เซียนอมตะ 2,500 ปี [我只有两千五百岁] - ตอนที่ 216 ผู้ฝึกยุทธ์หาญกล้า ฉันกล้าหาญ!
บทที่ 216 ผู้ฝึกยุทธ์หาญกล้า ฉันกล้าหาญ!
พรึบ!
ทั้งห้าคนมองไปทางเจียงซานผู้บัญชาการเขตฮัวตงอย่างพร้อมเพรียง
“เจียงซาน นี่เป็นเด็กในเขตฮัวตงของคุณนี่” อู๋เซี่ยนห่าว ผู้บัญชาการเขตจงหนานกล่าว
“ฮ่าฮ่า!” เจียงซานหัวเราะพลางกล่าว “เป็นยังไงล่ะ? เด็กจากเขตฮัวตงของฉัน ไม่แพ้ทั้งคนทั้งกลยุทธ์…”
อีกห้าคนยิ้มรับเบาๆ
อู๋เซี่ยนห่าว ยังคงถามต่อไป “อย่าแสร้งทำเป็นโง่ คุณคงไม่พูดว่า ตัวเองไม่รู้เรื่องผู้อาวุโสที่อาศัยอยู่อย่างสันโดษในเขตของคุณรับเด็กเช่นนี้เป็นศิษย์ ถ้าอย่างนั้นคุณคงทำงานได้ไม่รอบคอบเสียจริง!”
“ถ้าเป็นศิษย์ของผู้อาวุโสท่านนั้นจริง ๆ ก็ยังไม่สายเกินไปที่จะรู้ที่มา…” เจียงซานส่ายหัวยิ้ม ๆ ตอบโดยไม่อาย แล้วกล่าวเสริมอย่างมีสติว่า “ถ้าเป็นเรื่องจริงก็ต้องปลูกฝังให้ดีถึงจะใช้ได้…”
ทั้งห้ามองหน้ากัน สั่นศีรษะพลันหัวเราะ
“อย่าเพิ่งรีบร้อน” หลานหลาน ผู้บัญชาการซีหนานกล่าว “ไม่ว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร เรายังคงต้องดูผลลัพธ์ของวันนี้ การประกาศควรจะออกมาเร็ว ๆ นี้ ฉันอยากรู้เสียจริงว่าเขารับมืออย่างไรในวันนี้!”
ในโลกเกมส์…
“ประกาศ…ขั้นที่สามของโหมดไล่ฆ่า รางวัลสำหรับการไล่ฆ่าจะเพิ่มมากขึ้นได้แก่กระบี่สวรรค์ และในขณะเดียวกันก็มีโอกาสรับสัตว์เลี้ยงแบบสุ่ม หลังจากเปิดระบบสัตว์เลี้ยงแล้ว สัตว์เลี้ยงสามารถช่วยเจ้าของเลื่อนเลเวลได้”
ประกาศฉบับหนึ่งเด้งขึ้นมา…ผู้เล่นทุกคนต่างต้องตกตะลึงอีกแล้ว
ของรางวัลเพิ่มขึ้น?! เมื่อวานมีมากพอแล้ว…แต่วันนี้มีมากยิ่งกว่านั้นอีก!
นี่คือต้องการให้ ‘เวรกรรม ทำไมตั้งชื่อยากเย็นขนาดนี้ฮะ’ ตายให้ได้เลยงั้นเหรอ?!
แต่เมื่อคิดไปถึงเจ้าเวรกรรมที่เอนกายอยู่ในป่าเกล็ดน้ำค้างแข็ง และมีสัตว์ประหลาดที่ฆ่าคนได้หลายหมื่นคน ผู้เล่นธรรมดาที่เมื่อครู่ดวงตาเป็นประกายก็รู้สึกโมโหขึ้นมา!
“รางวัลเพิ่มแล้วจะมีประโยชน์อะไร ! มีป่าเกล็ดน้ำค้างแข็งอยู่มันก็ไร้ประโยชน์!”
“เจ้าเวรกรรมซ่อนตัวอยู่ในป่าเกล็ดน้ำค้างแข็ง เราทำอะไรมันไม่ได้เลย ต่อให้รางวัลดีแค่ไหน มันจะไปมีประโยชน์อะไร?!”
“ป่าเกล็ดน้ำค้างแข็งมันเป็นบัค…ที่แห่งนี้ไม่ควรมีอยู่ในโหมดไล่ฆ่า แอคออฟฟิเชียลตายยัง ทำไมไม่ตอบพวกเราเลย!”
เมื่อวาน เจ้าเวรกรรมพึ่งป่าเกล็ดน้ำค้างแข็งฆ่าคนนับหมื่นในชั่วข้ามคืน ใครจะรู้ว่าเขาจะยังมีวิธีการอะไรมากกว่านี้อีกไหม?
ผ่านบอร์ดสนทนาวันนี้ พวกเขาถึงได้รู้ว่าเจ้าเวรกรรมจัดวางกลอุบายกับดักไว้มากเท่าไหร่ ทั้งจำนวนและคุณภาพคับแน่น แค่มองดูก็ทำให้คนสั่นกลัว!
ในสถานการณ์แบบนี้ใครจะยังกล้าไป ? ฆ่าก็ไม่ได้ ต่อให้มีรางวัลมากกว่าเดิมหลอกล่อให้ไปตายแล้วมันมีประโยชน์อะไร??!!
ในตอนที่ทุกคนกำลังบ่นกันอยู่ บนท้องฟ้ามีประกาศอีกฉบับเด้งขึ้นมา
“เกี่ยวกับข้อร้องเรียนจากผู้เล่นจำนวนมาก หลังจากการสอบสวน เจ้าหน้าที่ได้พิจารณาแล้วว่าพื้นที่พิเศษเช่นป่าเกล็ดน้ำค้างแข็ง มีผลกระทบอย่างมากต่อความเป็นธรรมของโหมดไล่ฆ่า จากนี้ไปพื้นที่พิเศษบนแผนที่จะถูกผนึก และไม่อนุญาตให้เข้าไปขณะอยู่ในโหมดไล่ฆ่า หลังจากโหมดไล่ฆ่าสิ้นสุดลง จะเปิดขึ้นอีกครั้ง หวังว่าผู้เล่นจะเข้าใจ ขอบคุณเป็นอย่างสูง!”
ป่าเกล็ดน้ำค้างแข็งถูกผนึกแล้ว???
ผู้เล่นทุกคนตื่นเต้นขึ้นทันที
“เข้าใจสิเข้าใจ ฉันเข้าใจดีที่สุดเลย…”
“แอคออฟฟิเชียลแสนดี ! ฉันไม่ได้เจอเจ้าหน้าที่ที่ดีแบบนี้มาหลายปีแล้ว ที่ฟังคำแนะนำจากผู้ใช้งานจริงๆ!”
“ครั้งนี้เสร็จแน่ ไม่ใช่แค่ป่าเกล็ดน้ำค้างแข็งเท่านั้น แต่พื้นที่พิเศษทั้งหมดในพื้นที่แผนที่ทั้งหมด เจ้าเวรกรรมไม่สามารถเข้าไปได้!!”
“ฮ่า ๆๆ! ไม่มีพื้นที่พิเศษ…ดูซิว่าเจ้าเวรกรรมจะหนีไปไหนได้ แกเสร็จแน่!”
จิตวิญญาณการต่อสู้ของผู้เล่นทุกคนถูกปลุกเร้าทันที! ความปรารถนาเพิ่มขึ้นอย่างแรงกล้า! รางวัลพวกนั้นช่างทำให้คนมัวเมาจริง ๆ! แถมยังมีสัตว์เลี้ยงและกระบี่สวรรค์!
เมื่อพวกเขาฝันหวานถึงมือซ้ายถือดาบพิชิตมังกร มือขวาถือกระบี่สวรรค์ แล้วข้าง ๆ ก็มีสัตว์เลี้ยงเดินตาม รวมทั้งทักษะการต่อสู้ระดับสูงที่อยู่ในตัวของพวกเขา และหยกปราณนับร้อยชิ้นในกระเป๋าไอเทมที่ใช้ได้ตลอดเวลา พวกเขาก็รู้สึกว่าชีวิตมาถึงจุดสูงสุดแล้ว!
“บ้าจริง น้ำลายไหลหมดแล้ว”
ซูเย่ซึ่งอยู่บนเนินเขาห่างจากป่าเกล็ดน้ำค้างแข็ง 5 กิโลเมตรเงียบไปหลังจากเห็นประกาศทั้งสองฉบับบนท้องฟ้า
เขาอยู่ในความเงียบงันอยู่นาน สักพักก็โค้งมุมปากของเขาอย่างเย็นชา ใบหน้าปรากฏแววเย็นเยือก
“จะเอาให้ได้เลยสินะ…” ซูเย่เรียกเฉิงหวงออกมา เงาร่างพาดผ่านไปอย่างรวดเร็ว
“ซวบ!”
ซูเย่หายตัวไปจากที่ตรงนั้นโดยพลัน เขารีบมุ่งหน้าไปยังป่าเกล็ดน้ำค้างแข็ง
ในยามนี้มีผู้เล่นหลายคนที่เพิ่งเข้าออนไลน์ใกล้กับป่าเกล็ดน้ำค้างแข็งเพื่อมองหาเจ้าเวรกรรม พวกเขาเชื่อว่าป่าเกล็ดน้ำค้างแข็งไม่ใช่ที่หลบภัยสำหรับเจ้าเวรกรรมอีกต่อไป…
เจ้าเวรกรรมจะต้องถูกไล่ออกมาแล้วแน่ จากนั้นพวกเขาสามารถรวมพลังและฆ่าเจ้าเวรกรรมได้!
แต่พวกเขาคิดไม่ถึงว่า เจ้าเวรกรรมที่พวกเขากำลังมองหากำลังจ้องมองพวกเขาอยู่ไม่ไกล
ซูเย่ตามคนกลุ่มเล็ก ๆ ไปยังพื้นที่ห่างไกล เมื่อตรวจสอบแน่ใจว่าไม่มีใครอยู่รอบ ๆ ก็พุ่งออกไปทันที เหลือชีวิตไว้เพียงคนเดียว
ไอดี จิงโจ้ป่วยเป็นไข้
“ฉันจะไม่ฆ่านาย…” ซูเย่เอาดาบมือใหม่วางบนคอของอีกฝ่าย “ตราบใดที่นายเชื่อฟัง…ฉันจะปล่อยนายไป”
“คุณ…คุณจะทำอะไร ?!” จิงโจ้ป่วยเป็นไข้’ถามอย่างตระหนก
“ลงชื่อเข้าใช้บอร์ดสนทนาแล้วโพสต์” ซูเย่เอ่ยตอบ
เมื่ออีกฝ่ายได้ยิน ก็รีบทำตามทันที…โดยมีเนื้อหาข้อความดังนี้
“ทุกคนที่ต้องการฆ่าฉันรอฉันเป็นเวลาห้าชั่วโมง ฉันจะใช้ห้าชั่วโมงนี้เพื่อรวบรวมเป้าหมาย หลังจากห้าชั่วโมง ฉันจะสู้ตัดสินชะตากับพวกเขา!”
“โพตส์แล้ว” จิงโจ้ป่วยเป็นไข้โพสต์ด้วยความเร็วแสง
“มือเร็วดีนะเรา”
“คือว่า คือว่าฉันเป็นนักเลงคีย์บอร์ดน่ะ” จิงโจ้ป่วยเป็นไข้กล่าวอย่างอ้อมแอ้ม
ซูเย่เปิดบอร์ดเพื่อดู เห็นว่ากระทู้นั้นถูกส่งออกไปจริงๆ
“ฉันไปได้หรือยัง ?” จิงโจ้ป่วยเป็นไข้เอ่ยถามอย่างระมัดระวัง
“รอก่อน” ซูเย่เก็บดาบกลับมาจากลำคอของอีกฝ่าย
แล้วพอเลื่อนดูคอมเม้น…เป็นอย่างที่คาดไว้ เมื่อโพสต์ส่งออกไปก็ดึงดูดความสนใจจากคนจำนวนมาก
“ห้าชั่วโมง?”
“เหอะ…เขาต้องใช้เวลาห้าชั่วโมงนี้ในการเตรียมกับดักแน่!”
“เจ้าเวรกรรมนี่เจ้าเล่ห์ไม่เบา ทุกคนอย่าไปตกหลุมพรางของเขา!”
“นั่นเป็นวิธีที่เขาหลอกเราเมื่อวานนี้!”
“ฉันละเชื่อในความชั่วร้ายของแกเลย ฉันตายไปเมื่อวานนี้ วันนี้แกยังจะหลอกคนไปอีกเหรอ”
“ไม่ต้องพูดแล้ว ไปฆ่ามัน!”
ผู้คนมากมายตอบกลับบนบอร์ด
หลังจากเหลือบมองคอมเม้นคร่าว ๆ ซูเย่ก็พูดกับจิงโจ้ป่วยเป็นไข้ที่ยืนอยู่ข้างๆ
“บอกพวกเขา นี่เป็นโอกาสเดียวของพวกเขาที่จะจับฉันไว้ หากพวกเขาไม่เชื่อฉัน ฉันจะหลอมดาบเวหาบินขี่ไปนอนไปฟ้า ใครก็อย่าคิดจะมาโจมตีฉัน!”
เมื่อซูเย่กล่าวจบ จิงโจ้ป่วยเป็นไข้ก็รีบกดโพสต์ใหม่อีกรอบ
บนบอร์ด
เมื่อผู้เล่นทุกคนเห็นโพสต์นี้ สีหน้าของพวกเขาก็ตึงเครียดขึ้นมาทันที
ผู้เล่นที่ถูกดึงดูดด้วยการเลื่อนเลเวล สัตว์พาหนะและโหมดไล่ฆ่ามาเป็นเวลานาน พวกเขาจะลืมดาบเวหาไปได้อย่างไร!
ถ้าเจ้าเวรกรรมเหยียบดาบเวหาไปบนฟ้าจริง ๆ ก็จะโจมตีไม่ได้น่ะสิ!
แม่งเอ้ย ! นี่ก็เป็นบัคเหมือนกัน!
ผู้เล่นหลายคนรีบตรวจสอบผู้ครอบครองดาบเวหา แล้วค้นหาในรายชื่อเป้าหมาย คิดไม่ถึงว่าลูชวนเหยียนจิวเซิงที่มีดาบเวหา 2 เล่มแท้จริงแล้วเป็นเป้าหมาย ตามรายงานก่อนหน้านี้จากทีมผู้ล่า ดูเหมือนว่าเจ้าเวรกรรมจะช่วยชีวิตเขาไว้ ตอนนี้เขายังมีชีวิตอยู่ และอาจกลายเป็นพวกของเจ้าเวรกรรมไปแล้ว…
ผู้เล่นทุกคนถึงกับนิ่งอึ้งสนิทไม่มีใครพูดอะไรต่อ
บนท้องฟ้า ณ ยอดเขาสูงทะลุฟ้า
เมื่อได้ยินคำกล่าวของซูเย่ ผู้บัญชาการทั้งหกพลันเงียบงัน มีประกายความประหลาดใจเล็กน้อยในสายตาของทุกคน
ถ้าไม่ใช่เพราะซูเย่พูดถึง พวกเขาก็คงนึกไม่ถึงเรื่องดาบเวหา
“ฮ่า ๆๆๆ! พวกเราก็คิดกันเสียนาน เจ้าหมอนี่พูดคำเดียวรู้เรื่อง!” เจียงซานหัวเราะเสียงดังพลางกล่าว แต่อีกห้าคนพาก็ส่ายหัว
“รอดูว่าเขาจะทำอย่างไร ฉันคิดว่าเขาไม่ได้อยากใช้ดาบเวหาหรอก แต่เขามีแผนการที่ใหญ่กว่านั้น” หลานหลานกล่าว
……
“โพสต์ต่อไป” ซูเย่สั่ง “บอกกับทุกคน ห้าชั่วโมงหลังจากนี้ฉันจะส่งพิกัดให้”
โพสต์ถูกส่งออกไป
“นายไปได้แล้ว” ซูเย่กล่าว
จิงโจ้ป่วยเป็นไข้ถามอย่างฉงน “ไหนบอกให้รอห้าชั่วโมงไง?”
“นายจะอยากรอก็ได้” ซูเย่ก็ตอบกลับอย่างสบายๆ
“ไม่ไม่ไม่ !” จิงโจ้ป่วยเป็นไข้ลองเอ่ยยิ้ม ๆ ขึ้น “งั้นฉันไปนะ”
กล่าวจบก็ลองขยับเท้าเดิน เห็นว่าเจ้าเวรกรรมไม่ตามมา ก็เผ่นแน่บไปทันที
หลังจากที่อีกฝ่ายจากไป ซูเย่ก็เปลี่ยนไปยังสถานที่ที่ไม่มีผู้คน
“ต่อไป ก็ถึงเวลาที่ฉันต้องแสดงแล้ว”
มุมปากยกยิ้มขึ้นเล็ก ๆ หลังจากจัดเสื้อผ้าให้เรียบร้อย ก็เดินไปที่ที่มีแสงส่องสว่างกว่าและเปิดฟังก์ชั่นการบันทึกวิดีโอในเกม เขาต้องการส่งข้อความให้เหล่าผู้ฝึกยุทธ์
เกมใช้เขาเป็นเป้าหมายสองครั้งติด งั้นเขาก็ขอจัดชุดใหญ่กว่าเดิม!
พวกคุณไม่ใช่ว่าอยากฝึกฝนผู้ฝึกยุทธ์งั้นเหรอ?
งั้นก็เข้ามาสิ!
คราวที่แล้วเขาเรียกผู้ฝึกยุทธ์มาไม่ได้ เพราะไม่ได้พิสูจน์ความแข็งแกร่งของตน แต่หลังจากการต่อสู้เมื่อวาน ซูเย่ไม่เชื่อว่าครั้งนี้จะไม่มีใครไม่มา!
“สวัสดีทุกคน ผมคือเวรกรรม ทำไมถึงตั้งชื่อยากเย็นขนาดนี้ฮะ”
“ผมมีคำถามจะถามทุกคน ทุกคนที่เล่นไม่ใช่เพื่อสนุกกับชีวิตที่ไร้พันธนาการงั้นเหรอ ? คุณใช้ชีวิตในความเป็นจริงเพื่อที่จะอยู่รอดต้องอดกลั้นอดทน แต่ทำไมตอนนี้ในเกมก็ยังหลบ ๆ ซ่อน ๆ อยู่อีกเล่า ? แล้วมันจะมีประโยชน์อะไรกันที่เล่นเกมนี้!”
“มีบางสิ่งบางอย่างในชีวิตที่คุณไม่ควรแสดงความขลาดกลัว ในเกมคุณยังขลาดกลัวขนาดนี้ แล้วยังจะไปทำอะไรได้!”
“พวกเราเป็นผู้ฝึกยุทธ์ ในเมื่อพวกเราเป็นผู้ฝึกยุทธ์ พวกเราต้องยืนหยัด! ไม่ใช่คุกเข่า!”
“มันเป็นแค่โหมดไล่ฆ่าเท่านั้นเอง หลายคนหลบซ่อนตั้งแต่เมื่อวานจนถึงตอนนี้ คุกเข่าจนชินแล้วงั้นเหรอ?”
“คุณคิดแบบนั้นจริง ๆ งั้นเหรอว่าตั้งแต่ที่ทางการคิดโหมดไล่ฆ่านี้ขึ้นมาเพื่อให้เราอยู่รอดแบบหลบ ๆ ซ่อน ๆ งั้นเหรอ ? นี่มันคือบททดสอบ!”
“ทดสอบว่าพวกคุณมีความเป็นนักสู้หรือไม่!”
“คุณคิดว่ารัฐบาลจะปลูกฝังผู้ที่ไร้จิตวิญาณนักสู้งั้นเหรอ?”
“แม้ว่าคุณจะละทิ้งปัจจัยเหล่านี้ทั้งหมด แต่ในฐานะผู้ฝึกยุทธ์สายเลือดฮัวเซี่ยคนหนึ่ง คุณมีจิตวิญญาณแห่งนักสู้หรือไม่ ? บรรพบุรุษของเราผ่านความอัปยศมามากมาย พวกเขาได้ทุ่มเทชีวิตและเลือดเนื้อของพวกเขาเพื่อแลกกับชีวิตที่ดีของเราในวันนี้ หรือว่าพวกเรายังดีเท่าพวกเขาไม่ได้งั้นเหรอ ? นี่มันแค่เกม มากสุดก็แค่เลเวลลดลง แล้วจะต้องกลัวอะไร สู้กับพวกมันสิ!”
“เมื่อวานฉันสู้แล้ว ! ผลลัพธ์ทุกคนก็ประจักษ์แจ้ง ฉันยังมีชีวิตอยู่ ! พวกมันตายไปกี่หมื่นคน ! ขอแค่เพียงคุณต้องการ ยังไงก็สำเร็จ ต่อให้เมื่อวานฉันตาย ก็ไม่มีใครกล้าพูดว่าฉันเป็นพวกอ่อนแอขี้ขลาด!”
“มีบางเรื่องที่ถ้าไม่ทำในตอนนี้ ชั่วชีวิตนี้ก็จะไม่ได้ทำไปตลอด และหากไม่กล้าก้าวเท้าออกไป ชาตินี้ก็จะไม่มีวันได้ก้าวหน้า!”
“ตอนนี้ฉันถูกผู้ล่าทุกคนในเกมหมายหัวฉันยังไม่กลัว แล้วพวกคุณกลัวอะไรกัน?”
“ฉันคนเดียวฆ่าไปกี่หมื่นคน และพวกคุณในฐานะที่เป็นผู้ฝึกยุทธ์เฉกเช่นเดียวกันรู้จักแต่การเป็นเต่าหดหัวอยู่ในกระดองงั้นเหรอ?”
“ในเกมสามารถหลบซ่อนได้ แต่ถ้าออกไปข้างนอกคุณจะยังหลบซ่อนที่ไหนได้?”
“วันนี้ฉันก็ยังคงถูกหมายหัวอยู่ ฉันก็ยังไม่ถอย ไม่ขลาดกลัว ไม่หลบซ่อน ยังคงต่อสู้ แย่งชิง โต้กลับ!”
“ฉันขอเชิญทุกคนมาต่อสู้กับผู้ล่าไปด้วยกัน ! ไม่มีอะไรต้องกลัว!”
“หนึ่งประโยคให้ทุกคน ‘เป็นวีรบุรุษ เป็นวีรสตรี เป็นพี่น้องชายหญิง มาที่บรรพตไร้ธุลี’ ฉันจะรอคุณหนึ่งชั่วโมง ฉันขอนับถือทุกคนที่มา ถ้าไม่มีใครกล้ามา ฉันจะแบกรับมันด้วยตัวคนเดียวเอง!”
“ตายอย่างมีศักดิ์ศรี แพ้คน ไม่แพ้ความกล้า ผู้ฝึกยุทธ์ย่อมหาญกล้า ! และฉันกล้าหาญ!”
“ขอบคุณ…”