เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 2379 ชนะสองในสามตา / ตอนที่ 2380 แยกชายหญิงไม่ออก
ตอนที่ 2379 ชนะสองในสามตา
ผู้นำตระกูลหลัวตกตะลึง ร้องเสียงต่ำ “จะเป็นไปได้อย่างไร? พลังของคนที่ข้าส่งไป นับว่าเป็นอันดับต้นๆ ของยุทธภพเราเลยทีเดียวนะ!”
“ท่านพ่อ จัวจวินเยวี่ยเป็นอย่างไรยังไม่ต้องพูดถึง แค่ชายชราคนนั้น พลังของเขาเราไม่อาจต่อกรได้อย่างแน่นอน พวกเขาสองคนกล้ามาตระกูลหลัวของเราอย่างนี้ เห็นได้ว่าไม่ใช่คนธรรมดา พฤติกรรมและคำพูดของพวกเขา ล้วนบ่งบอกแล้วว่าพวกเขาไม่ธรรมดา ฉวยโอกาสตอนที่ยังไม่สายเกินไป รีบถอยเถอะ! จะได้ไม่เสียใจภายหลัง”
“เหลวไหล! ก็แค่ตาแก่คนหนึ่งเท่านั้น คิดว่าตระกูลหลัวเราไร้ความสามารถจริงๆ อย่างนั้นหรือ? ในเมื่อเป็นอย่างนี้ อย่างนั้นข้าก็จะไปสั่งสอนเขาด้วยตนเอง!” เขาแค่นเสียง สะบัดแขนเสื้อ สาวเท้าก้าวใหญ่ๆ เดินออกไป แม้แต่คุณชายใหญ่ก็ยังห้ามไม่ทัน ทำได้เพียงถอนหายใจ และรีบเดินตามไป
อาจเพราะผู้นำตระกูลหลัวโกรธแล้วจริงๆ เขาออกไปก็พาคนรุ่นใหญ่ที่มีพลังระดับสูง รวมถึงอาวุโสทุกคนออกไปพร้อมกันด้วย
คนยี่สิบกว่าคนมุ่งหน้าไปยังเรือนหน้า เหล่าตระกูลเร้นลับและหัวหน้าตระกูลเหล่านั้นที่มาเป็นแขกของตระกูลหลัวต่างก็ทยอยมามุงทางนี้เช่นกัน
“สหายหลัว นี่มันเกิดเรื่องอะไรขึ้น?” หัวหน้าตระกูลเร้นลับผู้หนึ่งเอ่ยถาม มองเหตุการณ์ตรงหน้าด้วยสายตาสงสัย
“พวกไม่มีตาเหล่านี้ กล้ามาก่อเรื่องในตระกูลหลัวของข้า ไม่สั่งสอนพวกเขาเสียบ้าง คงคิดว่าตระกูลหลัวของพวกเข้าเป็นพวกอ่อนหัดที่ใครจะมารังแกก็ได้แล้วจริงๆ”
ได้ยินอย่างนั้น ผู้นำตระกูลเร้นลับหลายคนมองหน้ากันแวบหนึ่ง ไม่พูดอะไรสักคำ เพียงถอยออกไปยืนด้านหนึ่ง ยืนมองเงียบๆ
ส่วนลูกศิษย์ในตระกูลของพวกเขา กลับยืนดูอยู่ไกลๆ พลางกระซิบกระซาบกันไปด้วย
“โอ้ คึกคักไม่เบาเลยนี่นา! นี่จะทำอะไร? คิดจะใช้คนหมู่มากรังแกคนหมู่น้อยงั้นหรือ?” ตาเฒ่าพูดจาถาถถาง กวาดมองคนรอบๆ แวบหนึ่ง สุดท้ายก็หันมาหยุดมองที่ผู้นำตระกูลหลัว
ฟังคำพูดของตาเฒ่า สีหน้าของคนในตระกูลหลัวหลายคนกลับดูไม่ค่อยดีนัก พวกเขาเป็นคนระดับอาวุโสของตระกูลเร้นลับตระกูลหนึ่ง ตอนนี้กลับมายืนล้อมคนสามคนด้วยคนจำนวนมากขนาดนี้ และในสามคนนี้ก็มีเพียงชายชราคนเดียวที่มีพลังลึกล้ำยากหยั่งถึง
อีกคนยังเกือบจะกลายเป็นเขยของตระกูลหลัวของพวกเขา ตอนนี้กลับจะเล่นงานพวกเขา พูดอย่างไรก็ดูออกจะเกินไปหน่อย ด้วยเหตุนี้ พวกเขาจึงหันไปมองผู้นำตระกูลหลัว ส่งสายตาถามอย่างไร้เสียง
ผู้นำตระกูลหลัวนึกไม่ถึงว่าเหล่าคนรุ่นหลังของตระกูลเร้นลับพวกนั้นจะมาด้วย ซ้ำยังยืนดูอยู่จากที่ไกลๆ ด้วย
เห็นอย่างนั้น เขาครุ่นคิดเล็กน้อย ก่อนจะแค่นเสียงใส่ตาเฒ่า “อย่าหาว่าตระกูลหลัวของพวกเราใช้คนหมู่มากรังแกคนหมู่น้อย พวกเจ้าต้องการสมุนไพรพวกนั้นไม่ใช่หรือ? ได้ พวกข้าจะให้โอกาสพวกเจ้า สู้กันหนึ่งต่อหนึ่ง ชนะสองสาม ขอเพียงพวกเจ้าเอาชนะคนตระกูลหลัวของเราได้ อย่าว่าแต่สมุนไพรแค่ไม่กี่ต้นพวกนั้นเลย พวกเจ้าสามารถเลือกยาทิพย์อะไรก็ได้จากสวนของพวกเราสิบอย่าง และยังจะขอโทษพวกเจ้าต่อหน้าทุกคนด้วย!”
ได้ฟังอย่างนั้น สายตาของคนในตระกูลหลัวต่างจ้องพิจารณาไปที่พวกเฟิ่งจิ่ว รู้สึกว่าวิธีการเอาชนะสองในสามของผู้นำตระกูลนับว่ายอดเยี่ยม สามคนนี้แม้ว่าชายชราจะชนะ แต่พลังของอีกสองคนต้องสู้คนของตระกูลหลัวไม่ได้แน่ เมื่อถึงตอนนั้นในการต่อสู้สามครั้ง ตระกูลหลัวของพวกเขาชนะสองครั้ง ย่อมนับว่าชนะแล้วแน่นอน
ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีคนของตระกูลเร้นลับตระกูลอื่นดูอยู่ด้วย นี่ไม่เพียงเป็นเรื่องของหน้าตา แต่ยังเป็นเรื่องของเกียรติยศอีกด้วย
………………………………….
ตอนที่ 2380 แยกชายหญิงไม่ออก
จัวจวินเยวี่ยที่ได้ยินอย่างนั้นมีประกายแปลกๆ พาดผ่านดวงตา เขามองคนของตระกูลหลัวแวบหนึ่ง ก่อนจะหันไปมองตาเฒ่าที่กำลังใช้มือหนึ่งลูบหนวดและเฟิ่งจิ่วที่ทำหน้าเหมือนกำลังยิ้มเยาะ
จู่ๆ ก็รู้สึกว่า เขามาลำบากอยู่ที่นี่ตั้งนาน ยังถูกคนอื่นเขาขังไว้ไม่ยอมให้ไป จนเกือบได้กลายเป็นเขนของตระกูลหลัว กลับสู้พวกเขาสองคนที่มาทีก็สะดวกและรวดเร็วเช่นนี้ไม่ได้
คนของตระกูลหลัวรู้ระดับพลังของเขา เป็นความจริงที่หากคนในตระกูลหลัวที่มีพลังแข็งแกร่งกว่าเขาออกมาแข่ง เขาไม่มีโอกาสชนะอยู่แล้ว ด้วยเหตุนี้ เขาคือคนที่จะต้องแพ้ในการแข่งขันนี้แน่นอน
ส่วนตาเฒ่ากับเฟิ่งจิ่ว ตาเฒ่านั้นเป็นคนที่พลังลึกล้ำยากหยั่งถึงในสายตาของพวกเขา ส่วนเฟิ่งจิ่วเดาว่าทุกคนคงไม่เห็นนางอยู่ในสายตากระมัง? เพราะอย่างไร นางก็ไม่เคยแสดงพลังออกมาให้ใครเห็นอยู่แล้ว กอปรกับอายุของนางไม่มาก ย่อมไม่มีใครรู้ว่านางต่างหากคือคนที่แข็งแกร่งที่สุด
“เจ้าบอกว่า จะแข่งชนะสองในสามกับพวกข้า?” ตาเฒ่าลูบหนวด คิดว่าฟังผิดไป
“ทำไม? พวกเจ้าไม่กล้าหรือ?” ผู้นำตระกูลหลัวแค่นเสียง มองพวกเขาสามคนด้วยสายตาดูแคลน
ตาเฒ่าได้ฟังก็เหล่มองเขาด้วยสีหน้าแปลกๆ ก่อนจะขยับไปข้างๆ เฟิ่งจิ่ว กระซิบว่า “เขาว่าจะแข่งชนะสองในสามกับพวกเรา ทำไมข้าถึงคิดว่าความคิดนี้ไม่เลวเลยเล่า!”
ยิ่งไปกว่านั้น เขารู้สึกเหมือนกำลังหลอกคนด้วยการแสร้งเป็นหมู เพื่อหลอกกินเสือ นาทีนี้ เขาถึงขั้นรู้สึกเข้าใจความรู้สึกเวลาที่แต่ก่อนเฟิ่งจิ่วมักหลอกคนอยู่บ่อยๆ แล้ว
เขาแทบอดใจไม่ไหวที่จะได้เห็นพวกเขาแพ้ และทำหน้าราวกับไม่อยากเชื่อ
เฟิ่งจิ่วตบหลังทารกในอ้อมแขนเบาๆ มุมปากเผยอยิ้ม สายตาประกายวาบวับจับจ้องไปที่ผู้นำตระกูลหลัว เอ่ยว่า “ข้าก็คิดว่าความคิดนี้ไม่เลวเหมือนกัน รับข้อเสนอได้”
ผู้นำตระกูลหลัวได้ยินก็ตาเป็นประกาย เขาจ้องทั้งสามคนแวบหนึ่ง จากนั้นก็รีบโบกมือ ตะโกนออกคำสั่ง “ดี! ทุกท่านล้วนได้ยินกันถ้วนหน้า ขอให้ทุกท่านร่วมเป็นพยานด้วย!”
เหล่าผู้นำตระกูลเร้นลับที่ยืนอยู่ด้านหนึ่งได้ยินก็มองหน้ากันแวบหนึ่ง ก่อนจะรับคำ “ก็ได้ อย่างนั้นพวกข้าจะเป็นพยานให้ก็แล้วกัน!”
ส่วนเหล่าคนรุ่นหลังของตระกูลเร้นลับพวกนั้นกลับมองพวกเฟิ่งจิ่วสามคนเหมือนกำลังรอดูเรื่องสนุก ในสายตาของพวกเขา นี่เป็นการแข่งขันที่ไม่มีวันชนะ ไม่รู้จริงๆ ว่าเหตุใดสามคนนั้นจึงยอมเข้าร่วมการแข่งที่ไม่ยุติธรรมนี้
“อย่างนั้นก็ขอเชิญทุกท่านไปที่สนามฝึกด้านหลังด้วย” คนของตระกูลหลัวเอ่ยขึ้น เดินนำทางอยู่ข้างหน้า พาทุกคนไปที่สนามฝึก
ผู้นำตระกูลหลัวและอาวุโสทุกคนรวมถึงผู้ดูแลกำลังหารือกันอยู่ด้านหนึ่ง ขณะพูดคุยปรึกษาก็เหลือบมองมาทางพวกเฟิ่งจิ่วเป็นระยะ
“พลังของจัวจวินเยวี่ยไม่ใช่คู่ต่อสู่ของผู้อาวุโสใหญ่ ฉะนั้นก็มอบเขาให้ผู้อาวุโสใหญ่จัดการ ส่วนพลังของชายชราคนนั้น ในเมื่ออย่างไรก็เหนือกว่าพวกเราอยู่แล้ว ก็ให้ผู้ดูแลคนหนึ่งประมือกับเขาก็พอ ไม่ต้องสู้อะไรให้มากมาย ขอเพียงมั่นใจว่าจบการประลองแล้วจะไม่บาดเจ็บก็พอแล้ว”
ผู้นำตระกูลหลัวกำชับเสียงเบา เอ่ยว่า “พวกเราเอาชนะจัวจวินเยวี่ยหนึ่งครั้ง แพ้ชายชราคนนั้นหนึ่งครั้ง อย่างนั้น ขอเพียงเอาชนะผู้หญิงคนนั้นในครั้งสุดท้ายได้ก็พอแล้ว”
ได้ยินอย่างนั้น คุณชายใหญ่ตระกูลหลัวที่ยืนอยู่ด้านหนึ่งถามขึ้นด้วยความลังเล “ท่านพ่อ ผู้ชายชุดเขียวคนนั้นเป็นผู้หญิงจริงหรือ?”
เขาหันไปมองทางที่เฟิ่งจิ่วยืนอยู่ ตอนแรกเขาก็คิดว่าเป็นผู้หญิง เพราะอย่างไรรูปร่างหน้าตาก็โดดเด่นมาก แต่พอได้ยินประโยคย้อนถามของชายชุดเขียวแล้ว เขากลับแยกไม่ออกว่าตกลงเขาเป็นผู้ชายหรือผู้หญิงกันแน่
………………………………….