เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 2249 เปิดประตูแห่งความมืด / ตอนที่ 2250 คนจากสี่สำนักเซียน
- Home
- เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า
- ตอนที่ 2249 เปิดประตูแห่งความมืด / ตอนที่ 2250 คนจากสี่สำนักเซียน
ตอนที่ 2249 เปิดประตูแห่งความมืด
กระแสพลังอันแข็งแกร่งที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่าพลุ่งพล่าน ราวกับน้ำวนหลุมหนึ่งที่หมุนอยู่กลางฝ่ามือทั้งสองข้างของปีศาจเลือด น้ำวนหลุมนั้นขยายใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ กระทั่งทำให้อากาศรอบข้างหนักอึ้งไปด้วย กลิ่นอายพลังวิญญาณรอบๆ ล้วนถูกดูดเข้าไปในน้ำวนนั่น แม้แต่พวกผู้ฝึกตนที่อยู่ข้างล่างก็ยังสัมผัสได้ถึงอันตรายจากน้ำวนหลุมนั้น
“แย่แล้ว! น้ำวนนั่นเหมือนว่า เหมือนว่าจะเป็น…”
ผู้ฝึกตนชายวัยกลางคนคนหนึ่งเห็นพลังขุมนั้นลอยออกจากฝ่ามือของปีศาจเลือด กลายรูปร่างไปเป็นเหมือนน้ำวนอยู่ตรงหน้ามัน หนำซ้ำยังมีแรงดูดอันมหาศาลเช่นนั้น เขาพูดติดอ่างขึ้นมา ถึงขั้นไม่อาจพูดสิ่งที่เหลือออกมาจนจบ เพียงถอยหลังไปหลายจั้ง ราวกับกลัวว่าตนเองจะถูกน้ำวนหลุมนั้นดูดเข้าไปด้วย
“ปะ ปีศาจเลือด! ลือกันว่าปีศาจเลือดหนึ่งในสิบจอมมารมีพลังสามารถเปิดประตูแห่งความมืดได้! นะ นั่นก็คือประตูแห่งความมืดที่ว่า! เร็ว! หนีเร็ว! อย่าปล่อยให้ถูกดูดเข้าไปเด็ดขาด ไม่อย่างนั้นจะไม่มีทางกลับมาได้อีกแล้ว!”
ผู้ฝึกตนคนหนึ่งกรีดร้องด้วยความตกใจ ตะโกนบอกต้วนเยี่ยด้วยใบหน้าเปลี่ยนสี เพราะต้วนเยี่ยอยู่ใกล้ปีศาจเลือดที่สุด หนำซ้ำดูท่าทางของปีศาจเลือดแล้ว มันต้องการส่งต้วนเยี่ยเข้าไปในประตูแห่งความมืด!
“หลบเร็ว! เร็ว!”
“นั่นมันประตูแห่งความมืด! หากถูกส่งเข้าไปก็จะไม่มีทางกลับออกมาได้อีก! หนีเร็ว!”
“สหายต้วน! หนีเร็ว!”
ทว่า ในขณะที่ทุกคนหน้าเปลี่ยนสีและตะโกนด้วยความตกใจ ต้วนเยี่ยกลับถูกแรงกดดันของผู้อาวุโสเซียนตรึงร่างไว้นิ่ง ราวกับถูกภูเขาไท่ซานทับไว้ก็ไม่ปาน ทำให้เขาไม่อาจยืนตัวตรงได้ ไม่อาจขับเคลื่อนกลิ่นอายพลังวิญญาณในตัวได้ ยิ่งไม่อาจหนีไปจากตรงนี้ได้ ตรงกันข้าม ร่างกายกลับค่อยๆ ถูกดูดเข้าไปทางหลุมน้ำวนนั่นทีละก้าวๆ
“อาจารย์อาต้วน!”
“อาจารย์อาต้วน!”
ลู่ซีเหยียนกับหร่วนหรูที่อยู่ข้างล่างตะโกนด้วยความตกตะลึง เห็นต้วนเยี่ยใกล้ถูกดูดเข้าไปแล้ว เพียงแต่พวกนางเองก็ไร้หนทางช่วยเหลือ ทว่า เวลานี้เอง เฟิ่งจิ่วที่อยู่ไม่ไกลจากพวกนางพลันโถมร่างกระโดดขึ้นไป แพรป่วนฟ้าในมือพุ่งรัดไปที่ตัวต้วนเยี่ย พยายามดึงเขาลงมา
“เจ้าคิดว่ายังช่วยเขาได้อีกงั้นหรือ? ช่างเพ้อเจ้อจริงๆ!” น้ำเสียงทุ้มต่ำของปีศาจเลือดดังขึ้น เห็นเพียงสองมือของเขาพลิกขยับ แรงดึงดูดนั่นยิ่งรุนแรงขึ้นกว่าเดิม แม้เธอจะดึงต้วนเยี่ยไว้ ร่างของเธอก็ยังถูกดึงตามขึ้นไปอย่างไม่อาจต้านทาน
สถานการณ์เลวร้ายขึ้นเรื่อยๆ หากไม่ระวังแม้เพียงนิดเดียว แม้แต่เฟิ่งจิ่วก็อาจถูกดูดเข้าไปในประตูแห่งความมืดได้ อี้ซิวหรานรีบเข้าไปช่วยทันที กระบี่ยาวในมือที่ถูกถ่ายเทกลิ่นอายพลังวิญญาณเข้าไปพุ่งจู่โจมใส่ปีศาจเลือดพร้อมกับไอพิฆาต
“ฮ่าๆๆๆๆๆ! เข้าไปเลย! เข้าไป! ข้าไม่ได้จะเปิดประตูแห่งความมืดง่ายๆ ครั้งนี้ ถือว่าพวกเจ้าได้เปรียบ!”
สิ้นเสียงหัวเราะของปีศาจเลือด ต้วนเยี่ยถูกดูดไปทางหลุมน้ำวนนั่น ร่างกายท่อนบนถูกดูดเข้าไปแล้ว ร่างกายท่อนล่างยังไม่ถูกดูดเข้าไปเพราะมีแพรป่วนฟ้าของเฟิ่งจิ่วดึงรั้งไว้
เห็นต้วนเยี่ยตกอยู่ในอันตราย เฟิ่งจิ่วรีบดึงแพรป่วนฟ้าในมืออย่างสุดกำลัง เธออาศัยการกระชากแพรป่วนฟ้าเพื่อเข้าใกล้ต้วนเยี่ย ดึงเขากลับมาจากนั้นก็ซัดฝ่ามือส่งร่างของเขาปลิวออกไปหลายจั้ง
ทว่าในเวลานี้ อี้ซิวหรานที่โจมตีปีศาจเลือดจากข้างหลัง ทำให้มันถูกกระบี่ฟันไปหนึ่งดาบอย่างไม่ทันตั้งตัว กลิ่นอายเลือดรอบตัวมันยิ่งเข้มข้นขึ้น ไอพิฆาตพวยพุ่ง เห็นเพียงมันคำรามลั่น ซัดฝ่ามือใส่อี้ซิวหรานอย่างเต็มแรง ขณะเดียวกันเพราะพลังเลือดในตัวสลายไป ประตูแห่งความมมืดจึงค่อยๆ ถูกปิดตามไปด้วย
ทว่า ปีศาจเลือดที่เจ็บแค้นที่ปล่อยให้พวกเขาหลุดพ้นเคราะห์กรรมนี้ไปได้จ้องเฟิ่งจิ่วเขม็ง เผยรอยยิ้มประหลาดออกมา ไม่นานก็ถ่ายเทพลังเลือดสายหนึ่ง…
………………………………….
ตอนที่ 2250 คนจากสี่สำนักเซียน
เห็นเพียงพลังเลือดสายนั้นถูกถ่ายเทเข้าไป ประตูแห่งความมืดที่กำลังค่อยๆ ปิดตัวลงพลันมีแรงดึงดูดมหาศาลป่วนพล่านขึ้นมา ราวกับพายุหมุนลูกใหญ่ม้วนเอาร่างของเฟิ่งจิ่วที่คิดจะหนีเข้าไปในด้วยความเร็วที่ไม่ทันตั้งตัว
“เฟิ่งจิ่ว!”
ต้วนเยี่ยหน้าเปลี่ยนสี เหาะขึ้นไปหมายจะกระโจนเข้าไป ทว่าจนใจที่ตนเองถูกนางซัดร่างส่งออกมาไกลหลายจั้ง อยู่ไกลขนาดนี้ แทบไม่อาจช่วยนางได้เลย
“เฟิ่งจิ่ว!”
อี้ซิวหรานเห็นภาพนั้นหน้าเปลี่ยนสีไปทันที เขาถูกฝ่ามือของปีศาจเลือดซัดไปหนึ่งครั้ง กอปรกับเห็นเหตุการณ์นี้ ธาตุไฟโจมตีหัวใจ เลือดกระอักออกจากปาก ก่อนที่ตัวคนจะร่วงตกลงมาจากกลางอากาศ
ประตูแห่งความมืดที่ลอยอยู่กลางอากาศพลันปิดลง ราวกับไม่เคยปรากฏมาก่อน หายไปอย่างไร้ร่องรอย และสิ่งที่หายตามไปด้วย ยังมีเฟิ่งจิ่วในชุดแดง…
“น่าเสียดายจริงๆ ตอนแรกข้ายังตั้งใจจะส่งพวกเจ้าเข้าไปในประตูแห่งความมืดให้หมด ในเมื่อพวกเจ้าพลาดโอกาสไปแล้ว อย่างนั้นข้าก็คงทำได้เพียงลงมือฆ่าพวกเจ้าทีละคนๆ!” เสียงชั่วร้ายแฝงไอสังหารดังก้องไปทั่วท้องฟ้ายามกลางคืน เงาร่างของปีศาจเลือดโฉบไหว พุ่งลงมาหาเหล่าผู้ฝึกตนที่อยู่ข้างล่าง
ทว่าในเวลานี้เอง เหนือท้องฟ้ายามราตรี มีเงาร่างสีขาวมากมายเหยียบกระบี่เหาะเข้ามา พวกเขาก็คือผู้อาวุโสจากสำนักต่างๆ มาเพื่อเฟิ่งจิ่ว เพราะก่อนหน้านี้ไม่นาน พวกเขาได้รับข่าวจากสำนักบุปผาเซียน ภูตหมอเฟิ่งจิ่วก็คือเฟิ่งซิง
และเพราะเหตุนี้ หลังจากที่รู้ข่าว คนจากสำนักต่างๆ จึงได้ส่งผู้อาวุโสเซียนหนึ่งถึงสองคนมาเพื่อจะไปพูดคุยเจรจากับภูตหมอเฟิ่งจิ่วที่หอยาสวรรค์เมืองร้อยนที
ทว่าขณะผ่านบริเวณนี้ มองเห็นการเคลื่อนไหวที่ปกติกลางอากาศจากที่ไกลๆ รวมถึงแรงกดดันอันแข็งแกร่งและกลิ่นอายของผู้ฝึกวิชามารที่กระจายอยู่กลางอากาศ พวกเขาจึงรีบรุดมาทางนี้
ครั้นผู้อาวุโสเซียนจากสำนักต่างๆ ไล่มาถึงเมืองธาราภูมิ เห็นว่าผู้ฝึกวิชามารระดับผู้อาวุโสเซียนกำลังเข่นฆ่าครั้งใหญ่ ผู้ฝึกตนที่อยู่เบื้องล่างที่ตายก็ตาย ที่เจ็บก็เจ็บ และท่ามกลางคนพวกนั้น ยังมีคนที่พวกเขารู้จักอยู่อีกด้วย!
“ต้วนเยี่ย!”
ผู้อาวุโสเซียนจากสำนักเมฆาหยกคนหนึ่งจำต้วนเยี่ยได้ เห็นเขากำลังต่อสู้กับผู้ฝึกวิชามารนั่นด้วยดวงตาแดงก่ำ ร่างกายเต็มไปด้วยบาดแผลเล็กใหญ่ เขาพลันรู้สึกหนักอึ้งในใจ รีบเข้าไปช่วยโจมตีผู้ฝึกวิชามารนั่น
“นั่นมันปีศาจเลือด!”
ผู้อาวุโสเซียนจากสำนักแห่งหนึ่งจำผู้ฝึกวิชามารคนนั้นได้ น้ำเสียงเย็นเยียบเล็กน้อย “ปีนั้นข้าเคยสู้กับเขา เขาก็คือปีศาจเลือด หนึ่งในสิบจอมมารใต้อาณัติจอมมารปีศาจ! คนผู้นี้โหดเหี้ยมอำมหิต พลังต่อสู้น่าสะพรึงกลัว!”
ผู้อาวุโสเซียนคนอื่นๆ เห็นเหตุการณ์ กอปรกับได้ยินคำพูดของผู้อาวุโสเซียนผู้นั้น ก็รีบร่วมมือกันโจมตีผู้ฝึกวิชามารนั่นทันที
“ฆ่ามัน! อย่าปล่อยให้มันหนีไปได้!” ผู้อาวุโสเซียนหลายคนตวาดเสียงกร้าว ประกายเยือกเย็นหลายสายพาดผ่าน เห็นเพียง พวกเขาตวัดมือสร้างค่ายกลกระบี่เพื่อโจมตีปีศาจเลือด
อี้ซิวหรานที่ร่วมมือกับต้วนเยี่ยและเจ้าเมืองลู่สู้กับปีศาจเลือดเมื่อเห็นเหล่าผู้อาวุโสเซียนจากสำนักต่างๆ มาช่วย ก็ลอบถอนหายใจ ก่อนที่จะล้มนั่งลงไปบนพื้น
เขาในตอนนี้ เพราะฝืนยืนหยัดต่อสู้อย่างสุดชีวิต บนร่างกายจึงเต็มไปด้วยบาดแผลเล็กใหญ่ เมื่อมองไปรอบๆ นอกจากลู่ซีเหยียนและหร่วนหรูที่ถูกพวกเขาสามคนปกป้องไว้ข้างหลัง เหล่าผู้ฝึกตนที่เหลือค่อยๆ ถูกปีศาจเลือดสังหาร ศพและคราบเลือดที่เกลื่อนเต็มพื้น ดูน่าสยดสยองมาก…
“ต้วนเยี่ย เจ้ามาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร? เจ้าออกไปฝึกนอกสถานที่กับคนในสำนักไม่ใช่หรือ?”
ผู้อาวุโสเซียนท่านหนึ่งจากสำนักเมฆาหยกประคองต้วนเยี่ยที่ร่างกายเต็มไปด้วยบาดแผลขึ้นมาพลางถามด้วยความสงสัย เขาออกไปฝึกฝนนอกสถานที่แท้ๆ เหตุใดจึงวิ่งมาอยู่นี่ได้ แล้วยังต่อสู้กับปีศาจเลือดหนึ่งในสิบจอมมารอีกด้วย?
………………………………….