เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 2199 ศัตรูที่น่ากลัว / ตอนที่ 2200 เพลิงโทสะ
ตอนที่ 2199 ศัตรูที่น่ากลัว
เธอขับเคลื่อนพลังลมปราณในร่างกาย ฝีเท้าเปลี่ยนแปลง กระบี่คมพยับในมือพุ่งแทงออกไปอีกครั้ง เจ้าสำนักปัญจพิษสะบัดแขนเสื้อดาหน้าเข้าไปรับศึก ในมือของเขาไร้ซึ่งอาวุธ ใช้เพียงแขนเสื้อฝ่ามือลมต้านรับ เห็นเพียงเขาสะบัดแขนเสื้อซัดกระแสพลังอันแข็งแกร่งปัดป้องกระบี่คมของเฟิ่งจิ่วที่พุ่งแทงเข้ามา ก่อนจะซัดฝ่ามือตามออกไป
“วืด!”
กระแสอากาศถูกซัดออกไปพร้อมกับพลังสีดำขุมหนึ่ง โจมตีไปทางเฟิ่งจิ่ว เฟิ่งจิ่วรีบเบี่ยงตัวหลบ พลังขุมนั้นเฉี่ยวผ่านเธอไป ซัดใส่ผนังหินด้านหลัง ผนังหินถูกกัดกร่อนหลอมละลายจนกลายเป็นรูขนาดใหญ่
ครั้นเห็นอย่างนั้น เฟิ่งจิ่วรู้สึกหนักอึ้ง จ้องหน้าเขาด้วยสีหน้าเคร่งเครียด ช่างเป็นวิชาพิษที่ร้ายกาจนัก! ไม่เพียงมีพิษทั่วร่าง กระแสพลังที่โจมตีออกมายังมีของเหลวที่เป็นพิษผสมอยู่ด้วย หากถูกโจมตีเข้า เกรงว่าจะรักษาชีวิตไว้ได้ยาก
“เฟิ่งจิ่ว สวรรค์มีหนทางเจ้าไม่เดิน นรกไร้ประตูเจ้ากลับดึงดันจะเข้ามา! วันนี้ ข้ากลับอยากรู้ว่าเจ้าจะรอดชีวิตไปได้อย่างไร!” เสียงทุ้มต่ำดังขึ้น สายตาที่เต็มไปด้วยความชั่วร้ายจ้องมองสตรีผู้งดงามในชุดสีแดงสะดุดตาตรงหน้า พลันนั้นก็เผยยิ้มแปลกๆ ออกมา
“ไม่ สังหารเจ้าเป็นเรื่องน่าเสียดายเกินไป เจ้างามหาใครเปรียบขนาดนี้ มาเป็นนางบำเรอบนเตียงของข้า คงจะสำราญใจไม่ได้น้อย”
เฟิ่งจิ่วหรี่ตาลง สายตาเย็นยะเยือกจับจ้องเจ้าสำนักปัญจพิษ เธอแสยะยิ้มหยัน “เจ้านอนฝันกลางวันไปเถอะ!”
ร่างกายลอยสูงกลางอากาศในพริบตา ฝีเท้าเคลื่อนไหวรวดเร็วเบาหวิวน่าประหลาด กระบี่คมพยับในมือพลิกหมุน พลังวิญญาณถูกขับเคลื่อน ก่อนที่เปลวเพลิงจะลุกอาบคมกระบี่ เปลวเพลิงสีแดง พลังกระบี่สีเขียว พลังสองขุมราวกับจะหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียว
“ชิ้ง! วูบ!”
เงากระบี่พุ่งออกไปพร้อมกับเปลวเพลิง พลังอันดุดันกลายเป็นมังกรไฟเกรี้ยวกราด แต่ก็ดูคล้ายพยัคฆ์เดือดที่พุ่งใส่เจ้าสำนักปัญจพิษด้วยความเร็วปานสายฟ้าฟาด
“ซี๊ด!”
กระบี่นั้นพุ่งเข้ามาเร็วเกินไป ซ้ำยังกระแทกฝ่าด่านป้องกันของเขาพุ่งเข้าใส่จุดตายของเขาด้วย พริบตานั้น เพื่อหลบการโจมตีที่อันตรายถึงชีวิตนั่น เขาใช้สองมือขับเคลื่อนกระแสพลังพยายามจะหนีบกระบี่เล่มนั้นไว้อีกครั้ง แต่ใครจะรู้ สองฝ่ามือยังไม่ทันเข้าใกล้ก็ถูกพลังของกระบี่คมพยับดีดสะท้านออกไป ซ้ำยังถูกเปลวเพลิงที่อาบไล้กระบี่ลวกจนบาดเจ็บ ขณะเสียหลักเซถอยหลังไป กระบี่ยามแทงเข้าไปที่ไหล่ของเขา พลังกระบี่เย็นเยือกและเปลวเพลิงรุ่มร้อนแผ่กระจายจากแผลไปทั่วร่างกาย เจ็บจนเขาต้องสูดปาก
“ย้าก!”
เขาอดทนต่อความเจ็บปวดแสนสาหัสที่ทั้งร้อนและเย็นซัดฝ่ามือพิษออกไป เฟิ่งจิ่วเพื่อหลบเลี่ยงฝ่ามือนั้น พลิกหมุนกระบี่ที่เสียบคาไหล่เขาไว้ ก่อนจะกระชากออกไปและทิ้งรูขนาดใหญ่ไว้
“บัดซบ!”
เขาตวาดกร้าว สัมผัสเปียกชื้นและอุ่นร้อนตรงหัวไหล่ทำให้เขารู้แม้ไม่ต้องหันมองว่ามีเลือดไหลทะลัก เขายกมือสกัดจุดห้ามเลือดทันที เพราะได้รับบาดเจ็บ ไอเหี้ยมเกรียมยิ่งกระจายรอบตัว เงาร่างสีดำกลายเป็นควันสีดำกลุ่มหนึ่งม้วนโจมตีมาทางเฟิ่งจิ่ว
นางรู้สึกเพียงตรงหน้ามีเพียงควันสีดำกลุ่มหนึ่ง กลับไม่เห็นเงาร่างของเจ้าสำนักปัญจพิษ ในเสี้ยวนาทีนั้นเอง จู่ๆ เธอก็สัมผัสได้ถึงไอสังหารที่แผ่ปกคลุมเธอ ทว่าในเวลา เธอแยกแยะไม่ออกด้วยซ้ำว่าไอสังหารมาจากทิศทางใด
“ระวัง!”
เสียงหนึ่งร้องเตือนขึ้น เสียงของโม่เฉินดังเข้ามาในโสตประสาท เธอรู้สึกเพียงถูกคนโอบเอว ร่างกายหมุนคว้างลอยออกไปจากตำแหน่งเดิม ครั้นเพ่งมองหลังยืนอย่างมั่นคง ก็เห็นเงาร่างสีดำกำลังพุ่งออกไปจากกลุ่มควันดำ ส่วนคนที่โอบเอวเธอไว้ก็คือโม่เฉินในชุดขาว
“ไม่เป็นไรกระมัง?” โม่เฉินปล่อยมือจากเอวของเธอ สายตากวาดพิจารณาตามตัวเธอ ตรวจสอบดูว่าบาดเจ็บตรงไหนหรือไม่
………………………………….
ตอนที่ 2200 เพลิงโทสะ
“ไม่เป็นไร” เธอส่ายหน้า เอ่ยว่า “เจ้าสำนักปัญจพิษนั่นหนีไปแล้ว พวกเรารีบตามไปเร็ว!” เอ่ยจบ เธอรีบพุ่งตัวออกไปข้างนอกทันที
โม่เฉินเห็นเธอไม่เป้นไร จึงหันไปสำรวจด้านในถ้ำแวบหนึ่ง ก่อนจะตามออกไปข้างนอก
ตอนที่เจ้าสำนักปัญจพิษหนีออกมาถึงข้างนอก เห็นผู้ใช้พิษที่เฝ้าอยู่หน้าถ้ำล้วนถูกฆ่าตาย และเห็นเปลวเพลิงลุกโชติช่วงสูงเทียมฟ้า แสงจากเพลิงไหม้สาดส่องหุบเขาให้สว่างจ้ากว่าครึ่ง ได้ยินเสียงต่อสู้ดังมาจากที่ไกลๆ
ครั้นเห็นทุกอย่างเลือดลมในร่างกายของเขาพลันพลุ่งพล่าน สองมือกำหมัดแน่น แหงนหน้าคำรามใส่ท้องฟ้า “เฟิ่งจิ่ว!”
เป็นแค่ผู้หญิงคนหนึ่ง กลับกล้าเป็นศัตรูกับเขา! แค่ผู้หญิงคนหนึ่ง กลับทำลายหุบเขาพิษของเขา! สังหารผู้ใช้พิษไปมากมายขนาดนั้น! เวลานี้ ความเดือดดาลและเคียดแค้นผสมผสานกันในใจ เขาไม่หนีอีก แต่หันหลังกลับมาจ้องทางออกถ้ำ
กล้าฆ่าผู้ใช้พิษของเขา! กล้าทำลายหุบเขาพิษของเขา! เขาจะทำให้นางอยู่ไม่สู้ตาย!
พอเฟิ่งจิ่วกับโม่เฉินไล่ตามออกมา ก็เห็นเขายืนจ้องพวกเขาด้วยสีหน้าขึ้งเคียดจากตรงนั้น โม่เฉินหรี่ตา ลอบพิจารณารอบหนึ่ง เห็นไอเหี้ยมเกรียมรอบกายเขาหนาแน่น ไอสังหารดุดัน อดดึงรั้งเฟิ่งจิ่วที่กำลังจะพุ่งเข้าไปไว้ก่อนไม่ได้
“อย่าเพิ่งวู่วาม เจ้ายังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา”
เขาเตือน รั้งเธอไว้ก่อนอธิบายว่า “พลังของเขาอยู่ในระดับอาวุโสเซียน หนำซึ้ไม่เหมือนกับบรรดาลูกน้องของเขา เขามีประสบการณ์ต่อสู้ ประมาทไม่ได้เด็ดขาด”
“คนผู้นี้หากไม่กำจัด จะต้องกลายเป็นภัยคุกคามใหญ่หลวงแน่!”
เฟิ่งจิ่วขมวดคิ้ว จ้องเจ้าสำนักปัญจพิษที่อยู่ตรงหน้า หันไปเอ่ยกับโม่เฉินว่า “ข้าสู้กับเขายากจะเป็นฝ่ายได้เปรียบจริงๆ วิชาพิษของเขาร้ายกาจมาก แม้แต่ผนังหินยังกัดกร่อนหลอมละลายได้ หากถูกโจมตีเข้า ไม่อยากคิดถึงผลที่ตามมา หากจะสังหารเขาให้ตาย มีเพียงพวกเราต้องร่วมมือกัน จึงจะมีโอกาสชนะ”
ขณะที่ทั้งสองกำลังกระซิบหารือกัน สายตาของเจ้าสำนักปัญจพิษกวาดมองเฟิ่งจิ่ว ก่อนจะเลื่อนไปที่โม่เฉินผู้มีบุคลิกโดดเด่ดุจเซียน หรี่ตา “แล้วเจ้าเป็นใครอีก?”
“โม่เฉิน ลูกศิษย์ของเทียนจีจื่อ” เขาตอบ แววตาสงบนิ่งจับจ้องที่เจ้าสำนักปัญจพิษ
เมื่อได้ยินแล้ว เจ้าสำนักปัญจพิษแสยะยิ้ม “ข้ากับเทียนจีจื่อไม่เคยมีความแค้นต่อกัน ในเมื่อเจ้าเป็นศิษย์ของเขา เหตุใดต้องยื่นมือเข้ามายุ่ง? หรือเพราะเจ้าเห็นเฟิ่งจิ่วงดงามจึงติดใจ อยากสร้างความประทับใจแลกรอยยิ้มสาวงาม?”
ได้ฟังอย่างนั้น โม่เฉินยิ้ม สาวเท้าเข้าไปช้าๆ “ได้ยินมาว่าเจ้าสำนักปัญจพิษมีวิชาพิษที่ยอดเยี่ยม วันนี้ กลับอยากขอคำชี้แนะสักครา ดูว่าจะน่าครั่นคร้ามเช่นที่ลือกันหรือไม่” ขณะเอ่ย เงาร่างของเขาโฉบไหว พุ่งใส่เจ้าสำนักปัญจพิษด้วยความเร็วสูง
เฟิ่งจิ่วยืนดูอยู่ด้านหนึ่ง เห็นพลังรอบกายของเขาเป็นพลังระดับผู้อาวุโสเซียนสูงสุดก็อดตะลึงไม่ได้ ยามปกติเขามักเก็บซ่อนพลัง เธอไม่เคยคิดว่าพลังเขาจะแข็งแกร่งเพียงนี้ กลับนึกไม่ถึงว่าเขาจะมีพลังระดับผู้อาวุโสเซียนขั้นสูงสุดแล้ว
ผู้ฝึกเซียนหลายคนล้วนมีอายุถึงหนึ่งร้อยปีหรือกระทั่งหลายร้อยปีจึงจะสามารถมีพลังระดับผู้อาวุโสเซียนได้ แต่เขา ยังอายุน้อยขนาดนี้ก็มีวรยุทธ์ระดับนี้ได้แล้ว
ใครว่าพลังของเธอน่าทึ่งแล้ว เธอคิดว่าคนรอบกายของเธอต่างหากที่มีพลังเหนือลิขิตฟ้า เพราะอย่างไร การที่เธอมีพลังระดับนี้ได้ นอกจากเป็นร่างเทพประทับแล้ว เธอยังใช้ยาเป็นตัวช่วยด้วย แต่พวกเขากลับพัฒนาพลังมาถึงระดับนี้ทีละขั้นๆ ด้วยตนเองอย่างมั่นคง
ขณะที่เธอกำลังประหลาดใจ เห็นเพียงเงาร่างสีดำหนึ่งสีขาวหนึ่งโรมรันพันตี เพราะการต่อสู้ของพวกเขา ไอพิษของเจ้าสำนักปัญจพิษกระจายไปทั่ว ต้นหญ้าวัชพืชต่างๆ ที่อยู่รอบๆ ต่างพากันเหี่ยวเฉาแห้งตาย…
………………………………….