เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 2265 พูดถึงแต่เรื่องดีไม่พูดถึงเรื่องร้าย / ตอนที่ 2266 ต้วนเยี่ยมาถึง
- Home
- เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า
- ตอนที่ 2265 พูดถึงแต่เรื่องดีไม่พูดถึงเรื่องร้าย / ตอนที่ 2266 ต้วนเยี่ยมาถึง
ตอนที่ 2265 พูดถึงแต่เรื่องดีไม่พูดถึงเรื่องร้าย
“ข้าสั่งให้พวกเจ้าออกไปตามหาแล้วไม่ใช่หรือ? ทำไม? จนตอนนี้ก็ยังหาคนไม่เจอ?”
ผู้ฝึกวิชามารที่อยู่ข้างล่างก้มหน้า ตอบว่า “นายท่านโปรดระงับโทสะ พวกเราส่งคนสองกลุ่มออกไปตามหาข้างนอกแล้ว เพียงแต่ล้วนไม่มีข่าวของผู้หญิงชุดแดง แต่พวกเราเจอผู้ฝึกตนกลุ่มหนึ่งที่เคยเห็นผู้หญิงคนนั้น จากที่พวกเขารู้ ผู้หญิงคนนั้นไม่มีกลิ่นอายพลังเลยแม้แต่น้อย หนำซ้ำไม่ว่าผู้หญิงคนนั้นไปที่ใด อากาศรอบๆ ก็จะเย็นลงหลายส่วน เหมือนมีวิญญาณตามนางมา”
พูดมาถึงตรงนี้ ผู้ฝึกวิชามารคนนั้นหยุดพูดครู่หนึ่ง ก่อนรายงานต่อว่า “เพราะอย่างนี้ ผู้ฝึกตนพวกนั้นจึงไม่กล้าทำอะไรนาง เพียงแต่นอกจากการปรากฏตัวครั้งนั้น จนตอนนี้ก็ยังไม่เคยมีใครเห็นนาง ด้วยเหตุนี้พวกข้าจึงคาดเดาว่า ผู้หญิงคนนั้นจะเป็น…”
“เป็นอะไร?” ผู้ฝึกวิชามารที่นั่งอยู่บนเก้าอี้สูงสุดถามด้วยแววตาเหี้ยม
“พวกข้าคาดเดาว่า ผู้หญิงคนนั้นอาจเป็นผีผู้หญิงชุดแดงหรือไม่?” เอ่ยจบ คนคนนั้นก็เงียบไป ไม่กล้าพูดอะไรอีก
ได้ยินเช่นนั้น มือของผู้ฝึกวิชามารบนที่นั่งสูงสุดที่กำลังลูบมือหญิงสาวข้างกายชะงักเล็กน้อย เขาจ้องผู้ฝึกวิชามารที่อยู่ข้างล่าง เอ่ยว่า “เรื่องนี้ก็ละไว้ก่อนชั่วคราว พวกเจ้าไปตามหาชายฉกรรจ์ที่มีรอยแผลเป็นบนใบหน้า เจอตัวแล้วก็พาเขากลับมา ข้ากลับอยากรู้ เขาขึ้นไปสูงขนาดนั้นได้อย่างไร?”
“ขอรับ” ผู้ฝึกวิชามารตอบรับคำ ก่อนจะถอยออกไป
ที่อื่นๆ ก็ได้รับข่าวแล้วเช่นกัน ด้วยเหตุนี้ ด้วยความประหลาดใจและสงสัย พวกเขาเองก็ส่งคนออกไปตามหาชายฉกรรจ์ที่มีรอยแผลเป็นบนหน้า อยากพาเขากลับไปสอบถาม ดูว่าเขามีอะไรพิเศษตรงไหน
แต่ทว่า ผู้คนที่นี่เริ่มออกตามหาเฟิ่งจิ่วไปทั่วทุกสารทิศ ขณะที่มวลชนเคลื่อนไหวออกตามหาอย่างบ้าคลั่ง เฟิ่งจิ่วกลับกำลังฝึกวรยุทธ์อยู่ในห้วงมิติ ไม่รู้เรื่องที่เกิดขึ้นข้างนอกเลยแม้แต่น้อย…
ในอีกด้าน เมืองน้อยนที หอยาสวรรค์
ตอนที่จดหมายรายงานความปลอดภัยของเฟิ่งจิ่วส่งมาถึงหอยาสวรรค์ กวนสีหลิ่นกับโม่เฉินกำลังนั่งคุยธุระอยู่ในลานข้างหลังหอยาสวรรค์
หลังจากเหลิ่งหวาได้รับจดหมาย ก็ส่งจดหมายไปให้กวนสีหลิ่นที่ลานข้างหลัง “นี่เป็นจดหมายที่นายท่านสั่งให้คนส่งมาจากสาขาย่อยของวังกำเนิดสวรรค์ที่เมืองธาราภูมิ”
กวนสีหลิ่นได้ยินเช่นนั้นก็หันมองโม่เฉิน รับของไปแล้วแกะลายน้ำข้างบนออก จากนั้นก็เปิดอ่าน เมื่ออ่านอักษรที่เขียนอยู่บนนั้น กวนสีหลิ่นเผยยิ้มออกมา ก่อนจะยื่นจดหมายให้โม่เฉิน พลางเอ่ยกับพวกเขา “นี่เป็นจดหมายรายงานความปลอดภัยที่เสี่ยวจิ่วสั่งให้คนส่งมาบอกพวกเรา นางไม่เป็นไร ตอนนี้กำลังเดินทางกลับมา”
เหลิ่งหวาเผยรอยยิ้ม “ไม่เป็นไรก็ดีแล้ว อย่างนั้นข้าเอาข่าวไปบอกทุกคนก่อน พวกเขาจะได้ไม่เป็นห่วง”
“อืม เจ้าไปเถอะ!”
กวนสีหลิ่นเอ่ยยิ้ม มองดูเหลิ่งหวาพยักหน้าหันตัวออกไป ก่อนหันไปหาโม่เฉิน แต่กลับเห็นเขาถือจดหมายฉบับนั้นไม่รู้ว่าคิดอะไรอยู่ ท่าทางเหมือนกำลังครุ่นคิด
“เป็นอะไรไป? มีอะไรผิดปกติงั้นหรือ?”
โม่เฉินเงยหน้ามองเขา ก่อนจะส่ายหัว ยื่นจดหมายคืนให้ “บอกไม่ถูก เพียงแค่รู้สึกแปลกๆ”
“แปลกตรงไหน?” กวนสีหลิ่นถาม
“นางได้แกนเคลื่อนย้ายจี๋กวงไปครอบครองแล้วไม่ใช่หรือ? มีสมบัติล้ำค่าชิ้นนั้นอยู่ด้วย จะกลับมาก็เป็นแค่เรื่องภายในพริบตา เหตุใดนางกลับไม่ใช้มัน?” เขาเอ่ยอย่างแช่มช้า ยกชาขึ้นจิบคำหนึ่ง “เฟิ่งจิ่วน่ะ เป็นคนชอบพูดถึงแต่เรื่องดีไม่พูดเรื่องร้าย ข้ารู้สึกว่านางมีเรื่องที่ไม่ได้บอกพวกเรา”
………………………………….
ตอนที่ 2266 ต้วนเยี่ยมาถึง
ได้ฟังเช่นนั้น กวนสีหลิ่นเองก็คิดว่ามีเหตุผลเหมือนกัน นางจะกลับมาใช้แกนเคลื่อนย้ายจี๋กวงก็เร็วและสะดวกกว่าแล้วไม่ใช่หรือ? แต่นางไม่ได้ใช้ กลับเลือกใช้พาหนะบินกลับมา หรือว่าเจอปัญหาอะไรเข้าแล้ว?
“บางที นางอาจจะแค่มีเรื่องบางอย่างต้องสะสาง” กวนสีหลิ่นเสนอ คิดว่าในเมื่อนางหนีจากผู้ฝึกวิชามารนั่นมาได้แล้ว อย่างนั้นก็น่าจะไม่มีปัญหาใหญ่อะไรแล้ว ไม่แน่อาจเจอเรื่องอะไรบางอย่างระหว่างทาง ฉะนั้นจึงเลือกที่จะไม่ใช้แกนเคลื่อนย้ายจี๋กวงเท่านั้น
“อาจจะกระมัง! แต่ว่านางคือเฟิ่งซิง เป็นผู้มีชะตาฟ้าลิขิต มีวาสนาติดตัว ย่อมมีเคราะห์กรรมมากกว่าคนทั่วไป” โม่เฉินทอดถอนใจ “ที่จริงข้าควรติดตามนางไม่ให้ห่างแม้แต่ก้าวเดียว เพียงแต่ไม่นึกเลยว่ามาถึงที่นี่แล้วจะไม่ได้เจอนางสามวันห้าวัน”
“วางใจ นางไม่เป็นอะไรหรอก” กวนสีหลิ่นปลอบ ไม่รู้ว่าเหมือนกันว่ากำลังปลอบโม่เฉิน หรือว่าปลอดตนเองอยู่
หลังจากผ่านไปสามวัน ในที่สุดต้วนเยี่ยก็มาถึงหอยาสวรรค์ในเมืองร้อยนที
เขาเข้ามาข้างใน จ้องพิจารณาหอยาสวรรค์แห่งนี้รอบหนึ่ง มองดูยาที่ถูจัดวางอยู่ชั้นหนึ่ง สายตาของเขาไหวระริก สถานที่เช่นนี้ ยาคุณภาพสูงมากมายขนาดนี้ มีเพียงเฟิ่งจิ่วเท่านั้นที่ทกได้
ที่นี่ ไม่ว่าข้างในหรือข้างนอกล้วนเต็มไปด้วยกลิ่นอายของนาง ไม่ว่ากฎเกณฑ์ที่เขียนห้อยไว้บนผนัง หรือจะคนที่คอยต้อนรับอยู่ที่นี่ หรือแม้แต่ยาที่ถูกจัดวางไว้ในตู้ ล้วนมีลักษณะพิเศษเฉพาะของนางสะท้อนให้เห็น
“คุณชายต้วน?” เหลิ่งหวามองผู้มาอย่างประหลาดใจ?
ต้วนเยี่ยมองเขา พยักหน้า “ข้ามีเรื่องหนึ่งจะบอกพวกเจ้า”
เหลิ่งหวามองเขา ก่อนเอ่ยว่า “เชิญตามข้ามา” เขาพาต้วนเยี่ยไปที่ลานข้างหลัง ก่อนจะสั่งให้คนไปเชิญกวนสีหลิ่นมา หลังจากยกชามาให้พวกเขา เหลิ่งหวาจึงถาม “ท่านอยู่กับนายท่านของข้าไม่ใช่หรือ? เหตุใดจึงเห็นแค่ท่านมา? นายท่านของข้าเล่า?”
เพราะต่อมากวนสีหลิ่นส่งคนกลับไปถามคนที่เมืองธาราภูมิอีกครั้ง จึงรู้ว่าตอนนั้นนายท่านยังมีต้วนเยี่ยอยู่ด้วยอีกคน เพียงแต่ เขานึกไม่ถึงว่าต้วนเยี่ยจะมาในเวลานี้ หนำซ้ำเขายังมาแค่คนเดียว
“เหลิ่งหวา เสี่ยวจิ่วกลับมาแล้วหรือ?” ตัวกวนสีหลิ่นยังมาไม่ถึง เสียงก็มาถึงก่อนแล้ว
เขาสาวเท้ายาวๆ เข้ามาจากข้างนอก ครั้นเข้ามาในลานสวนก็เห็นต้วนเยี่ยที่นั่งอยู่ในลาน หันไปมองรอบๆ แวบหนึ่ง กลับไม่เห็นเฟิ่งจิ่ว จึงอดประหลาดใจไม่ได้ “เสี่ยวจิ่วกลับมาหรือยัง?”
ต้วนเยี่ยลุกขึ้น หันไปคารวะกวนสีกลิ่น ก่อนจะตอบว่า “นางเกิดเรื่องแล้ว กลับมาไม่ได้”
จู่ๆ ได้ยินประโยคนี้ กวนสีหลิ่นหน้าเปลี่ยนสี สาวเท้าเข้ามากุมไหล่ของต้วนเยี่ย “เสี่ยวจิ่วเกิดเรื่องแล้ว? เกิดเรื่องอะไรขึ้น? เหตุใดกลับมาไม่ได้? นี่มันเรื่องอะไรกันแน่?”
เพราะกวนสีหลิ่นแรงเยอะ ไหล่ของต้วนเยี่ยถูกกุมจนเจ็บ แต่เขากลับไม่ร้อง เพียงมองหน้าพวกเขา ใบหน้าฉายแววรู้สึกผิด “ล้วนเป็นเพราะข้า”
เหลิ่งหวาที่อยู่ด้านหนึ่งสังเกตเห็นสีหน้าของต้วนเยี่ยไม่ค่อยปกติ กอปรกับเห็นสองมือของกวนสีหลิ่นกุมไหล่ของเขาอย่างแรง จึงก้าวเข้าไปเตือนสติกวนสีหลิ่น “ท่านอย่าเพิ่งร้อนใจ ปล่อยเขาให้เขาพูดรายละเอียดก่อน”
กวนสีหลิ่นสูดหายใจลึกๆ ปล่อยไหล่ต้วนเยี่ย เห็นสีหน้าเขาไม่ค่อยดีจริงๆ จึงเอ่ยว่า “ขอโทษ ข้าเสียกิริยาแล้ว” เงียบไปครู่หนึ่ง ก็มองหน้าเขาแล้วถาม “เจ้าบาดเจ็บใช่หรือไม่?”
ต้วนเยี่ยพยักหน้า นั่งลงข้างโต๊ะ อธิบายว่า “ข้าไม่หายบาดเจ็บจริงๆ เพราะเฟิ่งจิ่วกลับมาไม่ได้ ฉะนั้นข้าจึงต้องเร่งเดินทางมาบอกเรื่องนี้กับพวกท่าน”
………………………………….