เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 2243 ขอตัวก่อน / ตอนที่ 2244 โดนจับ
ตอนที่ 2243 ขอตัวก่อน
“พอได้แล้ว”
เธอลุกขึ้น ค่อยๆ สาวเดินเข้าไป หยุดยืนตรงหน้าอี้ซิวหราน นัยน์ตาสุกใสจ้องมองที่ใบหน้าโดดเด่นของเขา “ทำไมข้ารู้สึกเหมือนเคยเจอเจ้าที่ไหนมาก่อน?”
จำเขาได้หรือ เป็นไปไม่ได้
ยังไม่พูดถึงแต่ก่อนตอนสู้กับเธอเขาใส่หน้ากาก เธอจึงมองไม่เห็นหน้าเขา แม้แต่กระบวนท่าที่สู้กับต้วนเยี่ยเมื่อกี้เขาก็ไม่เคยใช้มาก่อน ไม่เช่นนั้น จะพ่ายแพ้ให้กับเจ้านั่นนั่นง่ายๆ ได้อย่างไรกัน?
หากเธอจำเขาได้ ก็คงลงมือแต่แรกแล้ว จะต้องถามเขาอีกทำไม?
ด้วยเหตุนี้ เขายกชายเสื้อที่ฉีกของเฟิ่งจิ่วมาขึ้นเช็ดเลือดที่มุมปาก มองเธอ กระตุกยิ้มมุมปาก เผยรอยยิ้มออกมา “ตอนเที่ยงพวกเราก็เคยเจอกันที่ลานด้านหลังแล้วไม่ใช่หรือ? ลืมเร็วขนาดนี้เชียว?”
เขานวดหน้าคลึงหน้าอก เหล่มองต้วนเยี่ยแวบหนึ่ง เจ้านั่นลงมือหนักจริงๆ เขาเองก็ประมาทเกินไปถึงได้พ่ายแพ้ หากสู้กันอีกครั้ง เขาจะต้องกำราบเจ้านั่นได้แน่นอน
เฟิ่งจิ่วนัยน์ตาไหวระริก เพียงจ้องมองเขาเงียบๆ ไม่พูดอะไร เนิ่นนาน เธอหันตัวไปหาเจ้าเมืองลู่ “ท่านเจ้าเมือง งานเลี้ยงคืนนี้ขออภัยที่ข้าให้อาจอยู่ร่วมงานด้วยได้” เธอพยักหน้าเล็กน้อย จากนั้นก็สาวเท้าเดินจากไป
ต้วนเยี่ยเห็นอย่างนั้นก็จ้องเขม็งชายเสื้อที่ย้อมไปด้วยเลือด ขมวดคิ้วเล็กน้อย กล่าวเตือนว่า “ต่อไปอยู่ให้ห่างจากนางหน่อย!” เอ่ยจบ เขาก็กล่าวลาเจ้าเมืองลู่เช่นกัน จากนั้นก็ออกไปพร้อมกับเฟิ่งจิ่ว
ผู้ฝึกตนคนอื่นๆ ต่างก็อึ้งค้าง ต่างก็ไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น? ผู้หญิงคนนั้นก็เป็นแค่หมอธรรมดาคนหนี่ง ทำไม ทำไมกลับดูเหมือนว่าเซียนต้วนเยี่ยกำลังฟังคำสั่งจากนาง?
ชายเสื้อของนางถูกฉีกขาด นางยังไม่พูดอะไร ต้วนเยี่ยกลับออกหน้าปกป้องนางก่อนแล้ว สองคนนี้เป็นอะไรกัน?
ยังมีผู้ฝึกตนแซ่อี้ผู้นั้นอีก อย่างไรก็เป็นผู้ฝึกเซียนระดับปราชญ์เซียนแล้ว นึกไม่ถึงว่าจะแพ้ให้กับต้วนเยี่ยที่เป็นเซียนเหินขั้นสูงสุด ต้องบอกก่อนว่าพลังที่ห่างกันหนึ่งระดับถือว่าต่างกันมากทีเดียว มีผู้ฝึกตนหลายคนไม่อาจก้าวข้ามอุปสรรคด่านนี้ไปได้ เห็นได้ว่าความต่างของพลังร้ายกาจเพียงใด แต่ต้วนเยี่ยกลับเอาชนะชายแซ่อี้ผู้นั้นได้
“เฟิ่งจิ่วผู้นี้เป็นใครกันแน่? เป็นแค่หมอธรรมดาคนหนึ่งจริงหรือ?”
“เจ้าเมืองลู่บอกว่าชื่อภูตหมอมิใช่หรือ? บางที อาจเป็นหมอที่มีความสามารถคนหนึ่งจริงๆ”
“ก็จริง ไม่อย่างนั้นสหายต้วนจะปกป้องนางขนาดนั้นทำไมกัน? เพื่อนางแล้วก็โกรธจนทำร้ายผู้อื่นบาดเจ็บ”
“จะว่าไป สหายต้วนช่างสมแล้วจริงๆ ที่เป็นผู้มีพรสวรรค์แห่งสำนักเมฆาหยก นึกไม่ถึงว่าจะต่อกรกับคนที่มีพลังเหนือเขาได้ อนาคตสดใสไม่มีที่สิ้นสุดจริงๆ”
“ใช่แล้วๆ”
ทุกคนกำลังพูดคุยถกเถียงกันอยู่ แม้ประเด็นจะพูดถึงเฟิ่งจิ่ว แต่พูดไปพูดมากลับหันเหไปเรื่องของต้วนเยี่ยแทน ทว่า ผู้ฝึกตนบางส่วนก็เริ่มรู้ความ ไม่มองเฟิ่งจิ่วเป็นเพียงคนธรรมดาอีกต่อไป
คนที่ทำให้เจ้าเมืองลู่ปฏิบัติด้วยอย่างพิเศษได้ ทำให้ต้วนเยี่ยออกหน้าปกป้องได้ และทำให้ผู้ฝึกตนระดับปราชญ์เซียนอย่างชายแซ่อี้อยากใกล้ชิดได้ เห็นได้ว่าคนคนนี้จะต้องมีประวัติความเป็นมาที่ไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน
เจ้าเมืองลู่เห็นสองคนนั้นออกไปแล้ว ก็พยักหน้าให้ลู่ซีเหยียนกับหร่วนหรูตามไป จากนั้นก็หันเดินไปหาอี้ซิวหรานที่กำลังลุกยืนจากมุมกำแพง ถามว่า “เซียนอี้ ท่านไม่เป็นไรกระมัง?”
เป็นถึงปราชญ์เซียนคนหนึ่งกลับถูกเซียนเหินขั้นสูงสุดกำราบพ่ายแพ้ ซ้ำยังต่อหน้าทุกคนอย่างนี้อีก แม้แต่เขาเอง ก็ยังไม่รู้จะปลอดใจอี้ซิวหรานอย่างไรดี
อี้ซิวหรานมองเจ้าเมืองลู่แวบหนึ่ง เอ่ยว่า “เจ้าเมืองลู่ต้อนรับแขกต่อเถิด ข้าเองก็ขอตัวก่อนเช่นกัน” เอ่ยจบ เขาก็เดินจากไป
………………………………….
ตอนที่ 2244 โดนจับ
เฟิ่งจิ่วกลับมาถึงเรือน ต้วนเยี่ยที่ตามหลังมาเห็นเธอถูกฉีกชายเสื้อ จึงเอ่ยว่า “เจ้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนเถิด! อีกเดี๋ยวเรามาคุยกันหน่อย”
เธอหันกลับไปมองเขา ทิ้งตัวนั่งลงที่โต๊ะหินในลานบ้าน ยิ้มถามว่า “คุยอะไร? ว่ามาเถอะ!” เธอจับมุมเสื้อที่โดนฉีกขึ้นมาหมุนเล่น
“ผู้ชายคนนั้นเป็นใครอีก? รู้จักกันได้อย่างไร?” เขาเองก็นั่งลงตาม มองเธอแล้วถาม สองสามวันนี้เขาอยู่กับเธอตลอดแท้ๆ นึกไม่ถึงว่าเธอจะไปมีเรื่องกับคนอย่างนี้ได้
เฟิ่งจิ่วยกมือหนึ่งชันคาง เอ่ยว่า “ก็เหมือนที่บอกเมื่อกี้ เคยเจอที่ภูเขาจำลองเมื่อตอนเที่ยงครั้งหนึ่ง เหมือนจะชื่ออี้ซิวหรานอะไรสักอย่าง”
“คนคนนี้ดูลึกลับยากคาดเดา เจ้าระวังตัวไว้หน่อยดีกว่า”
ต้วนเยี่ยขมวดคิ้วเตือน เขาเคยประมือกับอี้ซิวหราน ย่อมรู้ว่าคนคนนั้นไม่ธรรมดา เขากำราบอี้ซิวหรานได้ นั่นเพราะอีกฝ่ายดูเบาศัตรูด้วย หากอีกฝ่ายเอาจริงขึ้นมา เป็นถึงปราชญ์เซียนไม่มีทางพ่ายแพ้ให้เขาเป็นแน่
“อืม ข้ารู้ ข้าแค่รู้สึกว่าคนคนนี้คุ้นๆ เหมือนเคยเจอที่ไหนมาก่อน แต่กลับจำไม่ได้ว่าเคยรู้จักกันเมื่อไร” เธอเอ่ยอย่างครุ่นคิด
“กรี๊ด! ช่วยด้วย…”
“ฮ่าๆๆๆๆ…”
ทันใดนั้น เสียงกรีดร้องดังขึ้น ตามมาด้วยเสียงหัวเราะอันบ้าคลั่ง เสียงหัวเราะนั่นแฝงไว้ด้วยแรงกดดันอันแข็งแกร่งกระจายออกมา กลิ่นอายพลังวิญญาณก็แผ่ออกมาเป็นระลอกคลื่นจนมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า
“แย่แล้ว!”
เฟิ่งจิ่วลุกพรวด สาวเท้าเหาะออกไปข้างนอก
ต้วนเยี่ยเองก็รีบตั้งสติ มุ่งหน้าไปตามเสียงกรีดร้องนั้น ทว่า หลังจากทั้งสองเหาะออกไประยะหนึ่ง ก็เห็นเงาร่างสีดำร่างหนึ่งราวกับพญาเหยี่ยวกำลังจับไก่ตัวน้อย มือหนึ่งจับลู่ซีเหยียน อีกมือหนึ่งจับหร่วนหรูเหาะขึ้นไป เสียงหัวเราะอันบ้าคลั่งดังออกมาจากปากของเขา
“ฮ่าๆๆๆๆ! อย่างพวกเจ้าน่ะหรือคิดจะต่อกรกับข้า? ช่างไม่ประเมินกำลังตัวเองเสียเลย! เจ้าแซ่ลู่ ลูกสาวของเจ้า ข้าจับตัวไปก่อนล่ะนะ! เลือดของนาง จะต้องสดใหม่และหอมหวานมากแน่ๆ!” ขณะเอ่ย เขายังทำท่าแลบลิ้นออกมาเลียปาก บนใบหน้าชั่วร้ายเต็มไปด้วยความเย่อหยิ่ง
“เป็นผู้ฝึกวิชามารจริงๆ ด้วย! จับมันไว้! อย่าให้มันหนีไปได้!”
เหล่าผู้ฝึกตนพุ่งเข้ามา เจ้าเมืองลู่เมื่อเห็นลูกสาวของตนเองกับหร่วนหรูถูกผู้ฝึกวิชามารนั่นจับตัวไป หัวใจตึงเกร็ง ตวาดเสียงกร้าว “ปล่อยพวกนางเดี๋ยวนี้!” เขารวมพลังเหาะขึ้นไป เท้าเหยียบวายุมือถือกระบี่พุ่งบินใส่ผู้ฝึกวิชามารนั่น
“ท่านพ่อ!”
ลู่ซีเหยียนหน้าซีดเผือด ร่างกายแน่นิ่งไม่อาจขยับขัดขืนได้ราวกับถูกสกัดจุดลมปราณไว้ หร่วนหรูที่ถูกจับไว้ด้วยมืออีกข้างหนึ่งเองก็หน้าซีด แม้จะหวาดกลัว แต่กลับไม่ได้กรีดร้องขอความช่วยเหลือ เพียงพยายามสงบสติอารมณ์เพื่อมองหาโอกาสรอด
หากถูกผู้ฝึกวิชามารนี่จับตัวไป เกรงว่าพวกนางสองคนคงต้องพบกับจุดจบถูกสูบเลือดจนแห้งตาย แทนที่จะรอคนมาช่วย ไม่สู้คิดหาทางช่วยตนเองดีกว่า
เพราะเดิมทีพวกนางสองคนก็ตั้งใจจะมาหาเฟิ่งจิ่วที่ลานบ้านข้างหลัง จึงอยู่ไม่ไกลจากเฟิ่งจิ่วและต้วนเยี่ยมากนัก ยามนี้ เฟิ่งจิ่วเห็นผู้ฝึกวิชามารที่อยู่ไม่ไกลจากเธอมากนัก รวมถึงลู่ซีเหยียนและหร่วนหรู ฝ่ามือพลันพลิกหมุน เข็มเงินพุ่งออกไป ขณะเดียวกัน เธอเขย่งปลายเท้าเหาะขึ้นไป
เข็มเงินพุ่งแหวกอากาศออกไป แทงใส่มือข้างที่จับตัวลู่ซีเหยียนไว้ จุดลมปราณที่ข้อมือของผู้ฝึกวิชามารถูกแทงกะทันหัน รู้สึกเพียงแขนชา มือที่จับลู่ซีเหยียนไว้จึงคลายออกอย่างไม่ทันตั้งตัว ลู่ซีเหยียนตกลงไปข้างล่าง เขาทำท่าจะคว้าตัวนางกลับมาอีกครั้ง ทว่าในเวลานี้…