เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 2229 เหมือนอาจารย์อาต้วน / ตอนที่ 2230 ไมตรีจิตยากจะปฏิเสธ
- Home
- เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า
- ตอนที่ 2229 เหมือนอาจารย์อาต้วน / ตอนที่ 2230 ไมตรีจิตยากจะปฏิเสธ
ตอนที่ 2229 เหมือนอาจารย์อาต้วน
ขณะที่พวกเขาสาวเท้าออกวิ่ง เฟิ่งจิ่วก็พลิกฝ่ามือ เข็มเงินหลายเล่มพุ่งแทงออกไป
“อ๊าก!”
เสียงกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดหลายเสียงดังขึ้นพร้อมกัน พวกเขารู้สึกเพียงว่าขาชาไปหมด ล้มคะมำไปข้างหน้าอย่างไม่ทันตั้งตัว ขณะที่พวกเขากำลังตกใจ เอื้อมมือไปลูบที่ขา ก็สัมผัสถูกเข็มเงินเล่มหนึ่งที่โผล่ออกมา เห็นอย่างนั้น พวกเขาอึ้งงัน หันหน้าอันซีดขาวกลับไปมอง
เห็นเพียง หญิงสาวชุดแดงย้ายเก้าอี้ที่อยู่ด้านหนึ่งมานั่ง มือหนึ่งยกขึ้นชันคาง มองพวกเขาด้วยสีหน้าผ่อนคลาย
“วิ่งสิ! พวกเจ้าจะหนีไม่ใช่หรือ?” เธอหมุนเข็มเงินเล่มหนึ่งเล่นอยู่กลางระหว่างนิ้ว เข็มเงินที่ประกายแสงเยือกเย็น มองดูจนชายฉกรรจ์พวกนั้นใจสั่น ยามนี้ยังกล้ามีความคิดจะหนีอีกเสียที่ไหน?
“มะ ไม่หนี พวกข้าไม่หนี พวกข้ายอมจ่ายเงินแล้ว ยอมจ่ายแล้ว” พวกเขาละล่ำละลักพูด เทียบกับเงินทอง แน่นอนว่าชีวิตของพวกเขาสำคัญกว่า ผู้หญิงชุดแดงคนนี้ลงมือเพียงครั้งเดียว พวกเขาก็หนีไม่ได้แล้ว ใครจะรู้ว่าหากคิดหนีอีกและยั่วโทสะนางอีก นางจะทำร้ายพวกเขาถึงชีวิตหรือไม่
“นายท่าน ตอนนี้คิดบัญชีเสร็จแล้ว” เถ้าแก่เดินมา ยืนอยู่ข้างเฟิ่งจิ่วด้วยความนอบน้อม
ชายฉกรรจ์กลุ่มนั้นครั้นได้ยินเถ้าแก่เรียกผู้หญิงชุดแดงว่านายท่าน ใบหน้าซีดเผือดไร้สีเลือด หากทำให้ผู้ฝึกตนระดับกำเนิดวิญญาณเรียกว่านายท่านได้ จะใช่คนธรรมดาที่ไหน? พวกเขาคงเบื่อชีวิตยืนยาวแล้วกระมัง จึงได้ไปหาเรื่องนาง
ได้ยินเช่นนั้น เฟิ่งจิ่วลุกขึ้น สาวเดินออกไปข้างนอก พลางเอ่ยว่า “อย่างนั้นก็คิดเงินกับพวกเขาเสีย บอกแขกทั้งชั้นบนและชั้นล่าง ค่าอาหารของวันนี้พวกเขาเป็นคนเลี้ยง ให้พวกเขาดื่มกินเต็มที่”
“ขอรับ” เถ้าแก่รับคำ เห็นนายท่านออกไปข้างนอก เดินไปยังหอสุราไป๋เซียง ก่อนจะไปคิดเงินกับคนพวกนั้น…
ณ ชั้นสองของหอสุราไป๋เซียง ต้วนเยี่ยกำลังดื่มชาอยู่ริมหน้าต่าง เวลานี้รู้สึกได้ว่ามีสายตาหลายคู่กำลังมองสำรวจเขา ก็อดขมวดคิ้วและหันไปมองสายตาพวกนั้นไม่ได้
เห็นว่าเป็นผู้หญิงสองคน พอเห็นเขาหันไปทั้งสองก็รีบก้มหน้างุด เขาจึงละสายตากลับมา ไม่สนใจสองคนนั้นอีก
“เจ้าดูเขาเหมือนอาจาย์อาต้วนหรือไม่?” หญิงสาวที่อยู่ไม่ไกลกระซิบถามผู้หญิงที่นั่งโต๊ะเดียวกัน
“ดูเหมือนอยู่ เพียงแต่อาจารย์อาต้วนควรอยู่ในสำนักจึงจะถูก เหตุใดมาอยู่ที่นี่ได้? พวกเราจำผิดหรือไม่?” ผู้หญิงที่สวมชุดกระโปรงสีฟ้าครามกระซิบเบาๆ
“ข้าเองก็จำไม่ได้ ตอนนั้นข้าเพียงเห็นจากที่ไกลครั้งเดียว” ผู้หญิงหน้าตาสะสวยโดดเด่นอีกคนขมวดคิ้วครุ่นคิด ก่อนเอ่ยว่า “ถ้าอย่างไร พวกเราไปถามดีหรือไม่?”
“ถาม? นี่…ไม่ค่อยดีกระมัง?” หญิงชุดกระโปรงสีฟ้าครามลังเล
“แค่ถามไม่เป็นไรหรอก” หญิงสาวลุกขึ้น เดินไปที่โต๊ะของต้วนเยี่ย มองชายหนุ่มที่นั่งดื่มชาอยู่ตรงนั้น ยิ่งเดินเข้าใกล้ ก็ยิ่งรู้สึกว่าใบหน้าอ่อนกว่าวัยนั้นช่างคุ้นเคยนัก
คนในสำนักต่างลอบเล่าลือกัน อาจารย์อามีใบหน้าหล่อเหลาอ่อนกว่าวัย เรื่องนี้คนในสำนักล้วนรู้ เพียงแต่ก็รู้ว่าอาจารย์อาต้วนไม่ชอบให้ใครว่าเขาหน้าเด็ก
ชายหนุ่มตรงหน้ามีใบหน้าอ่อนเยาว์ แม้กลิ่นอายรอบกายจะเย็นชา แต่ดูแล้วเหมือนอาจารย์อาในสำนักของพวกนางจริงๆ!
นางสูดหายใจลึกๆ รวบรวมความกล้าถามออกไป “ขอถามหน่อย ท่านคืออาจารย์อาต้วนใช่หรือไม่?”
ถูกคนจ้องเช่นนี้ สีหน้าของต้วนเยี่ยดูย่ำแย่มาก เห็นจากหางตาว่าผู้หญิงสองคนนั้นเดินมา ขณะกำลังจะตวาดสั่งสอน ก็ได้ยินคำถามนี้ก่อน
………………………………….
ตอนที่ 2230 ไมตรีจิตยากจะปฏิเสธ
เขาหันไปมองผู้หญิงคนนั้น สายตากวาดมองนาง ก่อนจะตวัดมองไปยังหญิงชุดกระโปรงสีฟ้าครามที่อยู่ข้างหลัง เพียงขมวดคิ้ว ไม่ได้ตอบคำถาม
เห็นเช่นนี้ ผู้หญิงคนนั้นถามอีก “ขอถามหน่อย ท่านคือต้วนเยี่ยแห่งสำนักเมฆษหยก อาจารย์อาต้วนใช่หรือไม่?” หญิงสาวกลัวว่าเขาจะไม่ตอบอีก รีบเอ่ยอีกว่า “พวกเราสองคนเป็นศิษย์จากสำนักเมฆาหยก ข้าชื่อลู่ซีเหยียน นางชื่อหร่วนหรู”
“มีธุระ?” เขาขมวดคิ้วถาม สีหน้าเย็นชา
ได้ยินอย่างนั้น ลู่ซีเหยียนดีใจ นี่คือยอมรับแล้วหรือ? เขาคือต้วนเยี่ย อาจารย์อาต้วนจริงๆ? นึกมาถึงตรงนี้ ใบหน้าของนางมีรอยยิ้มตื้นตัน “อาจารย์อาต้วน เป็นท่านจริงๆ ด้วย! ข้ากลับบ้านมาช่วงก่อน แต่ก่อนเคยเห็นอาจารย์อาจากที่ไกลๆ ไม่ค่อยมั่นใจ ฉะนั้น ฉะนั้นจึงได้เข้ามาถาม”
ขณะเอ่ย ไม่รอให้ต้วนเยี่ยตอบ นางก็เอ่ยอีกว่า “อาจารย์อาต้วน ท่านพ่อของข้าเป็นเจ้าเมืองที่นี่ ในเมื่ออาจารย์อาต้วนมาที่เมืองธาราภูมิแล้ว ไม่สู้ไปพักที่บ้านข้าสักสองสามวันดีหรือไม่? ให้ข้าได้ทำหน้าที่เจ้าบ้าน ต้อนรับขับสู้อาจารย์อาต้วน”
“ไม่ต้องล่ะ!” ต้วนเยี่ยตอบ ไม่มองพวกนางอีก
“แหม? ข้าไม่อยู่แค่เดี๋ยวเดียว เหตุใดจึงมีคนงามสองคนมาหาแล้วเล่า?”
เสียงหยอกล้อปนแววขำขันดังมา ต้วนเยี่ยได้ยินเสียงนั้นก็หันไปดู ประกายอบอุ่นพาดผ่านดวงตา “กลับมาแล้วหรือ?”
ผู้หญิงสองคนนั้นได้ยินเสียงก็หันกลับไปดู เห็นผู้หญิงชุดแดงหน้าตางดงามคนหนึ่งเดินมา เขาอดตะลึงไม่ได้ ช่างเป็นผู้หญิงที่งามนัก…แม้แต่พวกนางที่เป็นผู้หญิงเห็นแล้ว ก็ยังอดตะลึงในความงามไม่ได้
เฟิ่งจิ่วก้าวเข้ามา เดินผ่านผู้หญิงสองคนนั้นมานั่งลงตรงหน้าต้วนเยี่ย นั่งพิงขอบหน้าต่างราวกับไร้กระดูก มองหญิงสาวสองคนนั้นด้วยสีหน้าเฉื่อยชา เผยรอยยิ้มจางๆ
“คนงามสองคนมาจากไหนหรือ?”
ลู่ซีเหยียนกับหร่วนหรูเห็นผู้หญิงชุดแดงรู้จักอาจารย์อาต้วน ไม่กล้าเสียมารยาท รีบย่อเข่าทำความเคารพ “คารวะพี่สาวท่านนี้ ข้าชื่อลู่ซีเหยียน เป็นลูกศิษย์สำนักเมฆาหยก”
“ข้าชื่อหร่วนหรู เป็นศิษย์ของสำนักเมฆาหยกเช่นกัน” ผู้หญิงชุดกระโปรงสีฟ้าครามเอ่ย หันไปคารวะเฟิ่งจิ่ว
“อ้อ? เป็นศิษย์สำนักเมฆาหยกหรอกหรือ! เช่นนั้นก็เป็นศิษย์ร่วมสำนักของเจ้าน่ะสิ?” เฟิ่งจิ่วเอามือหนึ่งชันคาง ยิ้มตาหยีมองต้วนเยี่ย
ต้วนเยี่ยเห็นเธอทำหน้าหยอกล้อ อดหน้าดำคล้ำไม่ได้ “ข้าไม่รู้จักพวกนาง”
ผู้หญิงสองคนได้ยินอย่างนั้นก็ชะงัก อยากพูดอะไรบางอย่าง กลับพบว่าพูดไม่ออกแล้ว ไม่ผิด เขาไม่รู้จักพวกนาง เขาเป็นคนที่พวกนางเคารพเป็นอาจารย์อา จะจำพวกนางที่เป็นศิษย์ในสำนักได้อย่างไรกัน? พวกนางเคยเห็นเขาจากที่ไกลๆ แค่ครั้งเดียว ไม่เช่นนั้นก็คงไม่อาจมั่นใจได้ว่าคนตรงหน้าใช่อาจารย์อาต้วนหรือไม่
เฟิ่งจิ่วชำเลืองมองเขา เอ่ยเสียงเย็นๆ ว่า “คนอื่นเขาก็บอกแล้วว่าเป็นศิษย์ในสำนักของพวกเจ้า เจ้ายังไม่รู้จักอีก? ถึงไม่รู้จักอย่างไรก็เป็นศิษย์ร่วมสำนัก”
“พี่สาวท่านนี้ อาจารย์อาต้วนไม่รู้จักพวกข้าจริงๆ พวกข้าเพียงเคยเห็นเขาจากที่ไกลๆ แค่ครั้งเดียว”
ลู่ซีเหยียนอธิบาย แล้วจึงหันไปมองเฟิ่งจิ่ว “ที่จริงเป็นอย่างนี้ ข้าคิดว่าในเมื่อบังเอิญเจออาจารย์อาต้วน และท่านพ่อของข้าก็เป็นเจ้าเมืองเมืองธาราภูมิแห่งนี้ ฉะนั้นข้าจึงอยากเชิญอาจารย์อาต้วนไปพักที่บ้านข้าสักสองสามวัน ให้พวกข้าได้ต้อนรับเขาในฐานะเจ้าบ้าน”
“อ้อ อย่างนี้เองหรือ?” เฟิ่งจิ่วแปลกใจเล็กน้อย มองนางแวบหนึ่ง ก่อนจะหันมามองต้วนเยี่ย ยิ้มเอ่ยด้วยว่า “คนอื่นเขาอุตส่าห์เชื้อเชิญอย่างกระตือรือร้น เจ้าทำไมไม่ไปพักสักสองสามวันเล่า?”
………………………………….