เซียนอมตะ 2,500 ปี [我只有两千五百岁] - ตอนที่ 138 สังเวียนผู้กล้า
บทที่138 สังเวียนผู้กล้า
สองสาวฝาแฝดซึ่งกำลังรู้สึกรำคาญใจกับการถูกจ้องมองโดยผู้คนจำนวนมากนั้น ก็พบเห็นซููเย่แล้วเช่นกัน
ดวงตาของพวกเธอเป็นประกายแวววาวขึ้นมาทันที
“ปัง!”
แต่นั่นเป็นจังหวะเดียวกับที่หวังเหาและลูกน้องเดินเข้ามาในโรงฝึกลับ ก่อนปิดประตูเสียงดัง
“ทุกคนส่งหมวกของตัวเองออกมา!”
หวังเหาออกคำสั่งด้วยสีหน้าเข้มขรึม
เสี่ยวจุนกับจูอวี่รับหน้าที่เดินเก็บหมวก VR ของทุกคน
ถึงหมวกทุกใบจะมีชิประบุตัวตนผู้เป็นเจ้าของอยู่แล้ว แต่พวกเขาก็ยังแปะป้ายชื่อผู้เป็นเจ้าของลงไปด้วยอยู่ดี
แล้วหมวก VR ของผู้เล่นจำนวน 100 คน ก็ถูกนำออกไปจากห้อง
เมื่อเสียงของประตูโรงฝึกถูกปิดลงอีกครั้ง หวังเหาจึงได้กล่าวต่อ
“ขอแสดงความยินดีด้วย ทุกคนมีค่าวรยุทธ์ขึ้นมาถึง 10 คะแนนแล้ว”
“จากนี้ไป ขอให้รายงานว่าปัจจุบันพวกคุณเป็นผู้ฝึกยุทธ์ระดับใด และเปิดจุดลมปราณได้เท่าไหร่ ผมจะได้รู้ว่าแต่ละคนมีพลังอยู่ในระดับไหนแล้ว”
“เริ่มจากคุณก่อนก็แล้วกัน”
นายตำรวจหนุ่มใช้ปากกาในมือชี้หน้าชายหนุ่มที่ยืนอยู่แถวหน้าสุด
“ซูเจียฉี ผู้ฝึกยุทธ์ระดับหนึ่ง เปิดจุดลมปราณได้ 12 จุด แล้วครับ”
ชายหนุ่มพูด
จากนั้นจึงไล่ไปคนต่อมา
“อู๋เซียนเจี๋ย ผู้ฝึกยุทธ์ระดับหนึ่ง เปิดจุดลมปราณได้ 17 จุด ครับ”
“หวังเย่ซือ ผู้ฝึกยุทธ์ระดับหนึ่ง เปิดจุดลมปราณได้แล้ว 19 จุด ครับ”
…
ทุกคนรายงานตามความเป็นจริง
หวังเหาพยักหน้าพร้อมกับบันทึกข้อมูลทั้งหมดไปด้วย
ถือว่าไม่เลวเลย โดยทั่วไปในจำนวน 30 อันดับแรกของผู้เล่นระดับหนึ่ง จะมีช่องว่างระหว่างคะแนนห่างกันอยู่บ้าง แต่ช่องว่างนั้นยังไม่ถือว่าใหญ่เกินไปนัก
เป็นเรื่องดีที่ผู้เล่นทุกคนสามารถพัฒนาตนเองได้อย่างก้าวกระโดด
“กลุ่มคนพวกนี้เป็นคนหนุ่มสาว คงมีความกระตือรือร้นมากกว่าคนทั่วไปนั่นแหละนะ” นายตำรวจคิดกับตัวเอง
“ไป๋จือหราน ผู้ฝึกยุทธ์ระดับหนึ่ง เปิดจุดลมปราณได้แล้ว 60 จุด ค่ะ”
“ไป๋จือเหยียน ผู้ฝึกยุทธ์ระดับหนึ่ง เปิดจุดลมปราณได้แล้ว 60 จุด ค่ะ”
เมื่อทุกคนได้ยินคำตอบของสองสาวฝาแฝดไป๋จือ พวกเขาก็ต้องอุทานออกมาทันที
“หา!”
ขณะนี้ กลุ่มคนที่อยู่ในโรงฝึกต่างก็พร้อมใจกันหันมามองที่ไป๋จือหรานกับไป๋จือเหยียนอีกครั้ง
พวกเธอสามารถเปิดจุดลมปราณได้แล้วถึง 60 จุด
มากกว่าเจ้าของสถิติสูงสุดคนเดิมถึงหนึ่งเท่า!
พวกเธอฝึกได้อย่างไรกันนะ?
ตอนแรก ทุกคนรู้สึกว่าหญิงสาวหน้าตาดีเช่นนี้ ไม่มีทางเสียเวลาไปกับการฝึกฝนวิทยายุทธ์เด็ดขาด ไม่ว่าจะเป็นฝีมือด้านการต่อสู้ หรือทักษะในการเล่นเกม คงไม่ดีเลิศเหมือนหน้าตาของพวกเธอแน่ ๆ
แต่กลับกลายเป็นว่า…
พวกเธอเป็นผู้ที่เปิดจุดลมปราณได้เยอะที่สุด!
กลุ่มชายหนุ่มเบิกตาโตด้วยความเหลือเชื่อ!
“สุดยอดเลยว่ะ!”
ซูชือกระซิบออกมาด้วยความทึ่งใสตัวสองสาว
จินฟานพยักหน้าสนับสนุน แต่เมื่อนึกถึงจุดลมปราณที่พวกของตนเองเปิดได้ สองหนุ่มก็ต้องหน้าสลดลงทันที
จังหวะนั้น นักศึกษาหนุ่มคนหนึ่งที่ยืนอยู่ด้านหลังสองสาวฝาแฝดพลันยกมือขึ้นสูงในอากาศและพูดเสียงดังว่า “เฉินเซียนอวี่ ผู้ฝึกยุทธ์ระดับหนึ่ง เปิดจุดลมปราณได้ 70 จุด ครับ”
“เฮ้ย!”
ได้ยินดังนั้น กลุ่มผู้เล่นที่อยู่ในโรงฝึกก็ต้องตาโตมากกว่าเดิมด้วยความประหลาดใจ
ชายหนุ่มคนนี้เปิดจุดลมปราณได้เยอะกว่าสองสาวฝาแฝดถึงสิบจุด
ไป๋จือหรานกับไป๋จือเหยียนก็ต้องหันไปมองด้วยความไม่เชื่อในสายตาเช่นกัน
ชายหนุ่มเชิดหน้า ดวงตามองตรงไปข้างหน้า ไม่แยแสสนใจผู้ใด
การเก็บข้อมูลดำเนินต่อไปเรื่อย ๆ
ส่วนใหญ่แล้ว ผู้เล่นจะสามารถเปิดจุดลมปราณได้ระหว่าง 20 ถึง 30 จุด ไม่มากไม่น้อยไปกว่านี้
ไม่นานต่อมา
การเก็บข้อมูลก็มาถึงซูชือกับจินฟาน
“ซูชือ ผู้ฝึกยุทธ์ระดับหนึ่ง เปิดจุดลมปราณได้แล้วสามจุดครับ”
ซูชือพูดออกไปด้วยความอับอาย
“จินฟาน ผู้ฝึกยุทธ์ระดับหนึ่ง เปิดได้สามจุดเหมือนกันครับ”
จินฟานรีบพูดอย่างรวดเร็ว
ผู้คนพร้อมใจหันกันมาจ้องมองเป็นตาเดียว เพราะสองหนุ่มเป็นผู้ที่เปิดจุดลมปราณได้น้อยที่สุดประจำวันนี้
ปรากฏว่ามีคนจำนวนไม่น้อยจดจำพวกเขาได้ เพราะฝีมือในการเล่นเกมของจินฟานกับซูชือค่อนข้างโดดเด่นสะดุดตา แต่คิดไม่ถึงเลยว่าตัวจริงกลับมีระดับพลังต่ำต้อยขนาดนี้
ยิ่งรับรู้ได้ถึงการจ้องมองจากผู้คนรอบกาย
ซูชือกับจินฟานก็ยิ่งรู้สึกเศร้าซึมมากกว่าเดิม
ในระยะหลัง พวกเขาต้องทุ่มเวลากับการอ่านตำราเรียนทั้งวันทั้งคืน และจะได้ฝึกวรยุทธ์ก็เพียงตอนที่เข้าเล่นเกมเท่านั้น
ถ้ารู้ตั้งแต่แรกว่าจะต้องเอาข้อมูลส่วนตัวมาบอกต่ออย่างนี้ ทั้งสองหนุ่มก็คงตั้งใจฝึกให้มากกว่านี้หรอก
แถมครั้งนี้ พวกเขายังอับอายต่อหน้านางฟ้าทั้งสองคนนั้นอีกด้วย
แต่ว่า…
ซูชือกับจินฟานหันขวับมามองหน้าซููเย่ซึ่งยืนอยู่เป็นคนสุดท้าย แววตาของสองสหายเต็มไปด้วยความคาดหวัง
พวกเขารู้ดีว่าช่วงหลังซููเย่ต้องไปเรียนพิเศษกับอาจารย์หลี่และไม่มีเวลาฝึกวรยุทธ์ ไม่แน่ว่าระดับพลังของซููเย่อาจจะต่ำต้อยกว่าพวกเขาก็เป็นได้
สายตาของคนอื่น ๆ ที่อยู่ในโรงฝึกขณะนี้ ก็หันมาจ้องมองที่ซููเย่เป็นจุดเดียวแล้วเช่นกัน
“ตานายแล้ว”
ซูชือสะกิดหัวไหล่เพื่อน “เอาดี ๆ นะเว้ย”
“ฉันเหรอ?”
ซููเย่พูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “ซููเย่ ผู้ฝึกยุทธ์ระดับหนึ่ง เปิดจุดลมปราณได้หนึ่งจุดถ้วนครับ”
หืม?
การเปิดจุดลมปราณได้เพียงหนึ่งจุด คือระดับพื้นฐานแรกเริ่มเลยไม่ใช่หรือ?
หลายคนถึงกับหลุดหัวเราะออกมาโดยไม่รู้ตัว เจ้าหมอนี่มันเพิ่งเริ่มฝึกวิทยายุทธ์หรือไง?
แน่ใจนะว่าสามารถเก็บค่าวรยุทธ์ได้ถึง 10 คะแนนแล้ว?
เฉินเซียนอวี่หันมาชำเลืองมองซููเย่ด้วยแววตาเหยียดหยาม ก่อนจะหันกลับไปยืนเชิดหน้าด้วยความภาคภูมิใจในตัวเองดังเดิม
“เดี๋ยวก่อนนะ?”
หวังเหาผู้เป็นคนจดข้อมูลถึงกับชะงักกึกและหันมามองหน้าซููเย่ด้วยความไม่อยากเชื่อ “แต่นายสามารถเปิดจุดลมปราณได้ตั้งแต่วันแรกที่ฝึกวรยุทธ์แล้วไม่ใช่เหรอ? นี่มันก็ผ่านมาสิบกว่าวันแล้ว ทำไมถึงยังเปิดจุดอื่นไม่ได้อีก?”
เปิดจุดลมปราณได้สำเร็จหลังฝึกวรยุทธ์แค่วันเดียว?
ผู้คนในโรงฝึกพิเศษต่างก็ต้องหันกลับมามองที่ซููเย่อีกครั้งด้วยแววตาเหลือเชื่อ
ทำไมถึงทำได้รวดเร็วขนาดนั้น?
สองสาวฝาแฝดก็หันมามองซููเย่ด้วยความประหลาดใจเช่นกัน
เฉินเซียนอวี่ตวัดสายตากลับมามองซูเย่อีกรอบเพียงเล็กน้อย ก่อนจะหันกลับไป ยืนเชิดหน้าและไม่ปรายตามองมาอีก
มีเวลาตั้งครึ่งเดือน แต่กลับเปิดจุดลมปราณเพิ่มเติมไม่ได้เลย แบบนี้มันเศษขยะชัด ๆ
“ผมกลัวว่าถ้าเปิดจุดลมปราณได้เยอะ ๆ แล้วผมจะร่วงน่ะครับ”
ซููเย่ตอบกลับไปยิ้ม ๆ
เมื่อได้ยินคำตอบของชายหนุ่ม หลายคนก็ถึงกับหลุดหัวเราะออกมาเป็นครั้งที่สอง
คนอะไรทำไมถึงไม่สะทกสะท้านต่อความอับอายเลยสักนิด!
“ทำไมฉันถึงนึกคำตอบแบบนี้ไม่ได้บ้างวะ!”
ซูชือกับจินฟานแอบหันมาชูนิ้วโป้งชื่นชมซููเย่ในความหน้าหนาของเพื่อนรัก
หวังเหาพูดอะไรไม่ออก
แต่จะอย่างไรเขาก็ไม่รีบร้อน เด็กคนนี้มีฝีมือการต่อสู้น่ากลัวมาก แค่เปิดจุดลมปราณไม่ได้ตอนนี้ ก็ไม่ได้หมายความว่าในอนาคต ซููเย่จะเปิดมันอีกไม่ได้สักหน่อย
“ผมไม่ร่วงหรอกน่า ตั้งใจฝึกหน่อยก็แล้วกัน!”
หลังให้กำลังใจชายหนุ่มแล้ว หวังเหาก็ส่งข้อมูลทั้งหมดให้แก่เสี่ยวจุน
“อีกสักครู่จะมีประกาศแจ้งเตือนอย่างเป็นทางการว่า เกม Fantasy Dream จะเปิดให้เข้าเล่นเขตแผนที่ระดับ 30 ในคืนนี้!”
หวังเหาพูดกับทุกคนที่อยู่ในโรงฝึกพิเศษ
เขตแผนที่ระดับใหม่จะเปิดแล้วหรือ?
กลุ่มผู้เล่นทั้งตกตะลึงและตื่นเต้น
“ผมเคยบอกพวกคุณเอาไว้แล้วว่าเมื่อค่าวรยุทธ์ถึง 10 คะแนน โฉมหน้าที่แท้จริงของเกม Fantasy Dream ก็จะเปิดเผยออกมา”
“แต่ก่อนที่จะได้เห็นโฉมหน้าที่แท้จริงของเกม Fantasy Dream พวกคุณต้องผ่านสิ่งที่เรียกว่าโหมดสังเวียนผู้กล้าไปให้ได้ก่อน”
โหมดสังเวียนผู้กล้า?
ทุกคนล้วนสงสัยว่าโหมดสังเวียนผู้กล้าคือสิ่งใด
“เหตุผลที่พวกคุณต้องผ่านโหมดสังเวียนผู้กล้าให้ได้ ก่อนเข้าสู่โฉมหน้าที่แท้จริงของเกม Fantasy Dream นั้น เป็นเพราะว่าพวกคุณยังแข็งแกร่งไม่มากพอ!”
หวังเหาพูดด้วยเสียงทุ้มต่ำ “ถึงพวกคุณจะมีค่าวรยุทธ์ 10 คะแนน มีทักษะการใช้เพลงหมัดขั้นพื้นฐาน สามารถเปิดจุดลมปราณในร่างกายได้แล้วบางส่วน แต่พวกคุณกลับสามารถใช้ประโยชน์จากตัวเกมได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น”
“เมื่ออยู่ในเกม ต่อให้ถูกฆ่าตาย คุณก็ไม่มีความรู้สึกเจ็บปวด มันจึงทำให้คุณไม่รับรู้ถึงความน่ากลัวของวิกฤตการณ์ และไม่เห็นคุณค่าฝีมือการต่อสู้ที่แข็งแกร่งอย่างแท้จริง!”
ได้ยินดังนั้น กลุ่มผู้เล่นก็พากันขมวดคิ้วด้วยความงุนงง
ซููเย่พยักหน้า