เซียนหมอหญิงแม่ลูกอ่อน - ตอนที่ 362 เทพเจ้าฟ้าประทาน! จัดการให้สิ้นซาก!
ตอนที่ 362 เทพเจ้าฟ้าประทาน! จัดการให้สิ้นซาก!
สำนักศึกษาในสภาพเลือนรางถูกเหยียบจนกลับไปมีสภาพจริงทันที!
“แย่แล้ว!”
เหล่าอาจารย์อาวุโสเช่นลู่หมิงและซ่งเฉินฟางสีหน้าพลันเปลี่ยน พวกเขาสัมผัสถึงพลังที่อยู่เหนือระดับตำนานจากตัวของฮ่องเต้หยวนคังขนาดใหญ่! ซึ่งนี่หมายความว่าพลังของฮ่องเต้หยวนคังอาจจะเกินกำลังของอาจารย์จี้จิ่ว
หากเป็นเช่นนี้… ลู่หมิงและคนอื่นๆ ไม่ทันได้ครุ่นคิด
“กระบี่!”
อาวุโสมือกระบี่ที่นั่งขัดสมาธิกลางอากาศก็เริ่มพิธีสังเวยกระบี่
ผู้อาวุโส ผู้ดูแลและศิษย์สำนักจวินจื่อที่มีจวินอั้นหยวนเป็นหัวหน้าก็นั่งขัดสมาธิข้างกายอาวุโสมือกระบี่และรวบรวมพลังกระบี่ของพวกเขากลายเป็นจิตวิญญาณ
“…”
ขณะที่เหล่าสำนักจวินจื่อรวมพลังกระบี่ กระบี่เล่มหนึ่งก็ค่อยๆ ก่อร่างขึ้น ค่อยๆ แข็งแกร่งและขยายใหญ่ขึ้นอย่างต่อเนื่อง เผยให้เห็นถึงความยิ่งใหญ่
ในขณะเดียวกัน…
“สำนักจวินจื่อ ฝึกฝนกระบี่จวินจื่อ กระบี่จวินจื่อ กระบี่แห่งความยิ่งใหญ่และชอบธรรม ยอมหักไม่ยอมงอ กวาดล้างมารร้ายแม้ไม่สมบูรณ์ คือปณิธานกระบี่จวินจื่อ”
คำปฏิญาณกระบี่ของสำนักจวินจื่อที่จวินอั้นเทียนกล่าวดังขึ้นชัดถ้อยชัดคำ และทุกๆ คำที่เขาพูดออกมา เหล่าสำนักจวินจื่อที่เคยสาบานต่อหน้าสุสานกระบี่ก็เกิดพลังฮึกเหิมหลั่งไหลเข้าไปในกระบี่สูงใหญ่เล่มนั้น!
เหล่าลูกศิษย์ ผู้ดูแล และผู้อาวุโสในสำนักจวินจื่อทุกท่านล้วนเป็นศิษย์ที่เคยยืนสาบานต่อหน้าสุสานกระบี่ และได้รับการยอมรับจากสุสานกระบี่เป็นศิษย์โดยชอบธรรม ดังนั้น…
วิ้ง!
กระบี่เล่มใหญ่รวมตัวกันอย่างรวดเร็ว
วิ้ง!
สุสานกระบี่ในสำนักจวินจื่อที่อยู่ชานเมืองตอนใต้ของโยวตูก็ส่งเสียงกึกก้อง
พลังกระบี่นับไม่ถ้วนรวมตัวกลางอากาศสะเทือนไหว! มันรวมตัวกับปณิธานกระบี่ที่จดจารึกไว้ในใจของเหล่าคนสำนักจวินจื่อ และพุ่งออกมากลางอากาศจากฝักกระบี่อย่างพร้อมเพรียง!
“ฆ่า!”
อาวุโสมือกระบี่ควบคุมกระบี่ลอยกลางอากาศ มันพุ่งตรงเข้าหาฮ่องเต้หยวนคัง
“ฮึ” ฮ่องเต้หยวนคังแสยะยิ้มอย่างไม่เกรงกลัว เขาเพียงสะบัดแขนเสื้อ กระบี่เล่มใหญ่นั้นก็กระเด็นออกไป “ฝีมือต่ำต้อย ยอมจำนนเสีย ลงมา!”
อึก! เลือดไหลออกมาจากมุมปากของอาวุโสมือกระบี่ทันที เขาสัมผัสได้อย่างแจ่มชัดว่าพลังของฮ่องเต้หยวนคังอยู่เหนือระดับตำนานไปแล้ว เป็นไปได้มากว่าจะอยู่ในระดับฝ่าด่านเคราะห์ในตำนาน ขาดเพียงการชะล้างจากกฎสวรรค์สวรรค์เก้าชั้นฟ้าก็จะได้เลื่อนขั้นเป็นเทพแล้ว
ฮ่องเต้หยวนคังเช่นนี้ไร้เทียมทานจริงๆ!
ทว่า…
“ฆ่า!”
นัยน์ตาอาวุโสมือกระบี่ฉายแววอาฆาต เขาระเบิดพลังกระบี่สูงสุดออกมาโดยไม่เกรงกลัวความแข็งแกร่งของฮ่องเต้หยวนคัง! กวัดแกว่งกระบี่เล่มใหญ่อย่างไม่คิดชีวิต หมายจะโค่นล้มกษัตริย์โหดเหี้ยมผู้ไม่สนใจชีวิตและความตายของผู้คน!
วิ้ง!
ในขณะเดียวกัน ดินแดนไร้ตัวตนสำนักศึกษาที่ถูกเหยียบไว้มิดก็กลายเป็นภาพเสมือนอีกครั้ง เสียงของอีอิ่นดังกระจายไปทั่วท้องฟ้า “พลังแห่งความชอบธรรมแห่ภาคกลางของข้า ลอย!”
“ฝันไปเถอะ!”
ฮ่องเต้หยวนคังหรี่ตาลงเล็กน้อย เขากำลังจะเหยียบสำนักศึกษาอีกครั้ง
แต่แล้ว…
“ฆ่า!”
อาวุโสมือกระบี่ที่บังคับกระบี่เล่มใหญ่สุดชีวิตจนกระอักเลือดก็ดันกระบี่เล่มใหญ่อีกครั้งด้วยเลือดที่สังเวยให้กับกระบี่สวรรค์! พลังกระบี่ที่พุ่งไปข้างหน้าโดยพึ่งความองอาจเพียงสิ่งเดียวนั้นก็เข้าใกล้ฮ่องเต้หยวนคังอย่างมุ่งมั่นไม่ลดละ ทำเอาฮ่องเต้หยวนคังที่ขยายตัวใหญ่สะท้านเล็กน้อย แต่ก็ทำให้อารมณ์ของเขาปะทุเช่นกัน เขาจ้องอาวุโสมือกระบี่ตาเขม็ง “ตาแก่รนหาที่ตาย! เราจะส่งเจ้าไปตายก่อนเอง!”
เมื่อสิ้นเสียง…
ครืน!
แสงสีเลือดรุนแรงพุ่งออกจากฝ่ามือของฮ่องเต้หยวนคังตรงไปยังอาวุโสมือกระบี่ทันที!
อึก!
เอื้อก!
กลุ่มอาวุโสมือกระบี่และจวินอั้นเทียนต่างอาเจียนเป็นเลือดออกมา
แต่ในขณะเดียวกันนั้น…
วิ้ง!
สำนักศึกษาทั้งสำนักก็กลายเป็นภาพเสมือนอีกครั้ง อีกเพียงไม่นานก็จะหายตัวไปแล้ว!
“ฝันไปเถอะ!”
ฮ่องเต้หยวนคังจะเหยียบอีกครั้งด้วยความโกรธกริ้ว!
อาวุโสมือกระบี่ตัดสินใจเด็ดเดี่ยว เห็นได้ชัดว่ากำลังจะเริ่มการจู่โจมขั้นสุดท้ายแล้ว!
แต่แล้ว…
“สำนักจวินจื่อ ฝึกฝนกระบี่จวินจื่อ กระบี่จวินจื่อ กระบี่แห่งความยิ่งใหญ่และชอบธรรม ยอมหักไม่ยอมงอ กวาดล้างมารร้ายแม้ไม่สมบูรณ์ คือปณิธานกระบี่จวินจื่อ”
จิตวิญญาณแห่งกระบี่ของเหล่าคนสำนักจวินจื่อที่มาตามปณิธานสุสานกระบี่ในสำนักจวินจื่อในโยวตูก็ทยอยรวมตัวกัน แม้จะห่างกันเป็นพันหมื่นลี้ จิตวิญญาณแห่งกระบี่ก็เป็นหนึ่ง! ปณิธานแห่งกระบี่ก็เช่นกัน
วิ้ง!
กระบี่เล่มใหญ่ที่ควบคุมโดยอาวุโสมือกระบี่พลันขยายใหญ่ขึ้นทันที! มันรวมพลังและความยึดมั่นของสำนักจวินจื่อทั้งสำนักเข้าด้วยกัน จนท้ายที่สุดก็แทงฮ่องเต้หยวนคังร่างมหึมานั่นถอยไปก้าวหนึ่ง และเพียงแค่ก้าวเดียวนี้ก็เพียงพอแล้ว
“ไป!”
เสียงอันแผ่วเบาของอีอิ่นพาคนเกือบหมื่นคนในสำนักศึกษาหนีออกจากเมืองหลวง หายเข้าไปในความว่างเปล่าและเคลื่อนย้ายไปทางโยวตูก่อนจะหยุดลงที่บริเวณสำนักจวินจื่อ
“บัดซบ! ฝันไปเถอะ! บังอาจ!” ฮ่องเต้หยวนคังที่เดือดดาลก็คว้าเข้าไปในความว่างเปล่า หมายจะจับสำนักศึกษา เนื้อชิ้นใหญ่ชิ้นนี้กลับมา
แต่น่าเสียดาย… อีอิ่นไม่ยอมปล่อยให้เขาได้โอกาสนี้ เหล่าอาจารย์และลูกศิษย์สำนักศึกษาก็ไม่ยอมให้เขาได้โอกาสนี้เช่นกัน วิญญาณอสูรในตำนานนับไม่ถ้วนปรากฏขึ้นกลางอากาศ
กรร!
เสียงคำรามอันบ้าคลั่งทั้งหมดกลายเป็นระเบิดในท้ายที่สุด!
เอื้อก!
เหล่านักอัญเชิญศักดิ์สิทธิ์สำนักศึกษาที่ระเบิดวิญญาณอสูรในตำนานของตน แม้จะอาเจียนเลือดออกมาอย่างรุนแรง แต่พวกเขาก็ทำสำเร็จแล้ว ดินแดนไร้ตัวตนที่สำนักศึกษาตั้งอยู่ก็หลบหนีได้สำเร็จ
เพียงลมหายใจเดียว…
วิ้ง!
สำนักศึกษาก็ออกมาจากเมืองหลวงตี้ชิวและชั้นระหว่างมิติ ‘ลงจอด’ ที่โยวตู กลับมาสู่โลกปัจจุบัน หลุดพ้นจากพันธนาการ ไม่ถูกเถาวัลย์สีเลือดนับไม่ถ้วนเหล่านั้นกลืนกินอีกแล้ว
“ชนะแล้ว!”
ลู่หมิงและคนอื่นๆ ที่อาเจียนเลือดออกมาก็รู้สึกว่าทุกอย่างคุ้มแล้ว! ถึงแม้หลังจากที่ระเบิดวิญญาณอสูรร้ายในตำนานด้วยตนเองแล้ว พวกเขาอาจจะไม่สามารถเรียกวิญญาณอสูรออกมาได้อีกก็ตาม แต่ทุกอย่างก็คุ้มค่า อย่างน้อยพวกเขาก็ออกมาได้แล้ว! เพียงแต่ว่าน่าเสียดายที่ยังมีชาวเมืองหลายพันหมื่นในเมืองหลวง ไม่รู้ว่าพวกเขาเป็นอย่างไรบ้าง ด้วยความคลุ้มคลั่งของฮ่องเต้หยวนคัง เกรงว่าคงจบไม่สวย แต่ความสามารถของสำนักศึกษามีจำกัด การปกป้องตนเองและออกมาได้ก็ถือว่าใช้สุดกำลังความสามารถแล้ว ส่วนชาวเมืองในเมืองหลวง…
“ได้แต่หวังว่าพวกเขาที่ไม่มีฌานตบะจะรอดพ้นไปได้” ซ่งเฉินฟางได้แต่พูดเช่นนี้
เพียงแต่ว่า…
ทุกคนยังไม่ทันได้กินยาเพื่อรักษาตัวก็พบว่าสถานการณ์ไม่ได้สวยงามอย่างที่พวกเขาคิด! เพราะว่าฮ่องเต้หยวนคังไล่ตามมาแล้ว
“ฮึ!” เสียงหัวเราะอันเย็นชาของฮ่องเต้หยวนคังดังขึ้นจากทางทิศเหนือ “พวกเจ้าคิดว่าหนีมาโยวตูแล้วจะไม่เป็นอะไรรึ”
ฮ่องเต้หยวนคังที่ไล่ตามมาด้วยร่างมหึมาก็ปรากฏขึ้นเหนือเมืองโยวตู ทั่วทั้งร่างแผ่ซ่านแสงสังหารโหดเหี้ยมสีเลือด! ทำเอาเหล่าชาวบ้านในเมืองโยวตูตกใจจนคุกเข่าลงกับพื้น
ครานี้เอง…
“จบกัน!” อินสวินอี้สีหน้าซีดเผือด “ทหารเฝ้าเมืองเป็นอะไรกันหมด เมื่อเมืองหลวงเกิดความโกลาหล พวกเขาก็ควรปกป้องประชาชนไว้ให้ดี ปล่อยให้พวกเขามาเดินเอ้อระเหยข้างหนอกได้อย่างไร”
จวินอั้นเทียนเองก็มีสีหน้าย่ำแย่มาก ทว่าเขาก็คิดเรื่องหนึ่งขึ้นได้ “เกรงว่าคนอื่นไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเมืองหลวงเกิดอะไรขึ้น ก่อนหน้านี้พวกเราเองก็หลงกลอย่างไร้สัญญาณเตือนล่วงหน้า มิใช่หรือ”
“แล้วตอนนี้ทำอย่างไรดี” จวินอั้นหยวนอยากรู้ว่า ตอนนี้ฮ่องเต้อสูรองค์นี้ไล่ตามมาถึงแล้ว พวกเขาจะทำอย่างไร เพราะเหมือนกับว่าพวกเขาจะใช้แผนสำรองไปหมดแล้ว!
“อย่าได้วิตก” เสียงของอีอิ่นดังขึ้น ปลอบประโลมทุกคนอย่างสงบ ภาพเสมือนสำนักศึกษาที่แปลงร่างมาจากเขาก็กำลังสบตากับฮ่องเต้หยวนคัง
ฮ่องเต้หยวนคังผู้หนักแน่นกลับเอ่ยอย่างเหี้ยมเกรียมว่า “อีอิ่น! อย่าขัดขืนเลย ในฐานะที่พวกเจ้าเป็นประชาชนของเรา ย่อมสมควรสละตนเพื่อผลงานอันยิ่งใหญ่ของเรา! เราต้องการให้พวกเจ้าตาย พวกเจ้าก็ต้องยอมสละตน!”
“กษัตริย์เช่นเจ้าไม่คู่ควรกับความจงรักภักดี ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ข้าอีอิ่นและเหล่าสำนักศึกษาจงรักภักดีต่อโยวตูอ๋อง” อีอิ่นกล่าวอย่างสงบ
ฮ่องเต้หยวนคังโกรธกริ้ว “ตาแก่! เจ้าคงจะลอบฝักใฝ่ฝ่ายอินสวินอี้เจ้าโจรทรยศนั่นแต่แรกแล้วสินะ ก็ดี วันนี้เราจะกำจัดขุนนางกบฏเช่นเจ้าเอง! ตายซะเถอะ”
เมื่อสิ้นเสียง ฮ่องเต้หยวนคังก็ซัดฝ่ามือออกไป อากาศแปรเปลี่ยนในทันใด ขุนเขาถล่มแผ่นดินแตกแยก ท้องฟ้าทั่วทั้งเมืองก็เปลี่ยนไป! เห็นได้ว่าเพียงฝ่ามือเดียวของเขาก็น่าสะพรึงเพียงใดแล้ว
อีอิ่นกลับมองเขาอย่างไม่เกรงกลัว แต่เขายังมิได้ตอบโต้ เพียงแค่มองฮ่องเต้คลุ้มคลั่งท่านนี้อย่างสงบด้วยแววตาเวทนา
สายตาเช่นนี้ทำให้ฮ่องเต้หยวนคังเดือดดาลยิ่งกว่าเดิม “สายตาเจ้าหมายความว่าอย่างไร! วอนหาเรื่องตาย!”
เสียงพายุหมุนจากฝ่ามือดังอึกทึกซัดไปทางร่างเสมือนของอีอิ่นหรือหรือก็คือสำนักศึกษา และบดขยี้เมืองโยวตูอย่างไร้ความปราณีและเกรี้ยวกราด!
เพียงแต่น่าเสียดาย…
วิ้ง!
ภาพม้วนขุนเขาและท้องทะเลปรากฏขึ้นเหนือเมืองโยวตู
สัญลักษณ์ภาพม้วนขุนเขาและท้องทะเลนี้ไม่เคยหายไปไหนตั้งแต่ศึกโยวตูในครานั้น มันอยู่ในอาณาเขตโยวตู เมื่อความชั่วออกมา มันย่อมปรากฏ!
บัดนี้ ฮ่องเต้หยวนคังที่กลายเป็นมารถาโถมใส่สำนักศึกษาด้วยกลิ่นคาวเลือดและความชั่วร้ายไม่รู้จบคละคลุ้งไปทั้งร่าง ย่อมปลุกภาพม้วนขุนเขาและท้องทะเลให้ตื่นขึ้นมา มันเองก็ไม่พูดเหตุผลกับผีสางวิญญาณชั่ว เมื่อปรากฏตัวขึ้นก็มีเพียงกำราบเท่านั้น!
“!”
พลังขุนเขาและท้องทะเลอันลึกลับและเก่าแก่ก็เผชิญหน้ากับฮ่องเต้หยวนคังและปกคลุมตัวเขาไว้ ทำให้การจู่โจมทั้งหมดที่ระเบิดออกมาสลายสิ้น ไม่เพียงเท่านี้…
ครืน!
กลิ่นอายปราบมารอันเผด็จการของภาพม้วนขุนเขาและท้องทะเลยังบดขยี้ฮ่องเต้หยวนคังอย่างรุนแรง!
ครานี้เอง…
“สมน้ำหน้า!”
“ปฐมราชินีสุดยอด!”
“จัดการเศษสวะนี่ซะ!”
เสียงกู่ร้องของอินสวินอี้และต้าเหมา ทำให้เหล่า ‘ผู้ชม’ เคลื่อนไหวตาม
ทุกคนต่างมองไปบนท้องฟ้าและเพิ่งรู้ว่าที่อีอิ่นจี้จิ่วพาสำนักศึกษามาโยวตูคงเป็นเพราะภาพม้วนขุนเขาและท้องทะเลนี่เอง! สุดยอดไปเลย!
แต่แล้ว…
“ไสหัวไปซะ!”
ฮ่องเต้หยวนคังที่คำรามเสียงดังกึกก้องไปทั่วท้องนภาก็ชูลูกแก้วสีม่วงหม่นลูกหนึ่งออกมา เมื่อมันปรากฏขึ้น กลิ่นอายภาพม้วนขุนเขาและท้องทะเลก็มลายหายไปในทันที เพราะว่าในลูกแก้วลูกนั้นมีกลิ่นอายของปฐมราชินีแห่งศักราชหยวนชู
ครานี้เอง…
“เกิดอะไรขึ้น” อินสวินอี้งงงัน
ฮ่องเต้หยวนคังกลับหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง “ฮ่าๆๆ! พวกเจ้าคิดว่าไอ้ของเล่นนี่จะจัดการเราได้รึ ฮึ! เราเป็นเทพสวรรค์ประทาน กษัตริย์แห่งต้าซย่า เราต้องการให้พวกเจ้าตาย พวกเจ้าก็ต้องตาย! จงตายซะเถอะ!”
ฮ่องเต้หยวนคังที่รอบกายแผ่ซ่านแสงสีเลือดอันคลุ้มคลั่งโถมเข้าใส่สำนักศึกษาทันที! อีกเพียงนิดก็จะทำลายร่างเสมือนที่อีอิ่นแปลงตัวมาแล้ว แต่ในชั่วพริบตานั้น…
“ข้าต้องการให้เจ้าตาย! เจ้าต่างหากที่ต้องตาย!” เสียงไพเราะที่เต็มไปด้วยอารมณ์เดือดดาลดังขึ้นจากทางทิศใต้! ดังลงมาเหนือเมืองโยวตู “ผนึกขุนเขาและท้องทะเล!”