เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 2207 พิษกำเริบ / ตอนที่ 2208 ไข่มุกที่เจ้าขนเขียวกำเนิดออกมา
- Home
- เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า
- ตอนที่ 2207 พิษกำเริบ / ตอนที่ 2208 ไข่มุกที่เจ้าขนเขียวกำเนิดออกมา
ตอนที่ 2207 พิษกำเริบ
จากตรงนี้มองไปรอบๆ เป็นป่าที่กว้างไกลไร้ขอบเขต เธอไม่รู้ว่าที่นี่คือที่ไหน เหตุใดจอมมารพิษผู้นี้จึงได้ใช้แกนเคลื่อนย้ายพาเธอมาซ่อนตัวที่นี่?
เธมหมายจะใช้แกนเคลื่อนย้ายจี๋กวงเพื่อกลับเมืองร้อยนทีก่อน แต่ใครจะรู้ว่าความเจ็บปวดแผ่ซ่านไปทั่วร่างกายของเธอ เส้นเลือดในร่างกายราวกับจะระเบิด
“ซี้ด! โอ๊ย!”
เธอกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด ล้มตัวลงไปบนพื้น สองมือกอดตัวเองแน่น หน้าซีดเผือดไปทั้งดวง เหงื่อเท่าเม็ดถั่วผุดซึมเต็มหน้าผาก ความเจ็บปวดแสนสาหัสถาโถมเข้ามา เธอกลิ้งตัวอยู่บนพื้นพลางร้องด้วยความเจ็บปวด
“เฮือก!”
ใบหน้าซีดเผือดเส้นเอ็นนูนขึ้นมา จากหน้าซีดค่อยๆ กลายเป็นสีม่วงคล้ำ กลีบปากเริ่มดำ เส้นเอ็นบนหลังมือนูนชัดขึ้นมา ผิวหนังเริ่มกลายเป็นสีม่วง
“อา…”
เธอครวญครางด้วยความเจ็บปวด ความเจ็บปวดที่ราวกับจะฉีกร่างเธอเป็นชิ้นๆ ทำให้เธอรู้สึกราวกับอยู่ไม่สู้ตาย เธอพยามยามอดกลั้น พลางหยิบเข็มเงินแทงไปที่จุดลมปราณของตนเองเพื่อหยุดความเจ็บปวด ทว่าแม้จะแทงเข็มเงินลงไป กลับไม่มีประโยชน์อันใดแม้แต่น้อย
“อึก!”
กลิ่นอายพลังเร้นลับในร่างกายกระจายออกมาพร้อมกับเสียงกรีดร้องของเธอ ฝ่ามือตวัดโบก กลิ่นอายพลังวิญญาณอันแข็งแกร่งถูกวาดออกไปรอบๆ ความกระหายเลือดพุ่งพล่านในร่างกาย เธอในนาทีนี้ บังเกิดความคิดอยากฆ่าคน อยาก…ระบายความคลุ้มคลั่งในร่างกาย
ทว่าในเวลานี้ เธอได้ยินเสียงคนตรงมาทางนี้รางๆ
“เหมือนจะเป็นข้างหน้า ข้าเหมือนได้ยินเสียงคนกรีดร้อง คล้ายเสียงผู้หญิง”
“เหตุใดที่แบบนี้จึงมีหญิงสาวอยู่คนเดียว?”
“สถานที่เช่นนี้น่าจะไม่มีใครมาถึงจะถูก แต่เสียงนั้นกลับดังอยู่ในบริเวณนี้”
เสียงพูดคุยค่อยๆ ใกล้เข้ามา เฟิ่งจิ่วนั่งยองอยู่บนพื้น กลิ่นอายพลังเร้นลับป่วนพล่านอยู่รอบกาย ไอสังหารบนตัวหวีดร้องอย่างบ้าคลั่ง สายลมกรีดพัดชุดกระโปรงสีแดงของเธอดังพึ่บพั่บ
ดวงตาของเธอแดงก่ำเพราะเลือดลมที่กำลังป่วนพล่านในร่างกาย ประกายกระหายเลือดและชั่วร้ายพุ่งออกมาจากดวงตา ไม่เหลือความสง่างามสูงส่งเหมือนเคยเลยแม้แต่น้อย แต่ขณะเดียวกันก็เหมือนเธอกำลังอดกลั้น ดวงตาสีเลือดกลับมาเป็นปกติเป็นระยะหากไม่ใช่กลิ่นอายรอบกายเธอไม่ปกติ คงมีคนคิดว่าตนเองมองผิดไปจริงๆ
แต่ในชั่วเวลาที่เธอมีสติตื่นตัวนี้เอง เฟิ่งจิ่วกัดฟัน หายตัวเข้าไปในห้วงมิติของเธอ ร่างของเธอหายลับไปจากที่เดิม เหลือเพียงร่องรอยที่เกิดจากกระแสพลังอันป่วนพล่านให้เห็นบนพื้นบางส่วน
“เอ๊ะ? ทำไมไม่เห็นคน? เมื่อกี้เหมือนได้ยินเสียงดังมาจากตรงนี้” หญิงสาวนางหนึ่งพูดขึ้นด้วยความประหลาดใจ หันมองรอบๆ เอ่ยกับคนข้างๆ ว่า “ดูสิ ตรงนั้นมีถ้ำภูเขาอยู่ด้วย”
“น่าแปลก ที่นี่ข้าเคยมาหลายครั้งแล้ว ไม่เคยเห็นถ้ำภูเขาเลย ทำไมครั้งนี้จู่ๆ ก็มีถ้ำภูเขาปรากฏขึ้นมา?”
“ข้างหน้าตรงที่พวกเราผ่านมามีค่ายกล ค่ายกลนั่นปกป้องที่นี้ไว้ ฉะนั้นตอนพวกเรามาที่นี่จึงมองไม่เห็นถ้ำภูเขา เมื่อครู่เพราะพวกเราตามเสียงมา จึงได้เดินผ่ายค่ายกลนั้นมาถึงที่นี่”
หากเฟิ่งจิ่วอยู่ที่นี่เวลานี้ ก็จะจำได้ว่าผู้พูดคือ ‘ต้วนเยี่ย’ หนึ่งในสี่คนที่เธอเคยสอนเขานั่นเอง
ต้วนเยี่ยกำลังฝึกวรยุทธ์อยู่ในสำนักเมฆาหยก ครั้งนี้เขาบังเอิญออกมาฝึกฝนกับคนในสำนักพอดี คนที่อยู่ด้านหลังสุดคือศิษย์น้องหญิงของเขา พวกเขาตามเสียงนั้นมาแต่กลับไม่เห็นเงาคนตรงนี้ แม้แต่เขาก็ยังอดรู้สึกแปลกใจไม่ได้
………………………………….
ตอนที่ 2208 ไข่มุกที่เจ้าขนเขียวกำเนิดออกมา
“เสียงเมื่อครู่เหมือนดังอยู่แถวนี้แท้ๆ เหตุใดพวกเรากลับไม่เห็นคนเลย?” ต้วนเยี่ยพึมพำ หันมองไปรอบๆ แล้วปล่อยดวงจิตออกไป แต่ยังคงไม่เจอกลิ่นอายอะไรเลยแม้แต่น้อย
“บางทีอาจไปแล้วก็ได้” หญิงสาวที่อยู่ข้างๆ เสนอ จากนั้นดึงแขนเสื้อเขา “ศิษย์พี่ พวกเรากลับกันเถอะ! อาจารย์ลุงจะได้ไม่เป็นห่วงพวกเรา”
“ก็ได้!” ต้วนเยี่ยรับคำ เตรียมจะหมุนตัวกลับไปพร้อมกับนาง แต่สายตากลับหันไปสะดุดที่ปากถ้ำซึ่งอยู่ไม่ไกล
“ข้าจะเข้าไปดูข้างในหน่อย” เขาเอ่ย สาวเดินยาวๆ เข้าไปในถ้ำ เห็นอย่างนั้น หญิงสาวทำได้เพียงเดินตามไป
เดินวนข้างในหนึ่งรอบ ได้กลิ่นเพียงกลิ่นคาวเลือดและร่องรอยบนพื้น ต้วนเยี่ยย่อกายลงไปตรวจสอบ อดไม่ได้ที่จะประหลาดใจ เหตุใดจึงเหมือนน้ำยาสลายศพของเฟิ่งจิ่วเช่นนี้?
ครั้นความคิดนี้ผุดขึ้นมา เขาอดนึกย้อนไปถึงเสียงที่ได้ยินเมื่อครู่ไม่ได้ เสียงนั่นคงไม่ใช่ว่าเป็นเสียงของเฟิ่งจิ่วหรอกกระมัง?
ไม่ น่าจะไม่ใช่นาง นางจะกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดเช่นนั้นได้อย่างไรกัน? น่าจะเป็นคนอื่น
หญิงสาวตามมา เห็นเขานั่งยองอยู่บนพื้นด้วยสีหน้าแปลกๆ อดถามไม่ได้ “ศิษย์พี่? ศิษย์พี่ท่านเป็นอะไรไป?”
“ไม่เป็นไร ไปกันเถิด!” เขาลุกขึ้น รู้สึกหนักอึ้งอย่างอธิบายไม่ถูก ลึกๆ ข้างในรู้สึกเป็นห่วง ตั้งใจว่าจะหาเวลาไปหาเฟิ่งจิ่วสักครั้ง
ทั้งสองจากไป เดินกลับไปยังทิศที่เดินมา ส่วนเฟิ่งจิ่วที่อยู่ในห้างมิติในเวลานี้กำลังแช่น้ำพุร้อนวิญญาณอยู่ น้ำพุร้อนวิญญาณนั่นมีประกายสีเขียวอ่อนๆ ประกายแสงไหลวนไปตามผิวน้ำ
ยามเธอแช่ตัวอยู่ในนั้นดูสงบนิ่งอย่างเห็นได้ชัด ไม่เหลือความบ้าคลั่งและเจ็บปวดแสนสาหัสเหมือนตอนอยู่ข้างนอก นั่งแช่อยู่ในนั้นอย่างผ่อนคลาย ทำให้กลิ่นอายเม็ดบัวเขียวแผ่ออกมาห่อหุ้มรอบกายเธอ ค่อยๆ สลายพิษรอบกายเธอไปทีละน้อยๆ รวมถึงเลือดประหลาดเหล่านั้นที่ผสมอยู่ในเลือดของเธอด้วย
พลังเม็ดบัวเขียวไหลเวียนอยู่ในน้ำพุร้อนวิญญาณ พลังชีวิตที่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าปกคลุมเธอ ขณะเดียวกันในห้วงมิติ ยาทิพย์ในแปลงสวนของเธอก็กำลังแข่งกันเติบโตอย่างบ้าคลั่งเพราะพลังของเม็ดบัวเขียวที่กำลังไหลเวียนอยู่
เวลาประมาณหนึ่งก้านธูปผ่านไป เธอถูกพลังของเม็ดบัวเขียวห่อหุ้มอุ้มชูลอยพ้นจากเหนือน้ำ หยดน้ำไหลลงจากกายอันเปียกชุ่ม เวลานี้จึงเพิ่งเห็น ที่แท้เธอหมดสติไปแล้ว
เม็ดบัวเขียวในตัวเธอราวกับมีชีวิต อุ้มร่างของเธอออกจากผิวน้ำไปวางไว้ด้านหนึ่ง จากนั้น พลังสีเขียวที่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าลอยไปยังมุมหนึ่ง ควานหาสมบัติล้ำค่าเหล่านั้นที่กองอยู่บนพื้น สุดท้ายพลังสีเขียวขุมนั้นก็ม้วนเอาไข่มุกขนาดเท่าไข่ไก่เม็ดหนึ่งออกมา
หากเวลานี้เฟิ่งจิ่วยังมีสติ จะต้องจำได้แน่ว่าไข่มุกขนาดเท่าไข่ไก่เม็ดนี้เป็นไข่มุกที่เจ้าขนเขียวออกมานั่นเอง ตอนนั้นหลังจากที่เจ้าขนเขียวออกไข่มุกเม็ดนี้มาและฟักมันไว้ราวกับเป็นไข่ไก่ สุดท้ายก็ถูกเฟิ่งจิ่วยึดมาเก็บไว้รวมกับกองสมบัติในมุมหนึ่งของห้วงมิติ
ยามนี้ พลังเม็ดบัวสีเขียวควานหาไข่มุกเม็ดนี้ออกมาจากกองสมบัติ ม้วนเอามาข้างกายเฟิ่งจิ่ว ประกายแสงสีเขียววาบวับ ไข่มุกเม็ดนั้นแตกร้าวดังกรอบแกรบ เผยให้เห็นไข่มุกสีเขียวขนาดใหญ่กว่ายาเม็ดหนึ่งเท่า
ไข่มุกสีเขียวเม็ดนี้มีสีเขียวมรกตทั้งเม็ด กลิ่นอายพลังวิญญาณอันเข้มข้นไหลเวียนอยู่ด้านในของมัน แผ่พลังชีวิตอันบริสุทธิ์ออกมา พลังเม็ดบัวเขียวม้วนเอาไข่มุกเม็ดนี้เข้าไปในปากของเฟิ่งจิ่ว ในนาทีนี้ เฟิ่งจิ่วที่หมดสติก็ฟื้นขึ้นมา
ยามลืมตา เธอเห็นพลังเม็ดบัวเขียวโอบล้อมอยู่รอบกาย สิ่งที่ทำให้เธอตะลึงยิ่งกว่าคือเมื่อปล่อยดวงจิตออกไป กลับค้นพบว่าในร่างกายมีไข่มุกอยู่เม็ดหนึ่ง…
………………………………….