เซียนอมตะ 2,500 ปี [我只有两千五百岁] - ตอนที่ 213 ฉันรอทุกคนอยู่ที่ป่าเกล็ดน้ำค้างแข็ง!
บทที่ 213 ฉันรอทุกคนอยู่ที่ป่าเกล็ดน้ำค้างแข็ง!
“แสบเสียจริง เจ้าเด็กคนนี้รู้จักกับดักกี่แบบกันแน่เนี่ย…กับดักเหล่านี้เหมาะกับการต่อสู้เป็นอย่างมาก ต้องให้ทีมสืบสวนไปศึกษาให้ดี เพื่อเตรียมไว้ในกรณีฉุกเฉิน…”
เยี่ยนตี้ ผู้บัญชาการเขตฮัวเป่ยมองดูกับดักด้านล่าง ในดวงตาของเขามีแววประหลาดใจแล้วกล่าวต่อ
“พวกคุณเคยคิดบ้างไหม ผู้ฝึกปราณโบราณที่มีความเข้าใจกับดักมากมายขนาดนี้?”
หลานหลาน ผู้บัญชาการหญิงเขตซีหนาน ขมวดคิ้วพลางกล่าวว่า “ฝึกปราณโบราณ…ไม่มีวิชาแขนงเกี่ยวกับการทำกับดักหรอกนะ”
“แล้วเขาอยู่แขนงไหนกันแน่”
เมื่อได้ยินดังนั้น ทุกคนก็ขมวดคิ้ว เด็กคนนี้มีความรู้ไม่น้อย และที่มาของเขาดูท่าแล้วคงจะซับซ้อนมาก
……
เขตมหาวิทยาลัย ถนนเศรษฐกิจ ชั้น 2 อาคารสำนักงาน
“อะไรนะ?”
“ซูเย่ของเขตพวกเราถูกเบื้องบนจับตามองงั้นเหรอ”
หวังเหารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้พูดคุยกับเกาหรงเฉิง หัวหน้าหน่วยสืบสวนเมืองจี้หยาง
ทันใดนั้นก็เข้าใจว่าทำไมซูเย่ถึงตกเป็นเป้าหมาย
เมื่อกี้เพิ่งด่าพวกควบคุมระบบเกมส์ไปหนึ่งยก คิดไม่ถึงว่าจะด่าผิดคนเสียแล้ว…
“ฉันเองก็เพิ่งได้ข่าวมาเมื่อครู่ ฉันไม่รับประกันว่าข่าวจะถูกต้อง แต่เบื้องบนขอข้อมูลของซูเย่ไปจริง ๆ และเมื่อครู่นี้ก็เอาข้อมูลไปเป็นครั้งที่สอง บอกนายเอาไว้ก่อน…เพื่อที่นายจะได้รับรู้ไว้…”
คำพูดของเกาหรงเฉิงดังมาจากปลายสาย
“ผมเข้าใจครับ…” หวังเหาพยักหน้าเข้าใจพลางคิดในใจ ซูเย่…คราวนี้นายต้องทำตัวให้ดี ห้ามมีความคิดพิสดารอะไรมาเด็ดขาด ยังไงก็ตาม นายต้องอยู่จนถึงท้ายที่สุด!
แม้ว่านายจะตกเป็นเป้าหมาย…แต่มันก็คือเรื่องดีสำหรับนาย!
ในใจพลันนึกไปถึงอีกเรื่อง รายงานเรื่องที่ซูเย่ก็คือ X ให้เบื้องบนรู้ดีไหม?
……
ป่าเกล็ดน้ำค้างแข็ง
หลังจากนำดาบมือใหม่ที่แลกมา 10,000 เล่มและอุปกรณ์ต่าง ๆ มาประดิษฐ์เครื่องมือสังหารด้วยตัวเองจนหมดแล้ว ซูเย่ก็หยุดมือลงแล้วปัดมือเบา ๆ มองไปบริเวณรอบ ๆ อย่างพอใจ
“จัดเรือนให้เรียบร้อยค่อยเชิญแขก ตอนนี้เรือนเรียบร้อยแล้ว ไปเชิญแขกได้!”
ซูเย่ขี่เฉิงหวงออกจากบนทุ่งหญ้าและป่าลึก พอเดินออกมาได้ไม่นานเขาก็ได้พบกับกลุ่มผู้เล่นธรรมดาจำนวนหนึ่งร้อยคน
“นั่นมัน ‘เวรกรรม ทำไมถึงตั้งชื่อยากเย็นขนาดนี้ฮะ’ นี่?!”
เมื่อเห็นซูเย่ คนกลุ่มนี้ก็รู้สึกตื่นเต้นทันที
มีคนเท่าไหร่กันที่อยากตามหาเจ้าเวรกรรม แต่พวกเขาดันได้เจอพอดี
แต่เวลาต่อมา ใบหน้าของพวกเขาก็เปลี่ยนสีทันที!
พวกเขามีเพียงร้อยคนเท่านั้น…
โพสต์ในบอร์ด คนน้อยกว่าหนึ่งพันคนถ้าเจอเจ้าเวรรกรมให้หนี เพราะสู้ไม่ได้แน่!
“แม่ง…หนีดิวะ!”
ทุกคนหันกายเตรียมหนี แต่ซูเย่ไม่ให้โอกาสพวกเขา
“อยากหนีเหรอ?”
เขาขี่เฉิงหวง พุ่งทะยานเข้าไปในกลุ่มที่มีสมาชิกหนึ่งร้อยคน มือถือดาบมือใหม่ สะบัดดาบฆ่าคนโดยไม่มีแววความปราณีแม้แต่น้อย…
กลุ่มหนึ่งร้อยคนเพิ่งวิ่งไปได้ร้อยเมตร ก็ถูกสังหารจนเกือบหมด เหลือผู้เล่นเพียงคนเดียวที่มีใบหน้าซีดขาว มองซูเย่ด้วยความหวาดผวา
ในที่สุดเขาก็รู้แล้วว่าทำไมมีคนน้อยกว่าหนึ่งพันคนถ้าเจอเจ้าเวรรกรมให้หนี มันเก่งเกินไปแล้ว ! เมื่อกี้นี้พวกเขาอยากจะสู้กลับ แต่พวกเขามีกำลังไม่พอ!
เหนือท้องฟ้า
ผู้บัญชาการทั้งหกที่จับจ้องฉากนี้อยู่ มองเห็นความสามารถของซูเย่ที่แสดงออกมาก็อดไม่ได้ที่จะพยักหน้าเบาๆ
“ความสามารถของเด็กคนนี้ไม่ธรรมดา” จ้าวตงหลิน ผู้บัญชาการเขตตงเป่ยกล่าวชมเชย
“ดูเหมือนว่าแผนการขยายจำนวนผู้ฝึกฝนพลังปราณครั้งนี้ได้คัดเลือกคนที่มีความสามารถมาจริง ๆ จนได้คนที่ทั้งเข้าใจกับดักและมีความสามารถแข็งแกร่งมาแบบนี้”
เยี่ยนตี้ ผู้บัญชาการกล่าวด้วยรอยยิ้ม
“เอ๊ะ ยังเหลืออยู่อีกหนึ่งคน”
ทุกคนส่งเสียงประหลาดใจเมื่อพบว่าซูเย่กำลังวางดาบมือใหม่ไว้ที่คอของอีกฝ่าย แล้วดูเหมือนว่ากำลังพูดบางอย่างอยู่…
คนทั้งหกคนเปิดใช้งานแผงควบคุมด้านหลังของหมวก VR ทันที เพื่อเปิดฟังก์ชันลำโพงฟังเสียง
คำพูดของซูเย่ ก็ดังมาถึงใบหูของคนทั้งหกทันที
“ถ้าไม่อยากตาย ก็ล็อกอินเข้าบอร์ดแล้วโพสต์เดี๋ยวนี้”
ซูเย่วางดาบอยู่บนลำคอของอีกฝ่ายพลางกล่าวอย่างนิ่งสงบ “บอกทุกคนตามที่ฉันพูด อีกครึ่งชั่วโมงหลังจากนี้ ฉันจะรอทุกคนอยู่ที่ป่าเกล็ดน้ำค้างแข็ง คนที่อยากฆ่าฉันให้ตามมาให้หมด!”
“ไม่ใช่แค่ฉันเท่านั้น ฉันจะรวบรวมกลุ่มเป้าหมาย เมื่อเวลามาถึงทุกคนเริ่มสงครามตัดสินชะตา! แล้วก็ไม่ต้องไปไล่ตามแล้ว…เสียเวลาเปล่า!”
เมื่อได้ยินถ้อยคำเหล่านี้…ผู้บัญชาการทั้งหกคนปรากฏแววสนเท่ห์
“ดูเหมือนจะมีปัญหาทางสภาพจิตนะ”
“สภาพจิตใจดูเหมือนว่าจะแย่มาก ถ้าเปลี่ยนได้ ก็ยังมีโอกาส ถ้าเปลี่ยนไม่ได้ก็น่าเสียดายยิ่ง”
……
อีกด้านหนึ่ง…ผู้เล่นที่ถูกบังคับกดส่งโพสต์ตามคำสั่งของซูเย่ทันที
แต่เพราะเกรงว่าทุกคนจะไม่เชื่อ จึงแนบรูปถ่ายที่ซูเย่ทำมือ ‘โอเค’ เพื่อพิสูจน์ว่าเขาเป็นคนให้ส่งจริงๆ
เมื่อโพสต์แล้ว ซูเย่ก็ล็อกอินเข้าไปอ่านดู พยักหน้าพลางกล่าว “ถ่ายรูปได้หล่อดี ไปเถอะ”
เมื่อได้ยินว่าให้เขาไปได้ อีกฝ่ายก็ถอนหายใจอย่างโล่งอกทันที
“ขอบคุณสำหรับคำชม ฉันเป็นช่างภาพมืออาชีพน่ะ” พูดจบเขาก็รีบวิ่งฝุ่นตลบไป
เมื่อโพสต์ไปได้ไม่นานเท่าไหร่ บนบอร์ดสนทนาของเกมส์ก็ลุกเป็นไฟ
“แม่ง ! ถูกหมายหัวอยู่แท้ ๆ ยังกล้ายั่วโมโหลงพื้นที่สาธารณะ นี่มันไม่เห็นหัวกันเลยนี่หว่า!”
“เก่งนักแล้วไงวะ พวกเรามีพันคนหมื่นคนจะฆ่าแกคนเดียวไม่ตายหรือไง? แกมีเฉิงหวงขี่ไล่จับไม่ทัน ตอนนี้กลับเปิดเผยที่อยู่ให้…ได้! อีกครึ่งชั่วโมงหลังจากนี้ มาดูกันว่าแกจะยังหยิ่งทะนงได้อยู่ไหม! ”
ในเวลานี้ ผู้เล่นบางคนมีปฏิกิริยาตอบโต้
“ไม่ถูกสิ ที่นั่นไม่ใช่ที่ที่ X หลอกทุกคนไปหรอกเหรอ?”
“อ้าวเฮ้ย! มีพิรุธว่ะ เจ้าเวรกรรมก็ไม่ใช่คนดีอะไรนี่น่า”
แต่นี่ไม่ได้ทำให้ผู้ที่กำลังเลือดขึ้นหน้าถอยหลังกลับ
“ไม่เป็นไรหรอก เพื่อของรางวัลฉันยอมสู้สุดใจ! ถ้าไปทำให้บอสตื่นมากสุดพวกเราก็แค่หนี”
……
ในตอนที่ผู้เล่นธรรมดาทุกคนกำลังตกลงกันว่าจะไปหรือไม่ไปในบอร์ดสนทนา
ซูเย่ก็เข้าสู่ระบบบอร์ด และใช้ไอดี ‘เวรกรรม ทำไมถึงตั้งชื่อยากเย็นขนาดนี้ฮะ’ โพสต์กระทู้ออกไป…
“ครึ่งชั่วโมงหลังจากนี้ ผู้ที่ยอมรับคำเชิญจงมา!”
“ฉันอยู่ที่สระน้ำเย็นในป่าเกล็ดน้ำค้างแข็ง…และฉันได้ส่งจดหมายเชิญในบอร์ดสนทนาของผู้เล่น เป้าหมายที่ไม่ต้องการซ่อนตัวต่อไปก็ สามารถมารวมตัวกับฉันได้ ครึ่งชั่วโมงจากนี้ เราจะสู้ไปด้วยกัน!”
โพสต์ลงไปเรียบร้อย
เมื่อเห็นโพสต์จากเจ้าเวรกรรมที่โพสต์ด้วยตัวเองบนบทบอร์ดสนทนา ผู้เล่นที่ฝึกยุทธ์จำนวนมากต่างโห่ร้องดีใจ
“ไป ต้องไป ! ฉันทนมามากพอแล้ว ขอสู้ตายบนสนามรบ ไม่ขออยู่แบบหลบซ่อนอีกต่อไป! ”
เทพเจ้าเวรกรรมส่งคำเชิญเข้าร่วมด้วยตัวเองแบบนี้ แน่นอนว่าต้องไปน่ะสิ!”
“ถึงเวลาแล้วไปแน่!”
ข้อความที่คล้ายคลึงกันต่างๆ ปรากฏขึ้นทีละข้อความ…
จากนั้น…ดูเหมือนว่าแน่วแน่มั่นคง แต่ความคิดในใจของผู้เล่นที่ฝึกยุทธ์แต่ละคนล้วนเปล่งเสียงลับ ๆ
จะไปดีไหม?
เป้าหมายใหญ่ของการไล่ฆ่าคือเจ้าเวรกรรม ไม่ใช่พวกเขาเสียหน่อย…
นายเป็นตัวล่อความสนใจไปได้เป็นอย่างดี
งั้น…ไปหรือไม่ไปดีล่ะ?
“เสี่ยวเย่…นายมาพาพวกเราไปด้วยสิ”
ซูชือส่งข้อความหาซูเย่ทันที
“ไม่ต้องมา”
ซูเย่ตอบกลับทันที “ฉันคิดว่าคงไม่มีใครมา พวกนายก็ไม่ต้องมานะ”
“งั้นนายจะทำยังไง?” ซูชือเอ่ยถาม
“ฉันมีแผนแล้ว” ซูเย่ยิ้มเย็น
ในเวลาไม่นาน ประมาณครึ่งชั่วโมงก็มาถึง
ซูเย่ไปลักพาตัวผู้เล่นมาหนึ่งคนอีกครั้ง เพื่อให้โพสต์รายละเอียดพิกัดของเขา
เมื่อเห็นพิกัด ผู้เล่นจากสถานที่ต่าง ๆ รวมตัวกันบนที่ราบห่างจากป่าเกล็ดน้ำค้างแข็งประมาณสิบกิโลเมตร
เหนือท้องฟ้า
“เริ่มแล้ว”
ผู้บัญชาการเขตซีเป่ยที่ร่างกายกำยำแข็งแรงและมีหนวดเคราเจ้าของดวงตาคู่ที่ไม่แยแสย้ายสายตาไปยังจุดที่ผู้เล่นรวมตัวกันพลางกล่าว
“ประมาณเจ็ดแปดหมื่นคนได้ล่ะมั้ง?”
“จากผู้เล่นหลายร้อยล้านคน รวมกันไปเพียงแค่เจ็ดถึงแปดหมื่นคน?”
เยี่ยนตี้ ผู้บัญชาการเขตฮัวเป่ยกล่าวอย่างรู้สึกประหลาดใจ
“ดูท่าแล้ว ผู้เล่นส่วนมากคงรอดูสถานการณ์ก่อน อาจรู้สึกว่าได้ไม่คุ้มเสีย ท้ายที่สุดโอกาสของการได้ของรางวัลยังน้อยกว่าถูกลอตเตอรี่”
“ใช่ ผู้เล่นส่วนใหญ่ยังคงต่อสู้กับมอนสเตอร์เพื่ออัพเลเวลอยู่”
ขณะพูดคุย ผู้บัญชาการทั้งหกก็เบนความสนใจไปกลางป่าเกล็ดน้ำค้างแข็ง
“เป็นไปตามคาด ผู้ฝึกยุทธ์ไม่มีใครไปแม้แต่คนเดียว”
“พวกป๊อดเอ้ย ถึงจะดูปอดแหก แต่ก็ถือว่ามีหัวคิดอยู่บ้าง”
……
บนบอร์ดสนทนา…
“ถึงเวลาแล้ว มีคนไปป่าเกล็ดน้ำค้างแข็งหรือยัง?”
“ฉันไม่ได้ไป”
“ฉันก็ไม่ได้ไป”
“ตอนแรกฉันก็อยากไป แต่พอนึกถึงผู้ล่าจำนวนมากที่จะรวมตัวอยู่ที่นั่น ฉันก็ไม่กล้าไป”
ผู้ฝึกยุทธ์นับไม่ถ้วนได้ตอบกลับ ทุกคนมองอย่างละเอียด พบว่าทุกคนบอกว่าไม่ได้ไป
เมื่อดูทั้งบอร์ดสนทนา ผู้ฝึกยุทธ์ที่บอกว่าจะไปช่วยก่อนหน้านี้ กลับไม่ได้ไปแม้แต่คนเดียว
ในกรณีนี้ บรรยากาศของบอร์ดผู้ฝึกยุทธ์ทั้งหมดก็ตกอยู่ในความกระอักกระอ่วน
ก่อนหน้านี้พูดว่าจะไป ๆ แต่ในที่สุดไม่มีใครไปเลย…
“มาสวดมนต์ให้เจ้าเวรกรรมเถอะ”
“ฉันขอให้เขาได้รับชัยชนะ”
“ฉันขอให้เขาปลอดภัย”
“ขอให้เขาไม่ตาย…อย่างอนาถมากเกินไปนัก”
……
มุมหนึ่งบนแผนที่
ซูชือที่พาทุกคนมาหลบรวมกัน ได้เปิดบอร์ดผู้ฝึกยุทธ์ดูทันที ดูการสนทนาที่อันดุเดือดของทุกคนในบอร์ด
ซูชือก็รู้สึกหมดคำจะพูด
“เหมือนกับที่เสี่ยวเย่คิดเอาไว้”
ซูชือกล่าวอย่างหมดปัญญา “ผู้เล่นที่ฝึกยุทธ์เหล่านั้นที่บอกว่าพวกเขาต้องการจะไปช่วย กลับไม่ได้ไปจริง ๆ โชคดีที่เสี่ยวเย่คาดไว้แล้ว ในใจคงไม่ได้รู้สึกผิดหวังหรอกมั้ง”
“แต่ก็ไม่รู้ว่าเสี่ยวเย่จะเอาตัวรอดได้ไหม?” จินฟานเดินเข้ามาแล้วเอาแขนโอบไหล่ซูชือ
ใบหน้าของทั้งสองดูเคร่งเครียดเจือแววความกังวล
“คงยากน่าดู…” ไป๋จือหรานกัดริมฝีปากแผ่วเบา
ทุกคนมองไปโดยพลัน
“ถ้าเขาคิดว่ามีโอกาสก็ควรที่จะให้เราไปช่วย แต่เขาไม่ให้เราไป เห็นได้ว่า…” ดวงตาของทุกคนมืดมนลงเมื่อได้ยินคำพูดนั้น เพราะในใจพวกเขาก็อดเป็นห่วงซูเย่ไม่ได้…
ป่าเกล็ดน้ำค้างแข็ง
ซูเย่ไม่ได้ไปที่สระน้ำ แต่นั่งอยู่ที่ป่ารอบนอก กำลังรอคอย
การรอเป็นไปอย่างยาวนาน…ในที่สุดก็เห็นกองทัพเงาสีดำปรากฏขึ้นอยู่ลิบๆ
ตึง ตึง
เสียงฝีเท้าของผู้คนนับหมื่นที่กระทบพื้น
ท่ามกลางหนึ่งหมื่นคน ทุกคนต่างเงยศีรษะขึ้นอย่างองอาจ แผ่บรรยากาศดุเดือดไปทั่วบริเวณ ราวกับพร้อมจะบดขยี้ทุกสิ่งที่กีดขวางพวกเขาเอาไว้ใต้ฝ่าเท้า โดยเฉพาะกลุ่มคนที่เดินนำหน้า ยิ่งวางตัวน่าเกรงขาม
แต่อย่างไรเสีย ก็มีคนมากกว่านี่!
ซูเย่ยืนขึ้นและมองไปที่กองทัพข้างหน้าอย่างเย็นชา
คนตรงหน้าเห็นซูเย่แล้ว ดวงตาของเขาฉายแววความตื่นเต้น
แกอยู่นี่จริง ๆ สินะ!
ไม่เลว มีความน่าเชื่อถือ ไม่ได้ปล่อยให้คนอื่นรอเก้อ!
“ทุกคน ฉันรอมานานแล้ว อยากฆ่าฉันไหม ?!” ซูเย่ตะโกนถาม
ผู้เล่นนับหมื่นคนหยุดลงเพื่อฟังคำพูดของซูเย่ และยืดคอมองอย่างสงสัยว่าเขาจะพูดอะไร
อยากฆ่าแกไหมงั้นเหรอ?
ไร้สาระ…ก็มาเพราะจะมาฆ่าแกไง
“พวกแกทุกคนต้องการจะฆ่าฉัน แต่ฉันมีเพียงคนเดียวเท่านั้น พูดง่าย ๆ ก็คือจะมีพวกแกเพียงคนเดียวเท่านั้นที่จะได้รับรางวัล!”
“คนที่อยู่ข้างหน้าก็โชคดีหน่อยที่อยู่ใกล้ฉัน แต่พี่น้องที่อยู่ข้างหลัง ฉันเป็นห่วงพวกแกจริง ๆ ก่อนที่พวกแกจะมาถึงตัวฉัน ก็คงจะต้องเดินกลับไปเสียแล้วล่ะ…”
“ดังนั้น พี่น้องที่อยู่ด้านหลังจำไว้ให้ดีล่ะว่าวิ่งให้เร็วหน่อย เผื่อว่าจะมีโอกาสได้แทงฉันสักดาบ!”
“เข้ามาสิ…!”
ซูเย่โบกมือให้ทุกคนอย่างยั่วยุ
“แม่ง…จนตอนนี้แล้ว ยังกล้าจองหองอีก!”
“พวกเราลุย!” เสียงตะโกนต่าง ๆ นานาก็ดังขึ้น
วินาทีถัดมา…ขบวนที่เป็นผู้นำก็พุ่งทะยานเข้าไป
บางคนวิ่งเร็วมากเพราะกลัวว่าคนอื่นจะแซงหน้าไปก่อน…
เพื่อไม่ให้น้อยหน้า คนอื่น ๆ ก็รีบวิ่งไปข้างหน้าอย่างบ้าคลั่ง ทุกคนได้ยินสิ่งที่เจ้าเวรกรรมพูดเมื่อกี้ ถ้าปล่อยให้พวกที่อยู่ข้างหน้าฆ่าเจ้าเวรกรรม พวกเขาก็มาที่นี่โดยเปล่าประโยชน์น่ะสิ!
ผู้คนนับหมื่นร้องตะโกนและพุ่งไปข้างหน้า
บรรยากาศโดยรอบราวกับหมื่นอาชาห้อตะบึง
กึง กึง…
ในตอนที่แผ่นดินสั่นสะเทือน เสียงตะโกนกึกกอง ฝูงชนอันคับคั่งพุ่งทะยานเข้าไปในพื้นที่ราบอย่างบ้าคลั่ง!