพท์ลง จังเฉิงก็มองมาทางนี้ทันที: " คุณกำลังคุยกับใคร? ช่วงนี้คุณจับโทรศัพท์บ่อยขึ้นนะ "
MANGA DISCUSSION