เซียนหมอหญิงแม่ลูกอ่อน - ตอนที่ 757 ปลากระโดดข้ามคุนหลุน[1]
ตอนที่ 757 ปลากระโดดข้ามคุนหลุน[1]
“ไม่!”
อวิ๋นเหลียนที่รู้เจ็บชาไปทั้งตัว นางพยายามดิ้นหนี
น่าเสียดายที่กระบวนการทั้งหมดเงียบงัน ดอกไม้รสหมาล่าก็ส่งเสียงเฉพาะจังหวะที่โจมตีเท่านั้น แต่มันก็ไม่ปล่อยให้นางมีโอกาสหนี มันกลืนแก่นไม้กู่ถงทั้งหมดลงไปแล้ว
อึก…
ดอกไม้รสหมาล่าส่งเสียงกลืนลงไปก่อนจะถอยออกไป
อวิ๋นเหลียนที่ถูกมันกลืนจะร้องไห้แล้ว
ใครบอกนางได้บ้างว่าเกิดสิ่งใดขึ้น?
อวิ๋นเหลียนที่ไม่รู้เรื่องว่าเกิดอะไรขึ้นจนกระทั่งตายไป นางกลับพอจะคาดเดาได้ว่าเรื่องนี้คงเกี่ยวข้องกับเยี่ยนอวี๋ ถึงอย่างไรอาการเจ็บชาแบบเดียวกันนี้ นางก็เคยลิ้มลองจากฝืมือของเยี่ยนอวี๋
แต่ว่า… เป็นไปไม่ได้
อวิ๋นเหลียนรู้ดีว่าร่างแยกร่างที่สองของนางซ่อนไว้ดีมาก
“หรือว่าทูตสวรรค์ฝ่ายขวาหักหลังข้านะ” อวิ๋นเหลียนที่คิดถึงทูตสวรรค์ฝ่ายขวาก่อนตายก็ปฏิเสธการคาดเดานี้อย่างรวดเร็วอีกครั้ง “ไม่ ทูตสวรรค์ฝ่ายขวารู้เพียงข้าต้องสังหารเยี่ยนอวี๋นังโจรคนนั้นที่ภูเขาถงซาน เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าที่แห่งนี้มีแก่นไม้กู่ถง ร่างแยกร่างที่สองของข้า”
อวิ๋นเหลียนที่คิดอย่างไรก็ไม่เข้าใจ นางไม่ยอมตายใจ ยังคงคิดจะหนี
น่าเสียดายสิ่งของที่กลืนเข้าไปใน ‘ปาก’ ของดอกไม้แล้วไม่มีทางคายออกมาได้อย่างเห็นได้ชัด
มิหนำซ้ำ วิญญาณของอวิ๋นเหลียนแสบร้อนจนเจ็บชา นางไม่สามารถใช้พลังได้อย่างเต็มที่
ผลสุดท้ายย่อมคือ…
เอิ๊กกก…
ดอกไม้รสหมาล่าที่หดกลับมา มันบานพร้อมเสียงเรอเสียงดัง
ร่างแยกร่างที่สองของอวิ๋นเหลียนจึงถูกกลืนกินและย่อยไปเช่นนี้ โดยที่ตัวนางเองยังไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
เอิ๊กกก…
เยี่ยนเสี่ยวเป่าที่เรอตาม เขาก็รู้สึกอิ่มไปด้วย
ใบไม้สีเขียวหดกลับมาและหดกลับเข้าไปในร่างกายของเด็กน้อยทั้งหมด
เยี่ยนเสี่ยวเป่าที่กลับมาขาวผ่องอีกครั้ง เขาก็ร้อง ‘เนะ’ จับศีรษะของตนเอง
ทว่า… เขาจับได้เพียงความว่างเปล่า
“แง!”
เยี่ยนเสี่ยวเป่าที่เดินตามรอยเก่าอีกครั้งกลั้นไม่อยู่ เขาร้องไห้แล้ว
ต้าซือมิ่งที่ลูบศีรษะโล้นๆ ของเด็กน้อยก็หัวเราะอย่างไม่ปรานี “โล้นๆ ก็ดีเหมือนกัน”
“แงงง…”
เยี่ยนเสี่ยวเป่าที่ร้องไห้ไม่หยุดมุดศีรษะเข้าไปในอ้อมอกของท่านพ่อ เขาร้องไห้อย่างหนัก
ทว่า… เด็กน้อยที่ร้องไห้พลางรู้สึกคันศีรษะก็ไม่ลืมเกาศีรษะไปด้วย
เจ้าเหมียวสีขาวกระโดดขึ้นไปบนหลังของเด็กน้อยปลอบว่า “เหมียวๆๆ…” เสี่ยวเป่าไม่ร้องนะเหมียว ตอนเด็กท่านพ่อและท่านปู่เจ้าก็เป็นเช่นนี้ โตแล้วก็หายเอง
แต่ว่า…
“เหมียว?”
เจ้าเหมียวสีขาวที่กำลังปลอบก็เห็นผมอ่อนสีเขียวงอกออกมาจากศีรษะของเด็กน้อย มันตะลึงงัน เพราะว่านี่เป็นครั้งแรกที่มันเห็นเหตุการณ์เช่นนี้
เยี่ยนเสี่ยวเป่าที่ลูบโดนผมน้อยๆ อีกครั้ง เขาก็หยุดร้องไห้ และยังเงยหน้าขึ้นถามท่านพ่อเขาทันทีว่า “พ่อ เป่ามี ผมอีกแล้ว?”
“…ใช่แล้ว” หรงต้าซือมิ่งที่มองผมอ่อนสีเขียวชั้นนั้นของเด็กน้อย เขาก็ไม่รู้จะพูดอะไรดี ผมสีเขียวตั้งแต่เด็กเลยหรือ
แต่ว่าเด็กน้อยไม่รู้ว่าผมของตนเองกลายเป็นสีเขียวแล้ว เขายังดูมีความสุข “ฮ่า งอกกลับมา ว้าวๆ”
“เหมียว” เจ้าเหมียวสีขาวดีใจแทนเด็กน้อย ถึงอย่างไรไม่ว่าสีอะไร ขอแค่เสี่ยวเป่าไม่ร้องไห้ก็พอเหมียว
เม่ยเอ๋อร์มองผมสีเขียวของเด็กน้อยเงียบๆ
ส่วนจิ่วอิง เขาไม่รู้สึกสนใจเรื่องผมที่งอกใหม่อีกครั้งของเด็กน้อย แต่เริ่มสังเกตเยี่ยนอวี๋ “อี้เอ๋อร์ เจ้าดูภรรยาเจ้าเร็วเข้า”
“เนะ?” เยี่ยนเสี่ยวเป่ามองไปที่ท่านแม่ของเขากลับไม่เห็นมีอะไรเลย
แต่ต้าซือมิ่งรู้ตั้งแต่เมื่อครู่นี้แล้วว่าเสี่ยวอวี๋เอ๋อร์ของเขารู้แจ้งถึงความลับของภูเขาถงซานแล้ว
ภูเขาถงซานแห่งนี้ ภูเขาถงซานที่ถูกอวิ๋นเหลียนใช้เป็นที่ที่ซ่อนตัวของร่างแยกร่างที่สองของนาง อันที่จริงถึงจะเป็นสถานที่ที่โบราณที่สุดในยุคคุนหลุน ซึ่งก็คือ… ที่สถิตในจักรวาลดั้งเดิมของเยี่ยนอวี๋
“มิน่าเล่าจึงมาสร้างกฎที่ภูเขาถงซาน ที่นี่คือจุดเริ่มต้นนี่เอง” หรงอี้ที่เพิ่งเข้าใจทุกอย่างจำเป็นต้องพูดว่า “ตบะของอวิ๋นเหลียนนั้นธรรมดา แต่นางมีความสามารถในการเอาชีวิตรอดไม่น้อย”
“อะไรนะ” จิ่วอิงบอกว่าไม่เข้าใจเลย
เยี่ยนเสี่ยวเป่าเองก็ถามตามว่า “อ้ะเนะ?” เป่าก็ไม่เข้าใจ
หรงอี้จึงอธิบายว่า “พูดง่ายๆ ก็คือว่า อวิ๋นเหลียน ‘ขุด’ ถ้ำที่สถิตของนางจากแดนคุนหลุนซึ่งสอดคล้องกับจักรวาลดั้งเดิม ซ่อนไว้ในภูเขาถงซานแห่งนี้”
จิ่วอิงเข้าใจทันที
เยี่ยนเสี่ยวเป่าก็เหมือนจะเข้าใจแล้ว เขาพยักหน้าตาม
แต่จิ่วอิงยังมีอีกหนึ่งคำถาม “เช่นนั้นหมายความว่า อวิ๋นเหลียนนังปีศาจแก่นั่นยังมีร่างแยกอีกหลายร่างมิใช่หรือ แล้วร่างที่สาม ร่างที่สี่ ร่างที่ห้า… ร่างแยกเหล่านี้จะซ่อนไว้ในที่ไม่ธรรมดาหรือไม่”
“มีแน่นอน แต่คงไม่ได้ชั้นสูงเช่นนี้” หรงอี้มั่นใจ
ในความเป็นจริง… ก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ ด้วย
อวิ๋นเหลียนที่เกิดใหม่ในสวรรค์ชั้นเก้าด้วยร่างครึ่งคนครึ่งปีศาจ นางกำลังคำรามแล้ว
กรร
อวิ๋นเหลียนครึ่งคนครึ่งปีศาจที่พุ่งออกมาจากภูเขายักษ์ นางคำรามอย่างไร้ความปรานี ราวกับปีศาจที่คลุ้มคลั่ง ทำเอาสิ่งมีชีวิตบริเวณใกล้เคียงตกใจจนวิ่งหนีสุดชีวิต
กรร
กรรรรร…
อวิ๋นเหลียนที่คำรามไม่หยุด นางส่งเสียงคำรามนานเป็นเวลาหนึ่งเค่อ เมื่อสงบความแค้นในใจได้แล้ว นางยังคงรู้สึกโมโหมากอยู่ดี โมโหจนอยากจะระเบิดตัวเอง
แต่อวิ๋นเหลียนรู้ว่าไม่ได้
แม้นางจะมีร่างแยกหลายร่าง แต่ร่างแยกสองร่างแรกไม่ธรรมดา ไม่ใช่ร่างแยกร่างหลังๆ ที่อ่อนแอเหล่านี้จะเทียบเคียงได้
อย่างเช่นร่างครึ่งคนครึ่งปีศาจนี้ เป็นอสูรที่เก่าแก่ที่สุดของคุนหลุนสิบสองชั้นสวรรค์ ซึ่งเป็นทายาทรุ่นหลังของปีศาจแห่งความโกลาหล
นางเป็นผู้สังหารปีศาจแห่งความโกลาหล แต่เก็บบุตรของปีศาจแห่งความโกลาหลไว้ เพื่อกลั่นหลอมเป็นร่างแยกร่างที่สามของตนเอง สืบทอดความสามารถในการกลืนสวรรค์ที่แข็งแกร่งที่สุดของปีศาจแห่งความโกลาหล
“เมื่อข้าปรับตัวกับร่างแยกร่างนี้ได้แล้วจะออกจากภูเขาถงซานกลืนกินจอมโจรกลุ่มนั้น” อวิ๋นเหลียนตัดสินใจอย่างตั้งมั่น ก่อนจะสงบอารมณ์ลงได้ แต่นางยังคงมีข้อสงสัยจึงคิดจะเรียกทูตสวรรค์ฝ่ายขวามา
ทว่านางที่เพิ่งจะคิดเช่นนี้กลับล้มเลิกความคิดในทันที “ไม่ได้ หากทูตสวรรค์ฝ่ายขวาทรยศจริงๆ ข้าเรียกเขามาที่นี่ก็เข้าทางเขาพอดีสิ”
อวิ๋นเหลียนจึงตัดสินใจไม่เรียก เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยแล้วค่อยคิดบัญชีก็ไม่สาย
“บัดนี้ฆ่าเยี่ยนอวี๋นังโจรนั่นสำคัญกว่า” อวิ๋นเหลียนกังวลว่าหากตนไม่เร่งมือ อาจจะเกิดปัญหาขึ้นได้ เพราะว่านางมีลางสังหรณ์ไม่ดีนัก
ลางสังหรณ์ของนางก็แม่นเสียด้วย
จิตเหนือสำนึกของเยี่ยนอวี๋รู้แจ้งถึงกฎต้นกำเนิดของยุคคุนอู๋ผ่านจุดศูนย์กลางของภูเขาถงซานหรือถ้ำสถิตของอวิ๋นเหลียน
ด้วยพื้นฐานและวิธีการรู้แจ้งที่ประหลาดของนาง ความเข้าใจทั้งหมดเกิดขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ
ดังนั้น… อวิ๋นเหลียนเพิ่งจะสงบจิตสงบใจลงได้
หึ่ง
คุนหลุนสิบสองชั้นสวรรค์กำลังสั่นสะเทือน
[1] ล้อกับสำนวน ‘ปลากระโดดข้ามประตูมังกร’ หมายถึง การประสบความสำเร็จ เจริญก้าวหน้าสมกับที่ทุ่มเทอุตสาหะเพื่อประสบความสำเร็จ
………………