เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 2391 มุมถนน / ตอนที่ 2392 ไม่ใช่เรื่องของพวกข้า
ตอนที่ 2391 มุมถนน
บรรพจารย์ตระกูลหลัวไม่ได้รั้ง เพียงออกไปส่งแขกด้วยตนเอง หลังจากพวกเขาหายลับไปจากครรลองสายตา เขาพ่นหายใจเบาๆ รู้สึกเหมือนย้ายก้อนหินก้อนใหญ่ออกจากอก
ยังไม่พูดถึงตาแก่ฮุ่นหยวนจื่อนั่น แค่เจ้าหนุ่มที่ชื่อเฟิ่งจิ่วนั่นก็มีพลังลึกล้ำยากหยั่งถึง จนตระกูลหลัวของพวกเขาไม่มีปัญญามีเรื่องด้วยแล้ว ตอนนี้เสียแค่ยาทิพย์หายากไปสิบกว่าต้นก็ส่งคนออกไปได้แล้ว อย่างไรก็ดีกว่าสร้างหายนะให้คนทั้งตระกูลต้องเดือดร้อนเป็นไหนๆ
อาวุโสใหญ่ที่เดินตามอยู่ข้างๆ ถอนหายใจ ถามว่า “ท่านบรรพจารย์รู้จักพวกเขาสามคนหรือ”
บรรพจารย์ตระกูลหลัวเหล่มองเขาแวบหนึ่ง ตอบเสียงขรึมว่า “สามคนนี้ล้วนไม่ควรมีเรื่องด้วย เทียบกับตาแก่นั่น เจ้าหนุ่มที่ชื่อเฟิ่งจิ่วต่างหากคือคนที่มีพลังลึกล้ำยากคาดเดา”
เขาหยุดพูดไปครู่หนึ่ง จ้องอาวุโสใหญ่ ตำหนิว่า “ท่านที่เป็นถึงผู้อาวุโสใหญ่ของตระกูลหลัว เขาทำผิดท่านก็ไม่ห้ามสักหน่อย ท่านรู้หรือไม่ เรื่องนี้หากจัดการไม่เหมาะสม แค่เจ้าหนุ่มที่ชื่อเฟิ่งจิ่วก็สามารถทำลายเราทั้งตระกูลได้แล้ว”
อาวุโสใหญ่ฟังจบก็ตื่นตะลึง สีหน้าซีดเผือดขึ้นมาทันที “เจ้าหนุ่มนั่น เขาร้ายกาจขนาดนั้นจริงหรือ”
“พลังอยู่เหนือกว่าข้าแน่นอน” บรรพจารย์ตระกูลหลัวเอ่ยเสียงขรึม จากนั้นก็ไม่พูดอะไรอีก เพียงเอามือไขว้หลังเดินไป
ส่วนผู้อาวุโสใหญ่ที่ได้ยินเขาพูดอย่างนั้น รู้สึกเพียงหลังชุ่มไปด้วยเหงื่อ ในใจเกิดคลื่นความกลัว…
ในอีกด้านหนึ่ง พวกเฟิ่งจิ่วหลังจากที่ออกมาจากตระกูลหลัว ค้างคืนในป่าหนึ่งคืน เช้าตรู่วันต่อมาเมื่อฟ้าสาง พวกเขาก็ขี่กระบี่บินไปจากพื้นที่บริเวณนี้ มุ่งหน้ากลับบ้าน
หัวค่ำของวันนี้ พวกเขามาถึงเมืองเล็กๆ เมืองหนึ่ง ตั้งใจจะหาที่พัก หลังจากเข้ามาในเมือง เฟิ่งจิ่วเอ่ยกับทั้งสองว่า “พวกท่านไปหาโรงเตี๊ยมก่อน ข้าไปดูในตลาดหน่อยว่าพอจะมีอะไรที่ห้าวเอ๋อร์กินได้บ้างหรือไม่”
“ได้ พวกข้าเลือกที่ใกล้ที่นี่ที่สุดก็แล้วกัน เจ้าเสร็จแล้วก็ตามมา” ตาเฒ่าว่า ก่อนจะเดินไปที่โรงเตี๊ยมพร้อมกับจัวจวินเยวี่ย
เฟิ่งจิ่วที่อุ้มเด็กทารกเดินไปทางตลาดดึงดูดสายตาสงสัยจากผู้คนรอบข้างไม่น้อย ในสถานที่นี้ ชายหนุ่มอุ้มเด็กทารกออกจากบ้านนั้นค่อนข้างพบเห็นได้น้อย โดยเฉพาะยังเป็นผู้ชายที่สวยกว่าผู้หญิงหลายส่วนอย่างนี้แล้วด้วย
“เจ้าว่าผู้ชายคนนี้เป็นผู้หญิงที่แต่งตัวเป็นผู้ชาย? มีชายชาตรีที่ไหนหน้าตางดงามเช่นนี้ ซ้ำยังอุ้มเด็กทารกด้วย!”
“ดูแล้วก็เหมือนมาก หน้าตาอย่างนั้น ขนาดผู้หญิงก็ยังหาได้ยาก ยิ่งไม่ต้องพูดถึงผู้ชาย”
คนบนถนนบางคนพูดคุยถกเถียงกัน ยังมีชายฉกรรจ์บางคนตรงมุมถนนที่จ้องมองเฟิ่งจิ่วในชุดเขียวที่อุ้มเด็กทารกไว้ ชายฉกรรจ์เหล่านั้นมือหนึ่งยกขึ้นลูบคาง ใช้สายตาต่ำช้าจ้องเรือนร่างของเธอ
เฟิ่งจิ่วซื้อของว่างจำนวนหนึ่งในตลาด แล้วก็เห็นมีคนจูงแกะนมกำลังบีบนมอยู่ จึงเข้าไปซื้อนมแกะที่บีบจากเต้าสดๆ มาอีก จากนั้นก็มาซื้อเสื้อผ้าไว้ให้เด็กทารกเปลี่ยนใส่สิบกว่าชุดที่ร้านตัดเย็บเสื้อผ้า
หลังจากเก็บของใส่ห้วงมิติหมดแล้ว เธอเดินเลี้ยวตรงมุมถนน ตั้งใจจะเดินไปที่โรงเตี๊ยมแห่งนั้น ทว่ากลับเห็นนักเลงหัวไม้กลุ่มที่อยู่ในตรอกขวางหน้าเธอ แล้วยังจ้องมองเธอด้วยสายตามิดีมิร้าย
“พี่ใหญ่ เจ้าหนูนี่หน้าตาดีขนาดนี้ คงเป็นผู้หญิงกระมัง” นักเลงคนหนึ่งถามคนที่อยู่ข้างหน้า
“ฮะ อยากรู้ว่าเป็นผู้ชายหรือผู้หญิงจะยากอะไร? จับมันมาแก้เสื้อผ้าดูก็รู้แล้วไม่ใช่หรือ” หัวหน้านักเลงที่เป็นชายฉกรรจ์ยิ้มอย่างชั่วร้าย เอ่ยอีกว่า “แต่แค่หน้าตาของเจ้านี่ ไม่ว่าจะเป็นชายหรือหญิง อย่างไรก็ต้องได้ราคางามแน่ๆ”
เฟิ่งจิ่วยักคิ้วเล็กน้อย สาวเท้าเดินไปข้างหน้า ไม่ได้ทำอะไรแต่อย่างใด เพียงปลดปล่อยแรงกดดันอันทรงพลังในร่างกายออกไป…
………………………………….
ตอนที่ 2392 ไม่ใช่เรื่องของพวกข้า
คนพวกนั้นที่ตอนแรกใบหน้ายังมีรอยยิ้มชั่วร้าย นาทีที่ถูกแรงกดดันแผ่ปกคลุม ร่างกายของพวกเขาแข็งทื่อ คุกเข่าลงไปอย่างแรง สีหน้าซีดเผือด ดวงตาเบิกกว้างเพราะความหวาดกลัว เหงื่อขนาดเท่าเม็ดถั่วผุดเต็มหน้าผากไหลลงไปเป็นทาง
พวกเขามองดูเด็กหนุ่มคนนั้นอุ้มเด็กทารกสาวเดินผ่านพวกเขาไปด้วยฝีเท้ามั่นคง กระทั่งไม่พูดอะไรแม้แต่คำเดียว แต่พวกเขากลับสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายแห่งความตาย…
จนกระทั่ง ขณะที่เงาร่างนั้นเดินผ่านพวกเขาไป พวกเขาสัมผัสได้ถึงเลือดในร่างกายที่ตีขึ้นมาบนลำคอ จากนั้นก็กระอักออกจากปาก ก่อนจะล้มลงไปทีละคน
เฟิ่งจิ่วที่มาถึงโรงเตี๊ยมแล้วเห็นตาเฒ่ากับจัวจวินเยวี่ยต่างก็นั่งอยู่ที่โต๊ะชิดมุมในชั้นหนึ่ง จึงเดินไปหา จากนั้นก็หยิบขนมแป้งทอดหอมออกมาวางบนโต๊ะ
“เมื่อกี้ซื้อตอนขากลับมา ชิมดู รสชาติไม่เลวทีเดียว”
ทั้งสองกำลังดื่มชา เห็นเธอหยิบขนมแป้งทอดออกมา จึงหยิบไปกินหนึ่งชิ้น ตาเฒ่าถามขึ้น “หาของให้เด็กกินได้หรือไม่”
“อืม ซื้อนมแพะมาบ้างแล้ว” เธอตอบ ก่อนถามทั้งสองว่า “พวกท่านสั่งอาหารหรือยัง จองห้องพักแล้วหรือ”
“ห้องยังไม่ได้จอง พวกข้าเพิ่งขึ้นไปดู โรงเตี๊ยมแห่งนี้ค่อนข้างเล็ก ข้างบนล้วนมีคนเข้าพักแล้ว นั่งรอตรงนี้ก็เพราะจะรอเจ้ากลับมาแล้วค่อยไปดูที่อื่น อาหารนั้นสั่งอาหารขึ้นชื่อไปสองสามอย่างแล้ว แต่ไม่มีอะไรที่เด็กกินได้เลย”
เฟิ่งจิ่วพยักหน้า เรียกเสี่ยวเอ้อร์มา พลางหยิบนมแกะขวดหนึ่งออกมา
“คุณชาย ไม่ทราบมีอะไรให้รับใช้หรือ” เสี่ยวเอ้อร์เดินเข้ามาพร้อมกับใบหน้าประดับรอยยิ้ม พลางรินน้ำชาให้เฟิ่งจิ่ว
“เอานมแกะขวดนี้ไปต้มในห้องครัวของพวกเจ้าที” เธอพลิกฝ่ามือ วางเศษเงินลงบนมือของเสี่ยวเอ้อร์ “นี่ให้เจ้า”
เสี่ยวเอ้อร์เห็นดังนั้นก็ยิ้มจนตาเป็นเส้นตรง รีบพยักหน้ารับ “ข้าน้อยจะรีบไปเดี๋ยวนี้” เขาเอ่ย เก็บเงินใส่อกเสื้อ ก่อนจะเอานมแกะเดินไปที่ห้องครัว
“พอกลับไป เจ้าก็พาน้องชายของเจ้าไปหาข้าก็แล้วกัน! ที่บ้านข้ามีห้องพัก ให้เขาพักที่นั่นได้ ข้าจะได้รักษาเขาได้อย่างสะดวกด้วย” เฟิ่งจิ่วกล่าวกับจัวจวินเยวี่ย
“ได้” เขาพยักหน้ารับ มองหน้าเธอ เอ่ยว่า “ขอบคุณมาก”
“ข้าเองก็ไม่ได้เห็นพวกเจ้าเป็นคนนอก คำพูดขอบคุณก็ไม่ต้องพูดบ่อยนักหรอก” เธอยิ้ม ยกชาขึ้นจิบคำหนึ่ง ก็ได้ยินตาเฒ่าพูดกลั้วหัวเราะ
“อยู่ที่นี่จะดื่มชาอะไรกัน! ให้พวกเขาเอาเหล้ามา พวกเรามาดื่มดีๆ กันสักหน่อย” เขาเอ่ยอย่างกระตือรือร้น กวักมือเรียกเสี่ยวเอ้อร์
ไม่นาน สุราอาหารถูกยกมาพร้อมกัน แม้แต่นมแพะร้อนก็ถูกยกมาด้วย เฟิ่งจิ่วป้อนเด็กก่อน จากนั้นก็ให้เสี่ยวเอ้อร์ยกเก้าอี้สองตัวมาวางต่อกัน แล้ววางเด็กให้นอนบนเก้าอี้
พวกเขานั่งกินข้าวและพูดคุยสัพเพเหระกันอยู่ที่นี่ครู่หนึ่ง กระทั่งฟ้าเริ่มมืด พวกเขาจึงค่อยไปหาโรงเตี๊ยมในเมืองเพื่อพักผ่อน ทว่าหลังเวลาเที่ยงคืน ทั้งสามคนในห้องที่กำลังหลับสบายกลับได้ยินเสียงเคลื่อนไหวที่ไม่ค่อยปกติดังมารางๆ
เฟิ่งจิ่วกับห้าวเอ๋อร์นอนห้องเดียวกัน ตาเฒ่ากับจัวจวินเยวี่ยนอนห้องเดียวกัน พอได้ยินเสียง จัวจวินเยวี่ยจึงถาม “ออกไปดูหน่อยหรือไม่”
ตาเฒ่านอนอยู่บนเตียงด้านขวา ได้ยินจัวจวินเยวี่ยถาม เขาพลิกตัวโดยไม่ลืมตา ตอบว่า “เจ้าคิดว่านางเหมือนเจ้าหรือ ที่ปกป้องไม่ได้แม้กระทั่งตนเอง? นอนเถอะ! ถึงอย่างไรคนพวกนั้นก็ไม่ได้มาหาพวกเรา ไม่ต้องยุ่งไม่เข้าเรื่อง”
จัวจวินเยวี่ยชะงักไปเล็กน้อย ดึงผ้าห่มขึ้นสูง เพียงแต่ ขณะฟังเสียงเคลื่อนไหวนั้น กลับนอนไม่หลับ
………………………………….