เซียนหมอหญิงแม่ลูกอ่อน - ตอนที่ 679 ความสัมพันธ์ลึกลับกับอาณาจักรทั้งปวง ท่านพ่อใจร้าย
ตอนที่ 679 ความสัมพันธ์ลึกลับกับอาณาจักรทั้งปวง ท่านพ่อใจร้าย
หรงอี้ที่แผ่ซ่านพลังจิตออกมาพยายามจับความรู้สึกสั่นไหวนี้
ทว่าเขาพบอย่างรวดเร็วว่า… ไม่มีร่องรอยให้ติดตามได้? หรือเป็นเพราะคำว่า ‘เขาพระสุเมรุ’ มีพลังทำให้โลกสั่นสะเทือน
ดังนั้น… ไม่รอให้หรงอี้ได้คิดละเอียด เยี่ยนอวี๋ก็ถามขึ้นแล้วว่า “เป็นอะไรไปอีกแล้วหรือ แล้วก็เขาพระสุเมรุอยู่ที่ไหน”
“นั่น สิ? ที่ไหนหรือขอรับ” เจ้าตัวน้อยถามด้วยน้ำเสียงน่ารักน่าชัง ไม่รู้ว่าเข้าใจหรือไม่ว่าท่านพ่อและท่านแม่คุยอะไรกันก็พูดเลียนแบบแล้ว
ต้าซือมิ่งที่ถูกถาม เขาก็ตอบคำถามของภรรยาทีละข้อว่า “ตอนที่พูดชื่อเขา ข้ารู้สึกถึงแรงสั่นสะเทือนที่มาจากส่วนลึกของวิญญาณและส่วนลึกของจักรวาลจึงชะงักไปเล็กน้อย ส่วนภูเขาลูกนี้ คือบ้านของข้า ครอบครัว ญาติและมิตรสหาย พ่อเลี้ยงและท่านแม่ ยังมีท่านปู่หวง ท่านย่าซีล้วนอยู่ที่นี่ นอกจากนี้ข้ายังมีท่านอาที่มีอายุใกล้เคียงกับข้าอีกสามคน”
ต้าซือมิ่งที่เล่าประวัติของตนเองให้ภรรยาฟังเป็นครั้งแรก ในที่สุดเขานับญาติใกล้ตัวที่คุ้นเคยทว่าห่างเหินออกมาทีละคน
เยี่ยนอวี๋เงียบ นางคิดไม่ถึงจริงๆ ว่าสามีของนางมีครอบครัวที่ใหญ่เช่นนี้ ถึงแม้ว่าก่อนหน้านี้นางจะรู้แล้วว่าสามีคนนี้ของนางไม่เหมือนใคร ไม่ได้กำเนิดขึ้นโดยธรรมชาติ
แต่ว่า… สมาชิกครอบครัวมีจำนวนมากไปเล็กน้อย แต่แล้วต้าซือมิ่งยังคงนับต่อไป “นอกจากนี้ ท่านตาพญายม ท่านยายหนี่ว์ตี้ ท่านตาทวดอีหมิงไท่ ท่านยายทวดซู่ซิน และ… ”
“เดี๋ยวก่อน” เยี่ยนอวี๋กำลังนับนิ้ว นางรู้สึกงุนงงมาก
ศีรษะของเยี่ยนเสี่ยวเป่าหมุนติ้วไม่หยุดแล้ว “อะไร นะ?”
ต้าซือมิ่งกอดสองแม่ลูกแน่น และจูบภรรยาเบาๆ “ไว้กลับไปแล้วจะแนะนำให้รู้จัก ตอนนี้ไม่ต้องรีบจำพวกเขา จำไม่ได้ก็ไม่เป็นไร เสี่ยวอวี๋เอ๋อร์งามเช่นนี้ ท่านแม่และท่านย่าซีต้องชอบมากแน่ๆ”
“ไม่ใช่…” เยี่ยนอวี๋อยากถามว่า “ครอบครัวเจ้ามีสมาชิกมากมายเช่นนี้ เหตุใดจึงมีเพียงเจ้ามาที่นี่เพียงลำพังเล่า” ฟังดูแล้วความสัมพันธ์ก็ไม่ได้แย่ ไม่เหมือนถูกทอดทิ้งนี่
“เรื่องนี้คงต้องเริ่มจากร่างกายของข้า” ต้าซือมิ่งที่พูดอย่างซื่อตรง เขาก็พูดถึงร่างกายที่น่ากังวลของเขา “เจ้าก็เห็นแล้วว่าร่างพลังของข้าล้วน… คลุ้มคลั่งมาก แต่กลับเป็นร่างพลังที่แยกออกไปจากร่างกายของข้าทั้งสิ้น ครานั้นเนื่องจากข้าไม่สามารถย่อยพลังเหล่านี้ได้ น่าจะเป็นตอนที่ข้าอายุแปดขวบ ข้าเกือบตาย ท่านปู่ของข้าจึงคิดวิธีหนึ่งได้ ด้วยวิธีแยกแหล่งพลังทำลายล้างในร่างกายของข้าออกจากกัน ให้ข้าบำเพ็ญตบะด้วยการเกิดใหม่ ค่อยๆ ปรับตัวและผสานพลังของตนเองกลับไป”
“ดังนั้นเจ้าเริ่มเกิดใหม่ตั้งแต่อายุแปดขวบหรือ” เยี่ยนอวี๋จับประเด็นสำคัญได้
“สิบแปด” หรงอี้กล่าว
เยี่ยนอวี๋ถามอย่างลังเลพร้อมกับสอดนิ้วประสาน “นั่นเป็นเพราะเหนือจักรวาลสวรรค์เก้าชั้นฟ้ายังมีเขาพระสุเมรุโลกแห่งนี้ ตบะของข้ายังไม่เพียงพอ จึงไม่สามารถสัมผัสถึงได้หรือ”
หากเป็นเช่นนี้… เยี่ยนอวี๋รู้สึกเรื่องนี้เกินขอบเขตที่นางจะรับได้แล้ว ทว่าต้าซือมิ่งส่ายศีรษะ “ไม่ใช่ ข้าสัมผัสได้ว่า จักรวาลสวรรค์เก้าชั้นฟ้าและอาณาจักรทั้งปวงหรือพระสุเมรุไม่ได้อยู่ด้านเดียวกัน แต่มีความสัมพันธ์กัน มิเช่นนั้นข้าคงไม่เกิดใหม่ที่นี่ แต่มั่นใจได้เรื่องหนึ่งว่า การเกิดใหม่ของข้าไม่ได้ดำเนินไปตามแผนการของท่านปู่หวงและพ่อเลี้ยง ดังนั้นพวกเขาไม่สามารถมาหาข้าได้”
หรงอี้มั่นใจในเรื่องนี้ดี เพราะว่าเขาเกิดใหม่มาหลายภพชาติเช่นนี้ก็ไม่เคยสัมผัสถึงกลิ่นอายของอาณาจักรทั้งปวงหรือสุเมรุเลย
จนถึงเมื่อครู่นี้… เมื่อเขาพูดคำว่า ‘เขาพระสุเมรุ’ ออกมา เขาเพิ่งจะพบเป็นครั้งแรกว่า ‘เขาพระสุเมรุ’ สามารถทำให้จักรวาลสวรรค์เก้าชั้นฟ้าสั่นสะเทือนได้ อาจจะหมายความว่า สวรรค์ชั้นเก้าและเขาพระสุเมรุมีความเชื่อมโยงกัน ทว่า…
“ยังไม่ทราบในรายละเอียดว่าเป็นความเชื่อมโยงแบบใด” ต้าซือมิ่งที่รู้สึกพ่ายแพ้ก็มุดศีรษะเข้าไปในซอกคอของภรรยา สูดดมกลิ่นอายหวานหอมของภรรยาลึกๆ ทีหนึ่ง และยังถูไปมาเหมือนคนออดอ้อน
เยี่ยนอวี๋กอดสามีที่เหมือนแมวตัวใหญ่คลอเคลียคนนี้ “หากเจ้าจำได้แล้วก็จะรู้หรือ”
“อาจจะ” ต้าซือมิ่งที่สัมผัสบางสิ่งได้คิดว่าน่าจะเป็นเช่นนี้ “ถึงครานั้น ข้าก็จะรู้ว่าต้องกลับไปอย่างไร เสี่ยวอวี๋เอ๋อร์ก็จะต้องพาเสี่ยวเป่ากลับไปหาพวกเขาพร้อมข้า ห้ามให้ข้ากลับไปคนเดียว”
เยี่ยนอวี๋ยิ้ม “แน่นอน ข้าและเสี่ยวเป่าต้องกลับไปกับเจ้าแน่นอน”
“อ้ะ?” เจ้าตัวน้อยที่ฟังจนงุนงง เขาก็กำลังเล่นกระบี่น้อยและค้อนจิ๋วของเขาแล้ว เมื่อได้ยินพ่อแม่พูดถึงเขาในครานี้ เขาจึงหยุดเล่นและมองท่านพ่อและท่านแม่ของเขาอย่างงงงวย
เยี่ยนอวี๋จึงอุ้มเด็กน้อยเข้ามาจูบสองสามที “ข้าอยากเจอครอบครัวของสามี อยากเห็นอดีตของเจ้า หากเป็นไปได้ ให้ข้าดูภาพวาดตอนเด็กของเจ้าหน่อยนะ ข้าอยากดูว่าเหมือนเสี่ยวเป่าหรือไม่”
ต้าซือมิ่งที่เม้มปากเล็กน้อยเงียบไม่พูดอะไร เขาไม่อยากให้ภรรยารู้ว่าตนเองตอนเด็กเป็นเด็กหัวโล้นเหมือนกัน แต่ภรรยายอมกลับบ้านกับตนเอง เขาก็ดีใจมากแล้ว
ต้าซือมิ่งจูบภรรยาเบาๆ เปลี่ยนเรื่องคุยว่า “จัดการตาแก่ห้าคนนั่นให้ได้ก่อน เสี่ยวอวี๋เอ๋อร์ก็จะได้นอนเป็นเพื่อนข้า จากนั้นก็จะรู้ทุกเรื่อง”
เห็นได้ชัดว่าคำว่า ‘นอนเป็นเพื่อน’ สามคำนี้เน้นเสียงหนักเป็นพิเศษ
เยี่ยนอวี๋ฟังออกแล้ว…
นางจูบริมฝีปากอันเย้ายวนของสามี น้ำเสียงเผยความเกียจคร้านโดยไม่ตั้งใจ “แล้วก็คลอดเสี่ยวเป่าอีกคนหนึ่งหรือ”
“อ้ะ?” เยี่ยนเสี่ยวเป่าจับพ่อแม่แยกออกจากกันทันที “อะไร? เป่า อีกคนหนึ่ง?”
ต้าซือมิ่งที่ถูกภรรยาเย้าแหย่จนใจเต้นอย่างรุนแรง เขาก็ไม่ได้สนใจลูก เขากอดเอวของภรรยาไว้แน่นกว่าเดิม
“ใช่”
หลังจากจัดการเรื่องพวกนี้เสร็จแล้ว เขาต้องทบทวนกระบวนการสร้างลูกอีกสักครั้ง
ทว่า…
เพียะ
ต้าซือมิ่งที่พูดจบก็ถูกตีทันที เขาถูกลูกแย้งว่า “ไม่เอา เป่าแล้ว หรือ คน ใจร้าย”
พรวด เยี่ยนอวี๋หัวเราะ
ต้าซือมิ่งที่ถูกตีและถูกว่า เขารวบตัวเด็กน้อยไว้ “ใครสอนเจ้าพูดเช่นนี้ เจ้ารู้หรือว่าคนใจร้ายหมายถึงอะไร”
“╭(╯^╰)╮” เยี่ยนเสี่ยวเป่าเชิดใบหน้าอวบอ้วนน้อยๆ ของตนขึ้น เขาไม่อยากคุยกับท่านพ่อใจร้าย ยังทำท่าจะลงไปอย่างน้อยใจ เตรียมจะ ‘โถม’ ใส่ท่านลุงใหญ่และท่านยายแล้ว
ทว่าเขาเพิ่งจะถีบเท้า ยังไม่ทันลงพื้น
“โอ๊ย”
เอ้อร์เหมาร้องอุทานพร้อมกับกระโดดขึ้นมา
จากนั้น…
“อ้ะ อ้ะๆๆ”
เยี่ยนเสี่ยวเป่าร้องตาม เพราะว่าขาน้อยๆ ของเขาถูกจับไว้แล้ว