เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 2193 ค้นพบ / ตอนที่ 2194 แยกย้ายกันไปทำภารกิจ
ตอนที่ 2193 ค้นพบ
คนพวกนั้นยกถ้วยสุราขึ้นชนกัน ก่อนจะตะโกนขึ้นพร้อมกัน “ชน!” จากนั้นก็แหงนหน้าดื่มสุราหมดในรวดเดียว
หลังจากดื่มสุรา พวกเขาวางถ้วยลง บ้างก็กินกับแกล้ม บ้างก็รินสุราเพิ่ม มีคนเอ่ยขึ้นมาว่า “ตอนนี้วิชาหัตถ์หมื่นพิษของนายท่านฝึกฝนจนถึงด่านสำคัญสุดท้ายแล้ว พักนี้ขออย่าให้เกิดเรื่องอะไรเป็นดีที่สุด”
“กังวลอะไรกัน? ที่นี่ลับตาคนขนาดนี้ อีกอย่างมีผู้ใช้พิษอย่างพวกเราเฝ้าอยู่จะเกิดเรื่องอะไรขึ้นได้อย่างไรกัน?” หนึ่งในนั้นเอ่ยขึ้น ก่อนคีบอาหารขึ้นมากิน
“นั่นสิ ด้วยพลังของพวกเราแปดคน กอปรกับที่นี่มีคนเฝ้าอยู่มากมาย แม้แต่ยุงตัวเดียวก็อย่าหวังจะบินเข้ามาได้เลย!”
สี่คนข้างในกำลังพูดคุยกัน พวกเฟิ่งจิ่วที่อยู่ในมุมมืดส่งสัญญาณมือ ก่อนจะถอยไปอย่างเงียบเชียบ พอพวกเขามาถึงที่ปลอดภัย เฟิ่งจิ่วดวงตาเป็นประกาย กระซิบเบาๆ ว่า “นึกไม่ถึงว่าเจ้าสำนักปัญจพิษจะอยู่ที่นี่ด้วย หนำซ้ำวิชาหัตถ์หมื่นพิษของเขาก็ฝึกใกล้สำเร็จแล้ว”
“สี่คนนั้นบอกว่ามีแปดผู้ใช้พิษอย่างพวกเขาอยู่ ดูท่า นอกจากสี่คนที่กำลังดื่มสุราอยู่ตรงนั้น อีกสี่คนที่เหลือต้องเฝ้าระวังอยู่แถวๆ ที่ฝึกวิชาของเจ้าสำนักปัญจพิษแน่ๆ” กวนสีหลิ่นวิเคราะห์เสียงเบา
“ดูท่าพวกเรามาได้จังหวะพอดี” โม่เฉินเผยยิ้ม มองทั้งสอง “อย่าเพิ่งแหวกหญ้าให้งูตื่น พวกเราค้นหาเงียบๆ ไปก่อน สิ่งสำคัญที่สุดคือต้องตามหาสถานที่ฝึกฝนวรยุทธ์ของเจ้าสำนักปัญจพิษก่อน”
“จับคนมาสอบถามเป็นอย่างไร?” กวนสีหลิ่นเสนอ
“ไม่มีประโยชน์”
เฟิ่งจิ่วกับโม่เฉินเอ่ยขึ้นพร้อมกัน ทั้งสองมองหน้ากัน ก่อนหันไปอธิบายกับกวนสีหลิ่นว่า “คนของสำนักปัญจพิษล้วนถูกป้อนพิษไว้ คนที่เหมือนทหารกล้าตายเหล่านี้ คิดจะล้วงความลับจากปากของพวกเขานั้นยากมาก หากจับคนมาอาจเสี่ยงเปิดเผยตัวตนด้วย ไม่สู้พวกเราลอบค้นหาอย่างลับๆ ดีกว่า”
“ถูกต้องแล้ว” โม่เฉินพยักหน้า “ที่นี่จะว่าใหญ่ก็ไม่ได้ใหญ่มาก พวกเราสามคนแยกย้ายกันหา คงไม่ยากหากจะตามหาสถานที่ฝึกวรยุทธ์ของเจ้าสำนักปัญจพิษ แต่หากเจอตัวคนแล้วห้ามทำอะไรคนเดียวเด็ดขาด ต้องหารือกันก่อนแล้วค่อยวางแผนกัน”
“ได้” ทั้งสองรับคำ หลังจากหารือกันเสร็จก็ตกลงกันว่าจะไปรวมตัวกันที่ไหน จากนั้นก็แยกย้ายกันไปตามหาคนละทิศ
คืนนี้ กลางดึกสงัด คนในหุบเขาแม้กำลังเดินลาดตระเวน แต่กลับไม่มีใครรู้เลยว่ามีคนลักลอบเข้ามาถึงสามคนแล้ว แม้แต่ผู้ใช้พิษทั้งสี่ที่กำลังดื่มดินพูดคุยกันอยู่ก็ไม่คาดคิดว่า คนที่พวกเขากำลังพูดถึงจะหาที่นี่เจอ หนำซ้ำยังเข้ามาในนี้โดยที่พวกเขาไม่รู้ตัวเลยแม้แต่น้อย…
พลังของทั้งสามล้วนแข็งแกร่ง กอปรกับกลิ่นอายที่เก็บซ่อนไว้ อย่าว่าแต่เหล่าผู้ใช้พิษที่ไม่รู้ตัว แม้แต่เหล่าทหารยามที่เดินลาดตระเวนยิ่งไม่มีทางรู้
เพียงแต่ การตามหาที่ซ่อนตัวของเจ้าสำนักปัญจพิษภายในเรือนที่สร้างขึ้นกลางหุบเขาเช่นนี้กลับไม่ใช่เรื่องง่าย พวกเขาตามหาไปกว่าครึ่งก็ยังไม่เจอ กระทั่งใกล้เที่ยงคืน กวนสีหลิ่นมาปลดทุกข์ที่ด้านหลังเรือนเหล่านั้นซึ่งอยู่ติดกับภูเขา ใครจะรู้กลับเหลือบเห็นถ้ำแห่งหนึ่งด้วยความบังเอิญ
เขาปลดทุกข์เสร็จก็แอบเข้าใกล้เงียบๆ เห็นข้างหน้ามืดมิดไปหมด ที่อื่นล้วนมีแสงไฟ ที่นี่กลับไม่มี แต่ตรงตีนเขากลับมีถ้ำอยู่แห่งหนึ่ง หน้าถ้ำมีชายวัยกลางคนในชุดคลุมสีดำนั่งหลับตาทำสมาธิอยู่เงียบๆ
เขาไม่ได้เข้าไปใกล้ เพียงถอยหลังเงียบๆ ตั้งใจจะกลับไปบอกโม่เฉินกับน้องสาวของเขา ที่นี่ไม่ได้มีเพียงชายวัยกลางคนสองคนนั้นเฝ้าอยู่ ห่างออกไปข้างหน้าประมาณสิบห้าจั้งยังมีเขตอาคมร่ายไว้ด้วย
………………………………….
ตอนที่ 2194 แยกย้ายกันไปทำภารกิจ
นอกจากนี้ เขตอาคมนั่นยังอยู่ห่างจากหน้าถ้ำประมาณสามสิบจั้งด้วย โชคดีที่อยู่ห่างประมาณนี้ ไม่เช่นนั้นหากเขาไปปลดทุกข์ข้างหน้านั่นต้องโดนจับได้แน่
ที่อื่นไม่เห็นว่ามีเขตอาคม ที่นี่กลับมีเขตอาคม แล้วยังมีคนเฝ้าอยู่อีก หนำซ้ำยังไม่จุดไฟเลยแม้แต่น้อย เห็นชัดว่าเจ้าสำนักปัญจพิษจะต้องอยู่ที่นี่แน่!
เขาถอยออกไปเงียบๆ กลับไปรอยังที่นัดหมาย ผ่านไปไม่นาน ก็เห็นโม่เฉินกับเฟิ่งจิ่วกลับมา เขาโบกมือให้ทั้งสอง พอทั้งสองเข้ามาใกล้ เขาจึงกระซิบบอก “ข้าเจอที่ซ่อนตัวของเจ้าสำนักปัญจพิษแล้ว”
เมื่อเฟิ่งจิ่วได้ยินแววตาก็ไหวระริก ถามว่า “อยู่ที่ใด?”
กวนสีหลิ่นชี้ไปข้างหน้า เอ่ยว่า “อยู่ในถ้ำข้างหน้านั่น แต่ที่นั่นมีเขตอาคม อีกอย่างข้าเห็นผู้ใช้พิษเฝ้าอยู่ที่นั่นเพียงสองคน ไม่เห็นอีกสองคนที่เหลือ หากฝ่าเขตอาคมเข้าไป ต้องทำให้คนที่ตื่นตัวแน่ ตอนนี้เราจะทำอย่างไรดี?”
“สองมือยากต้านสี่หมัด เจ้าช่ำชองการใช้พิษเช่นกันไม่ใช่หรือ? ใช้พิษกับพวกเขาหน่อยเป็นอย่างไร?” โม่เฉินหันไปเสนอกับเฟิ่งจิ่ว
ได้ยินอย่างนั้น เฟิ่งจิ่วมุมปากกระตุก เหลือบมองเขาแวบหนึ่ง คนคนนี้บุคลิกท่าทางราวเทพเซียน เหตุใดยามร้ายขึ้นมากลับเหี้ยมกว่าเธอเสียอีก จู่ๆ ก็พูดออกมาเลยว่าจะใช้พิษ
“ไม่ได้ พิษอาจใช้ไม่ได้ผลกับคนพวกนี้” เธออธิบายอย่างใจเย็น “คนในสำนักปัญจพิษเดิมก็อ่อนไหวกับกลิ่นของยาและพิษกว่าคนปกติอยู่แล้ว ไม่ว่าจะใช้ยาหรือยาพิษกับพวกเขาก็ล้วนไม่เหมาะสม”
เธอครุ่นคิด เอ่ยว่า “ข้ากลับมีแผนการหนึ่ง”
“แผนการอะไร?” ทั้งสองหันไปมองเธอ
“ส่งเสียงบูรพาฝ่าตีประจิม” เฟิ่งจิ่วตอบ “ใช้กลยุทธ์ส่งเสียงบูรพาฝ่าตีประจิมมาเบี่ยงเบนความสนใจของพวกเขา”
เธอมองหน้าทั้งสอง ก่อนจะอธิบายต่อว่า “พวกเราสามคนแบ่งออกเป็นสองกลุ่ม กลุ่มหนึ่งดึงดูดความสนใจของพวกเขา กลุ่มหนึ่งเป็นฝ่ายโจมตีหลัก ความตายของคนอื่นเป็นเรื่องรอง สำคัญที่สุดคือฉวยโอกาสนี้สังหารเจ้าสำนักปัญจพิษเสีย ไม่อย่างนั้น หากเขาฝึกวิชาพิษที่ทรงพลังเช่นนั้นสำเร็จ จะต้องเกิดการสูญเสียอันยิ่งใหญ่ตามมาแน่ๆ”
ครั้นได้ฟัง กวนสีหลิ่นจึงเสนอขึ้นว่า “เสี่ยวจิ่ว เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน! ข้าเบี่ยงเบนความสนใจของพวกเขาเอง เจ้ากับโม่เฉินเป็นฝ่ายโจมตีเจ้าสำนักปัญจพิษ ข้าคิดว่าหากเบี่ยงเบนความสนใจออกไป อย่างมากก็คงมีผู้ใช้พิษไล่ล่าข้าเพียงคนสองคน พวกเขาส่วนใหญ่น่าจะไปคุ้มกันหน้าถ้ำของเจ้าสำนักปัญจพิษมากกว่า ฉะนั้นพวกเจ้าต้องระวังให้มาก”
“อืม ข้าคิดว่าเขาพูดมีเหตุผล ในฐานะฝ่ายโจมตี พวกเราต้องเผชิญหน้ากับอันตรายมากกว่า ต้องเตรียมพร้อมให้ดี” โม่เฉินพยักหน้า หันไปมองกวนสีหลิ่น “แต่ท่านจะประมาทไม่ได้ คนที่นี่ล้วนช่ำชองการใช้พิษ อย่าโดนพิษของพวกเขาเล่นงานเข้าเล่า”
“ข้ารู้ เสี่ยวให้ข้ากินยาแก้พิษแล้ว พิษทั่วไปทำอะไรข้าไม่ได้หรอก ส่วนเรื่องอื่น ข้าจะระวังให้ดี” เขาพยักหน้า
“ได้ อย่างนั้นก็เอาตามนี้ก็แล้วกัน” เฟิ่งจิ่วเอ่ย มองกวนสีหลิ่น “ท่านพี่ ท่านต้องระวังตัวให้ดี สู้ไม่ได้ก็หนีก่อน”
ได้ยินอย่างนั้น กวนสีหลิ่นยิ้ม “เอาล่ะ ข้ารู้แล้ว ไป ข้าพาพวกเจ้าไปที่นั่นก่อน จากนั้นค่อยดำเนินแผนตามสถานการณ์”
เขาพาพวกเขาสองคนไปยังถ้ำที่เจอก่อนหน้านี้ ครั้นมาถึงที่ถ้ำแห่งนั้น พวกเขาปรึกษากันเล็กน้อย ก่อนจะแยกย้ายกันไปทำภารกิจ
เวลาผ่านไปประมาณครึ่งก้านธูป กวนสีหลิ่นวางเพลิงรอบๆ หุบเขา เปลวเพลิงที่โหมไหม้ใหญ่โตส่องหุบเขาแห่งนี้ให้สว่างจ้า ชั่วขณะหนึ่ง ครั้นหุบเขาถูกเพลิงปกคลุม หุบเขาที่เคยเงียบสงบพลันตกอยู่ในภวังค์โกลาหลวุ่นวายในทันใด เสียงร้องแรกแหกกระเชอดังสนั่นไปทั่ว
“ไฟไหม้! รีบช่วยกันดับไฟเร็ว!”
………………………………….