เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 2381 การประลองแรก / ตอนที่ 2382 แพ้แล้ว
ตอนที่ 2381 การประลองแรก
“จะชายหรือหญิงก็ช่างเขา เอาเป็นว่าหากขึ้นไปสู้แล้วก็จงหักแขนขาของพวกเขาเสีย! สั่งสอนพวกเขาให้เข็ดหลาบ! ไม่อย่างนั้นคงคิดว่าคนของตระกูลหลัวรังแกง่ายแล้วจริงๆ!”
ผู้นำตระกูลหลัวแค่นเสียง สายตาคมปลาบจวัดมองไปที่พวกเฟิ่งจิ่วอย่างโหดเหี้ยม หากไม่ใช่การปรากฏตัวอย่างกะทันหันของพวกนั้น ตระกูลหลัวคงไม่ต้องขายหน้า ตอนนี้มีโอกาสได้สั่งสอนพวกนั้นอย่างเปิดเผยโจ่งแจ้งแล้ว เขาย่อมไม่มีทางปล่อยไปแน่!
ห่างออกไปไม่ไกล พวกเฟิ่งจิ่วที่ได้ยินบทสนทนาของพวกเขาสายตาไหวระริก ชำเลืองมองผู้นำตระกูลหลัวแวบหนึ่ง
เฟิ่งจิ่วอุ้มเด็ก หยักยิ้มมุมปาก เอ่ยว่า “ใช่! ข้าเองก็อยากสั่งสอนพวกเขาดีๆ สักครั้ง ไม่อย่างนั้น คงคิดว่าพวกเราหมิ่นเกียรติกันได้ง่ายๆ”
“เหอะ! อย่างนั้นพวกเจ้าก็ต้องมีปัญญานั้นด้วย!” ผู้นำตระกูลหลัวได้ยินคำพูดของเฟิ่งจิ่ว ตวัดมองเธอด้วยสายตาเย็นชา จากนั้นก็โบกมือสั่งให้คนเตรียมพร้อม
สถานที่ประลองมีพร้อมแล้ว ฝูงชนรอบๆ ล้วนยืนดูอยู่ด้านหนึ่ง พร้อมกับเสียงวิพากษ์วิจารณ์
เมื่อพวกเฟิ่งจิ่วก้าวออกมา รวมถึงกลุ่มของคนตระกูลหลัว ผู้นำตระกูลเร้นลับเหล่านั้นจึงถาม “ตาแรก พวกเจ้าจะให้ใครประลองก่อน”
คนของตระกูลหลัวมองพวกเฟิ่งจิ่ว คล้ายกำลังรอให้พวกเขาส่งคนออกมาก่อน
เฟิ่งจิ่วกับตาเฒ่ามองหน้ากันแวบหนึ่ง ก่อนจะหันไปมองจัวจวินเยวี่ยที่กำลังทำหน้าเครียดอย่างพร้อมเพรียง ตาเฒ่าฉีกยิ้ม สายตาปราดเปรื่องแฝงประกายดีใจ เอ่ยอย่างแฝงความหมาย “เจ้าท่อนไม้ เจ้าไปก่อนก็แล้วกัน!”
เห็นทั้งสองคนหันมามองที่เขาเป็นตาเดียว จัวจวินเยวี่ยมุมปากกระตุก สองคนนี้เห็นพ้องต้องกันแล้วว่าเขาจะต้องแพ้อย่างแน่นอน พอดูพวกเขามองออก ก็ให้รู้สึกอัดอั้นตันใจจริงๆ แต่พลังของเขาก็ดันต่ำที่สุดในหมู่พวกเขาสามคนจริงๆ
ด้วยเหตุนี้ เขาถอนหายใจอย่างไร้เสียง ก่อนจะพยักหน้าให้พวกเขาสองคนเล็กน้อย เดินเข้าไปในสนามประลอง
ครั้นเห็นว่าพวกเขาส่งจัวจวินเยวี่ยออกมาประลองก่อน ประกายมุ่งมาดหมายเอาชนะพาดผ่านดวงตาของผู้นำตระกูลหลัว เขาหันไปมองทางผู้อาวุโสใหญ่ พยักหน้าเล็กน้อย ผู้อาวุโสใหญ่ก้าวออกมา เดินมายืนอยู่กลางสนามประลองเช่นกัน
พลังของทั้งสองสูสีกัน แม้ไม่ต้องสู้กัน ก็เดาได้แล้วว่าใครจะเป็นฝ่ายชนะ ด้วยเหตุนี้ ผู้คนรอบข้างเมื่อเห็นภาพนี้ แววตาล้วนดูแปลกๆ
เหล่าผู้นำตระกูลเร้นลับมองหน้ากันแวบหนึ่ง ปรึกษากันเล็กน้อย ก่อนที่หนึ่งในนั้นจะก้าวออกมา เสียงทุ้มต่ำแฝงกลิ่นอายพลังวิญญาณกระจายออกมา “จุดประลองสิ้นสุดตรงนี้ ห้ามทำร้ายจนถึงแก่ชีวิตของอีกฝ่าย ใครที่ออกจากวงกลมนี้ถือเป็นผู้แพ้ ตอนนี้ เริ่มการประลองครั้งที่หนึ่งได้!”
สองคนในสนามเมื่อสิ้นสุดเสียงประกาศ ต่างก็ประสานมือคารวะให้กัน ก่อนที่จะโจมตีอีกฝ่ายในพริบตา แม้จัวจวินเยวี่ยจะรู้ดีว่าตนเองไม่มีทางเอาชนะผู้อาวุโสใหญ่ของตระกูลหลัวได้ แต่เขาก็สู้ด้วยความสามารถทั้งหมดที่มี
พลังของเขาเดิมก็ไม่เลวอยู่แล้ว ไม่อย่างนั้นคงไม่ถูกใจคนของตระกูลหลัวแต่แรก ยิ่งไม่มีทางจะส่งผู้อาวุใสใหญ่ของตระกูลหลัวออกมาสู้กับเขาอย่างนี้แน่ กอปรกับการต่อสู้ครั้งนี้เขาไม่ได้ทำอย่างขอไปที ผู้อาวุโสใหญ่ของตระกูลหลัวแม้จะดุดันทุกกระบวนท่า แต่กลับยากที่จะล้มเขาได้ในเวลาสั้นๆ
มองดูการประลองของทั้งสองคนในสนาม ฝีมือของจัวจวินเยวี่ยนั้นไม่ว่าจะเป็นคนของตระกูลหลัวหรือคนของตระกูลเร้นลับพวกนั้น ต่างก็เป็นที่ยอมรับอย่างไร้เสียง
อายุเท่านี้ก็มีฝีมือขนาดนี้แล้ว ไม่ธรรมดาจริงๆ ไม่น่าเล่าคนของตระกูลหลัวถึงได้ถูกใจผู้ชายคนนี้ อยากได้เขาเป็นเขย แต่น่าเสียดาย จัวจวินเยวี่ยผู้นี้กลับไม่ชอบลูกสาวของตระกูลหลัว
………………………………….
ตอนที่ 2382 แพ้แล้ว
การประลองของสองคนในสนามทำให้บรรยากาศรอบๆ เต็มไปด้วยกลิ่นอายพลังวิญญาณและแรงกดดัน ผู้นำตระกูลเร้นลับหลายคนรู้สึกได้ว่าบรรดาลูกศิษย์ในตระกูลที่ยืนอยู่ข้างหลังกำลังทรมานเพราะแรงกดดันอันแข็งแกร่งขุมนั้น จึงรีบโบกมือเพื่อปัดป้องแรงกดดันอันแข็งแกร่งออกไป
เห็นทั้งสองคนยิ่งสู้ยิ่งดุเดือด พวกเขาอดมองหน้ากันไม่ได้ แม้พลังฝีมือของจัวจวินเยวี่ยจะแข็งแกร่งมาก แต่เมื่อสู้กันนานเข้าก็เริ่มค่อยๆ กลายเป็นฝ่ายเสียเปรียบแล้ว ส่วนการโจมตีของผู้อาวุโสใหญ่ของตระกูลหลัวกลับยิ่งดุดันขึ้นเรื่อยๆ เหมือนต้องการจะทำให้เขาบาดเจ็บเพื่อระบายความโกรธเหมือนที่ผู้นำตระกูลหลัวพูดจริงๆ ด้วยเหตุนี้ เขาจึงลงมือดุดันรุนแรง ทำให้พวกเขาเห็นแล้วก็อดกลั้นหายใจไม่ได้
คุณชายใหญ่และคุณชายรองตระกูลหลัวเห็นก็อดเป็นห่วงไม่ได้ ดูท่าท่านพ่อของพวกเขาตั้งใจจะสั่งสอนพวกนั้นในการประลองกำลังจริงๆ ไม่อย่างนั้นผู้อาวุโสใหญ่คงไม่ได้รับคำสั่งให้ออกหน้า ซ้ำยังโจมตีอย่างดุดันทุกกระบวนท่าเช่นนี้
เพียงแต่ ในสายตาของพวกเขาสองคน วิธีการเช่นนี้กลับเป็นการทำเกินไป เพราะอย่างไรพวกจัวจวินเยวี่ยก็ไม่ได้ทำเรื่องที่ไม่อาจให้อภัยได้ หากเพียงเพื่อต้องการระบายความโกรธแล้วจะทำร้ายคนอื่น นี่ออกจะ…
นึกถึงตรงนี้ ทั้งสองมองหน้ากันแวบหนึ่ง เดินมาเกลี้ยกล่อมข้างกายท่านพ่อของพวกเขา “ท่านพ่อ แค่ตัดสินแพ้ชนะก็พอ สั่งให้ผู้อาวุโสใหญ่ออมมือเถอะ! ไม่ว่าเรื่องใดล้วนเหลือหนทางไว้บ้าง นี่ล้วนเป็นเรื่องดีต่อทุกฝ่าย”
“เรื่องนี้พวกเจ้าสองคนไม่ต้องยุ่ง พ่อรู้ตัวว่ากำลังทำอะไรอยู่!” ผู้นำตระกูลหลัวเอ่ยเสียงเข้ม ตวัดสายตาตักเตือนมาทางพวกเขา
“ท่านพ่อ…” คุณชายใหญ่ตระกูลหลัวยังอยากเกลี้ยกล่อม แต่กลับถูกผู้อาวุโสสองคนที่ยืนอยู่ด้านหนึ่งดึงออกไป
“คุณชายใหญ่ ท่านผู้นำตระกูลย่อมรู้ตัวดีว่ากำลังทำสิ่งใดอยู่ เรื่องแต่งงานล้มเหลวทำให้ตระกูลหลัวของเราอับอายขายหน้า หนำซ้ำสองคนนั้นยังบุกเข้ามาในจวนของเรา ว่าด้วยทั้งเหตุและผล พวกเราล้วนสมควรให้บทเรียนพวกเขา” ผู้อาวุโสคนหนึ่งอธิบาย พยักหน้าเป็นเชิงบอกพวกเขาสองคนว่าไม่ต้องพูดอีกแล้ว
คุณชายใหญ่ตระกูลหลัวได้แต่ถอนหายใจ ส่ายหน้า ไม่พูดอะไรอีก
ทางนั้น เฟิ่งจิ่วล้วนได้ยินที่พวกเขาคุยกัน เพียงหันไปมองคุณชายใหญ่ตระกูลหลัวแวบหนึ่งแล้วก็ละสายตาออกไป เธอหันไปมองจัวจวินเยวี่ย ขณะที่เขาหลบฝ่ามือที่ซัดออกมาของผู้อาวุโสใหญ่ ร่างกายถอยไปข้างหลัง หมุนกลางอากาศหนึ่งรอบ จากนั้นก็ทิ้งตัวลงยืนบนพื้นนอกวงกลม
ขณะที่ผู้อาวุโสใหญ่ของตระกูลหลัวหมายจะฉวยโอกาสไล่บี้เขา กลับเห็นเขายืนอยู่นอกวงกลมแล้ว พริบตานั้น เขาชะงักงันเล็กน้อย ขมวดคิ้วมองจัวจวินเยวี่ย ก่อนจะละมือแล้วถอยกลับไป
สีหน้าของเขาหมือนเจ็บใจที่ไม่ได้ทำให้จัวจวินเยวี่ยพ่ายแพ้และบาดเจ็บสาหัส
ผู้นำตระกูลหลัวที่นั่งดูอยู่สีหน้าขรึมลง ชำเลืองมองจัวจวินเยวี่ยแวบหนึ่ง เม้มปากเก็บซ่อนสายตาเยือกเย็นกลับไป
คุณชายใหญ่ตระกูลหลัวลอบถอนหายใจ ส่วนคุณหนูสี่ตระกูลหลัวคนนั้นแอบดูอยู่ไกลๆ ไม่ได้ออกมา เห็นเขาไม่ได้บาดเจ็บ ก็ลอบถอนหายใจด้วยเช่นกัน หัวใจที่หดเกร็งผ่อนคลายลงในที่สุด
นางมองจัวจวินเยวี่ยที่ยืนอยู่นอกวงกลมด้วยสายตาเหม่อลอย มองดูใบหน้าเย็นชาไร้อารมณ์ของเขา ในใจอดอาลัยอาวรณ์และลุ่มหลงไม่ได้
ตั้งแต่ครั้งแรกที่นางได้พบเขา แม้แต่คนรุ่นหลังทั้งหมดในตระกูลหลัวของนางก็ยังไม่มีใครโดดเด่นเท่าเขา ไม่ใช่แค่ตระกูลหลัวของนางเท่านั้น แม้แต่ท่ามกลางคนในตระกูลเร้นลับที่เหลือก็ยังไม่มีชายหนุ่มคนใดเทียบกับเขาได้
โดยเฉพาะเมื่อได้เห็นท่วงท่าอันสง่างามของเขายามประมือกับผู้อาวุโสใหญ่ ยิ่งทำให้นางลุ่มหลงเขาอย่างไม่อาจถอนตัว ปล่อยให้เขาจากไปเช่นนี้ นางรู้สึกไม่จำยอมเลยจริงๆ
………………………………….