เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 2307 เปลี่ยนเจ้าของ / ตอนที่ 2308 แปลงโฉม
ตอนที่ 2307 เปลี่ยนเจ้าของ
พริบตาต่อมา คนที่ยังพอมีแรงเหลือต่างหนีเอาตัวรอดไปนอกเมือง บางคนก็ถูกสัตว์ร้ายฉีกทึ้งเขมือบกินเพราะหมดแรง…
เมืองภูเขานิลอันยิ่งใหญ่เมื่อมองลงไปจากข้างบน มีสภาพไม่ต่างจากนรกบนดิน เลือดนองไปทั้งผืน เฟิ่งจิ่วที่อยู่ข้างบนเห็นว่าผู้ฝึกตนข้างล่างไม่มีใครเหลือรอดแม้แต่คนเดียว สัตว์ร้ายพวกนั้นยังคลุ้มคลั่งอยู่ ฉะนั้นจึงเอายาที่เตรียมไว้แต่แรกออกมา กู่เสียงเองก็ได้สติ รีบเอายาออกมาโปรยไปกลางอากาศ…
พวกคนที่เหยียบกระบี่บินยืนดูอยู่เหนือท้องฟ้าต่างก็อึ้งค้าง หากไม่ได้เห็นกับตาคงไม่เชื่อแน่นอน เด็กหนุ่มคนนั้นทำลายเมืองภูเขานิลไปทั้งอย่างนั้น ผู้ฝึกวิชามารนั่นมีวรยุทธ์ถึงระดับผู้อาวุโสเซียนแล้ว หนำซ้ำ เด็กหนุ่มยังเป็นร่างเทพประทับด้วย!
ร่างเทพประทับเป็นอัจฉริยะด้านการฝึกวรยุทธ์ ไม่ว่าอยู่ที่ใดล้วนเป็นบุคคลยอดเยี่ยมหาใครเทียมยาก แต่คนอย่างเขาเหตุใดจึงมาอยู่ในสถานที่เช่นนี้ได้
พวกเขาตื่นตะลึง ไม่กล้ารั้งอยู่ที่นี่ต่อไป ทยอยพากันขี่กระบี่จากไป
อันตรายเกินไปแล้ว ใครจะรู้หากอยู่ดูต่อไปจะถูกฆ่าปิดปากหรือไม่
เฟิ่งจิ่วที่อยู่กลางอากาศเห็นผู้ฝึกตนพวกนั้นจากไปจากที่ไกลๆ นัยน์ตาไหวระริก ดูท่า เธอต้องรีบจัดระเบียบเมืองภูเขานิล สร้างค่ายกลและเขตอาคมคุ้มกันที่นี่ขึ้นมาใหม่ ป้องกันคนอื่นมาโจมตี
เหล่าสัตว์ร้ายที่ตกอยู่ในสภาวะคึกและคลุ้มคลั่งมาเป็นเวลาสองวันหนึ่งคืน ตอนนี้ค่อยๆ นอนหมอบลงไปอย่างอ่อนล้าโรยแรง ราวกับเรี่ยวแรงถูกสูบออกไปจนหมด ไม่มีแม้กระทั่งแรงยืน
เฟิ่งจิ่วหันไปมองกู่เสี่ยง กำชับว่า “เจ้าลองนับจำนวนสัตว์ร้ายพวกนี้ดูว่ายังมีชีวิตอยู่อีกกี่ตัว ข้าไปสร้างค่ายกลคุ้มกันเมืองภูเขานิลใหม่อีกครั้งก่อน”
“ขอรับ!” กู่เสียงรับคำ จากนั้นก็ลงไปข้างล่างเริ่มนับจำนวนสัตว์ร้ายที่ยังมีชีวิตอยู่
ยามหัวค่ำ เฟิ่งจิ่วได้สร้างเขตอาคมและค่ายกลขึ้นมาเพื่อใช้คุ้มกันเมืองภูเขานิลร่วมกันจนเสร็จสิ้น สัตว์ร้ายที่อยู่ในระดับสัตว์เทวะขั้นสุดยอดถูกกู่เสียงใช้โซ่เหล็กสีดำล่ามไว้ แยกกันมัดไว้ที่ด้านซ้ายและด้านขวาของประตูเมือง ให้ทำหน้าที่เป็นสัตว์ร้ายเฝ้าประตูเมือง
พวกเขาไล่สัตว์ร้ายที่เหลือออกไป เก็บสัตว์ร้ายที่ถูกฆ่า ลากศพของผู้ฝึกวิชามารในเมืองมากองกันก่อนจุดไฟเผา หลังจากทำความสะอาดทุกอย่างเสร็จ เวลาก็ล่วงเลวมาถึงเช้าตรู่ของอีกวันแล้ว
ตอนใกล้เที่ยง ผู้นำตระกูลกู่พาพวกเขาที่เหลือมุ่งเดินทางมาที่นี่ ก่อนจะมาถึงหน้าเมืองภูเขานิลในที่สุด เดิมคนที่ซ่อนตัวอยู่ในที่มืดคิดจะเล่นงานพวกเขา แต่ครั้นเห็นว่าในหมู่พวกเขามีเด็กและผู้หญิง ขณะเดียวกันยังมีผู้แข็งแกร่งระดับปราชญ์เซียนคอยกุ้มกันด้วย จึงไม่ได้ลงมือ
“ท่านผู้นำตระกูล พวกท่านมาแล้วหรือ!”
กู่เสียงเข้ามาต้อนรับด้วยความดีใจ เห็นพวกเขามาถึงที่นี่ครบทุกคน จึงฉีกปากยิ้มกว้าง “เมื่อเช้านายท่านยังพูดถึงพวกท่านอยู่ นึกไม่ถึงพวกท่านก็มาถึงแล้ว พวกข้ายังคิดว่าอย่างไรพวกท่านก็น่าจะมาถึงตอนหัวค่ำ”
“ตลอดเส้นทางนี้เงียบสงบ พวกข้าไม่ได้เจออุปสรรคกีดขวางหรืออันตรายใด จึงได้มาถึงก่อนเวลา” ผู้นำตระกูลอธิบาย ครั้นเห็นเมืองภูเขานิลแม้แต่ประตูก็ไม่มี จึงถามว่า “นายท่านสบายดีใช่หรือไม่”
ตอนนั้นกู่เสียงเร่งเดินทางกลับไปกำชับพวกเขาสองสามประโยค ให้พวกเขาตามมาที่นี่ พวกเขายังลังเลใจ นึกไม่ถึงพอเดินทางมาถึงที่นี่ เมืองภูเขานิลจะเปลี่ยนเจ้าของแล้วจริงๆ
“นายท่านสบายดีขอรับ! พวกเราเข้าไปคุยกันข้างใน ไป!”
กู่เสียงว่า เปิดเขตอาคมพาพวกเขาเข้าไป พลางเอ่ยว่า “ประตูเมืองถูกข้าพังตอนนั้น ยังไม่ได้เปลี่ยนใหม่เลย!”
………………………………….
ตอนที่ 2308 แปลงโฉม
ทุกคนได้ยินก็หัวเราะ บอกว่า “ไม่เป็นไร ไว้พวกเราไปตัดไม้ในป่ามาทำบานประตูใหม่”
“ท่านปู่ผู้นำตระกูล ต่อไปพวกเราอาศัยอยู่ที่นี่หรือ”
“ท่านปู่ผู้นำตระกูล ที่นี่ใหญ่มาก ใหญ่กว่าที่อยู่เก่าของพวกเรามาก”
“ท่านปู่ผู้นำตระกูล ที่นี่ดีจริงๆ ต่อไปพวกเราอยู่ที่นี่ได้หรือไม่”
เหล่าเด็กน้อยเมื่อเห็นบ้านใหม่ แต่ละคนดึงแขนเสื้อของผู้นำตระกูลเฒ่าถามด้วยความตื่นเต้นดีใจ ขณะเดียวกันก็ไม่ลืมมองพิจารณารอบๆ แต่ครั้นตามพวกเขาเข้าไปในเมือง จู่ๆ กลับถูกเสียงคำรามของสัตว์ร้ายระดับสัตว์เทวะขั้นสุดยอดสองตัวที่ดังมาทำให้ตกใจ
“กรี๊ด/อ๊าก”
เด็กๆ กรีดร้องด้วยความตกใจ หลบไปอยู่ข้างหลังผู้นำตระกูลเฒ่า
คนอื่นๆ ก็สะดุ้งตกใจเช่นกัน แต่พอเห้นว่าสัตว์ร้ายสองตัวนั้นถูกล่ามไว้ด้วยโซ่เหล็กสีดำ จึงวางใจลง เพียงหันไปถามกู่เสียงด้วยความประหลาดใจ “เหตุใดจึงล่ามสัตว์ร้ายระดับสัตว์เทวะขั้นสุดยอดไว้ที่นี่สองตัว พวกเจ้าจับพวกมันมาได้อย่างไรกัน”
“ฮ่าๆๆ ไม่ต้องกลัว พวกมันกัดไม่ถึงพวกเจ้าหรอก ยังอยู่ห่างกันตั้งไกล อีกอย่างพวกมันก็ไม่กล้ากัดพวกเจ้าด้วย” กู่เสียงหัวเราะร่า พลางอธิบายว่า “พวกเจ้ายังไม่รู้ นายท่านมีความสามารถในการควบคุมสัตว์ร้ายที่ไม่ธรรมดาจริงๆ สัตว์ร้ายตัวอื่นระดับพลังต่ำเกินไปไม่เข้าตานายท่าน มีเพียงสัตว์เทวะขั้นสุดยอดสองตัวนี้ที่นายท่านเก็บไว้ใช้เฝ้าประตูเมือง
ข้าจะบอกพวกเจ้าให้ สัตว์ร้ายสองตัวนี้ถูกนายท่านกำราบจนเชื่องแล้ว ไม่มีคำสั่งนายท่าน มันไม่กล้าทำร้ายพวกเจ้าหรอก” กู่เสียงพาพวกเขาเดินเข้าไปอย่างสง่าผ่าเผย พลางหันไปกำชับสัตว์เทวะขั้นสุดยอดสองตัวนั้น “นี่ล้วนเป็นคนของเรา ดูแล้วจำไว้ให้ดี อย่าได้ทำร้ายพวกเขา”
ทุกคนเห็นก็ตื่นตะลึง สัตว์ร้ายเดิมก็ยากจะกำราบให้เชื่องอยู่แล้ว ยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นสัตว์ร้ายระดับสัตว์เทวะขั้นสุดยอดอีก ทว่าเห็นสัตว์ร้ายสองตัวนี้จ้องพวกเขาแวบเดียวก็เดินกลับไปนอนหมอบ พวกเขาต่างก็อดเดาะลิ้นไม่ได้
“น่าเหลือเชื่อจริงๆ…”
ผู้นำตระกูลเฒ่าเห็นอย่างนั้นก็เผยยิ้มชื่นชม “ข้ารู้อยู่แล้ว ยอมรับนายท่านเป็นเรื่องที่ถูกต้อง มีนายท่านอยู่ แม้วันข้างหน้าพวกเราไม่อยู่ คนในตระกูลเขาเราก็จะยังอยู่ดีกินดี”
คนทั้งกลุ่มเดินเข้าไปข้างใน หลังจากเข้ามาก็เห็นว่าในนี้มีพื้นที่กว้างขวางมาก ในเมืองมีเรือนที่สร้างเสร็จแล้ว เพียงแต่นอกจากพวกเขาก็ไม่เห็นใครอื่นอีก
พวกเขาเดินเข้าไปในลานบ้านแห่งหนึ่ง เดินมาถึงห้องโถงใหญ่ เห็นเด็กหนุ่มชุดแดงทั้งตัวนั่งอยู่บนที่นั่งเจ้าบ้าน เพียงแต่ หน้าตาของเขาในตอนนี้เหมือนจะต่างจากก่อนหน้านี้
“เขาคือ…”
ผู้นำตระกูลเฒ่ามองเฟิ่งจิ่วอย่างงงงัน แต่กลับเอ่ยปากถามกู่เสียง
“อ้อ! ท่านผู้นำตระกูล ข้าลืมบอกพวกท่าน เดิมทีนายท่านนั้นแปลงโฉมไว้ นี่จึงจะเป็นใบหน้าที่แท้จริงของเขา” กู่เสียงตบหัวหนึ่งที เพิ่งนึกขึ้นมาได้ว่าไม่ได้บอกเรื่องที่นายท่านแปลงโฉมให้พวกเขารู้
“ที่แท้ก็อย่างนี้เอง” ผู้นำตระกูลเฒ่าพยักหัว มองเด็กหนุ่มชุดแดงบนที่นั่งเจ้าบ้านอย่างละเอียด ทว่าครั้นเพ่งมอง ก็อดตะลึงไม่ได้ “ร่างเทพประทับหรือ”
เขาจำได้ว่านายท่านของพวกเขาเป็นเพียงผู้ฝึกพลังเร้นลับ เหตุใดจึงกลายมาเป็นร่างเทพประทับได้
เฟิ่งจิ่วยิ้มๆ “ถูกต้องแล้ว ข้าเป็นร่างเทพประทับ เพียงแต่กลิ่นอายพลังวิญญาณถูกผนึกไว้ เพิ่งมาปลดผนึกได้ตอนนี้ วรยุทธ์จึงฟื้นคืนกลับมาแล้ว”
ได้ยินเสียงอันคุ้นเคย ผู้นำตระกูลเฒ่าได้สติ พาทุกคนประสานมือคารวะเฟิ่งจิ่วอย่างนอบน้อม “คารวะนายท่าน”
“ล้วนนั่งลงเถิด!” เธอโบกมือ
………………………………….