เซียนหมอหญิงแม่ลูกอ่อน - ตอนที่ 781-2 อวสานตอนสุดท้าย (จุดไคลแมกซ์)
ตอนที่ 781-2 อวสานตอนสุดท้าย (จุดไคลแมกซ์)
มิติปริภูมิของสวรรค์ชั้นหนึ่งกำลังแตกร้าว สิ่งที่แตกร้าวไปพร้อมกันคือสิ่งมีชีวิตไร้ปัญญาทั้งหมด เหมือนกับว่าสิ่งมีชีวิตไร้ปัญญาเหล่านี้ผสานกับมิติปริภูมิแห่งนี้แล้ว เมื่อมิติปริภูมิแตกร้าว พวกมันจึงแตกร้าวไปด้วย
ไม่สิ
เป็นไปในทางกลับกันมากกว่า
เพราะพวกมันแตกร้าว มิติปริภูมิจึงแตกร้าว
สิ่งที่น่ากลัวคือ… ชั่วขณะเมื่อครู่นี้ สิ่งมีชีวิตเป็นแสนถูกแปดเปื้อนแล้ว ดังนั้นแดนสวรรค์ในบัดนี้โกลาหลแล้วจริงๆ
เมืองลั่วฝานพังทลายและสลายสิ้นในทันที
และการพังทลายนี้กำลังเกิดขึ้นทั่วทุกบริเวณของสวรรค์ชั้นหนึ่ง ทุกๆ ที่ที่มีสิ่งมีชีวิตไร้ปัญญาล้วนกำลังพังทลาย
แน่นอนว่า… ราชาแห่งความไร้ระเบียบก็ต้องจ่ายราคาที่หนักนาสาหัสมากเช่นกัน
หนึ่งในสามของร่างกายเขากำลังสลายไปในเวลาเดียวกัน
เขาเสียสติไปแล้ว
เสียสติไปจริงๆ
“มาเถอะ”
“ตายเถอะ”
ราชาแห่งความไร้ระเบียบที่มีสีหน้าขาวซีด เขาตะโกนอย่างบ้าคลั่งเหนือทะเลสาบสือซ่าไห่
แม้ทะเลสาบสือซ่าไห่ไม่พังทลายเพราะพลังที่หลงเหลือของจักรพรรดิทั้งห้า แต่เงาของจักรพรรดั้งห้าก็กำลังสลายหาย
“จิ๊บ…”
ลูกเจี๊ยบทำงานอย่างหนักเพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้ร่างกายของตนเอง บีบอัดการพังทลายของมิติปริภูมิจากการระเบิดตนเองของสิ่งมีชีวิตไร้ปัญญาอย่างต่อเนื่อง
แต่คลื่นทำลายล้างอันน่าสะพรึงที่แผ่ซ่านออกมาจากร่างกายของราชาแห่งความไร้ระเบียบยังคงกระทบกระเทือนทะเลสาบสือซ่าไห่ ทำให้ซีหวังหมู่และเทพอัสนีที่พยายามต้านทานถูกทำลายตามลำดับ
เอื้อก
ซีหวังหมู่กระอักเลือด ร่างสลาย
เทพอัสนีก็เช่นกัน
จิ่วเฟิ่งเช่นกัน
อีกเพียงไม่นานเทพอสูรขุนเขาและท้องทะเลทั้งสามองค์ที่เฝ้าทะเลสาบสือซ่าไห่กำลังจะตาย
แอนนา จู่ๆ นางก็ออกมาจากกระเป๋าเสื้อของเด็กน้อย นางผลักกรงน้อยๆ ที่ขังนางออก และกระโดดไปที่ทะเลสาบสือซ่าไห่
ส่วนเยี่ยนเสี่ยวเป่าที่นอนหลับสนิทไม่รู้ตัวเลย แต่แอนนา…
ตุบ
เมื่อนางกระโดดขึ้นไปบนท้องฟ้าเหนือทะเลสาบสือซ่าไห่ นางก็กลายเป็นแอนนาขนาดยักษ์เช่นในอดีต และเป็นแอนนา…เทพแห่งความมืด
“จงมา”
นางตะโกนสุดเสียง ยืนข้างหน้าซีหวังหมู่พวกเขาแล้ว นางกำลังขวางพลังการทำลายล้างอันคลุ้มคลั่งของราชาแห่งความไร้ระเบียบ
ตูม
กระแสพลังงานแห่งความมืดไร้ที่สิ้นสุดไหลทะลักออกมาจากร่างกายของแอนนาไม่หยุด มันพุ่งใส่พลังทำลายล้างที่ราชาแห่งความไร้ระเบียบปลดปล่อยออกมาอย่างบ้าคลั่ง
มิติปริภูมิโดยรอบเหนือทะเลสาบสือซ่าไห่หลายร้อยล้านลี้แตกร้าวและพังทลายทันที แต่ทะเลสาบสือซ่าไห่ดินแดนอันอุดมสมบูรณ์ไม่ถูกกระทบกระเทือน
แอนนา ในฐานะที่เป็นบรรพบุรุษเผ่ามาร นางออกมาปกป้องเผ่ามารที่เหลืออยู่เพียงน้อยนิดในห้วงเวลาสุดท้าย นางออกมาแล้ว
นางที่จำศีลอยู่ในกระเป๋าเสื้อผ้าของเด็กน้อยออกมาอย่างทันท่วงที
หลังจากที่ผ่านเรื่องราวพลิกผันในขุมมรณะและได้จำศีล ในที่สุดก็ฟื้นฟูพลังสูงสุดของตนเองได้ในยามสุดท้าย นางยืนเหนือทะเลสาบสือซ่าไห่ ปกป้องเผ่ามารของตนเองไว้
“เทพแห่งความมืด”
“แอนนา”
“แอนนาจริงๆ ด้วย…”
เผ่ามารบ้าไปแล้ว
แม้แต่คิเมียราก็ตะลึงงัน จู่ๆ ก็คิดว่าตนเองเสียสติไป ถึงกับเห็นบรรพบุรุษฟื้นคืนชีพ และยังช่วยพวกเขาแบกรับทุกอย่างไว้
“ความมืด”
แอนนาที่ปลดปล่อยพลังแห่งความมืดออกมาอย่างบ้าคลั่ง พลังของนางเป็นพลังที่มีกฎเกณฑ์ เป็นต้นกำเนิดของความมืด เป็นกฎทั้งหมดของความมืดมิดที่สุดในสามโลก
ซู่
เช่นเดียวกับคลื่นพลังงานอันมืดมิดยังมีพลังลึกลับส่วนหนึ่งจากตัวของเด็กน้อย ดังนั้นจึงบดขยี้พลังทำลายล้างไร้ระเบียบของราชาแห่งความไร้ระเบียบได้ในระดับหนึ่งในครานี้
แอนนาที่อยู่ข้างกายเยี่ยนเสี่ยวเป่ามาโดยตลอด สมแล้วที่นางเคยเป็นเทพแห่งความมืดที่มีฝีมือต่อสู้สูสีกับเยี่ยนอวี๋ จนกระทั่งถึงกับทำให้เยี่ยนอวี๋ตายได้
การตระหนักรู้ของนางไม่ด้อยไปกว่าเยี่ยนอวี๋เลย
ในขณะที่เยี่ยนอวี๋เข้าใจเรื่องของข้อจำกัด นางก็รู้แจ้งในบางสิ่ง…
ตั้งแต่ที่เยี่ยนอวี๋รับรู้ถึงพลังต้นกำเนิดบนตัวของเด็กน้อยและสามี นางก็รู้แจ้งในบางสิ่งหลังจากนั้นไม่นาน
แต่ครานี้ นางไม่ได้ยืนฝั่งตรงข้ามกับเยี่ยนอวี๋ นางกำลังปกป้องทะเลสาบสือซ่าไห่ และปกป้องเยี่ยนอวี๋ ปกป้องสวรรค์เก้าชั้นฟ้า ปกป้องสามโลกเช่นกัน
ต่อหน้าราชาแห่งความไร้ระเบียบ สิ่งมีชีวิตทั้งหมดเป็นพันธมิตร
ภาพเช่นนี้… ทำให้แม้แต่เหล่าขุนเขาและท้องทะเลยังรู้สึกซับซ้อน
ใครจะไปคิดว่าจะมีวันหนึ่งพวกมันจะร่วมสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กับแอนนา
ทว่ายมโลกในบัดนี้กำลังตกอยู่ในอันตราย
สุนัขสวรรค์และนกขวงเหนี่ยวต่างพากันรายงานอย่างเร่งรีบว่า “ยมโลกพังทลายไปสองในสามส่วน จะสลายแล้ว”
“เราไปกันเถอะ”
เทพวิหคมังกรพาพี่น้องอื่นสิบเอ็ดคนรีบมุ่งไปช่วยเหลือที่ยมโลก
ส่วนทางฝั่งทะเลสาบสือซ่าไห่มีแอนนาอยู่ สามารถแทนที่พวกมันร้อยคนได้
ส่วนโลกมนุษย์… ครั้งนี้กลับไม่ถูกกระทบกระเทือนมากนัก เพราะว่าอินหลิวเฟิงและอิงเจาในครานี้ พวกเขายังไม่ตาย
พวกเขายังกลับมานอนจำศีลอยู่ข้างกายมันตั้งแต่ที่แสงหลากสีศักดิ์สิทธิ์ปรากฏและชั่วขณะที่แมงกะพรุนสีเลือดกำลังตะลึงงัน ดังนั้น… หลังจากที่สิ่งมีชีวิตไร้ปัญญาถอยหลังไปเพื่อสะสมพลัง ทั้งสองก็ปรากฏขึ้น พลังของแมงกะพรุนสีเลือดอ่อนแอลงอย่างเห็นได้ชัด เหมือนกับว่ากำลังวางแผนเคลื่อนไหวครั้งใหญ่
ดังนั้น… ก่อนที่แมงกะพรุนสีเลือดจะกรีดร้อง อินหลิวเฟิงและอิงเจาก็ร่วมมือกันทำลายมันก่อน
ดังนั้น… แม้ทางฝั่งโลกมนุษย์จะปรากฏเหตุการณ์คล้ายกับแดนสวรรค์ แต่เห็นได้ชัดว่าเบาลงกว่ามาก
ถึงอย่างไรสิ่งมีชีวิตไร้ปัญญาที่รังเก่าของพวกมันถูกทำลายอย่างไม่ทันกรีดร้องก็สลายไปแล้ว
“บัดซบ”
อิงเจากำลังบินทะยานหนีออกไปไกล ครั้นกำลังจะกลับไปถึงประตูเขตแดนจึงพ่นคำหยาบออกมา หัวใจยังคงเต้นอย่างรุนแรง ช่างตื่นเต้นจริงๆ แต่อินหลิวเฟิงจำเป็นต้องเตือนว่า “รีบบิน อย่าเอาแต่ตื่นเต้น แดนมืดกำลังจะพังทลายหมดแล้ว”
อิงเจาที่กระพือปีกอย่างรวดเร็วก็ออกแรงอย่างเต็มที่
ข้างหลังและรอบๆ ตัวเขา มิติปริภูมิกำลังพังทลายทีละนิ้ว
อิงเจามีความรวดเร็ว ร่างกระทัดรัดจึงกล้าบินทะยานในมิติปริภูมิที่กำลังพังทลายเช่นนี้ หากเป็นอินหลิวเฟิงเอง เขาคิดว่าเขาคงแตกสลายไปหลายรอบแล้ว
แต่ไม่ว่าอย่างไร… พวกเขาทั้งสองปกป้องแดนมนุษย์ไว้ได้แล้ว แดนมนุษย์ที่เดิมทีอ่อนแอที่สุด ครานี้กลับถูกเสถียรไว้แล้ว
และสิ่งที่ไม่มีผู้ใดรู้คือพลังจิตใจส่วนใหญ่ของเยี่ยนอวี๋อยู่ที่ ‘แดนมนุษย์’ เพราะแดนมนุษย์เป็นหนึ่งในโลกสามโลกที่สั่นคลอนและอ่อนแอมากที่สุด
ต้นกำเนิดของราชาแห่งความไร้ระเบียบคือความไม่มั่นคง เปราะบาง ไร้ระเบียบ วุ่นวาย และดั้งเดิม ดังนั้นเยี่ยนอวี๋จึงอยู่ ‘ที่นี่’ ในบัดนี้ แดนมนุษย์ ‘ที่นี่’ ที่เป็นเพียงความยุ่งเหยิงเมื่อหลายสิบล้านปีก่อน
โลกมนุษย์ในเวลานั้นเป็นฝุ่นผงที่ลอยฟุ้งกระจายซึ่งค่อยๆ ตกลงมาหลังการสร้างโลก หลังจากหลายสิบล้านปีแห่งการวิวัฒนาการอย่างเป็นระเบียบ มันพัฒนาไปสู่ทวีปโลกมนุษย์ในเวลาต่อมาและเป็นดินแดนอันอุดมสมบูรณ์ของเผ่าพันธุ์มนุษย์
เยี่ยนอวี๋ นางกำลังทำความเข้าใจวิวัฒนาการของโลกมนุษย์
นี่ไม่ใช่จุดประสงค์การจำศีลแต่แรกของนาง
แต่เดิมนางอยากจะทำความเข้าใจสามีและลูกของนางต่อไป แต่ขณะที่นางค่อยๆ ผสานกลับไปยังสวรรค์เก้าชั้นฟ้า ขณะที่มองกลับไปยังวิวัฒนาการของจักรวาล จู่ๆ นางก็สังเกตเห็นต้นกำเนิด ‘ความวุ่นวาย’ ในโลกมนุษย์แห่งนี้ สังเกตเห็นว่ามันค่อยๆ เปลี่ยนจากความไร้ระเบียบมาเป็นมีระเบียบได้อย่างไร
นางในครานี้อยากจะออกจากสวรรค์เก้าชั้นฟ้าเพื่อทำความเข้าใจพลังที่สามารถสังหารราชาแห่งความไร้ระเบียบแต่ไม่กระทบต่อสวรรค์เก้าชั้นฟ้า ซึ่งแน่นอนว่าต้องใช้เวลานาน ทว่า… หากนางสามารถพลิกรูปแบบชีวิตของราชาแห่งความไร้ระเบียบกลับได้เล่า
แน่นอนว่านี่ต้องเป็นเรื่องยาก เพราะว่าราชาแห่งความไร้ระเบียบมีอายุยาวนานกว่านางมาก ในด้านของชีวิตแล้ว เขาอยู่ระดับสูงกว่านางมาก
แต่ว่า… มันจะง่ายกว่าการสังหารเขาหรือ
เยี่ยนอวี๋ตัดสินใจได้ภายในทันที ท้ายที่สุดนางเลือกที่จะทำความเข้าใจว่าจะทำให้ราชาแห่งความไร้ระเบียบเปลี่ยนจากความไร้ระเบียบกลายเป็นมีระเบียบอย่างไร
ความเป็นจริงก็พิสูจน์แล้วว่านางทำถูกต้อง ดังนั้นเมื่อนางเปล่งประกายแสงเจิดจรัสอีกครั้ง ราชาแห่งความไร้ระเบียบรู้สึกถึงความอันตราย
แต่ในครานี้ เยี่ยนอวี๋ถูกขัดขวางอีกแล้ว เพราะว่านางพบว่าการเปลี่ยนแปลงจากความไร้ระเบียบเป็นมีระเบียบเป็นสิ่งที่แน่นอนและมีกฎเกณฑ์ แต่การเปลี่ยนแปลงจากความเป็นระเบียบเป็นความไร้ระเบียบ กลับไร้ซึ่งเหตุผล เกิดขึ้นโดยการสุ่มและความบังเอิญ ไร้ซึ่งร่องรอยตามหาได้ หรือพูดง่ายๆ ก็คือความไร้ระเบียบไม่สามารถกลายเป็นความเป็นระเบียบได้ในทันที แต่ความเป็นระเบียบกลับสามารถถูกความไร้ระเบียบทำลายได้ในพริบตา
นี่คือข้อได้เปรียบของราชาแห่งความไร้ระเบียบ ดังเช่นที่เขาพูด จักรวาลแรกเริ่มคือความไร้ระเบียบ ตราบใดที่ไม่มีพลังจากภายนอกรบกวน จักรวาลก็จะวิวัฒนาการไปในทิศทางความไร้ระเบียบและวุ่นวาย
ดังนั้น…
ราชาแห่งความไร้ระเบียบเป็นตัวแทนของเจตจำนงจักรวาล
หนทางใดๆ ที่ต้องการย้อนกลับล้วนไม่เป็นผลเพราะเจตจำนงอันยิ่งใหญ่นี้
ซึ่งก็เหมือนกับว่าโลกพยายามทำลายล้างตนเอง ใครก็ห้ามไม่ได้
ถึงอย่างไรก็ไม่มีใครสามารถหยุดคนที่ยืนกรานที่จะฆ่าตัวตายได้ ตราบใดที่ไม่มีใครเฝ้าดู คนที่อยากจะฆ่าตัวตายก็จะหาโอกาสที่จะฆ่าตัวตายได้ในที่สุด
เยี่ยนอวี๋เริ่มรู้สึกกลัดกลุ้ม…
แต่ว่า… เมื่อคิดถึงสามี เมื่อคิดถึงสามีที่คอยปกป้องนางเงียบๆ ตลอดหลายสิบล้านปี เมื่อคิดถึงสามีที่ไม่ผสานร่างแยกสุดท้ายของเขาซึ่งเป็นการผ่านด่านเคราะห์สุดท้ายของเขาให้สำเร็จเพียงเพราะนาง เยี่ยนอวี๋หลับตาลง เพ่งสมาธิทั้งหมดไปที่แดนมนุษย์
จากนั้น… จู่ๆ นางก็รู้สึกถึงชายชราสามัญชนคนหนึ่งชีวิตรวยรินก่อนจะหมดลมหายใจ
นางได้ยินคนมากมายกำลังร้องไห้ แต่นางกลับสัมผัสได้ว่าวิญญาณของผู้เฒ่าได้ออกจากร่างของเขาแล้ว เพียงแต่ว่า… เนื่องจากสถานการณ์ในยามนี้ซับซ้อนมาก วิญญาณของผู้เฒ่าก็ไม่ได้ถูกยมทูตนำวิญญาณพาไป แต่กลับกำลังสลายหลังจากออกจากร่าง
คำสั่งที่ไม่เป็นระเบียบทำให้วิญญาณที่เปราะบางไม่สามารถรักษาตนเองได้ วิญญาณของผู้เฒ่าจึงสลาย
ทว่า…
“ท่านพ่อ”
“ท่านปู่”
“ท่านตา…”
เสียงร้องแห่งความโศกเศร้ามากมายยังคงดังระงมอยู่ข้างกายร่างของผู้เฒ่า
ดังนั้นชั่วขณะที่วิญญาณของผู้เฒ่าสลายไป มันก็พยายามรวมตัวกันอีกครั้ง เนื่องจากความอาลัย ความผูกพัน และเนื่องจากเขาอยากจะปลอบประโลมครอบครัวที่กำลังโศกเศร้าเหล่านี้ บอกให้พวกเขาอย่าเสียใจ
และในจังหวะนั้นเอง… ได้เปลี่ยนจากความไร้ระเบียบกลายเป็นความเป็นระเบียบ
จู่ๆ เยี่ยนอวี๋ก็กระโดดย้อนกลับไปเมื่อหลายพันล้านปีก่อน ย้อนกลับไปเมื่อครั้นโบราณ ย้อนกลับไปเมื่อนางเริ่มมีสติ
จากนั้น… จู่ๆ นางก็เข้าใจแล้ว
และในครานี้…
ราชาแห่งความไร้ระเบียบที่รู้สึกถึงความอันตราย เขาก็ยิ่งคลั่ง
“สลาย”
ราชาแห่งความไร้ระเบียบที่ระเบิดตนเองอีกครึ่งหนึ่ง ปล่อยคลื่นพลังทำลายล้างออกมาอย่างบ้าคลั่ง
ไม่เพียงเท่านี้…
ตูม
แอตแลนที่ก่อนหน้านี้ไม่ถูกรบกวนมาโดยตลอดพังทลายลงอย่างสิ้นเชิง
สิ่งที่พังทลายตามไปด้วยคือจักรวาลทางเหนือทั้งหมดที่เชื่อมโยงกับแอตแลน
การพังทลายครั้งใหญ่สั่นสะเทือนสวรรค์เก้าชั้นฟ้า แม้แต่โลกมนุษย์ก็ได้ยิน
ตูม
ภูเขาปู้โจวซานพังทลายและสลายในทันที
เมืองซูซื่อที่อยู่ใกล้เคียงถูกกลืนกิน ไม่มีชีวิตใดหลงเหลือ
สวรรค์เก้าชั้นฟ้าทั้งหมดพังทลายเหมือนกับสวรรค์กำลังถล่ม ทำให้หรงอี้ที่เห็นถึงตรงนี้เดินก้าวเท้าไปข้างหน้าหนึ่งก้าว
“ฮ่าๆๆๆ …”
ราชาแห่งความไร้ระเบียบที่เห็นหรงอี้เดินก้าวออกมากลับตะโกนลั่นว่า “มาสิ ฆ่าข้า ภรรยาของเจ้าก็จะต้องตาย สวรรค์เก้าชั้นฟ้าทั้งผืนก็เช่นกัน เจ้าก็จะเหลือตัวเพียงคนเดียว มาสิ มา…”
คำพูดเหล่านี้… ทำให้นัยน์ตาหรงอี้ยิ่งมีสีม่วงเข้มกว่าเดิม
ยังมีเงามืดเงาหนึ่งปรากฏขึ้นเหนือราชาแห่งความไร้ระเบียบ ทำให้เขาหุบปากทันที เพราะว่าเงามืดนี้คือร่างแยกร่างสุดท้ายของหรงอี้ มันมีพลังทำลายล้างอันน่าสะพรึง
เมื่อใดก็ตามที่เขาผสานกับร่างพลังร่างสุดท้ายนี้ อย่าพูดถึงราชาแห่งความไร้ระเบียบเลย สวรรค์เก้าชั้นฟ้าทั้งผืนก็จะพังทลายในชั่วพริบตา เพราะว่าจักรวาลแห่งนี้ไม่สามารถแบกรับเขาที่สมบูรณ์แบบไว้ได้
แม้ราชาแห่งความไร้ระเบียบจะคลุ้มคลั่งมาก แต่เขาก็รู้สึกกลัวด้วยสัญชาติญาณ แต่ถึงแม้จะกลัว การทำลายล้างของเขาก็ยังคงดำเนินต่อไป
ตูม
ทะเลสาบสือซ่าไห่แตกร้าวอีกครั้ง
เอื้อก
แอนนาที่ต้านทานมานานกระอักเลือด
เทียนตี้ที่มีใบหน้าขาวซีดยืนขึ้นอีกครั้ง
จู่ๆ เหล่าขุนเขาและท้องทะเลรวมตัวกัน พวกมันรู้ว่าการต่อสู้ครั้งสุดท้ายมาถึงแล้ว เพียงแต่ว่า… พวกมันเพิ่งจะรวมตัว
“แม่”
เสียงอุทานของเยี่ยนเสี่ยวเป่าทำให้พวกมันชะงัก
เยี่ยนอวี๋ในครานี้ นางลืมตาขึ้น นางตื่นแล้ว
นางตื่นอย่างไร้สุ้มเสียง…
ทำให้แอนนาขมวดคิ้วทันที “ล้มเหลวหรือ?” เยี่ยนอวี๋ทำพลาดในเวลาที่สำคัญเช่นนี้หรือ? ครานั้นที่สู้กับนางเหตุใดจึงไม่พลาดบ้าง? มาพลาดอะไรตอนนี้?
จู่ๆ แอนนาก็รู้สึกไม่ค่อยดี เกือบจะด่ากราดไปแล้ว
แต่แล้ว… เยี่ยนอวี๋อุ้มเด็กน้อยบนตักขึ้นมา ปรากฏกายขึ้นข้างหน้าราชาแห่งความไร้ระเบียบ
ม่านตาของราชาแห่งความไร้ระเบียบหดลง ทั่วทั้งร่างของมันระเบิด
“เยี่ยนอวี๋” แอนนาร้องเรียก
“นายท่าน” เหล่าขุนเขาและท้องทะเลรีบหายตัวเข้ามา
แต่ว่า… สายไปแล้ว และไม่มีความจำเป็น
“เปิด”
กระบี่ไท่ชางที่จู่ๆ ปรากฏขึ้นกลืนกินราชาแห่งความไร้ระเบียบไปทันทีที่เขาแตกร้าว
“ปิด”
เยี่ยนอวี๋ใช้ความคิด กระบี่ไท่ชางปิดลงทันทีและกลับเข้าไปในร่างกายของเยี่ยนอวี๋อย่างรวดเร็ว
ในขณะเดียวกัน…
ตูม
รอบกายเยี่ยนอวี๋กำลังจำลองภาพหมู่ดาว ดวงอาทิตย์และดวงจันทรา
จากยุคแรกเริ่มของจักรวาล ไท่อี้ จนถึงยุคที่นางเริ่มมีสติ ไท่ชู จนถึงยุคที่เหล่าทวยเทพบรรพกาลรวมถึงเทียนตี้ทยอยปรากฎ ไท่สื่อ จนถึงยุคทวยเทพแรกเริ่มเช่นยักษ์ผานกู่กำเนิด ไท่ซู่ จนถึงยุคเบิกฟ้า มีดวงอาทิตย์และดวงจันทรา ไท่จี๋
ยุคที่เยี่ยนอวี๋ค่อยๆ เปลี่ยนแปลงจักรวาลจากความไร้ระเบียบจนกลายเป็นความมีระเบียบ และหลอมรวมทั้งหมดเข้าไปในกระบี่ไท่ชาง หรือก็คือหลอมเข้าสู่ร่างกายของราชาแห่งความไร้ระเบียบ
และทุกๆ ก้าวนี้ นางเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เพราะว่านางต้องทำให้ชีวิตของราชาแห่งความไร้ระเบียบย้อนกลับอย่างรวดเร็ว เพื่อทำให้เขากลายเป็นความมีระเบียบ และกำจัดเขา
และนาง… ทำได้แล้ว
“โอ๊ย”
ราชาแห่งความไร้ระเบียบในกระบี่ไท่ชางร้องอย่างน่าสังเวช
การเปลี่ยนแปลงย้อนกลับนี้เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจริงๆ ทำให้เขาไม่ทันตั้งตัวต่อต้านหรือสลายความเป็นระเบียบได้
การแปรสภาพจากความไร้ระเบียบเป็นมีระเบียบอันรวดเร็ว ดุดัน และหยาบกระด้างนี้ทำให้ราชาแห่งความไร้ระเบียบทำอะไรไม่ถูก ดังนั้นเขายังคงตะลึงงัน “เป็นไปได้อย่างไร? เจ้าย้อนเจตจำนงจักรวาลกลับได้อย่างไร นั่นมันเจตจำนงของข้า”
น่าเสียดาย… เยี่ยนอวี๋ทำได้
เพราะว่า… นางคือต้นกำเนิดวิวัฒนาการของความมีระเบียบของจักรวาล นางคือส่วนหนึ่งของ ‘ความรำลึกถึงโลกมนุษย์’ ในจักรวาล
เพียงแต่ว่านางกำเนิดช้ากว่าราชาแห่งความไร้ระเบียบ แต่นางก็เป็นส่วนหนึ่งของเจตจำนงจักรวาลเช่นกัน
ดังเช่น… มนุษย์ที่เพิ่งกำเนิด เดิมนั้นไร้เดียงสา และไม่มีสิ่งใดๆ ผูกพัน
แต่เมื่อมนุษย์ตายจากไปกลับเต็มไปด้วยความผูกพันและความอาวรณ์
และนางมีเจตจำนงจักรวาลความรัก
เช่นนั้นนางย่อมสามารถย้อนรูปแบบชีวิตของราชาแห่งความไร้ระเบียบกลับไปได้
ดังนั้น…
“ไม่!”
เสียงตะโกนอันสิ้นหวังของราชาแห่งความไร้ระเบียบดังขึ้นได้แค่ในตัวกระบี่ไท่ชาง มิอาจดังออกมาได้
พลังทำลายล้างของราชาแห่งความไร้ระเบียบถูกเยี่ยนอวี๋กวาดล้าง กลายเป็นกฎเกณฑ์ที่มีระเบียบ ย่อมสิ้นฤทธิ์การทำลายล้าง
สวรรค์เก้าชั้นฟ้าและสามโลก…
การพังทลายทั้งหมดก็หยุดลงอย่างรวดเร็ว สิ่งมีชีวิตไร้ปัญญาก็กำลังสลาย
จบลงแล้ว
…
แอนนาเก็บคำพูดที่กำลังจะด่ากลับมา มองเยี่ยนอวี๋ที่อยู่ไม่ไกล มุมปากยกเล็กน้อย พึงพอใจที่ฝ่ายหลังนอกจากจะเด็ดขาดกับนาง จัดการนางจนเหลือเพียงเศษซากแล้ว ยังทำเช่นเดียวกันกับเจ้าตัวบัดซบอื่นๆ
เทียนตี้ เขาจับกำไลหยกในมือเบาๆ “สหาย เราชนะอีกแล้ว อาจารย์มักจะสามารถจบวิบัติภัยทั้งหมดได้ในช่วงเวลาที่สิ้นหวังที่สุดเสมอ”
สวรรค์เก้าชั้นฟ้าเงียบสงบ… สิ่งมีชีวิตทั้งหมดล้วนกำลังรู้สึกถึงความสงบและความสบายใจหลังจากที่พลังการทำลายล้างที่สลายไป
แต่ว่า… จู่ๆ อินหลิวเฟิงก็ส่งโทรจิตมาว่า “ระวัง ราชาแห่งความไร้ระเบียบอาจจะมีร่างแยก”
สิ่งมีชีวิตทั้งหมดตึงเครียดขึ้นอีกครา ทว่า…
“จิ๊บ”
ลูกเจี๊ยบที่ร้องเสียงหลงหายไปแล้ว
มีร่างแยกของราชาแห่งความไร้ระเบียบจริงๆ มันกลืนกินลูกเจี๊ยบไป
“ออกมา”
กระบี่ไท่ชางของเยี่ยนอวี๋แทงทะลุความว่างเปล่า
ซู่ซ่า
แมงกะพรุนสีเลือดขนาดเท่ามนุษย์ตัวหนึ่งถูกเยี่ยนอวี๋คว้าออกมา แต่ว่า…
อึก
ลูกเจี๊ยบถูกกลืนลงไปแล้ว
“น้องไก่!”
เยี่ยนเสี่ยวเป่าร้องเรียก
หรงอี้กลับตะโกนขึ้นว่า “ออกไปซะ!”
เขารับรู้ได้ว่าในตัวของแมงกะพรุนสีเลือดตัวนี้นอกจากจะมีพลังส่วนหนึ่งของเขาแล้ว ยังมีพลังส่วนหนึ่งของร่างแยกร่างสุดท้ายของเขาด้วย
ราชาแห่งความไร้ระเบียบ เขาอยากจะกลายเป็นเขาหรงอี้ ราชาแห่งการทำลายล้าง
และสิ่งที่พิเศษในตัวลูกเจี๊ยบคือ มันเป็นร่างอสูรที่ก่อร่างขึ้นจากส่วนเล็กน้อยส่วนหนึ่งของหรงอี้ผมสีแดง ดังนั้นมันคือจักรพรรดิอสูรน้อย
ตามหลักแล้วลูกเจี๊ยบไม่ควรมีอยู่ เพราะต้องถูกหรงอี้กลืนกินกลับไป แต่เนื่องจากลูกเจี๊ยบกลายเป็นน้องไก่ของเด็กน้อยเสียก่อน ดังนั้นหลังจากที่ต้าซือมิ่งผสานกับร่างแยกผมสีแดงแล้วก็ไว้ชีวิตมัน
บัดนี้… กลับกลายเป็นระเบิดลูกสุดท้าย
การเปลี่ยนแปลงของราชาแห่งความไร้ระเบียบที่วางแผนมานานสำเร็จในเวลาที่ทุกคนวางใจลง เพราะว่าร่างแยกของเขากลืนกินลูกเจี๊ยบได้สำเร็จ ซึ่งก็หมายความว่าเขาได้รับเลือดเนื้อส่วนหนึ่งของหรงอี้ ดังนั้นเขาจึงสามารถใช้พลังทำลายล้างบางส่วนของร่างพลังสุดท้ายของหรงอี้ แม้จะเป็นแค่บางส่วน แต่ก็เพียงพอแล้ว
ดังนั้น…
“ฮ่าๆ ๆ ”
ราชาแห่งความไร้ระเบียบหัวเราะอย่างได้ใจ เขารู้สึกถึงความแข็งแกร่งที่ไม่เคยมีมาก่อน
เขารู้ว่าจากนี้เป็นต้นไป เขาจะเป็นผู้ไร้เทียมทานที่แท้จริง เขาจะสามารถทำลายทุกอย่างได้ตามที่ต้องการ
น่าเสียดาย… ต้าซือมิ่งไม่ให้เรื่องเช่นนี้เกิดขึ้นแน่นอน
“ผสาน”
หรงต้าซือมิ่งที่ปริปากเริ่มผสานร่างพลังครั้งสุดท้าย
หึ่ง
เงาสีดำที่เคยปรากฏขึ้นเหนือราชาแห่งความไร้ระเบียบร่วงลงระหว่างคิ้วของเขา
ตูม
ร่างแยกของราชาแห่งความไร้ระเบียบแตกสลายไม่เหลือแม้แต่เศษซาก
แต่ว่า…
ตูม
สวรรค์เก้าชั้นฟ้าก็กำลังแตกร้าว
เอื้อก
เยี่ยนอวี๋กระอักเลือดทันที
ตั้งแต่ที่นางรู้ว่า… นางเองก็เป็นเจตจำนงจักรวาลเช่นกัน สายสัมพันธ์ของนางและจักรวาลทั้งผืนก็แน่นเฟ้นยิ่งขึ้น ดังนั้นเมื่อจักรวาลแตกร้าว นางก็แตกร้าวด้วยเช่นกัน
ซึ่งก็หมายความว่า หรงอี้ เขาจะกำจัดภรรยาสุดที่รักของเขาด้วยตนเอง
“ไม่”
เลือดคลอมุมตาของเยี่ยนอวี๋ นางไม่ยอม นางกลัวยิ่งกว่า กลัวว่าจุดจบนี้จะกลายเป็นความจริง เช่นนั้นสามีของนางต้องใจสลายแน่ๆ ดังเช่นตอนที่นางพบว่าตนเองเป็นผู้ฆ่าเขาเอง ความรู้สึกเช่นนั้น…
เยี่ยนอวี๋ไม่กล้าคิดต่อไป นางกำลังจะทรุดแล้ว
“ไม่!”
เทียนตี้เองก็สังเกตเห็นว่าอาจารย์พ่อของเขาจะทำลายอาจารย์ของเขา ทำลายสวรรค์เก้าชั้นฟ้า หัวใจของเขาจะแตกสลายแล้วเช่นกัน รู้สึกเหมือนโลกทั้งใบพังทลายต่อหน้าเขา
“ไม่…”
เทพอสูรขุนเขาและท้องทะเลโบราณต่างร้องคำรามเพราะรู้สึกถึงวิกฤตของเยี่ยนอวี๋ จนลืมไปว่าอันที่จริงพวกมันก็จะต้องแตกสลายตามไปด้วย
สวรรค์เก้าชั้นฟ้าทั้งผืนกำลังสลาย
สิ่งมีชีวิตทั้งหมดกำลังสูญสิ้นเพราะหรงอี้
เขาเกิดมาเพื่อทำลายล้าง…
บัดนี้ แม้เขาจะควบคุมพลังนี้ได้ แต่จักรวาลแห่งนี้ไม่สามารถแบกรับได้ เขายังไม่ทันจากไป จักรวาลแห่งนี้ก็กำลังพังทลายอย่างรวดเร็วเพราะเขา
แม้แต่ภรรยาสุดที่รักของเขา เสี่ยวอวี๋เอ๋อร์ในดวงใจของเขาก็กำลังสลายเพราะเขา
เขาเกิดมาเพื่อทำลายล้าง…
นอกจากจะทำลายทุกอย่างรอบตัว กระทั่งทำลายตัวเขาเอง และจะทำลายล้างต่อไปอย่างไม่สิ้นสุด พลังใดๆ ก็ไม่สามารถหักห้ามเขาได้
เขาเกิดมาเพื่อทำลายล้าง…
ทำลายล้าง ทำลายล้าง ทำลายล้าง…
ไม่ ไม่ใช่!
เสี่ยวอวี๋เอ๋อร์!
หรงอี้ที่ตะโกนสามคำนี้ออกมาจากวิญญาณส่วนลึก ระหว่างคิ้วของเขามีแสงประกาย
“เสี่ยวอวี๋เอ๋อร์!”
เสียงสามคำที่ดังขึ้นดุจพิณดังก้องไปทั่วสวรรค์เก้าชั้นฟ้า
แสงสีขาวลึกลับส่องสะท้อนไปทั่วสวรรค์เก้าชั้นฟ้า
รอยแตกทั้งหมดได้รับการเยียวยาด้วยการปรากฎของแสงสีขาวนี้
หนึ่งความคิดทำลายล้าง
หมื่นชีวิตล้มตาย
หนึ่งความคิดเบ่งบาน
หมื่นชีวิตกำเนิด
-จบ-
**************************