เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 2259 ไฟไร้นาม / ตอนที่ 2260 สถานที่ตัดขาดจากโลกภายนอก
ตอนที่ 2259 ไฟไร้นาม
หลังจากอ้อมไปหนึ่งรอบก็เข้าไปในป่า เธอกระโดดขึ้นไปพักผ่อนบนต้นไม้ พลางจัดลำดับข่าวสารที่ได้ยินมาเมื่อครู่
ที่นี่คือสถานที่บ้าบออะไรกันแน่? เธอขมวดคิ้ว ตอนนี้ยังถือว่าปลอดภัยไร้อันตราย
เดิมทีนึกว่าเมืองภูเขานิลอะไรนั่นจะเป็นเมืองที่มีผู้คนอาศัยอยู่ แต่ตอนนี้ดูท่าแล้วเมืองภูเขานิลนั่นน่าจะเป็นถิ่นรังโจรภูเขาอะไรทำนองนั้น ที่นั่นไม่ควรเข้าไปอย่างยิ่ง!
ขณะกำลังครุ่นคิด จู่ๆ ก็ได้ยินเสียงคำรามของสัตว์ร้ายดังมา เธอรีบดึงสติกลับมาก่อนจะหันไปดู เห็นเพียงฝูงสัตว์ร้ายที่มีรูปร่างเหมือนหมาตัวดำสนิททั้งตัว มีขนาดสูงเท่าครึ่งคนกำลังวิ่งมาทางนี้ หนำซ้ำยังเห่าไม่หยุด หมาดำที่วิ่งนำอยู่ข้างหน้าเขย่งเท้าหลังโถมกระโดดมาข้างหน้า พุ่งเป้ามาที่เธอ เธออุทานออกมาด้วยความตกใจโดยสัญชาตญาณ ร่างกายถอยหนี ทำให้ตกลงมาจากต้นไม้
“บัดซบ! นั่นมันหมาอะไร?”
เธอยืนอย่างมั่นคง มองสัตว์ร้ายที่เหมือนหมาป่าขนาดสูงเท่าครึ่งคนมีเขี้ยวแหลมคมสองซี่โผล่ออกมา ทว่าบนตัวกลับมีกลิ่นอายสีดำแผ่ปกคลุมกำลังคำรามอยู่ พวกมันแยกเขี้ยวย่างสามขุมมาทางเธอทีละก้าวๆ เธอรีบสาวเท้าออกวิ่งทันที
“โฮ่ง!”
“กรรซ์!”
หมาดำดุร้ายหลายสิบตัววิ่งทะยานไล่ตามเธอมาติดๆ เสียงคำรามข้างหลังดังมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อหนีจากสัตว์ร้ายฝูงนี้ เธอหยิบห่อยาที่เอวออกมาสาดไปข้างหลัง เร่งฝีเท้าให้เร็วขึ้น ผ่านไปไม่นานก็สลัดฝูงสัตว์ร้ายข้างหลังได้แล้ว
กระทั่งมาถึงที่แห่งหนึ่ง เธอก้มตัวลงเอามือชันเข่าสองข้างหอบหายใจอย่างเหน็ดเหนื่อย หันกลับไปดูเห็นว่าไม่ตามมาแล้ว จึงทิ้งตัวนั่งบนพื้น
“ตัวอะไรกัน? ไล่ตามข้ามาได้อย่างไร?” เธอสบถ ก่อนจะเอ่ยเย้ยหยันตนเอง “ นี่สินะที่เรียกว่ามังกรเมื่ออยู่ในน้ำตื้นแม้แต่กุ้งยังดูแคลน พยัคฆ์เมื่อห่างจากภูเขายังถูกหมารังแก?”
จู่ๆ ก็มาที่นี่โดยไม่ทันตั้งตัว ซ้ำยังกลับไปไม่ได้แล้ว ที่นี่คือที่ไหนยังไม่รู้ คนที่เจอก็มีแต่ผู้ฝึกวิชามารกับพวกคนเลวทราม แม้แต่สัตว์ร้ายที่หน้าตาเหมือนหมาก็ยังไล่เห่าเธออีก เมื่อถึงจุดนี้อารมณ์ของเธอก็ใกล้ระเบิดเต็มทนแล้วจริงๆ
แต่ในเวลาอย่างนี้กลับมีผู้ฝึกวิชามารคนหนึ่งปรากฏตัวอยู่ไม่ไกล สังเกตเห็นเงาร่างที่นั่งอยู่บนพื้น เขารีบเก็บซ่อนกลิ่นอาย ย่องเท้าเบาเข้าไปทีละก้าวๆ ยามมาถึงระยะหนึ่งจั้งกว่า จู่ๆ ก็ลงมือจู่โจมคนคนนั้น
ตอนนี้อารมณ์ของเฟิ่งจิ่วใกล้ปะทุเต็มที สัมผัสได้ถึงไอสังหารที่พวยพุ่งมาจากข้างหลัง ครั้งนี้เธอไม่ได้เลือกหลีกเลี่ยงไม่ต่อสู้ แต่กลับหันหลัง ใช้ดาบใหญ่ในมือตวัดฟันออกไป กลิ่นอายพลังเร้นลับพรั่งพรูออกไปพร้อมกับดาบใหญ่ วาดพลังดาบในรูปแบบประกายแสงเย็นยะเยือกตัดผ่านอากาศ
“ชิ้ง!”
ผู้ฝึกวิชามารคนนั้นตะลึง รีบถอยหลัง แต่ก็ยังคงช้าไปหนึ่งก้าว ท้องถูกพลังดาบสายนั้นเฉือนผ่าน เสื้อผ้าบนตัวฉีกขาด เนื้อหนังปริแตก เลือดสดๆ ไหลทะลัก ความเจ็บปวดแสนสาหัสที่เกิดขึ้นกะทันหันทำให้เขาร้องโหยหวน มือหนึ่งกุมแผล ขณะที่ฝีเท้าเซถอยไปข้างหลัง จ้องชายฉกรรจ์ที่หันกลับมาด้วยสายตาระแวดระวัง
ชายฉกรรจ์คนนี้เมื่อกี้ยังไม่เห็นมีกลิ่นอายพลังรอบตัว แต่กลับสามารถระเบิดพลังต่อสู้ที่แข็งแกร่งขนาดนี้ได้ในพริบตา เพียงการจู่โจมเดียวก็ทำให้เขาบาดเจ็บ นั่นทำให้เขาอดตะลึงพรึงเพริดไม่ได้ พยายามหนีจากบุคคลอันตรายตรงหน้า ด้วยเหตุนี้เขาจึงค่อยๆ ก้าวถอยหลังไปทีละก้าว
เวลานี้ไฟโทสะของเฟิ่งจิ่วกำลังโหมกระหน่ำ ไฟไร้นามในใจลุกโชติช่วง ยามนี้มีเป้าหมายให้เธอได้ระบายอารมณ์เช่นนี้ ย่อมปล่อยให้หนีไปไม่ได้อยู่แล้ว ฉะนั้นเธอเคลื่อนฝีเท้า ขวางทางหนีของคนผู้นั้น แววตาเยือกเย็นจับจ้องมองผู้ฝึกวิชามารคนนั้น
………………………………….
ตอนที่ 2260 สถานที่ตัดขาดจากโลกภายนอก
“จะ เจ้าจะทำอะไร?”
ผู้ฝึกวิชามารเอ่ยด้วยน้ำเสียงสั่นเทาอย่างควบคุมไม่ได้ สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายความตายที่แผ่ปกคลุมเข้ามา เกิดรู้สึกเสียใจภายหลังขึ้นมา รู้อย่างนี้คงไม่ลงมือกับคนคนนี้เพียงเพราะเห็นเขาอยู่ตามลำพัง
เฟิ่งจิ่วเพ่งมองเขาไม่พูดอะไร ทว่าพลังเร้นลับบนตัวพลันพรั่งพรู เธอเสียบดาบใหญ่ในมือลงบนพื้น พริบตาต่อมา ร่างกายโฉบไหว เหวี่ยงหมัดที่แฝงไว้ด้วยกลิ่นอายพลังเร้นลับอันแข็งแกร่งพุ่งเข้ามา
“ฟิ้ว! พลั่กๆๆ!”
เสียงหมัดกระแทกดังอย่างต่อเนื่อง ผู้ฝึกวิชามารคนนั้นอึ้งค้าง หลบหลีกไม่ทัน ถูกหมัดที่มีเรี่ยงแรงมหาศาลต่อยเข้ามาอย่างจัง
แต่ละหมัดนั้นล้วนเต็มไปด้วยพลังแฝง ยามกระแทกเข้ามา เหมือนถูกค้อนเหล็กทุบแรงๆ เสียงกระแทกดังพลั่กดังชัดเจนเป็นพิเศษ บางครั้งยังมีเสียงกระดูกแตกหักดังปนขึ้นมาด้วย
“อ๊าก…”
เสียงกรีดร้องดังก้องป่าครั้งแล้วครั้งเล่า เหล่านกกาในป่าตกใจกระพือปีกบินหนี ผู้ฝึกตนบางคนที่อยู่ในป่าได้ยินเสียงกรีดร้องนั้น แต่ละคนสีหน้าต่างกันไป เพียงแต่ไม่มีใครเข้าใกล้จุดที่มีเสียงดังเลยสักคน
เรื่องอย่างนี้เกิดขึ้นบ่อยมาก บางครั้งยุ่งเรื่องไม่เข้าเรื่องกลับจะเป็นการหาปัญหาใส่ตนเอง ใช้ชีวิตอยู่ในสถานที่อย่างนี้ สิ่งที่พวกเขาต้องทำก็คือมีชีวิตอยู่ต่อไป
“อั่ก! อึก…”
เสียงกรีดร้องอ่อนแรงลงเรื่อยๆ ทว่าในเวลานี้เอง เฟิ่งจิ่วที่ระบายโทสะจนได้ที่แล้วหยุดมือ เหยียบร่างของผู้ฝึกวิชามารที่ตอนนี้จมูกเขียนหน้าบวมไว้ใต้เท้า ถามว่า “เจ้าอยากมีชีวิตอยู่หรือไม่?”
ผู้ฝึกวิชามารที่ไร้กำลังโต้ตอบได้ยินอย่างนั้นก็ตื่นเต้น รีบรับคำ “อยาก! อยาก!” คนตรงหน้า ตอนนี้เป็นเหมือนมารร้ายในสายตาของเขา ทีแรกนึกว่าจะถูกซ้อมจนตาย ในเมื่ออีกฝ่ายถามเช่นนี้ แสดงว่าเขายังมีโอกาสรอด?
“แม้เจ้าจะให้ข้าติดตามเจ้า ข้าก็ยอม ขอเพียง ขอเพียงเจ้าไว้ชีวิตข้า อย่าฆ่าข้า” ผู้ฝึกวิชามารมองเฟิ่งจิ่ว ในสายตาเต็มไปด้วยความปรารถนาอยากมีชีวิตรอดอย่างแรงกล้า
“ข้าถามเจ้า ที่นี่คือที่ไหน?” เฟิ่งจิ่วถามด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม เธอไม่เพียงแปลงโฉม แม้แต่เสียงก็เปลี่ยนเป็นแหบต่ำเหมือนผู้ชาย
ผู้ฝึกวิชามารที่ได้ยินคำถามชะงักงัน คล้ายนึกไม่ถึงว่าอีกฝ่ายจะถามอย่างนี้ เขาชี้ไปที่เท้าซึ่งเหยียบอยู่บนหน้าอกของเขา บอกว่า “ช่วย ช่วยให้ข้าลุกขึ้นนั่งก่อนได้หรือไม่?”
“บอกมา!” เสียงของเฟิ่งจิ่วเข้มขึ้น แรงที่ใต้เท้ายิ่งรุนแรง ผู้ฝึกวิชามารร้องครวญ เลือดทะลักออกจากปาก ในสายตาเต็มไปด้วยความหวาดกลัว
“ข้าบอก ข้าบอกแล้ว”
ผู้ฝึกวิชามารรีบตอบ อดกลั้นต่อความเจ็บปวดทางร่างกาย “ที่แห่งนี้คือสถานที่เลวทรามที่สุด เป็นที่แห่งหนึ่งที่สี่จักรพรรดิเซียนผู้ยิ่งใหญ่ร่วมมือกันแบ่งอาณาเขตออกมา คนที่เข้ามาที่นี่ล้วนออกไปไม่ได้แล้ว และที่นี่มีแปดคนเลวทราม แบ่งกันครอบครองภูเขาแปดลูกเพื่อใช้เป็นถิ่นฐาน แปดคนนี้มีลูกน้องในมือไม่น้อย หากติดตามพวกเขา นอกจากจะมีข้าวกินอิ่มท้อง ยังได้รับการคุ้มกันความปลอดภัยด้วย เพียงแต่ หากจะติดตามพวกเขาก็ต้องยอมรับพวกเขาเป็นนาย ผู้ฝึกตนบางส่วนที่ไม่อยากถูกผูกมัดจึงกระจัดกระจายกันอยู่ในแต่ละมุมของที่นี่ อาศัยการปล้นฆ่า แย่งชิงสิ่งของจากผู้ฝึกตนคนอื่นเพื่อเลี้ยงชีพ”
“ปล้นชิงเพื่อเลี้ยงชีพ?”
เธอหรี่ตาจ้องผู้ฝึกวิชามารใต้เท้า กำลังวิเคราะห์ว่าสิ่งที่เขาพูดจริงหรือเท็จ จักรพรรดิเซียน? ตาเฒ่าเคยบอกว่าที่แผ่นดินใหญ่แห่งนี้เคยมีจักรพรรดิเซียนสี่คน เพียงแต่ต่อมากลับหายไปอย่างไร้ร่องรอย จากคำบอกเล่าของผู้ฝึกวิชามารคนนี้ การมีอยู่ของที่แห่งนี้ คือสถานที่ที่สี่จักรพรรดิเซียนแบ่งอาณาเขตออกมาและตัดขาดจากโลกภายนอก?
………………………………….